วันนี้เราจะมาพูดถึง
นิยาย BLEACH Can't Fear Your Own World I-Part 2 เเบบ Fullๆ กัน
- ส่วนนี้เป็นเนื้อหาต่อจาก
https://ppantip.com/topic/36782445/comment32
- ที่ได้เล่าเนื้อเรื่องส่วน " อารัมภบท " ไปเเล้ว 2 บท ด้วยกันเเละได้เข้าสู้เนื่อเรื่องหลัก
- ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 6 Part ย่อย
- โดยส่วนที่ 2 นี้จะเป็นเรื่องราวการเปิดตัวของ " ตัวละครไหม่ 2 ตัวด้วยกัน "
ชายผู้นี้คือ Tokinada Tsunayashiro ผู้ที่คาดว่าจะครอบครองดาบ " Ikomikidomoe "
** ดาบที่ทรงพลังอำนาจอย่างมากเเละถูกผนึกไว้ที่ วังราชันวิญญาณ
เเต่ช่วงสงครามพันปี มีไครบางคนอาศัยความวุ่นวายเเละขโมยมันออกมา ( เล่าขานกันว่า เก่งกว่า Zanka no tachi เเละ ichimonji)
เเละเด็กสาวผู้ติดตามของเค้า Hikone - ฮิโกเนะ
Can't Fear Your Own World I - Part 2
*** โดยเนื่อเรื่องทั้งหมดนี้จะเป็น " บทที่ 1 " ซึ่งเป็นเป็นเนื่อเรื่อง หลัก นะครับ ***
ต่อจาก " อารัมภบท 1 เเละ 2 " ท่านใดยังไม่เคยอ่าน วาร์ปอยู่ที่นี่เเล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://ppantip.com/topic/36782445/comment32
เเล้วเราจะเเบ่งออกเป็น " 2 ครึ่ง " ด้วยกัน
1. บทที่ 1 " ครึ่งเเรก "
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ บทที่ 1
หลาย 100 ปีก่อน - เซเรย์เทย์ - วังกลาง 46 ห้อง
" ทำไม!! ทำไมเค้าถึงไม่ตาย ทั้งที่ถูกตัดสินประหารชีวิต " เสียงของชายคนหนึ่ง โหยหวนอยู่ในวังกลาง 46ห้อง
" ข้าต้องการการตัดสินที่เป็นธรรม ได้โปรด.. วังกลาง 46 ห้อง ช่วยพิจารณาอีกที " ชายคนนี้ตะโกนต่อไป
ในขณะที่ถูกล๊อคไว้ด้วยหอกของทหารองครักษ์ประจำวังกลาง แต่คพูดเหล่านั้น ไม่อาจส่งผลแม้แต่นิดเดียว
วังกลางยังคงยึดมั่นในคำตัดสินแบบไม่เป็นธรรม ทหารองครักษ์ที่ล๊อคชายคนตาบอดคนนี้อยู่ ก็แสดงออกถึงความเห็นใจในตัวของชายคนนั้น..
ใช่แล้ว ชายคนนี้ชื่อ " โทเซ็น คานาเมะ " เค้าพร้อมเสี่ยงชีวิต เพื่อเปลี่ยนคำตัดสินครั้งนี้ ในขณะที่
วังกลาง 46 ห้อง บอกกับทหารองครักษ์: จัดการเค้าซะ... [ วังห่านนี่เลวเหมือนเดิมจริงๆ ไม่ว่ากี่ร้อยปีก็ตาม ]
ทหารองครักษ์ ชักดาบฟันวิญญาณลงมาและฟาดฟันลงที่ตัวโทเซ็นแบบไม่เต้มใจ พร้อม " ขอโทษนะ.. "
*** ทันใดนั้น ดาบของหน่วยทหารองครักษ์ก็ถูกหยุดไว้โดย " ยมทูตชายคนหนึ่ง " [ เอ๊ะๆ ใครกันน้า ]
*** ยมทูตชายคนนั้น สวมแว่นตา และมีผมสีน้ำตาล แต่โทเซ็นมิอาจมองเห็นเนื่องจากตาบอด..
[ ใครกันน้า ดูไม่ออกเลย ( ท่านผู้นำคนนั้นหรือเปล่าน้า ) ]
ยมทูต : อย่าทำอะไรขายหน้าซี่ พวกเรายังคงเสียใจในการจากไปของ คาเคียว..
โทเซ็น : ค..คุณ.. รู้จักเธอ..
ยมทูต : ใช่ เธอเป็นเพื่อนสนิทข้า ข้าคงไม่อาจเรียกตัวเองว่า ยมทูตได้ เมื่ออาจปกป้องเธอไว้ได้...
ยมทูต : ข้าเป็นคนทำให้เขามาที่นี่.. แต่ไม่ต้องห่วง กลับไปทำงานของพวกท่านได้แล้ว
( ยมทูตออกคำสั่งกับวังกลาง 46 ห้อง )
เมืองลูคอน – ที่ใดซักแห่ง
ยมทูต : โทเซ็น คนนาเมะใช่ไหม ข้าได้ยินเรื่องเจ้าจากคาเคียว..
ยมทูต : เมื่อ คาเคียว สมัครเข้าเป็นยมทูต เธอได้บอกข้าว่า " ถ้าเธอตายจาดารต่อสู้กับฮอลโล่
เธออยากจะถูกฝังที่เมืองลูคอน ตรงเนินผาที่สามารถดูดาวได้ และได้พบกับชายคนนึง... " ชายคนนั้นคงเป็น นายสินะ
โทเซ็น : นึงถึงช่วงที่ตนได้นั่งดูดาวกับคาเคียวอย่างมีความสุขบนเนินผานั่น... เธอได้บอกแบบนั้นก็โทเซ็นเช่นกัน
( เรื่อง ถ้าตัวเองตายอยากถูกฝังที่เนินแห่งนั้น )
โทเซ็น : ทำไม.. ทำไมเธอต้องตาย
ยมทูต : ได้ข่าวว่า เธอถูกสามีตัวเองฆ่า.. จากการทะเลาะกันเพียงเรื่องเล็กๆ เธอเป็นคนที่รักความความสงบ
และความยุติธรรมมากกว่าไครๆ..
ยมทูต : คุณรู้เกี่ยวกับตระกูลขุนนางขั้นสูงทั้ง 5 คนหรือไม่ ข้าไม่รู้เรื่องของพวกอย่างละเอียดนัก
แต่รู้ว่าพวกเขาคือตระกูลที่เกิดมาอย่างโดดเด่นที่สุดท่ามกลางขุนางทั้งหมดใน เซเรย์เทย์ และคนที่ฆ่า คาเคียว ก็เป็นหนึ่งในนั้น...
ยมทูต : เธอรู้ตัวว่าเธอนั้นได้แต่งงานกับยมทูต แต่เธอไม่ได้รู้เลยว่าคนที่เธอแต่งงานด้วยคือคนจากตระกูลชั้นสูง...
นี่คือเหตุผลที่ทำไมสามีของคาเคียว จึงรอดพ้นจากการประหารชีวิต 5 ตระกุลชั้นสูงนั้นมีอิธพลอยู่สูงยิ่งกว่า วังกลาง 46 ห้องซะอีก
และนั่น..ทำให้ วังกลางตัดสินให้ คาเคียวถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎและถูกสั่งประหารชีวิตและผู้ที่ลงมือประหารเธอก็คือ
สามีของเธอแต่สังหารเธอในฐานะ คนใน 5 ตระกูลใหญ่
โทเซ็น : บ้าบอสิ้นดี... โทเซ็นหมดอาลัยตายอยาก เมื่อได้ทรายความจริง..
*** ความยุติธรรมคืออะไร ?
ยมทูตคืออะไร ?
13 หน่วยพิทักษ์ คืออะไร??
สิ่งเหล่านี้ ถูกสร้างมาเมื่อปกป้องสันติภาพและความยุติธรรมของ โซโซไซตี้ และโลกมนุษย์ " งั้นเหรอ? "
วังกลาง 46 ห้องไม่ใช่ศาลชั้นสูงสุดและความยุติธรรมขั้นสูงสุดของสงคมวิญญาณ " งั้นเหรอ? "
ยมทูต : ใช่แล้ว.. ทั้ง โซโซไซตี้ และวังกลาง 46 ห้อง 13กน่วยพิทักษ์ ล้วนอยู่ใต้ฝ่าเท้าของ ตระกูลชั้นสูงที่ยิ่งใหญ่
แต่ก็มิใช่ทั้งหมด.. เรื่องอำอาจด้านตุลากาลส่วนใหญ่นั้น เป็นของตระกูล " Tsunayashiro – สึนะยาชิโระ "
ยมทูตพูดด้วยความโศกเศร้า... ที่แสดงออกมาจากเสียงอย่างเห็นได้ชัด แม้ โทเซ็น จะตาบอดก็สัมผัสได้เช่นนั้น
*** จิตใจของโทเซ็น ถูกกัดกินไปด้วยความเคียดแค้ต่อความไม่ยุติธรรม ชายคนหนึ่ง ที่เคยเชื่อใน
ความยุติธรรมมากกว่าไครๆ และคนที่เขาแอบชอบก็คิดเช่นนั้น(โทเซ็นแอบชอบคาเคียว) แต่จิตใจอันถูกต้องและบริสุทธิ์นั้น
กลับถูกความโสมมของ ตระกูลใหญ่ บดขยี้และทั้งไว้เพียงความเคียดแค้น แต่
ยมทูต : ข้าเข้าใจ... ถ้าทั้งข้าและเจ้า มีพลังอำนาจที่จะแก้แค้นเจ้าก็ควรจะทำมัน
ยมทูต : แต่.. นั่นคือความปราถนาของคาเคียวงั้นเหรอ? เธอคนนั้นที่คุณรู้จัก อยากให้คุณแก้เค้นชนชั้นสูงเพื่อตัวเองอย่างงั้นเหรอ?
ตัวนายที่อยู่กับเธอน่าจะเข้าใจมันดีกว่าไครๆ
โทเซ็น : ใจเย็นลง แล้วนึกถึงคำพูดต่างๆของคาเคียว... เธอรักความสงบกว่าไครๆ รักความยุติธรรมมากกว่าไครๆ
ยมทูต : ในฐานะที่เรา 2 คนรู้จักเธอดี.. นายก็น่าจะรู้ว่า " เธอคงไม่อยากให้เราหลั่งเลือดเพื่อเธอ นั่นคือความปราถนาของเธอ... "
[ ท่านผู้นำมาแปลกๆแฮะ... ]
โทเซ็น : ข้าคิดว่า... เธอต้องการให้ข้าเคารพความปราถนาของเธอเพื่อความยุติธรรมละสันติภาพ
แน่นอนว่าเธอรักสันติภาพนั่นเป็นเหตุผลทำให้เธอตาย ข้าจะไม่ทำให้การสูญเสียนี้ต้องสูญเปล่า..
ข้าจะปกป้องความสงบสุขที่เธอปราถนาให้คงอยู่....
ยมทูต : ถ้ามีคนที่สามารถพิสูจได้ว่าสิ่งที่เธอทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็จงใช้ชีวิตอยู๋กับอนาคตที่เธอคนนั้นมอบให้
อยู่โดยการทำตามความปราถนาของเธอ ดังนั้น การนองเลือดโดยไร้จุดหมาย มันไม่จำเป็นสำหรับเจ้าอีกต่ออีกไป..
ไม่ว่าคำพูดของยมทูตคนนี้ จะมาจากส่วนลึกของหัวใจคาเคียวหรือไม่ แต่โทเซ็นก็รู้สึกได้..
** ว่าเขาคือเพื่อนและยมทูตที่จิตใจดีที่สุดที่เค้าเคยรู้จักมา.. **
และทำให้จิตใจที่หลงผิดในความแค้นของเขากลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง...
โทเซ็น : ...ขอบคุณ.. ขอบคุณมากๆ
*** ยมทูต : ข้าไม่ต้องการคำขอบคุณ คุณควรขอบคุณคาเคียว ที่ทำให้จิตใจของคุณที่เต็มไปด้วยความแค้น
กลับมาบริสุทธิ์ด้วยความปราถนาของเธอ.. ยมทูตพูดกับโทเซ็นด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน..
โทเซ็น : ตัวข้าอาจไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะสืบทอดความปราถนาของเธอก็จริง แต่ข้าจะทำให้สุดความสามารถ
และความปราถนาและการสูญเสียทั้งหมด จะไม่สูญเปล่า
โทเซ็น รู้สึกโล่งใจ ว่ามีคนในหมู่ยมทูตที่ยังมีจิตใจดี และเห็นคุณค่าของเธอ (คาเคียว )
แล้วถามยมทูตคนนั้นต่อด้วยรอยิ้มอันพึงพอใจ
*** โทเซ็นถาม : สุดท้ายนี้... ถ้าไม่รังเกียจ.. ช่วยบอกชื่อของคุณจะได้หรือไม่.. ***
ยมทูต : แน่นอน.. ยมทูตพูดพร้อม " ถอดวิกผม และ แว่นตาออก... " [ หะ... ??]
ยมทูต พูดอย่างเยือกเย็น : ข้ามีชื่อว่า... " โทคินาดะ สินะยาชิโระ – Tsunayashiro Tokinada "
[ ห๊ะ!? เดี๋ยวววววววว!! + + % + + + !!!! เดี๋ยวนะ แล้วท่านผู้นำ... OMFG... ]
[ OHHH MYYY FCKKINGGGG GODDD DAMMM บ้าไปแล้ว!! " คุโบะ เล่นกุแล้ว " ]
[ สรุปเมิงนั่งนินทาตัวเองและตระกูลตัวเอง โถ่ไอ สั@!$#%#^@%$#%^#-*^^!#$%^ ]
* * * + + + + จบ " ครึ่งแรก " + + + * * *
ถ้าเข้าใจผิดอันใด ขออถัยมา ณ ที่นี้ เเละกรุณาเเก้ทิ้งไว้ในคอมเม้นด้วย
ขอบพระคุณที่รับชม มาจนถึงจุดนี้ [ จากสหายผู้รัก bleach ท่านหนึ่ง ]
[ เนื้อเรื่องจะเป็นอยางไรต่อไป.. หลังชื่อ โทคินาดะ สินะยาชิโระ ออกจากปากของเค้า... โทเซ็นจะคิดยังไง ติดตามกันในครึ่งหลัง! ]
2. บทที่ 1 " ครึ่งหลัง "
* * * + + + อยู่ในคอมเม้นที่ 1 นะครับ + + + * * *
ถ้าขก.อ่านยาว รอคนมาสรุปลงในเม้นนะคับ - มีความคิดเห็นเช่นไร เล่าสู่กันฟังได้ เเบบสุภาพนะครับ
[เปิดปม BLEACH] Can't Fear Your Own World นิยายช่วงต่อหลังจากจบสงคราม : Part 2
นิยาย BLEACH Can't Fear Your Own World I-Part 2 เเบบ Fullๆ กัน
- ส่วนนี้เป็นเนื้อหาต่อจาก https://ppantip.com/topic/36782445/comment32
- ที่ได้เล่าเนื้อเรื่องส่วน " อารัมภบท " ไปเเล้ว 2 บท ด้วยกันเเละได้เข้าสู้เนื่อเรื่องหลัก
- ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 6 Part ย่อย
- โดยส่วนที่ 2 นี้จะเป็นเรื่องราวการเปิดตัวของ " ตัวละครไหม่ 2 ตัวด้วยกัน "
ชายผู้นี้คือ Tokinada Tsunayashiro ผู้ที่คาดว่าจะครอบครองดาบ " Ikomikidomoe "
** ดาบที่ทรงพลังอำนาจอย่างมากเเละถูกผนึกไว้ที่ วังราชันวิญญาณ
เเต่ช่วงสงครามพันปี มีไครบางคนอาศัยความวุ่นวายเเละขโมยมันออกมา ( เล่าขานกันว่า เก่งกว่า Zanka no tachi เเละ ichimonji)
เเละเด็กสาวผู้ติดตามของเค้า Hikone - ฮิโกเนะ
*** โดยเนื่อเรื่องทั้งหมดนี้จะเป็น " บทที่ 1 " ซึ่งเป็นเป็นเนื่อเรื่อง หลัก นะครับ ***
ต่อจาก " อารัมภบท 1 เเละ 2 " ท่านใดยังไม่เคยอ่าน วาร์ปอยู่ที่นี่เเล้ว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เเล้วเราจะเเบ่งออกเป็น " 2 ครึ่ง " ด้วยกัน
1. บทที่ 1 " ครึ่งเเรก "
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. บทที่ 1 " ครึ่งหลัง "
* * * + + + อยู่ในคอมเม้นที่ 1 นะครับ + + + * * *
ถ้าขก.อ่านยาว รอคนมาสรุปลงในเม้นนะคับ - มีความคิดเห็นเช่นไร เล่าสู่กันฟังได้ เเบบสุภาพนะครับ