ตั้งแต่ลูกเริ่มโตก็มีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่คนละโลกกับลูก.. จนเริ่มเอาตัวเองเข้าหาโซเชียลอย่างเฟซบุ๊กก็เพราะคิดว่าจะช่วยเชื่อมเรากับลูกให้ใกล้กัน.. แต่แล้วมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเราพลาดตรงไหนไปนะ?


จนหลายครั้งคุณอาจจะอยากย้อนเวลาไม่ขอเข้าถึงสิ่งนี้ด้วยซ้ำ! แต่ในเมื่อมันไม่ทันซะแล้วเราก็ต้องเดินหน้าตามเกมส์ลูกให้ทันอย่างใจกว้างฟังวิธีจากเรานี้แล้วเชื่อสิว่าโซเชียลจะไม่ใช่เรื่องน่ากลัวชวนปวดหัวอีกต่อไปและอาจกระชับความสนิทสนมของเราและลูกมากขึ้นเป็นทวีคูณเลย!



ลองจินตนาการว่าเราเป็นลูกเหมือนการเอาใจเขามาใส่ใจเราและรับรู้ให้ได้ถึงเรื่องราวที่ลูกผ่านมาไม่ว่าจะเป็นความเจ็บปวดไปจนถึงความสนุกและอารมณ์ของเขาในช่วงเวลานั้นๆแน่นอนว่าช่วงอายุของเราและลูกก็เป็นคนละยุคสมัยกันแล้วอย่าเพิ่งด่วนตัดสินเวลาเราเห็นลูกคอมเม้นต์กับเพื่อนด้วยภาษาแรงงงว่าทำไมใช้ถ้อยคำแบบนี้เพราะบางทีลูกก็พูดไปขำๆไม่ได้หมายความหรือเจตนาแรงๆตามคำนั้นอย่ารีบตั้งแง่และเอาแต่จะว่ากล่าวอบรมเขาอย่างเดียวนี่คือพื้นที่ส่วนตัวของเขาเป็นที่ที่ลูกได้ปลดปล่อยเพราะฉะนั้นถ้ามีส่วนไหนในเฟซบุ๊กของลูกที่เราไม่เข้าใจพยายามเอาตัวเองเป็นลูกแล้วก็ยังไม่เข้าใจความคิดเขาก็ลองหาเวลาคุยกับลูกเพื่อถามให้ตัวเองกระจ่างแต่จำไว้นะว่าให้คุยกับลูกเพื่อจะพยายามเข้าใจความเป็นลูกไม่ใช่จะคุยเพื่อยัดเยียดความถูกต้องที่มีอยู่ในหัวเราเข้าไปโดยยังไม่ได้ฟังลูกเลยไม่อย่างนั้นลูกและเราจะไม่มีทางเข้าใจกันแน่ๆและลูกยิ่งอยากจะตีตัวออกห่างไปเรื่อยๆ


เราเองตอนวัยรุ่นก็คงเคยมีวันไปเที่ยวเล่นกับก๊วนเพื่อนโรงเรียนเหมือนกันแหละหน่าลูกเราก็มีช่วงเวลาสนุกกับเพื่อนเขาได้เหมือนกันแต่เราแค่รู้สึกว่าเขาทุ่มเวลาทุกอย่างให้เพื่อนเพราะทุกสิ่งสนุกๆที่เขาทำเขาอัพเดทลงเฟซบุ๊กหมดเลยและดันใช้ภาษาหรือสไตล์การใช้ชีวิตคนละอย่างที่เราเข้าไปมีส่วนร่วมได้ยากน่ะสิขอบอกให้แม่ๆทั้งหลายรู้ไว้ว่าเวลาของลูกกับเรายังมีอยู่เหมือนเดิมไม่ต้องรู้สึกโดนทิ้งแล้วก็งอนตุ๊บป่องชวนลูกไปกินข้าวข้างนอกบ้างไปทำกิจกรรมที่เราไม่เคยทำบ้างไม่ว่าจะเป็นออกไปเล่นกีฬากลางแจ้งดูหนังรอบดึกเสร็จแล้วเราก็อัพเดทลงเฟซบุ๊กแล้วก็แท็คลูกคืนบ้างก็ได้ว่าไปทำอย่างนั้นอย่างนี้กับลูกสุดที่รักมาทวงพื้นที่สื่อโซเชียลของลูกซะหน่อย



ในโลกเฟซบุ๊กนี้ ไม่ได้มีแค่การติดตามการเคลื่อนไหวของคนรู้จักเท่านั้น สิ่งที่เราชอบคือ เฟซบุ๊กได้เปิดโลกเราให้รับรู้สิ่งดีๆ ที่น่าสนใจมากมาย และหลายเรื่องราวนั้น ก็ช่วยเราเรื่องการเลี้ยงและเข้าใจคุณลูกวัยรุ่นของเราได้ดีเหลือเกิน

เราขอแนะนำบางเพจที่คิดว่าเป็นประโยชน์ให้เราเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกได้ดีขึ้น อย่าง

เข็นเด็กขึ้นภูเขา: เพราะการเข็นเด็กขึ้นภูเขานี่ยากกว่าเข็นครกเยอะ เจ้าของเพจคือ พญ. เบญจพร ตันตสูติ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ที่มีแนวคิดการสอนลูกอย่างอ่อนโยน แทรกคำสอนจากเหตุการณ์หรือสื่อที่เราเจอในชีวิตประจำวัน เรียกได้ว่า ไม่ตกข่าว ไม่น่าเบื่อ และได้ความรู้เพียบอีกต่างหาก

สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย: กลุ่มคนที่มีความตั้งมั่นอย่างมาก ที่จะให้คนไทย รวมไปถึงคุณพ่อคุณแม่สอนลูกให้ถูกทาง โดยจะเน้นที่ความเข้าใจและเปิดกว้าง แถมมีกิจกรรมน่าเข้าร่วมเต็มเลย จูงมือลูกของเราไปทำกิจกรรมสนุกๆ เช่น ฟังบรรยายหัวข้อที่กระตุกต่อมให้คิดตาม หรือวิ่งมาราธอนคลายความซึมเศร้า เป็นต้น

Little Monster: น้องจินและเรนนี่สุดน่ารัก เห็นเด็กสองคนนี้แล้วคิดถึงลูกเราตอนยังเล็กเลย ดูแต่ละคลิป มีแต่จะทำให้อมยิ้มไปกับความทะเล้นของเด็กน้อย ผ่อนคลายเราจริงๆ




และนี่ก็คือวิธีเปลี่ยนมุมมองง่ายๆที่เฟซบุ๊กจะไม่ทำให้เราและลูกห่างกันอีกต่อไปคุณแม่คนไหนลองทำดูแล้วชอบก็แชร์บอกเพื่อนแม่ๆต่อด้วยนะจ๊ะและถ้าลูกคนไหนอ่านอยู่ในเมื่อเราอยากให้แม่เข้าใจเราเราก็ต้องเข้าใจความเป็นแม่เขาด้วยเนอะความห่างเหินและช่องว่างระหว่างวัยนี้จะได้มาบรรจบกันซะที!


[Advertorial]