จั่วหัวก่อนเลย แรกเริ่มเลยเราไม่รู้จักหรอกวัดอัมพวัน ด้วยความเป็นเด็กอะเนอะ(ในตอนนั้น)
แต่ชอบฟังเสียงอ่านธรรมนิยายสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ที่เปิดให้ได้ฟังทางสถานีวิทยุเป็นประจำทุกวันจันทร์-ศุกร์ ซึ่งติดมากกก
ต่อมาจึงเริ่มซื้อเป็นหนังสือมาอ่าน ตั้งแต่เล่มแรก ก็เริ่มสงสัย หลวงพ่อเจริญท่านเป็นใคร
มีตัวตนอยู่จริงไหม วัดป่ามะม่วงอยู่ที่ไหน เรื่องแม่กาหลง อาแป๊ะเล่งฮวยเข้ายายเภา
หญิงสองร่าง-นางสองชาติ (แม่สะอิ้ง) เรือนแม่กาหลง พระบัวเฮียว เรื่องราวต่างๆในดินแดนชมพูทวีป ฯลฯ
และเริ่มรู้สึกว่า หลวงพ่อเจริญท่านจะสอนอะไรที่เข้าเข้าใจได้ง่ายมากๆ
เช่น " มาเข้ากรรมฐาน ขออโหสิกรรมสิ แก้กรรมได้ แก้ได้ด้วยตัวเอง
ไม่ต้องไปให้หมอดูสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาให้เสียเงินเสียทองเปล่า กรรมก็แก้ไม่ได้"
ก็เลยเริ่มมาหาข้อมูลดู ปรากฏว่าก็ตรงตามเหตุการณ์ต่างๆ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี
ก็เลยตั้งใจไว้ตั้งแต่วันนั้นว่าซักวันจะต้องไปเข้ากรรมฐานที่วัดอัมพวันให้ได้เลย
อยากไปเห็นบรรยากาศที่ผู้คนทั่วทุกสารทิศ ที่เข้าไปกราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
เพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาชีวิตแบบที่เคยอ่านในหนังสือมาตลอดหลายปี จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปซักที
จนเวลาล่วงไปได้ทำงานทำการ ก็มีข่าวที่ทำให้ต้องเสียใจอย่างสุดซึ้งเมื่อได้ทราบข่าว
การละสังขารของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เมื่อต้นปี 25ม.ค.59
แต่ด้วยคำสอนท่านที่ว่า อย่ายึดติดตัวบุคคล ใจเรายึดติดในคำสอนของท่านมากกว่า ถึงแม้ท่านละสังขารแล้ว
จึงตั้งใจแล้วจะไปให้ได้เลย 11 ส.ค.60 นี้ ประจวบกับว่าหน้าที่การงานที่ทำเริ่มเข้าที่ และมีเวลาในวันหยุด
และอยากสร้างบุญในวันแม่แห่งชาติ และ 15 ส.ค. ก็เป็นวันคล้ายวันเกิดพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วย
จึงตัดสินใจไปเลย บอกก่อนนะคะ เป็นผู้หญิง ไปคนเดียว ไม่มีรถ ไม่เคยไปวัด อาศัยอ่านกระทู้นี่แหละ
สำหรับคนยังไม่เคยปฏิบัติที่วัดนี้เลย เขาจะมีแบบ ปฏิบัติ 3 วัน เข้า ศุกร์ออกเสาร์
และแบบ ปฏิบัติ 7 วัน เข้าวันโกน ออกวัน โกน แต่ถ้าคนที่เคยแล้วเขาก็จะไปเข้าวันธรรมดากันเพราะคนน้อย
สิ่งที่เตรียมไป
ของมีค่าที่จำเป็นติดตัวไว้และต้องสะดวกในการพกพาขณะปฏิบัติธรรม
1.บัตรประชาชน
2.เงิน (แค่พอกินพอใช้พอทำบุญ)
3.โทรศัพท์ (เพื่อติดต่อทางบ้านเท่านั้น ไม่ได้เอาไว้แชทหรือท่องเน็ตนะคะ ต้องถือศีล8 เขาห้ามค่ะ)
ของใช้ส่วนตัว
1.เครื่องในสตรีจำนวนตามวัน
2.เครื่องอาบน้ำ เช่น สบู่,ยาสระผม,โฟมล้างหน้า,แปรงสีฟัน,ยาสีฟัน,ผ้าเช็ดตัว
(โรลออนทาได้ไม่งั้นกลิ่นเต่ารบกวนเพื่อนข้างๆ) แต่งดเครื่องสำอางทุกชนิด (เพราะต้องถือศีล8)
การเดินทาง
เราออกจากบ้าน 04.30 น. ถึงหมอชิต 04.45 น.
- อาคารผู้โดยสารชั้นล่าง ซื้อตั๋วช่อง 39 ส.วิริยะทรานสปอร์ต บอกว่าลงวัดอัมพวัน ในราคา 105 บ.
- รถออกจากหมอชิต 05.00 น. ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง ก็ถึงปากทางเข้าวัดอัมพวัน
- นั่งวินเข้าวัด ระยะทาง 1 กม. ราคา 15 บาท
การลงทะเบียน
เราไปถึงวัด 07.00 น. ก็ไปนั่งรอ เพราะเขาเปิดให้ลงทะเบียน 08.00 น.
- 08.00 น. รับใบสมัครไปกรอก กรอกเสร็จยื่นพร้อมบัตรประชาชน
- รับบัตรประจำตัวผู้ปฏิบัติมาแล้ว หิ้วกระเป๋าเข้าที่พักตามบัตร
ครั้งแรกมันก็จะงงๆหน่อยเพราะไม่เคยมาวัด 555 ยังไม่รู้จักว่าอาคารไหน ถึงจะมีป้ายบอกก็เหอะ
- ชุดขาวเราจะยังไม่ได้รับเมื่อลงทะเบียนนะ แต่รับได้ช่วงบ่ายไปแล้ว ซึ่ง 16.00 น. ถึงจะใส่ได้
ห้ามใส่ก่อน เพราะเมื่อใส่แล้วจะถือว่า ถือศีล 8 ทันที กล่าวคือ ห้ามใช้เครื่องหอม ทาแป้ง
และงดรับประทานตั้งแต่เที่ยงเป็นต้นไป ยกเว้นน้ำปานะ
ที่พัก
เนื่องจากเราเป็นผู้ลงทะเบียนคนที่ 2 ของรอบวันนั้น เราจึงได้นอนใกล้หน้าต่างที่มีราวตากผ้า
อาคาร ร.ร.ปริยัติธรรม ชั้น 1/1 ภายในห้องเขาจะจัดแจงปูเสื่อเรียงหมอนให้เสร็จสรรพ
หมอนก็เป็นหมอนเหลี่ยมธรรมดา ก็จะนอนเบียดๆกันหน่อย เพราะคนเยอะมาก
ใครอยากได้ผ้าห่ม ก็ไปหยิบเอาก็อยู่ในบริเวณห้องนั่นแหละ
- ภายในอาคาร มีห้องอาบน้ำเดี่ยว สะดวกสะอาด แต่คนเยอะต้องแย่งกันอาบรอคิวนาน
ในแต่ละวันต้องบริหารเวลาดีๆ เวลาไหนตื่น เวลาไหนอาบน้ำ
- ในห้องห้ามพกของกินอาหารคาวหวานเข้าห้องเพราะจะทำให้หกเลอะเทอะ และมีมดกวน
ระหว่างรอเวลา
พอเราเอาของเข้าที่พักเรียบร้อย เราก็โต๋เต๋และ ด้วยความที่มาไว แล้วเขานัดตั้ง 16.30 น.
จะทำไรดีอ่ะ ก็เพิ่งจะ 09.00 น.เอง
- เราก็เลยไปกราบพระประธานในโบสถ์ก่อน
- ไปกราบรูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์ (โต)
- ไปกราบสรีระสังขารพระเด็จพระคุณหลวงพ่อจรัญ
- ไปกราบหุ่นขี้ผึ้งพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ที่กุฏิท่าน ที่ๆซึ่งเมื่อก่อนรองรับแขกเป็นพันๆ
เมื่อครั้งพระเดชพระคุณหลวงพ่อยังดำรงสังขารอยู่
เราก็ถึงกับน้ำตาซึมว่าที่สุดแล้วเราก็ได้มาที่นี่ตามที่ตั้งใจไว้จริงๆ
- สุดท้ายคือตามหาเรือนแม่กาหลง ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ซื้อไม้เรือนมาปลูกทำโรงครัว
รองรับผู้มาปฏิบัติธรรม (ตามในหนังสือที่เคยได้อ่านมา) แล้วก็ได้เจอจริงจริง
เราน้ำตาคลออีก เพราะเราผูกพันกับเรื่องราวของแม่มายาวนานหลายปี จนเหมือนคนที่สนิทไปแล้ว
จากนั้นก็เดินอ่านเรื่องราวต่างๆตามบอร์ดที่มี ตลอดแนวทางเดินจนครบ
ก็ค้นพบและเป็นอันพิสูจน์ได้ว่า เรื่องราวที่เราสงสัยในหนังสือธรรมนิยายไม่ได้กล่าวอะไร
เกินความเป็นจริงเลย
เท่านี้ก่อนนะเดี๋ยวมาต่อ
<<รีวิว>> ไปปฏิบัติธรรม วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) 11 ส.ค. 60
แต่ชอบฟังเสียงอ่านธรรมนิยายสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ที่เปิดให้ได้ฟังทางสถานีวิทยุเป็นประจำทุกวันจันทร์-ศุกร์ ซึ่งติดมากกก
ต่อมาจึงเริ่มซื้อเป็นหนังสือมาอ่าน ตั้งแต่เล่มแรก ก็เริ่มสงสัย หลวงพ่อเจริญท่านเป็นใคร
มีตัวตนอยู่จริงไหม วัดป่ามะม่วงอยู่ที่ไหน เรื่องแม่กาหลง อาแป๊ะเล่งฮวยเข้ายายเภา
หญิงสองร่าง-นางสองชาติ (แม่สะอิ้ง) เรือนแม่กาหลง พระบัวเฮียว เรื่องราวต่างๆในดินแดนชมพูทวีป ฯลฯ
และเริ่มรู้สึกว่า หลวงพ่อเจริญท่านจะสอนอะไรที่เข้าเข้าใจได้ง่ายมากๆ
เช่น " มาเข้ากรรมฐาน ขออโหสิกรรมสิ แก้กรรมได้ แก้ได้ด้วยตัวเอง
ไม่ต้องไปให้หมอดูสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาให้เสียเงินเสียทองเปล่า กรรมก็แก้ไม่ได้"
ก็เลยเริ่มมาหาข้อมูลดู ปรากฏว่าก็ตรงตามเหตุการณ์ต่างๆ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี
ก็เลยตั้งใจไว้ตั้งแต่วันนั้นว่าซักวันจะต้องไปเข้ากรรมฐานที่วัดอัมพวันให้ได้เลย
อยากไปเห็นบรรยากาศที่ผู้คนทั่วทุกสารทิศ ที่เข้าไปกราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
เพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาชีวิตแบบที่เคยอ่านในหนังสือมาตลอดหลายปี จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปซักที
จนเวลาล่วงไปได้ทำงานทำการ ก็มีข่าวที่ทำให้ต้องเสียใจอย่างสุดซึ้งเมื่อได้ทราบข่าว
การละสังขารของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เมื่อต้นปี 25ม.ค.59
แต่ด้วยคำสอนท่านที่ว่า อย่ายึดติดตัวบุคคล ใจเรายึดติดในคำสอนของท่านมากกว่า ถึงแม้ท่านละสังขารแล้ว
จึงตั้งใจแล้วจะไปให้ได้เลย 11 ส.ค.60 นี้ ประจวบกับว่าหน้าที่การงานที่ทำเริ่มเข้าที่ และมีเวลาในวันหยุด
และอยากสร้างบุญในวันแม่แห่งชาติ และ 15 ส.ค. ก็เป็นวันคล้ายวันเกิดพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วย
จึงตัดสินใจไปเลย บอกก่อนนะคะ เป็นผู้หญิง ไปคนเดียว ไม่มีรถ ไม่เคยไปวัด อาศัยอ่านกระทู้นี่แหละ
สำหรับคนยังไม่เคยปฏิบัติที่วัดนี้เลย เขาจะมีแบบ ปฏิบัติ 3 วัน เข้า ศุกร์ออกเสาร์
และแบบ ปฏิบัติ 7 วัน เข้าวันโกน ออกวัน โกน แต่ถ้าคนที่เคยแล้วเขาก็จะไปเข้าวันธรรมดากันเพราะคนน้อย
สิ่งที่เตรียมไป
ของมีค่าที่จำเป็นติดตัวไว้และต้องสะดวกในการพกพาขณะปฏิบัติธรรม
1.บัตรประชาชน
2.เงิน (แค่พอกินพอใช้พอทำบุญ)
3.โทรศัพท์ (เพื่อติดต่อทางบ้านเท่านั้น ไม่ได้เอาไว้แชทหรือท่องเน็ตนะคะ ต้องถือศีล8 เขาห้ามค่ะ)
ของใช้ส่วนตัว
1.เครื่องในสตรีจำนวนตามวัน
2.เครื่องอาบน้ำ เช่น สบู่,ยาสระผม,โฟมล้างหน้า,แปรงสีฟัน,ยาสีฟัน,ผ้าเช็ดตัว
(โรลออนทาได้ไม่งั้นกลิ่นเต่ารบกวนเพื่อนข้างๆ) แต่งดเครื่องสำอางทุกชนิด (เพราะต้องถือศีล8)
การเดินทาง
เราออกจากบ้าน 04.30 น. ถึงหมอชิต 04.45 น.
- อาคารผู้โดยสารชั้นล่าง ซื้อตั๋วช่อง 39 ส.วิริยะทรานสปอร์ต บอกว่าลงวัดอัมพวัน ในราคา 105 บ.
- รถออกจากหมอชิต 05.00 น. ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง ก็ถึงปากทางเข้าวัดอัมพวัน
- นั่งวินเข้าวัด ระยะทาง 1 กม. ราคา 15 บาท
การลงทะเบียน
เราไปถึงวัด 07.00 น. ก็ไปนั่งรอ เพราะเขาเปิดให้ลงทะเบียน 08.00 น.
- 08.00 น. รับใบสมัครไปกรอก กรอกเสร็จยื่นพร้อมบัตรประชาชน
- รับบัตรประจำตัวผู้ปฏิบัติมาแล้ว หิ้วกระเป๋าเข้าที่พักตามบัตร
ครั้งแรกมันก็จะงงๆหน่อยเพราะไม่เคยมาวัด 555 ยังไม่รู้จักว่าอาคารไหน ถึงจะมีป้ายบอกก็เหอะ
- ชุดขาวเราจะยังไม่ได้รับเมื่อลงทะเบียนนะ แต่รับได้ช่วงบ่ายไปแล้ว ซึ่ง 16.00 น. ถึงจะใส่ได้
ห้ามใส่ก่อน เพราะเมื่อใส่แล้วจะถือว่า ถือศีล 8 ทันที กล่าวคือ ห้ามใช้เครื่องหอม ทาแป้ง
และงดรับประทานตั้งแต่เที่ยงเป็นต้นไป ยกเว้นน้ำปานะ
ที่พัก
เนื่องจากเราเป็นผู้ลงทะเบียนคนที่ 2 ของรอบวันนั้น เราจึงได้นอนใกล้หน้าต่างที่มีราวตากผ้า
อาคาร ร.ร.ปริยัติธรรม ชั้น 1/1 ภายในห้องเขาจะจัดแจงปูเสื่อเรียงหมอนให้เสร็จสรรพ
หมอนก็เป็นหมอนเหลี่ยมธรรมดา ก็จะนอนเบียดๆกันหน่อย เพราะคนเยอะมาก
ใครอยากได้ผ้าห่ม ก็ไปหยิบเอาก็อยู่ในบริเวณห้องนั่นแหละ
- ภายในอาคาร มีห้องอาบน้ำเดี่ยว สะดวกสะอาด แต่คนเยอะต้องแย่งกันอาบรอคิวนาน
ในแต่ละวันต้องบริหารเวลาดีๆ เวลาไหนตื่น เวลาไหนอาบน้ำ
- ในห้องห้ามพกของกินอาหารคาวหวานเข้าห้องเพราะจะทำให้หกเลอะเทอะ และมีมดกวน
ระหว่างรอเวลา
พอเราเอาของเข้าที่พักเรียบร้อย เราก็โต๋เต๋และ ด้วยความที่มาไว แล้วเขานัดตั้ง 16.30 น.
จะทำไรดีอ่ะ ก็เพิ่งจะ 09.00 น.เอง
- เราก็เลยไปกราบพระประธานในโบสถ์ก่อน
- ไปกราบรูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์ (โต)
- ไปกราบสรีระสังขารพระเด็จพระคุณหลวงพ่อจรัญ
- ไปกราบหุ่นขี้ผึ้งพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ที่กุฏิท่าน ที่ๆซึ่งเมื่อก่อนรองรับแขกเป็นพันๆ
เมื่อครั้งพระเดชพระคุณหลวงพ่อยังดำรงสังขารอยู่
เราก็ถึงกับน้ำตาซึมว่าที่สุดแล้วเราก็ได้มาที่นี่ตามที่ตั้งใจไว้จริงๆ
- สุดท้ายคือตามหาเรือนแม่กาหลง ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ซื้อไม้เรือนมาปลูกทำโรงครัว
รองรับผู้มาปฏิบัติธรรม (ตามในหนังสือที่เคยได้อ่านมา) แล้วก็ได้เจอจริงจริง
เราน้ำตาคลออีก เพราะเราผูกพันกับเรื่องราวของแม่มายาวนานหลายปี จนเหมือนคนที่สนิทไปแล้ว
จากนั้นก็เดินอ่านเรื่องราวต่างๆตามบอร์ดที่มี ตลอดแนวทางเดินจนครบ
ก็ค้นพบและเป็นอันพิสูจน์ได้ว่า เรื่องราวที่เราสงสัยในหนังสือธรรมนิยายไม่ได้กล่าวอะไร
เกินความเป็นจริงเลย
เท่านี้ก่อนนะเดี๋ยวมาต่อ