คือเราเพิ่งผ่านการแข่ง oral presentation ซึ่งเราถูกอาจารย์ในรร.บังคับค่ะ เราก็ลง ทีนี้เราก็พูดเรื่องของเราไป แล้วก็หมดเวลา ทีนี้ก็ถึงเวลาที่กรรมการถามคำถามค่ะ โครงงานเราเป็นเกี่ยวกับการทดลองทางเคมี+ชีวะ ซึ่งกรรมการที่มาฟังมี อ.วิชา ภาษาไทย ฟิสิกส์(2ท่าน) ตอนแรก อ.ไทยก็ถามประมารว่า ทำไมบทคัดย่อไม่มีวัตถุประสงค์ คือบทคัดย่อเรามีนะแต่เป้นความเรียงสั้นๆ1อันค่ะ เราก้เงียบๆไป อ.ก้ถามต่อชื่อเรื่องตั้งทำไมไม่เห็นรุ้เลยว่าทำอะไรดูจากชื่อเรื่อง ซึ่งชื่อเรื่องเราคือ สมมตินะคะ การผลิตน้ำเชื่อมจากน้ำตาล คือบอกตรงตัวว่าผลิตอะไรจากอะไร เราก็อ่ะกำลังจะพูดว่าทำอะไรเผื่อตอนเราพูดเค้าฟังไม่ทัน กำลังจะพูดเลยค่ะ อ.บอก เอาสั้นๆเอาตรงที่ครุถาม เราก็ไม่รู้จะตอบยังไงเลยตอบไปว่า ก็ผลิตน้ำเชื่อจากน้ำตาลไงคะ อ.ก็แบบ...ทำหน้าไม่พอใจ ก็ถามว่าอันนี้ทำเพื่ออะไร ทำไมชื่อเรื่องไม่ลอกว่าจะเอาน้ำเชื่อมไปทำอะไรต่อ เราเลนบอกว่า คือน้ำเชื่อมเนี่ยสามารถเอาไปต่อยอดได้หลายอย่าง เลยไม่ได้เฉพาะเจาะจง อ.ก็บอกง่าตั้งชื่อเรื่องแบบนี้ใครจะไปรู้ง่าทำอะไร เราเลยบอกถ้าอาจารย์อยากรุ้ อาจารย์ก็ต้องอ่านต่อไปนะคะ แต่เรายังพูดไม่จบ อ.ตะโกนใส่ไมค์ว่า เธอพูดแบบนี้กับผู้ใหญ่ได้หรอ บอกว่าถ้าอ่านไม่รู้เรื่องให้กลับไปอ่านใหม่ นี่มันใช้ได้หรอ (คือพูดด้วยอาการโกรธมากนะคะ แล้วก็ตอนเราพีเซนทือาจารย์ไม่ฟัง ไม่เงยหน้ามาดูเลยค่ะ ดูแต่บทคัดย่อ ซึ่งเราตั้งใจทำสไลด์มาก วาดรูป แล้วก้พยายามทำให้สไลด์น่าสนใจ เพื่อนๆทุกคนบอกว่าสไลด์เราน่ารัก ดูรู้เรื่อง) เราเลยเงียบๆ ทีนี้อ.อีกท่าน ที่เป้นอ.ฟิสิกส์ ถามาา โครงงานเนี้ยทำเองป่ะคะ ใครบังคับให้ทำรึป่าว เราเลยบอก ทำเองค่ะคิดเองเลย อ.ก็เลยถามว่า แล้วทำไมอยากทำเรื่องนี้ เราเลยเล่าความคิดเราว่าทำไมถึงทำ สมมตินะคะ เราชอบกินน้ำหวานมาก เลยอยากจะทำน้ำหวานสูตรใหม่ ก้เล่าๆไปค่ะ อ.ฟิสิกส์คนเดิมถาม จะผลิตใหม่ทำไมคะ ไปซื้อไม่ง่ายหว่าหรอ เราเลยบอกไปว่า ก็เราอยากลองทำอะไรใหม่ๆดูบ้าง คือน้ำหวานแบบเก่าก็มีคนทำเยอะแล้ว เราอยากคิดอะไรที่ไม่เหมือนใคร เผื่อวันนึงน้ำหวานที่ได้จากดอกไม้หมดไป เราก้เอาน้ำหวานจากน้ำตาลแทน แล้วอ.ก้ถามว่า แล้วเนี่ยได้น้ำเชื่อมจริงๆหรอ เราเลยบอกคือจากการทดสอบเช่น การชิมเค้าก้บอกแล้วมั่นใจได้ยังไงว่าที่ลิมคือน้ำเชื่อม เราเลยบอกง่าคือก้มันหวาน แต่ถ้าให้เปีะๆคงไม่ไเ้เพราะทางรร.ไ่มีเครื่องวัดให้เลย เราพยามยามขอให้อ.ที่ปรึกษาพาไปทำที่อื่น เค้าก้ติดภาระงานพาไปไม่ได้ อ.เลยบอกว่าแล้วมันคือความผิดของรร.หรอ ประมาณนี้ค่ะ ส่วนอ.อีกคนก้ไม่ถามเลย คือตอนนั้นบรรยากาศมาคุมาก เรียกได้ว่าเพื้อนในห้องนั่งตัวเกร้งเลย เราก็รุ้สึกไม่ดีมากๆ พออ.ถามเสร็จเราออกไปข้างนอกห้องเลยค่ะ แล้วเรากับเพื่อนก้ร้องไห้คือเราทำดครงงานนี้มา3ปี ตั้งใจทำใาก ทำหลายครั้งกง่าจะสำเร็จ แต่ก้ต้องมาเจออาจารยืแบบนี้ แล้วไม่พอนะคะ อาจารย์ฟิสิกสืที่ถามเราก็เอาไปลเ่าให้คนื่นฟังว่าเราเป้นเด้กไม่ดีจนเข้าหูอ.ที่เราสนิทวึ่งเค้าไม่เชื่อเลยผดทรมาถาม เราเลยบอกว่าเราตอบเค้าไปแบบนั้นจริงๆแล้วก้เล่าเรื่องทั้งหมดให้อ.ที่เราสนิทฟัง เค้าเลยบอกว่า เราไม่ควรไปพูดแบบนั้นกับผุ้ใหญ่แล้วเค้าก็อบรมเรา เราอรุ้นพคะว่าสิ่งที่เราทำมันผิด แต่เราก้ไม่ใช่คนที่ตะพุดไม่ดีกับคนอื่นก่อนถ้าคนนั้นไม่พุดไม่ดีกับเราก่อน เราแค่นู้สึกว่ามันไมาแฟรืถ้าเค้าพุดไม่ดีกับเรา แล้วเราก้ต้องก้มหน้ายอมรับหรอคะ พอวันนี้ไปรร.ก็มีอ.เรียกไปคุยอีก คือเไมือนว่าอ.หมวดวิทยืคงเอาเราไปนินทาอย่างเยอะแลเวอ่ะค่ะ 😭😭😭😭
เจออาจารย์แบบนี้มาเป็นกรรมการเรางงเลยค่ะ