ขอแชร์ประสบการณ์สัมภาษณ์งานที่งงทั้งผู้สัมภาษณ์ และผู้ถูกสัมภาษณ์

เริ่มแรกขอแนะนำพื้นเพตัวเองก่อนนะครับ ปัจจุบันผมทำงานเป็นธุรการโรงงานครับหน้าที่คือสากกระเบือยันยานอวกาศซึ่งงานก็ธุรการจ้ามาก ๆ ผมทำที่โรงงานนี้ ณ ตอนนี้ก็9ปีเต็มเข้าไปแล้ว ผมมีความคิดอยากเปลี่ยนสายงานเพราะเพิ่งเรียนจบป.ตรี(การตลาด)เมื่อปีที่แล้วจนตอนนี้ทุกอย่างลงตัวผมก็เลยเริ่มตระเวณสมัครงานทางเน็ตในตำแหน่งที่ผมสนใจส่วนใหญ่ก็สายงานอื่นที่ไม่ใช่ธุรการและเซลครับ และผมก็เลือกสมัครแต่กับบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่เอาไว้ก่อนเพราะผมอยากลองทำงานในองค์กรใหญ่ ๆ ดูบ้าง
     
     ทีนี้มาถึงเรื่องเงินเดือนบ้างนะครับ ณ ตอนนี้ผมฐานเงินเดือนอยู่ที่ 17,000 บาทถ้วนซึ่งผมทำที่โรงงานนี้มาตั้งแต่ฐานเงินเดือนแค่ 8,000 บาทเท่านั้นเองผมทำตั้งแต่วุฒิปวช.ง่ะครับแล้วก็เรียน ๆ เล่น ๆ ภาคค่ำมาเรื่อย ๆ จนจบ และก็ที่โรงงานแห่งนี้ไม่มีโบนัสด้วยนะครับเป็นนโยบายของบริษัทเลยเพราะอะไรนั้นเหตุผลเค้าก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ครับทุกสิ้นปีผมก็เบื้อที่จะรู้แล้ว แต่ที่นี้ถือว่าดีตรงปรับเงินเดือนให้ต่อปีค่อนข้างเยอะนะผมว่า
     
     ทีนี้พอผมได้วุฒิป.ตรีมาพร้อมกับไปสอบ TOEIC ซึ่งผมก็ได้คะแนน 7.. นิด ๆ ที่ได้ภาษาอังกฤษมาบ้างเพราะตอนเรียนปวช.ผมเรียนภาคภาษาอังกฤษครับแต่ผมก็ถือว่าอ่อนเกือบที่สุดในรุ่นแล้ว

     ทีนี้ผมก็ได้รับการตอบรับให้เข้าไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทแห่งหนึ่งครับในตำแหน่ง "เจ้าหน้าที่ฝ่ายวางแผนห่วงโซ่อุปทาน" ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าบริษัทนี้ใหญ่ขนาดไหนแต่ก็ (มหาชน) แล้วก็ออฟฟิศอยู่ย่านสีลมด้วย ผมก็เตรียมตัวอย่างดีไปค้นหนังสือวิชาที่เกี่ยวข้องมาอ่านฟื้นความรู้ที่ได้เรียนไปว่าห่วงโซ่อุปทานคืออะไรนู้นนี้นั้นง่ะครับ เสร็จแล้วก็เตรียมอะไรต่อมิอะไรให้พร้อม

     ณ วันสัมภาษณ์งาน ผมไปถึงก่อนเวลานัดชั่วโมงนึงเพื่อเตรียมตัว แต่พอไปถึงปุ๊ปพี่ ๆ ฝ่ายบุคคลก็เรียกไปสัมภาษณ์งานที่ห้องสัมภาษณ์งาน ก็ถามเรื่องทั่ว ๆ ไปครับแนะนำตัวอะไรพื้น ๆ ครับ แต่ต่อไปนี้แหละครับพีคมากคือเค้าไปเอาเอกสารอะไรจากผมเลยแต่ให้ผมชั้งน้ำหนักวัดส่วนสูงและทดสอบอ่านร้อยแก้วภาษาไทยที่เค้าให้มา1แผ่นเอสี่ ผมก็งงนะเพิ่งเคยเจอการสัมภาษณ์งานแบบนี้ตอนนั้นก็คิดว่าแอ๊ะหรือว่าสมัยนี้เค้าทำแบบนี้กันแล้วว่ะเราอาจจะร้างสนามไปนาน

     เสร็จจากกิจกรรมนันทนาการเมื่อครู่ฝ่ายบุคคลก็อ่านใบวุฒิปวช.ของผมนานมากแต่ไม่สนใจใบวุฒิป.ตรีเลย แล้วก็ถามผมว่า "น้องเรียนภาษาญี่ปุ่นมานิ พูดได้ไหมตอนนี้" ผมก็ตอบไปจริง ๆ เลยว่า "พูดแทบจะไม่ได้แล้วครับ เพราะเรียนแค่สองปีคือปวช.2-3หลังจากนั้นก็ไม่ได้เรียนอีกเลย" ทีนี้พี่ฝ่ายบุคคลเลยบอกว่า ตอนนี้บริษัทกำลังมีการติดต่องานกับประเทศญี่ปุ่นพี่จะให้น้องสัมภาษณ์งานกับชาวญี่ปุ่นนะลองดู แล้วพี่บุคคลก็เดินออกไปแท็กทีมกับคนข้างนอกครับเข้ามานั้งแทนที่เค้า ซึ่งก็เป็นใครก็ไม่รู้แต่แขวนป้ายพนักงานซึ่งชื่อก็เป็นภาษาไทยเขียนไว้หลาบนป้าย แต่เค้าพูดเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่นครับผมก็เอ๋อรับทานเลยครับงงว่านี้คืออะไร ถ้ารายการสาระแนยังอยู่ผมนึกว่าผมโดนแกล้งแน่ ๆ แล้วเค้าก็ถามผมเป็นภาษาไทยด้วยสำเนียงญี่ปุ่นที่ฟังยากมาก ๆ แต่ผมก็รู้ว่าเค้าคือคนไทยนะผมก็ตอบได้บ้างไม่ได้บ้างเพราะฟังแทบจะไม่ออกเลย ทีนี้เค้าถอนหายใจครับผมก็เริ่มรู้สึกไม่ชอบแหละ หลังจากนั้นเค้าก็สัมภาษณ์ผมเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยสำเนียงแบบที่คนไทยชอบล้อเลียนสำเนียงคนญี่ปุ่นนะครับที่เสียงใหญ่ ๆ ทุ่ม ๆ  แล้วผมห่างจากภาษาญี่ปุ่นมานานมากโดยที่ตำแหน่งที่ผมสมัครก็ไม่ได้บอกไว้ว่าต้องพูดภาษาญี่ปุ่นได้ ผมเลยสวนถามเค้าดีกว่าว่าอะไรยังไง "ขอโทษนะครับคืออะไรครับผมไม่เข้าใจว่าตอนนี้เรากำลังสัมภาษณ์งานตำแหน่งอะไรครับ เพราะผมจับใจความอะไรไม่ได้เลยว่าคุณพูดว่าอะไร" แล้วเค้าก็อุทานว่า "นะนิ" ซึ่งแปลว่า "อะไรนะ" ต่อด้วย "ฮงโตนิ" ซึ่งแปลว่า "จริงป่ะเนี้ย" (พร้อมรีแอคแบบตลกญี่ปุ่นง่ะ) แล้วเค้าก็พยายามพูดเป็นภาษาไทยครับอารมณ์เหมือนคนญี่ปุ่นพยายามพูดไทยง่ะครับว่า "ตอนนี้คุณกำลังสัมภาษณ์งานอยู่นะสำรวมมารยาทด้วยเพราะผมอาวุโสกว่า" ในใจผมนะ "เชี้ยอะไรว่ะเนี้ยยยยย" ผมเลยเลือกที่จะไม่ตอบคำถามเค้าครับแต่นั้งฟังให้เค้าพูดแบบนั้นแหละไปคนเดียว

     พอได้เวลาเค้าก็ออกจากห้องไปครับแล้วก่อนออกเค้าก็บอกว่า "ความจริงผมเป็นคนไทยครับไม่ต้องตกใจ ผมชื่อ.... โชคดีนะครับเดี๋ยวฝ่ายบุคคลจะเข้ามาคุยอีกทีนึง" (คือแบบกรูวรู้ว่าเป็นคนไทยอยู่แล้วป่ะว่ะก็ป้ายชื่อมรุงง่ะหลาขนาดนั้นนี้ตานี้ไม่ได้บอดนะ) แล้วบุคคลก็เข้ามาครับ พร้อมบอกว่าผมตกสัมภาษณ์งานนะทางเราไม่อยากให้รอผลเลยเลือกที่จะแจ้งทันที เหตุผลเพราะผมพูดภาษาอังกฤษและญี่ปุ่นไม่ได้เลย ด้วยความที่ผมเป็นคนปากไวมากผมเลยท้วงไปว่า "ขอโทษนะครับผมขอเรียนถามตามตรงเลยว่าพี่เคยเห็นคนเมื่อสักครู่สัมภาษณ์งานบ้างไหมครับ" เค้าก็ตอบว่า "เคยนะเค้าเป็นคนสัมภาษณ์พนักงานฝ่ายธุรกิจต่างประเทศเพราะเค้าเป็นผู้จัดการฝ่ายครับ" ผมนี้แบบกรูวไม่ได้สมัครตำแหน่งนั้นโว็ยยยยยย ผมรีบบอกว่าผมสมัครตำแหน่งอะไรแล้วใครโทรนัดผมมาพี่บุคคลก็แจ้งว่า "ตำแหน่งที่น้องสมัครต้องจบวุฒิป.ตรีเอกบริหารธุรกิจมาเท่านั้นน้องจบเอกการตลาดมาน้องไม่สามารถสมัครตำแหน่งนั้นได้นะ" ผมนี้แบบในใจเห้ยยิ้มเรียนจบด้านบุคคลจากมหาวิทยาลัยไหนมาเนี้ยมันไม่มีเอกบริหารธุรกิจโว็ยยยป.ตรีง่ะ มันมีแค่คณะบริหารธุรกิจแล้วก็แตกเป็นเอกไปโว็ยยยยย แล้วบุคคลก็ถามผมกลับว่า "อ้าวน้องสมัครงานไม่มีเอกสารมาหรอครับ" จำได้ไหมครับที่ผมบอกว่าเค้าไม่เอาเอกสารอะไรเลยจากผม ผมก็เลยตอบไปตามตรงว่า "ไม่ให้แล้วดีกว่าครับผมว่าองค์กรนี้คงต้องการคนสไตล์แปลก ๆ หน่อย ไม่ก็เกิน ๆ ล้น ๆ ซึ่งผมไม่ใช่แนวนั้น" และผมก็ขอตัวลากลับทันที ซึ่งเป็นอะไรที่เสียเวลามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

     ผมอยากรู้ว่าที่เค้าทำไปทั้งหนดมันคืออะไรครับการทดสอบ?? หรือสมัยนี้เค้าทำกันแบบนี้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่