สวัสดีค่ะเพื่อนๆ นี่เป็นกระทู้ที่ 3 ของเราแล้วนะคะ
วันนี้ก็อีกเช่นเคย เรามีประสบการณ์จะมาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะคะ แต่เรื่องนี้มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับเราโดยตรงหรอกค่ะ
แต่มันเกิดในช่วงยุคสมัยของคุณยายแล้วก็คุณแม่เรา ขอเกริ่นก่อนนะคะ ว่าสมัยก่อนที่บ้านคุณยายเรา จะเป็นพวกวังกุ้งแล้วก็จะมีป่าจากขึ้นเต็มไปหมด
แต่ปัจจุบันก็ยังเป็นวังกุ้งอยู่นะคะ แต่แค่ป่าจากมันเริ่มลดน้อยลงไปค่ะ แล้วถนนก็ยังไม่ตัดผ่านตอนนั้น เวลาสัญจรก็ใช้เรือนี่แหละค่ะ
ขอเริ่มเลยนะคะ คุณยายเราเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนตอนคุณยายทำวังอยู่ คุณยายเรามีเพื่อนๆที่ช่วยกันทำวังด้วยกัน แล้วก็มีเพื่อนคนนึง ชื่อว่า เกอ ยายเกอมีลูกสาว 1 คน แต่สามีของยายเกอได้เลิกกับยายเกอไปเมื่อตอนที่ลูกสาวของยายเกอยังเด็กๆ ยายเกอแกเป็นคนที่หน้าตาดีอยู่ เป็นคนมีเงิน ก็ส่งลูกให้ไปเรียนในกรุงเทพ แล้วลูกก็นานๆทีกว่าจะกลับมาหายายเกอ ยายเกอก็เลยต้องอยู่คนเดียว แล้วบ้านของยายเกอห่างกับบ้านคุณยายของเราก็เยอะอยู่นะคะ คือต้องพายเรือกันไปหาค่ะ บ้านยายเกอ จะอยู่ลึกเข้าไปในป่าจากอีกคะ ตอนสาวๆ ก็ไม่ค่อยมีใครยุ่งกับยายเกอหรอกนะคะ เพราะว่าแกเป็นคนปากร้าย แต่ไม่ได้นินทาใครนะคะ ปากร้ายในที่นี้หมายความว่า ถ้าใครมายุ่งหรือมาทำอะไรแก แกจะด่า และก็ไล่ตะเพิ่ดไปเลยค่ะ
เวลาผ่านไป ยายเกอก็แก่ลง ช่วงนั้นแถวบ้านคุณยายเรา มันมีข่าวลือเกี่ยวกับผีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผีพรายน้ำ ผีกระสือ ผีเปรต สาระพัดผี แล้วชาวบ้านแถวนั้นก็ลือกันว่า ยายเกอนี่แหละ เป็นผีกระสือ คนส่วนมากก็จะเชื่อว่ายายเกอเป็นกระสือ แต่คนส่วนน้อยก็จะไม่เชื่อ เพราะว่ามันไม่ได้เห็นกับตาไงคะ และ 1 ในครอบครัวที่ไม่เชื่อก็คือ ครอบครัวของคุณยายเราค่ะ
มีอยู่คืนนึง คุณยายเราปวดท้องเข้าห้องน้ำในกลางดึก คุณยายเราบอกว่า ตอนลงมาจากบ้าน คุณยายเห็นไฟสีแดงวาบ ลอยออกมาจากทางบ้านยายเกอ ลอยไม่สูงมาก ตอนนั้นคุณยายเรายืนเพื่อจะรอดูว่ามันเป็นไฟอะไร คุณยายเรายืนดูจนแน่ใจว่ามันไม่ใช่ไฟของนมาหาปลาแน่นอน แต่มันน่าจะเป็นไฟของผีกระสือมากกว่า พอเช้ามา คุณยายเราก็พายเรือไปบ้านยายเกอกับคุณแม่ของเรา พายเรือกันไป 2 คนนะคะ พอเข้าไปถึงบ้านยายเกอ ก็เดินเข้าไปหายายเกอ คุณยายเราพูดกับยายเกอว่า "เกอ เป็นไงบ้าง แกไม่ค่อยสบายหรอ บ้านถึงสกปรกรกขนาดนี้" คุณยายเราบอกว่า ตอนเข้าไปบ้านยายเกอ บ้านยายเกอมีแต่ขยะ แล้วก็มีกลิ่นเหม็นเหมือนอุจจาระหน่ะคะ ยายเกอก็ตอบคุณยายเรามาว่า "ข้าสบายดี เอ็งออกไปเถอะ ข้าจะนอน" คุณยายกับคุณแม่เราก็เลยออกมาจากบ้านยายเกอ คุณยายกับคุณแม่เราก็พูดกันว่า ยายเกอไม่มีทีท่าว่าจะเป็นกระสือนะ เพราะยายเกอแกไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ดูเหมือนจะนอนทั้งวันด้วย
ตกคืนนั้น เป็นตาของคุณแม่เราบ้างค่ะ คุณแม่เราลุกขึ้นมาปัสสาวะ แล้วคุณแม่เราก็เห็นเหมือนกันคุณยายของเราค่ะ คือเห็นไฟแดงๆ ลอยมาจากบ้านของยายเกอ คุฯแม่เราไม่รอให้เห็นชัดๆหรอกค่ะ แค่เห็นแค่นั้น คุณแม่เราก็วิ่งขึ้นบ้านแล้ว
พอเช้ามา ชาวบ้านก็พูดกันว่า เมื่อคืนมีคนเห็นผีกระสือเข้าไปในกอไผ่ แล้วยังไม่ออกมาจากกอไผ่เลย คุณยายกับคุณแม่เรา ก็เลยรีบพายเรือกันไปดูที่บ้านของยายเกอค่ะ แต่พอไปถึงบ้านของยายเกอ ก็มีทั้งผู้ใหญ่บ้าน และก็ชาวบ้านหลายคนมาที่บ้านของยายเกอ
สักพักก็มีชาวบ้านอุ้มร่างของยายเกอที่ไม่มีหัวออกมาข้างนอกบ้าน แล้วชาวบ้านก็ช่วยกันยกดูใต้ที่นอนของยายเกอ ปรากฎว่า ใต้ที่นอนของยายเกอ มีแต่อุจจาระที่ห่อกระดาษ แล้วก็อุจจาระที่ใส่ไว้ในถุงพลาสติกค่ะ ชาวบ้านก็พูดกันว่า ยายเกอนี่แหละกระสือ และพวกอุจจาระทั้งหมดเนี่ย ยายเกอเก็บไว้กิน เพราะกระสือมันชอบกินของสกปรกโสโครก
พอจับได้ว่ายายเกอเป็นกระสือ พวกชาวบ้านก็ลงมติกันว่า จะเผาบ้านของยายเกอ เพื่อจะได้ไม่มีผีกระสือยายเกออีก แต่ก็มีหลวงพ่อค่ะ หลวงพ่อประจำหมู่บ้านมาบอกว่า ให้หยุด อย่าไปเผาบ้าน อย่าทำอะไรทั้งนั้น เพราะแค่นี้ยายเกอแกก็ลำบากทุกข์ทรมานมากแล้ว ชาวบ้านก็เลยหยุดการกระทำทุกอย่าง แล้วปล่อยไว้อย่างนั้น แต่ก็มีชาวบ้านอีกกลุ่มนึงไปเฝ้าอยู่ตรงกอไผ่ ที่บอกว่ากระสือเข้าไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วยังไม่ออกมานะคะ คือเฝ้ากันจนนานมากค่ะ แต่ก็ไม่มีผีกระสือออกมา จนชาวบ้านต้องฟันต้นไผ่เพื่อจะดูว่ามีกระสืออยู่มั้ย พอฟันจนเตียน ก็พบแต่ความว่างเปล่าค่ะ ไม่มีอะไรอยู่ในกอไผ่เลย
แล้วหลังจากนั้นมาก็ไม่มีใครเจอหัวยายเกอเลย และลูกสาวแกก้ไม่มาที่หมู่บ้านอีกเลยค่ะ
เราได้ฟังมาจากคุณยายเราอีกทีนะคะ
***เป็นความเชื่อแล้วแต่บุคคลนะคะ
***เราแค่อยากจะมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกัน
***ขอบคุณที่อ่านค่ะ
กระสือ...
วันนี้ก็อีกเช่นเคย เรามีประสบการณ์จะมาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะคะ แต่เรื่องนี้มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับเราโดยตรงหรอกค่ะ
แต่มันเกิดในช่วงยุคสมัยของคุณยายแล้วก็คุณแม่เรา ขอเกริ่นก่อนนะคะ ว่าสมัยก่อนที่บ้านคุณยายเรา จะเป็นพวกวังกุ้งแล้วก็จะมีป่าจากขึ้นเต็มไปหมด
แต่ปัจจุบันก็ยังเป็นวังกุ้งอยู่นะคะ แต่แค่ป่าจากมันเริ่มลดน้อยลงไปค่ะ แล้วถนนก็ยังไม่ตัดผ่านตอนนั้น เวลาสัญจรก็ใช้เรือนี่แหละค่ะ
ขอเริ่มเลยนะคะ คุณยายเราเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนตอนคุณยายทำวังอยู่ คุณยายเรามีเพื่อนๆที่ช่วยกันทำวังด้วยกัน แล้วก็มีเพื่อนคนนึง ชื่อว่า เกอ ยายเกอมีลูกสาว 1 คน แต่สามีของยายเกอได้เลิกกับยายเกอไปเมื่อตอนที่ลูกสาวของยายเกอยังเด็กๆ ยายเกอแกเป็นคนที่หน้าตาดีอยู่ เป็นคนมีเงิน ก็ส่งลูกให้ไปเรียนในกรุงเทพ แล้วลูกก็นานๆทีกว่าจะกลับมาหายายเกอ ยายเกอก็เลยต้องอยู่คนเดียว แล้วบ้านของยายเกอห่างกับบ้านคุณยายของเราก็เยอะอยู่นะคะ คือต้องพายเรือกันไปหาค่ะ บ้านยายเกอ จะอยู่ลึกเข้าไปในป่าจากอีกคะ ตอนสาวๆ ก็ไม่ค่อยมีใครยุ่งกับยายเกอหรอกนะคะ เพราะว่าแกเป็นคนปากร้าย แต่ไม่ได้นินทาใครนะคะ ปากร้ายในที่นี้หมายความว่า ถ้าใครมายุ่งหรือมาทำอะไรแก แกจะด่า และก็ไล่ตะเพิ่ดไปเลยค่ะ
เวลาผ่านไป ยายเกอก็แก่ลง ช่วงนั้นแถวบ้านคุณยายเรา มันมีข่าวลือเกี่ยวกับผีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผีพรายน้ำ ผีกระสือ ผีเปรต สาระพัดผี แล้วชาวบ้านแถวนั้นก็ลือกันว่า ยายเกอนี่แหละ เป็นผีกระสือ คนส่วนมากก็จะเชื่อว่ายายเกอเป็นกระสือ แต่คนส่วนน้อยก็จะไม่เชื่อ เพราะว่ามันไม่ได้เห็นกับตาไงคะ และ 1 ในครอบครัวที่ไม่เชื่อก็คือ ครอบครัวของคุณยายเราค่ะ
มีอยู่คืนนึง คุณยายเราปวดท้องเข้าห้องน้ำในกลางดึก คุณยายเราบอกว่า ตอนลงมาจากบ้าน คุณยายเห็นไฟสีแดงวาบ ลอยออกมาจากทางบ้านยายเกอ ลอยไม่สูงมาก ตอนนั้นคุณยายเรายืนเพื่อจะรอดูว่ามันเป็นไฟอะไร คุณยายเรายืนดูจนแน่ใจว่ามันไม่ใช่ไฟของนมาหาปลาแน่นอน แต่มันน่าจะเป็นไฟของผีกระสือมากกว่า พอเช้ามา คุณยายเราก็พายเรือไปบ้านยายเกอกับคุณแม่ของเรา พายเรือกันไป 2 คนนะคะ พอเข้าไปถึงบ้านยายเกอ ก็เดินเข้าไปหายายเกอ คุณยายเราพูดกับยายเกอว่า "เกอ เป็นไงบ้าง แกไม่ค่อยสบายหรอ บ้านถึงสกปรกรกขนาดนี้" คุณยายเราบอกว่า ตอนเข้าไปบ้านยายเกอ บ้านยายเกอมีแต่ขยะ แล้วก็มีกลิ่นเหม็นเหมือนอุจจาระหน่ะคะ ยายเกอก็ตอบคุณยายเรามาว่า "ข้าสบายดี เอ็งออกไปเถอะ ข้าจะนอน" คุณยายกับคุณแม่เราก็เลยออกมาจากบ้านยายเกอ คุณยายกับคุณแม่เราก็พูดกันว่า ยายเกอไม่มีทีท่าว่าจะเป็นกระสือนะ เพราะยายเกอแกไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ดูเหมือนจะนอนทั้งวันด้วย
ตกคืนนั้น เป็นตาของคุณแม่เราบ้างค่ะ คุณแม่เราลุกขึ้นมาปัสสาวะ แล้วคุณแม่เราก็เห็นเหมือนกันคุณยายของเราค่ะ คือเห็นไฟแดงๆ ลอยมาจากบ้านของยายเกอ คุฯแม่เราไม่รอให้เห็นชัดๆหรอกค่ะ แค่เห็นแค่นั้น คุณแม่เราก็วิ่งขึ้นบ้านแล้ว
พอเช้ามา ชาวบ้านก็พูดกันว่า เมื่อคืนมีคนเห็นผีกระสือเข้าไปในกอไผ่ แล้วยังไม่ออกมาจากกอไผ่เลย คุณยายกับคุณแม่เรา ก็เลยรีบพายเรือกันไปดูที่บ้านของยายเกอค่ะ แต่พอไปถึงบ้านของยายเกอ ก็มีทั้งผู้ใหญ่บ้าน และก็ชาวบ้านหลายคนมาที่บ้านของยายเกอ
สักพักก็มีชาวบ้านอุ้มร่างของยายเกอที่ไม่มีหัวออกมาข้างนอกบ้าน แล้วชาวบ้านก็ช่วยกันยกดูใต้ที่นอนของยายเกอ ปรากฎว่า ใต้ที่นอนของยายเกอ มีแต่อุจจาระที่ห่อกระดาษ แล้วก็อุจจาระที่ใส่ไว้ในถุงพลาสติกค่ะ ชาวบ้านก็พูดกันว่า ยายเกอนี่แหละกระสือ และพวกอุจจาระทั้งหมดเนี่ย ยายเกอเก็บไว้กิน เพราะกระสือมันชอบกินของสกปรกโสโครก
พอจับได้ว่ายายเกอเป็นกระสือ พวกชาวบ้านก็ลงมติกันว่า จะเผาบ้านของยายเกอ เพื่อจะได้ไม่มีผีกระสือยายเกออีก แต่ก็มีหลวงพ่อค่ะ หลวงพ่อประจำหมู่บ้านมาบอกว่า ให้หยุด อย่าไปเผาบ้าน อย่าทำอะไรทั้งนั้น เพราะแค่นี้ยายเกอแกก็ลำบากทุกข์ทรมานมากแล้ว ชาวบ้านก็เลยหยุดการกระทำทุกอย่าง แล้วปล่อยไว้อย่างนั้น แต่ก็มีชาวบ้านอีกกลุ่มนึงไปเฝ้าอยู่ตรงกอไผ่ ที่บอกว่ากระสือเข้าไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วยังไม่ออกมานะคะ คือเฝ้ากันจนนานมากค่ะ แต่ก็ไม่มีผีกระสือออกมา จนชาวบ้านต้องฟันต้นไผ่เพื่อจะดูว่ามีกระสืออยู่มั้ย พอฟันจนเตียน ก็พบแต่ความว่างเปล่าค่ะ ไม่มีอะไรอยู่ในกอไผ่เลย
แล้วหลังจากนั้นมาก็ไม่มีใครเจอหัวยายเกอเลย และลูกสาวแกก้ไม่มาที่หมู่บ้านอีกเลยค่ะ
เราได้ฟังมาจากคุณยายเราอีกทีนะคะ
***เป็นความเชื่อแล้วแต่บุคคลนะคะ
***เราแค่อยากจะมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกัน
***ขอบคุณที่อ่านค่ะ