เรื่องย่อ รากนครา เวอร์ชั่น 2560 หมาก-แต้ว-มิว



บทประพันธ์โดย : ปิยะพร ศักดิ์เกษม
บทโทรทัศน์โดย : ยิ่งยศ ปัญญา
กำกับการแสดงโดย : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ผลิตโดย : บริษัท แอค-อาร์ต เจเนเรชั่น จำกัด
ควบคุมการผลิตโดย : ธัญญา-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3



          ในปี พ.ศ.2427 เจ้าศุขวงศ์ หรือ เจ้าน้อย เดินทางกลับมาบ้านเกิดหลังจากที่จากไปเป็นเวลาถึง 15 ปี เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของ เจ้าราชบุตรศุษิระ ผู้ล่วงลับ เจ้าศุษิระเป็นผู้มีความคิดสมัยใหม่ เมื่อเห็นว่าอาณาจักรของเขาและบ้านพี่เมืองน้องในดินแดนล้านนาไม่สามารถดำรงความเป็นอิสระไว้ได้ จำเป็นต้องอาศัยบารมีของสยาม เพื่อปกป้องแผ่นดินจากการตกเป็นเมืองขึ้นของตะวันตก เจ้าศุษิระจึงส่งเจ้าศุขวงศ์ไปศึกษาที่สิงคโปร์ตั้งแต่อายุได้เพียง 10 ขวบ แล้วเจ้าศุษิระและชายาก็ล้มป่วยเสียชีวิต หลังจากเจ้าศุขวงศ์เรียนจบ เขาได้กลับมารับราชการในราชสำนักสยาม

          เจ้าศุขวงศ์ได้พา มิสเตอร์จอห์น แบร็กกิ้น ฝรั่งชาวอังกฤษซึ่งสนใจสำรวจป่าเพื่อหาลู่ทางทำไม้เดินทางกลับบ้านเกิดพร้อมกันกับเขา แท้จริงแล้วนั้นแบร็กกิ้นมีเบื้องหลังเป็นเจ้าหน้าที่ของ บริษัท บริติช บอร์เนียว บริษัทสัมปทานทำไม้ขนาดใหญ่ซึ่งมีอิทธิพลมาก แบร็กกิ้นมีความประสงค์ที่จะมาสอดส่องทรัพยากรป่าไม้ในดินแดนล้านนา เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจของอังกฤษในอนาคต เจ้าศุขวงศ์เคยมีบุญคุณช่วยชีวิตแบร็กกิ้นไว้ ทั้งสองเป็นทั้งเพื่อนที่รู้ใจและรู้เท่าทันกันทุกอย่าง เจ้าศุขวงศ์จึงตัดสินใจให้แบรกกิ้น อยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา เพื่อที่จะสามารถควบคุมแบรกกิ้นได้โดยง่าย

          การพาฝรั่งกลับบ้าน อีกทั้งการแต่งกายแบบสยามซึ่งรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกของเจ้าศุขวงศ์ ทำให้ เจ้าเรือนคำ ย่าของเขาไม่พอใจ เจ้าศุขวงศ์พยายามหว่านล้อมให้เจ้าย่าเห็นว่าการพาแบร็กกิ้นมาด้วย แทนที่จะปล่อยให้แบรกกิ้นเข้ามาสำรวจป่าตามใจชอบนั้นเป็นประโยชน์ต่อบ้านเกิดเมืองนอน เพราะทำให้เขารู้เท่าทัน และสามารถรักษาผลประโยชน์ของอาณาจักรได้ เจ้าเรือนคำไม่ใคร่พอใจ แต่ด้วยความรักหลาน เจ้าเรือนคำก็ใจอ่อน เจ้าศุขวงศ์พยายามหว่านล้อมเจ้าหลวงศรีวงศ์ซึ่งเป็นอา เจ้าหลวงคนปัจจุบันให้ยอมออกใบอนุญาตสำรวจป่าให้แบร็กกิ้น และศุขวงศ์ยังต้องการเข้าร่วมทุนทำไม้กับแบร็กกิ้นเพื่อควบคุมและรักษาสิทธิในการแสวงประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้ อินทร ข้าเก่าคนสนิทของเจ้าศุษิระได้แสดงตัวขอเป็นผู้รับใช้เจ้าศุขวงศ์ด้วยความจงรักภักดี




          วันหนึ่ง เจ้าหลวงศรีวงษ์ให้เจ้าศุขวงศ์เป็นผู้แทนเดินทางไปร่วมงานศพของ เจ้าสิงห์คำ เจ้าอุปราชเมืองเชียงเงินซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติ ศุขวงศ์จำต้องพาแบร็กกิ้นเดินทางไปด้วยเพราะไม่ไว้ใจให้แบร็กกิ้นอยู่ไกลสายตา ที่เชียงเงินซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ และเป็นประเทศราชของสยามด้วยเช่นกัน ศุขวงศ์ได้พบกับ เจ้าแม้นเมือง บุตรสาวคนโตของ เจ้าหลวงแสนอินทะ กลางดงชมพูป่าซึ่งออกดอกสีชมพูสะพรั่งเพียง 10 วันในแต่ละปีเท่านั้น ศุขวงศ์รู้สึกสนใจในตัวแม้นเมืองมากเนื่องจากประทับใจในความเป็นตัวของตัวเองของเธอ จากการสังเกต ศุขวงศ์พบว่าแม้นเมืองมีสถานภาพเป็นรอง เจ้ามิ่งหล้า น้องสาวต่างมารดามากทั้ง ๆ ที่แม้นเมืองเป็นพี่สาว เนื่องจาก เจ้านางข่ายคำ เจ้านางหลวงคนปัจจุบันซึ่งเป็นมารดาของมิ่งหล้า และมีศักดิ์เป็นน้าแท้ ๆ ของแม้นเมือง เลี้ยงดูให้แม้นเมืองต้องยอมมิ่งหล้าทุกอย่าง ด้วยความกลัวว่าแม้นเมืองจะได้ดีกว่าลูกสาวของตน ศุขวงศ์ยังได้รู้จักกับ เจ้าหน่อเมือง พี่ชายแท้ ๆ ของแม้นเมืองซึ่งได้รับตำแหน่งเจ้าอุปราชต่อจากเจ้าสิงห์คำผู้ล่วงลับ หน่อเมืองแสดงความไม่ชอบใจศุขวงศ์ตั้งแต่แรกเห็น เนื่องจากรูปลักษณ์และความคิดของศุขวงศ์ยืนยันชัดเจนว่าเขายอมหมอบราบคาบแก้วให้กับสยามและตะวันตก ทั้งนี้ หลังจากที่มารดาเสียชีวิต และเจ้าหลวงแสนอินทะ บิดาได้สมรสใหม่ เจ้าหน่อเมืองและเจ้าแม้นเมืองสองพี่น้องก็อยู่ในความดูแลของเจ้าอุปราชสิงห์คำผู้มีความรักชาติอย่างแรงกล้า ทำให้ทั้งหน่อเมืองและแม้นเมืองได้รับการปลูกฝังให้รักความอิสระ เชื่อมั่นในเสรีภาพ และมุ่งมั่นกระทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้เชียงเงินเป็นรัฐอิสระให้ได้

          จากการสนทนาทำให้ศุขวงศ์ทราบว่าเจ้าหลวงแสนอินทะเอง ก็มีความมุ่งมั่นในการแยกตัวเป็นอิสระ และรังเกียจตะวันตกอย่างยิ่ง เจ้าศุขวงศ์มีโอกาสได้พบเจ้าแม้นเมืองตามลำพังที่ดงชมพูป่า แม้นเมืองแสดงความเชื่อของเธออย่างเปิดเผยว่าการยอมรับเอาขนบธรรมเนียมประเพณีของชาติอื่นมาเป็นของตน เช่นที่ศุขวงศ์กระทำ เป็นการแสดงออกถึงความไร้ราก ไร้ความคิด และไร้ศักดิ์ศรี ทว่าคำบอกเล่าของศุขวงศ์เรื่องเมืองมัณฑ์ เมืองใหญ่ในแถบนั้นซึ่งเป็นเมืองอิสระและไม่เคยยอมก้มหัวให้สยามและตะวันตก กำลังจะกลายเป็นเมืองขึ้นของตะวันตกภายในเวลาไม่นาน ก็ทำให้แม้นเมืองเริ่มไม่แน่ใจในความคิดของเธอ แต่แม้นเมืองก็พยายามเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา และโต้ตอบศุขวงศ์ว่าการล่มสลายอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองของเชียงเงินเป็นสิ่งที่เธอภาคภูมิใจมากกว่าการยอมปรับเปลี่ยนตัวเอง

          ในงานศพของเจ้าอุปราชสิงห์คำ เจ้าแม้นเมืองแสดงความโศกเศร้าอย่างยิ่ง และตกเป็นเป้าสายตาของเจ้าศุขวงศ์ตลอดเวลา เจ้ามิ่งหล้าซึ่งเคยชินกับการได้รับความสนใจ และต้องเป็นที่หนึ่งเสมอ สังเกตเห็นสายตาของศุขวงศ์ที่มองแม้นเมือง ทำให้มิ่งหล้าไม่พอใจ และหาทางเอาชนะแม้นเมืองให้ได้ มิ่งหล้าได้ออกอุบายเพื่อให้ตนได้ใกล้ชิดกับศุขวงศ์ มิ่งหล้าพูดให้พี่สาวเข้าใจว่าศุขวงศ์สนใจปองรักตน

          เจ้าศุขวงศ์พยายามหาโอกาสใกล้ชิดกับเจ้าแม้นเมือง เขาจึงตอบรับคำขอของเจ้ามิ่งหล้าที่ขอให้เขาเข้าไปแปลหนังสือภาพภาษาอังกฤษให้เธอ ทว่าศุขวงศ์ไม่เคยมีโอกาสได้พบแม้นเมืองในคุ้มหลวงเลยสักครั้ง จนวันหนึ่ง ทั้งสองได้พบกันที่ดงชมพูป่าโดยบังเอิญ ศุขวงศ์จึงมีโอกาสสัมผัสตัวตนที่อ่อนโยนของแม้นเมือง จากเหตุการณ์ที่เธอพยายามช่วยนำลูกนกที่ตกจากรังไปใส่คืนไว้ในรังของมัน ทั้งสองพูดคุยกันด้วยดีเป็นครั้งแรก ศุขวงศ์ออกปากว่าเขาจะมารอพบแม้นเมืองที่ดงชมพูป่านี้ทุกวัน ไม่ว่าเธอจะมาหรือไม่ก็ตาม เป็นที่น่าเสียดายว่ามิ่งหล้ายังคงเพียรพยายามสร้างความเข้าใจผิดให้แม้นเมืองเชื่อว่าศุขวงศ์หลงรักตน แม้นเมืองจึงพยายามขจัดความรู้สึกสนใจที่เธอเริ่มมีให้ศุขวงศ์ออกไปจากใจ ด้วยความรักน้องสาว




          เจ้าหลวงแสนอินทะและเจ้าหน่อเมืองร่วมกันวางแผนการสามทาง เพื่อการประกาศตัวเป็นรัฐอิสระของเชียงเงิน เริ่มด้วยการให้หน่อเมืองเดินทางไปรับสารตราตั้งตำแหน่งเจ้าอุปราช และดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยายอมเป็นข้าของสยามที่เชียงใหม่ ในขณะเดียวกันก็วางแผนส่งตัวมิ่งหล้าไปเป็นสนมกษัตริย์เมืองมัณฑ์ และสุดท้าย จัดการให้แม้นเมืองแต่งงานกับศุขวงศ์เพื่อทำให้ญาติฝ่ายล้านนาตายใจ ว่าเชียงเงินไม่ได้เอาใจออกห่างหมู่ญาติ มิ่งหล้าอาละวาดอย่างหนัก เธอบีบบังคับให้แม้นเมืองรับอาสาเดินทางไปเป็นสนมกษัตริย์เมืองมัณฑ์แทนเธอ ด้วยความรักชาติ แม้นเมืองจึงยอมทำตามคำขอ ทว่าไม่เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากเมืองมัณฑ์ระบุมาว่าต้องการตัวมิ่งหล้าซึ่งมีสถานะสูงกว่าแม้นเมือง เจ้านางข่ายคำสนับสนุนความคิดที่จะส่งมิ่งหล้าไปเมืองมัณฑ์ เนื่องจากเกรงว่าแม้นเมืองจะกลายเป็นผู้มีความสำคัญมากกว่าลูกสาวของตน เจ้านางข่ายคำจึงบีบบังคับให้แม้นเมืองเกลี้ยกล่อมมิ่งหล้าให้ได้ มิ่งหล้าโกรธมาก เพราะไม่เคยถูกขัดใจมาก่อนในชีวิต ประกอบกับเมื่อมิ่งหล้ารู้ว่าแม้นเมืองได้รับการวางตัวให้แต่งงานกับศุขวงศ์ ความโกรธจนขาดสติทำให้มิ่งหล้าประกาศตัดพี่ตัดน้องกับแม้นเมือง

          เจ้ามิ่งหล้าลอบหนีออกไปจากคุ้มหลวงเพื่อไปขอให้เจ้าศุขวงศ์ช่วยพาเธอหนี เธอขู่จะฆ่าตัวตายหากศุขวงศ์ไม่ยอมช่วย ศุขวงศ์เห็นแก่ความเป็นญาติ และยังเล็งเห็นว่าการที่เชียงเงินส่งมิ่งหล้าไปเป็นสนมกษัตริย์เมืองมัณฑ์นั้นเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์ เนื่องจากอีกไม่นานเมืองมัณฑ์ต้องเสียเมืองแก่ตะวันตกแน่นอน มิ่งหล้าดีใจมากที่ศุขวงศ์ยอมรับปาก แต่เรื่องกลับรู้ถึงหูของเจ้าหลวงแสนอินทะเสียก่อน ศุขวงศ์รู้ไม่เท่าทัน จึงไปลอบพาตัวแม้นเมืองที่ปลอมตัวเป็นมิ่งหล้ามา ทำให้เขาต้องแต่งงานกับแม้นเมือง ส่วนมิ่งหล้าก็ต้องถูกส่งตัวไปเมืองมัณฑ์ในที่สุด




          แม้นเมืองเดินทางไปยังเชียงพระคำ พร้อมกับศุขวงศ์ เขียนจันทร์ คำแก้ว อินทร โดยมีหน่อเมืองตามไปส่ง ทั้งสองตกเป็นของกันและกัน โดยที่แม้นเมืองยังเข้าใจผิด คิดว่าศุขวงศ์มีใจรักต่อมิ่งหล้า ส่วนศุขวงศ์เองก็ยังคิดน้อยใจ ว่าแม้นเมืองไม่รักตน แต่ที่ยอมแต่งงานด้วย เพราะต้องการช่วยเหลือบ้านเมืองของตน

          ศุขวงศ์พาแม้นเมืองกลับมาที่เชียงพระคำ เจ้าย่าอดแปลกใจไม่ได้ที่ศุขวงศ์แต่งงานอย่างกะทันหัน แต่คนที่เสียใจที่สุด เห็นจะเป็นละอองคำ ลูกพี่ลูกน้องของศุขวงศ์ที่แอบหลงรักศุขวงศ์มาอย่างเนิ่นนาน สุดท้ายเจ้าย่าเรือนคำตัดสินใจ ขอให้ละอองคำเป็นเมียของศุขวงศ์อีกคน โดยพูดต่อหน้าแม้นเมือง แม้นเมืองไม่ว่ากระไร เพราะให้เกียรติศุขวงศ์ แต่ศุขวงศ์เองเสียอีกที่ไม่ยอมแตะต้องละอองคำ จนทำให้ละอองคำละอายใจ ถึงขนาดตั้งใจผูกคอตาย ดีที่บัวผันช่วยไว้ได้ทัน แม้นเมืองไม่ได้ต่อว่าอะไรละอองคำ มีเพียงคำให้กำลังใจ ขอให้ละอองคำรักษาตัวให้หายโดยไว้ ทำให้ละอองคำได้คิด ว่าแม้นเมืองคือผู้หญิงที่ดีเพียบพร้อม ถึงทำให้ศุขวงศ์รักเช่นนั้น ศุขวงศ์เตือนสติให้ละอองคำ อยู่กับคนที่รักละอองคำอย่างแท้จริง ชีวิตจะได้ไม่ต้องทุกข์ระทมไปตลอด ศุขวงศ์บอกกับเจ้าย่า ว่าจักรคำคือผู้ชายที่หมายปองละอองคำมาเนิ่นนาน สุดท้ายศุขวงศ์จึงพาจักรคำมาเยี่ยมละอองคำ จักรคำและละอองคำจึงเริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น และตกลงใจคบหากันต่อไป  ซึ่งทั้งคู่ก็มีโครงการจะแต่งงานกันในไม่ช้า



          ด้านเจ้านางข่ายคำ ก็พาขบวนของมิ่งหล้ามายังเมืองมัณฑ์ โดยมีฟองจันทร์ตามมารับใช้มิ่งหล้าอีกด้วย การเข้าพบกษัตริย์เมืองมัณฑ์ เต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะเจ้านางปัทมสุดา เจ้านางหลวงของกษัตริย์ หาวิธีกีดกันสารพัด โดยมีลูกน้องคู่ใจอย่าง ขิ่นแหม่และนางมิ่น เป็นคนรับคำสั่งอย่างเคร่งครัด แต่ด้วยความที่อยากเอาชนะ มิ่งหล้าก็หาวิธีจนได้ ด้วยการให้กรมวังเป็นคนดูต้นทางให้ กษัตริย์และมิ่งหล้าได้พบกันในที่สุด แล้วมิ่งหล้าก็ได้ถวายตัวให้แก่กษัตริย์ เจ้านางปัมสุดาแค้นจัด กุเรื่องว่าตนเองท้อง โดยมีนางมิ่นรู้ความลับ ว่าแท้ที่จริงแล้วเจ้านางไม่ได้ท้องอย่างที่เอ่ยอ้าง ความโลภมากของนางมิ่นทำให้เธอแอบยักยกทรัพย์สินเงินทองไว้เป็นส่วนตัว จนเรื่องรู้ถึงหูเจ้านางปัทมสุดา นางมิ่นถูกเฆี่ยนปางตาย เอาชีวิตเกือบไม่รอด ดีที่มิ่งหล้ามาช่วยไว้ เพราะหวังจะให้นางมิ่นมาช่วยงานใหญ่ สุดท้ายพอนางมิ่นหายดี มิ่งหล้าก็นำความลับขึ้นทูลถวายกษัตริย์ เป็นฎีการ้องเรียนเรื่องที่เจ้านางปัทมสุดาไม่ได้ท้อง แต่กล่าวเท็จต่อกษัตริย์ เจ้านางปัทมสุดาลงทุนฆ่าปิดปากแม้กระทั่งหมอ และคนใกล้ชิดทุกคน แต่สุดท้าย นางมิ่นกลับมาเป็นพยานปากเอกให้กับมิ่งหล้า จนทำให้เจ้านางปัทมสุดาถูกปลดออกจากตำแหน่ง



ที่มา :: [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่