วันแจ่มใสวันหนึ่ง .... วันที่กลีบดอกไม้สีชมพูแกมขาวปลิวสล้างตามลม ณ สถานเมืองใหญ่ด้านเหนือชื่อ "เชียงเงิน" ชายหนุ่มรูปงามที่แม้นแต่งกายตามโบราณราชประเพณี หากเรือนผมที่ตัดสั้น ทำให้เขาผิดแผกจากคนในถิ่นฐานนั้น เป็นสัญลักษณ์ของชาวสยาม ในยุคที่การแผ่ขยายหัวเมืองเป็นที่เฟื่องฟู ดังนั้นนอกจากความเป็นเชื้อเป็นสายที่อ่อนด้อย เป็นเจ้านายชั้นปลายแถว ชื่อเสียงของเจ้าราชภาติยะแห่งเชียงพระคำก็ไม่ได้หอมหวนเท่าใดนักหรอกในสถานที่แห่งนี้ อย่างน้อยในสายตาแม้นเมืองก็เป็นเช่นนั้น เจ้าน้อยศุขวงศ์คือคนไร้หลักไร้ราก ไม่ปกปักรักษาบ้านเมือง ยอมเป็นขี้ข้าของเมืองอื่น ยอมเป็นขี้ข้าของต่างชาติ
ขนาดในสายตาของแม้นเมืองยังเป็นเช่นนี้ คงไม่ต้องนับถึงเจ้าราชบุตรเชียงเงิน และ เจ้าหลวงแสนอินทะ ซึ่งถ้าจะนิยามกันคงต้องบอกว่าความรักและยิ่งทระนงในชาติพันธุ์มีเหนือสิ่งอื่นใด แม้นเมืองและหน่อเมืองใกล้ชิดกับเจ้าอุปราชสิงห์คำผู้เป็นลุงมาก ตอนยังเล็กที่ทั้งสองเข้านอกออกในใกล้ชิดกันได้ไม่แบ่งชายหญิง แม้นเมืองยังได้เรียนหนังสือ ขี่ม้า รวมทั้งร่วมหัดอาวุธกับพี่ชาย แนวคิดสุดโต่งในความรักชาติบ้านเมืองจนกลายเป็นแข็งกร้าวไม่รับความเปลี่ยนแปลงอันใดเหมือนไม้ใหญ่ต้านลมฝังหัวพี่น้องชายหญิงดังเมล็ดพันธุ์พืชที่หยั่งรากลึกในจิตใจ เพียงแต่ในความเป็นหญิงจึงไม่อาจแสดงสิ่งใดป็นที่ก้าวร้าว จะมีก็แต่ดวงตาที่มุ่งมั่นเข้มแข็งอย่างไม่คิดเปลี่ยนใจเป็นทางอื่น
หน้าที่ของหน่อเมืองและแม้นเมืองคือการเป็น "รากแก้ว" แห่งแผ่นดินเชียงเงิน
รากที่จะหยั่งลึกค้ำจุนแผ่นดินไว้ ไม่ให้ผู้ใดมาเหยียบย่ำรุกรานเป็นอันขาด
เสียชีพย่อมดีกว่าเสียศักดิ์ศรี ดีกว่าทิ้งรากเหง้าก้มหัวให้คนอื่น
เจ้าน้อยศุขวงศ์จึงเป็นเพียงมดปลวกในสายตาของเจ้าราชบุตรเชียงเงิน ผู้ชายคนนั้นไม่มีความมั่นคงเข้มแข็งเหมือนลูกผู้ชายเลยซักนิด แสนจะธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ ความสุภาพไม่ต่างอะไรจากความอ่อนแอ ความยืดหยุ่นไม่ต่างอะไรกับความขี้ขลาดโลเล การสวามิภักดิ์ต่อสยาม ติดต่อขึ้นล่อง และ ถึงขนาดรับราชการ นี่ไม่เรียกทิ้งรากเหง้าตัวเองหรอกหรือ เจ้านายปลายแถวแบบนั้นแถมยังมีความคิดและวัตรปฏิบัติเช่นนี้ก็ไม่ควรค่าอะไรแก่การเสวนา ก็เพียงแค่รับแขกบ้านแขกเมืองตามมารยาท .... ก็เท่านั้น
แม้นเมืองก็เคยคิดดุจเดียวกันแต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป
เธอจึงได้รู้ ... ในความไม่มีอะไรที่จริงนั้น "มี" และ
"มี" มากเสียด้วย
ภายใต้ท่าทางนุ่มนวลอ่อนโยนเป็นหน้ากากอันแนบเนียนที่ซุกซ่อนความฉลาดและแหลมคมเอาไว้ ภายใต้ท่าทางที่ไม่มีอะไรที่แท้แล้วมีแผนมีทางแก้มีทางออกสำรองเอาไว้ทุกทิศทุกทาง "ความไร้ราก" ที่เธอคิดว่ามันเป็น เมื่อมองไปในอนาคตอันไกลมันคือวิถีแห่งการดำรง "รากแก้ว" ของบ้านเมืองไว้อย่างละมุนละม่อม หัวเมืองล้านนาเล็ก ๆ อย่างเชียงพระคำไม่ใช่ไม้ใหญ่ เจ้าพ่อของศุขวงศ์นั้นมองการณ์ไกล คำนวณดูแล้วว่ารัฐนาวาแห่งนี้คงต้านแรงลมแห่งการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ขืนไปก็มีแต่จะหักโค่น เจ้าพ่อของเจ้าน้อยลงทุนลงแรง กำลังทรัพย์ และ กำลังปัญญาอย่างดีที่สุด ส่งเจ้าน้อยไปดูโลกฟ้ากว้างทางไกล เป็นผู้ผูกสายสัมพันธ์อันดีกับสยามประเทศ และ นครเชียงใหม่ .... เชียงพระคำจึงเป็นเชียงพระคำได้ทุกวันนี้ อยู่รอดปลอดภัย ทั้งที่ต่างชาติรุกคืบมาทุกทิศทาง
ความคิดของแม้นเมืองจึงถูกขัดเกลาบ่มเพาะไปทีละเล็กละน้อย
ตัวเธอเอง รวมถึงมิ่งหล้า ต่างก็ถูกชักเชิดมาเพื่อเป็น "ราก" ค้ำจุนบ้านเกิดเมืองนอน หากเพราะเหตุใด จึงมีความขาดแคลนขัดสน น้องสาวที่รักยิ่งของเธอถูกพรากจากสถานถิ่นอันสบายใต้เงาทะมึนของเจ้านางหลวงแห่งเมืองมัณฑ์ พี่ชายที่รบทัพจับศึก คิดหาทางเป็นอิสระ ไม่อยู่ใต้ใคร ก็ไม่เป็นอันกินอันนอน เมื่อศุขวงศ์เปิดโลกกว้างบางอย่างให้เธอเห็น เธอก็เริ่มรู้แล้วว่าสัจธรรมที่รุกคืบเข้ามา คือ "ความเปลี่ยนแปลง" แม้แต่เมืองมัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ก็มีเค้าว่าไม่อาจต้านทานพละกำลังมหาศาลจากต่างชาติ
คนที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงนี่ล่ะที่จะพ่ายแพ้ต่อความเปลี่ยนแปลง
นี่กระมังในความไร้รากคือมีราก ที่คิดว่ามีรากคือเสียรากไปแล้ว
คนไร้รากอย่างเจ้าน้อยกลายเป็นคนที่รักษาบ้านเมืองไว้ได้
ส่วนคนที่ยึดถือรากเหง้าจนไม่อาจทำใจเปลี่ยนแปลงสิ่งใด
กลับมีเค้าลางแห่งความสูญเสียเกิดขึ้น
จากความข้อเท็จจริงรอบด้านที่ปรากฎ ข่าวสารที่หลั่งไหลไม่ถูกปิดกั้นเหมือนแต่ก่อน แม้นเมืองจึงเห็นอนาคตของ "เชียงเงิน" อยู่รำไร ณ เวลานี้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในมือเธอทั้งนั้น มิ่งหล้าบอบช้ำเหลือเกินจากการที่ต้องเป็น "ราก" ที่หยั่งลึกค้ำจุนเชียงเงิน แท้ที่จริงคนที่ต้องรับภาระนั้นก็คือเธอ คนที่ศุขวงศ์ต้องการคือมิ่งหล้าไม่ใช่แม้นเมืองคนนี้ วันนั้นเขาหวังจะช่วยมิ่งหล้าออกจากการเป็นบรรณาการของเมืองมัณฑ์ หากไม่ใช่เพราะต้องใจแล้วจะเพราะเหตุใดเล่า ครานั้นกลับกลายเป็นเธอที่ทรยศต่อคำสาบาน .... ถึงจะรักน้องแต่เธอก็ทรยศต่อบ้านเมืองไม่ได้ แล้วในวันนี้ที่มิ่งหล้ามาอยู่ในเชียงพระคำก็ทำให้เชียงเงินเดือดร้อน เชียงพระคำก็ตกอยู่ในอันตราย สภาพของมิ่งหล้าไม่อาจทำให้เธออภัยให้ตัวเองได้ แรงแค้นของพี่ชายที่มีต่อเจ้าน้อยทำให้เธอเจ็บปวด ความหมางเมินของศุขวงศ์คือความอ่อนล้าในจิตใจ
เธอรักน้อง รักพี่ชาย รักบ้านเมือง และ เธอก็รักเจ้าน้อยของเธอยิ่งนัก
รักจนไม่อาจทนเสียอะไรไปได้แม้ซักอย่างเดียว
เพราะความรู้สึกนั้นนั่นเองทำให้แม้นเมืองตัดสินใจจบทุกสิ่งทุกอย่างลงด้วยตัวเอง ในฐานะเจ้าหญิงแห่งเชียงเงินชีวิตของเธอจะเป็นรากค้ำจุนบ้านเมือง อย่างที่เคยเป็นมาตลอด ที่เชียงพระคำจะไม่มีมิ่งหล้ามีแต่แม้นเมืองที่ป่วยหนักหลังจากการคลอดลูกชายคนเดียวของเธอ "เจ้าแก้ว" ไศลรัตน์ ความแค้นที่เจ้าหน่อเมืองมีต่อเจ้าน้อยศุขวงศ์ แผนเลือดเย็นที่จะล่อลวง "เขา" ไปยังภูผาเมือง เพื่อสำเร็จแค้น แผนกลลวงที่จะเปิดเผยเรื่องของมิ่งหล้าก็เป็นเธอเองที่จบเรื่องนี้ ร่างบอบบางในชุดเดินป่าของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ผมยาวสลวยที่เขาเคยบอกว่าชอบถูกตัดสั้น เธอขึ้นไปบนภูผาเมืองเพื่อพบกับความตาย ไม่มีเสียงร้องแม้ซักนิดยามที่คมมีดของเจ้าหน่อเมืองกรีดลงบนร่างกาย แสงมืดมัวคงช่วยกลบเกลื่อน เรื่องคงจบเร็วขึ้นหากเธอกัดฟันผ่านความเจ็บปวดนี้ไปได้
ปัญหาทุกอย่างจบสิ้นลงอย่างสมบูรณ์งดงาม
ทุกคนที่เธอรักไม่เป็นไร เธอไม่ต้องเสียอะไรไปทั้งสิ้น
บัดนี้เธอรู้ว่าตัวเองนั้นเปลี่ยนไปแล้ว .... ไร้รากดั่งมีราก มีรากเท่าเสียราก เพราะเธอรู้แบบนั้นเธอถึงต้องทำอย่างนี้ ความคิดยึดติดที่เชียงเงินมองว่ามีรากต่างหากเล่าที่พาทุกคนมาถึงจุดนี้ แต่ในฐานะเจ้าหญิงแห่งเชียงเงินเธอจึงต้องเสียสละเทิดเกียรติและศักดิ์ศรีของบ้านเมือง และ ในฐานะผู้หญิงที่มอบหัวใจให้ผู้ชายคนหนึ่งไปจนหมด เธอจึงพร้อมใจเลือกทางนี้ "ความตาย" เทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอ ประวัติ รูปภาพ ตัวตน จะหายไปจนหมดเหมือนไม่เคยมีตัวตนของผู้หญิงคนนี้อยู่ที่เชียงพระคำ
ทิ้งไว้เพียงสถูปสีขาวไร้ชื่อองค์เล็ก ๆ ใต้ร่มเงาของต้มชมพูพญาเท่านั้นตามที่เคยเอ่ยปากกับเจ้าน้อยเท่านั้น
สำหรับผู้เป็นเสารหลักไม่ว่าจะไร้ราก หรือ มีราก จะมีชื่อ หรือ สิ้นชื่อ
เพียงบ้านเมืองอยู่ คนที่รักยังอยู่เท่านั้นก็เพียงพอ
สิ่งนี้คงเป็นชะตาชีวิตของผู้เป็น "ราก" แห่ง "นครา" กระมัง
รากนครา (แอบรีวิว) : ไร้รากดั่งมีราก มีรากเท่าเสียราก (สปอยด์)
ขนาดในสายตาของแม้นเมืองยังเป็นเช่นนี้ คงไม่ต้องนับถึงเจ้าราชบุตรเชียงเงิน และ เจ้าหลวงแสนอินทะ ซึ่งถ้าจะนิยามกันคงต้องบอกว่าความรักและยิ่งทระนงในชาติพันธุ์มีเหนือสิ่งอื่นใด แม้นเมืองและหน่อเมืองใกล้ชิดกับเจ้าอุปราชสิงห์คำผู้เป็นลุงมาก ตอนยังเล็กที่ทั้งสองเข้านอกออกในใกล้ชิดกันได้ไม่แบ่งชายหญิง แม้นเมืองยังได้เรียนหนังสือ ขี่ม้า รวมทั้งร่วมหัดอาวุธกับพี่ชาย แนวคิดสุดโต่งในความรักชาติบ้านเมืองจนกลายเป็นแข็งกร้าวไม่รับความเปลี่ยนแปลงอันใดเหมือนไม้ใหญ่ต้านลมฝังหัวพี่น้องชายหญิงดังเมล็ดพันธุ์พืชที่หยั่งรากลึกในจิตใจ เพียงแต่ในความเป็นหญิงจึงไม่อาจแสดงสิ่งใดป็นที่ก้าวร้าว จะมีก็แต่ดวงตาที่มุ่งมั่นเข้มแข็งอย่างไม่คิดเปลี่ยนใจเป็นทางอื่น
รากที่จะหยั่งลึกค้ำจุนแผ่นดินไว้ ไม่ให้ผู้ใดมาเหยียบย่ำรุกรานเป็นอันขาด
เสียชีพย่อมดีกว่าเสียศักดิ์ศรี ดีกว่าทิ้งรากเหง้าก้มหัวให้คนอื่น
เจ้าน้อยศุขวงศ์จึงเป็นเพียงมดปลวกในสายตาของเจ้าราชบุตรเชียงเงิน ผู้ชายคนนั้นไม่มีความมั่นคงเข้มแข็งเหมือนลูกผู้ชายเลยซักนิด แสนจะธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ ความสุภาพไม่ต่างอะไรจากความอ่อนแอ ความยืดหยุ่นไม่ต่างอะไรกับความขี้ขลาดโลเล การสวามิภักดิ์ต่อสยาม ติดต่อขึ้นล่อง และ ถึงขนาดรับราชการ นี่ไม่เรียกทิ้งรากเหง้าตัวเองหรอกหรือ เจ้านายปลายแถวแบบนั้นแถมยังมีความคิดและวัตรปฏิบัติเช่นนี้ก็ไม่ควรค่าอะไรแก่การเสวนา ก็เพียงแค่รับแขกบ้านแขกเมืองตามมารยาท .... ก็เท่านั้น
เธอจึงได้รู้ ... ในความไม่มีอะไรที่จริงนั้น "มี" และ
"มี" มากเสียด้วย
ภายใต้ท่าทางนุ่มนวลอ่อนโยนเป็นหน้ากากอันแนบเนียนที่ซุกซ่อนความฉลาดและแหลมคมเอาไว้ ภายใต้ท่าทางที่ไม่มีอะไรที่แท้แล้วมีแผนมีทางแก้มีทางออกสำรองเอาไว้ทุกทิศทุกทาง "ความไร้ราก" ที่เธอคิดว่ามันเป็น เมื่อมองไปในอนาคตอันไกลมันคือวิถีแห่งการดำรง "รากแก้ว" ของบ้านเมืองไว้อย่างละมุนละม่อม หัวเมืองล้านนาเล็ก ๆ อย่างเชียงพระคำไม่ใช่ไม้ใหญ่ เจ้าพ่อของศุขวงศ์นั้นมองการณ์ไกล คำนวณดูแล้วว่ารัฐนาวาแห่งนี้คงต้านแรงลมแห่งการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ขืนไปก็มีแต่จะหักโค่น เจ้าพ่อของเจ้าน้อยลงทุนลงแรง กำลังทรัพย์ และ กำลังปัญญาอย่างดีที่สุด ส่งเจ้าน้อยไปดูโลกฟ้ากว้างทางไกล เป็นผู้ผูกสายสัมพันธ์อันดีกับสยามประเทศ และ นครเชียงใหม่ .... เชียงพระคำจึงเป็นเชียงพระคำได้ทุกวันนี้ อยู่รอดปลอดภัย ทั้งที่ต่างชาติรุกคืบมาทุกทิศทาง
ตัวเธอเอง รวมถึงมิ่งหล้า ต่างก็ถูกชักเชิดมาเพื่อเป็น "ราก" ค้ำจุนบ้านเกิดเมืองนอน หากเพราะเหตุใด จึงมีความขาดแคลนขัดสน น้องสาวที่รักยิ่งของเธอถูกพรากจากสถานถิ่นอันสบายใต้เงาทะมึนของเจ้านางหลวงแห่งเมืองมัณฑ์ พี่ชายที่รบทัพจับศึก คิดหาทางเป็นอิสระ ไม่อยู่ใต้ใคร ก็ไม่เป็นอันกินอันนอน เมื่อศุขวงศ์เปิดโลกกว้างบางอย่างให้เธอเห็น เธอก็เริ่มรู้แล้วว่าสัจธรรมที่รุกคืบเข้ามา คือ "ความเปลี่ยนแปลง" แม้แต่เมืองมัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ก็มีเค้าว่าไม่อาจต้านทานพละกำลังมหาศาลจากต่างชาติ
คนไร้รากอย่างเจ้าน้อยกลายเป็นคนที่รักษาบ้านเมืองไว้ได้
ส่วนคนที่ยึดถือรากเหง้าจนไม่อาจทำใจเปลี่ยนแปลงสิ่งใด
กลับมีเค้าลางแห่งความสูญเสียเกิดขึ้น
จากความข้อเท็จจริงรอบด้านที่ปรากฎ ข่าวสารที่หลั่งไหลไม่ถูกปิดกั้นเหมือนแต่ก่อน แม้นเมืองจึงเห็นอนาคตของ "เชียงเงิน" อยู่รำไร ณ เวลานี้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในมือเธอทั้งนั้น มิ่งหล้าบอบช้ำเหลือเกินจากการที่ต้องเป็น "ราก" ที่หยั่งลึกค้ำจุนเชียงเงิน แท้ที่จริงคนที่ต้องรับภาระนั้นก็คือเธอ คนที่ศุขวงศ์ต้องการคือมิ่งหล้าไม่ใช่แม้นเมืองคนนี้ วันนั้นเขาหวังจะช่วยมิ่งหล้าออกจากการเป็นบรรณาการของเมืองมัณฑ์ หากไม่ใช่เพราะต้องใจแล้วจะเพราะเหตุใดเล่า ครานั้นกลับกลายเป็นเธอที่ทรยศต่อคำสาบาน .... ถึงจะรักน้องแต่เธอก็ทรยศต่อบ้านเมืองไม่ได้ แล้วในวันนี้ที่มิ่งหล้ามาอยู่ในเชียงพระคำก็ทำให้เชียงเงินเดือดร้อน เชียงพระคำก็ตกอยู่ในอันตราย สภาพของมิ่งหล้าไม่อาจทำให้เธออภัยให้ตัวเองได้ แรงแค้นของพี่ชายที่มีต่อเจ้าน้อยทำให้เธอเจ็บปวด ความหมางเมินของศุขวงศ์คือความอ่อนล้าในจิตใจ
รักจนไม่อาจทนเสียอะไรไปได้แม้ซักอย่างเดียว
เพราะความรู้สึกนั้นนั่นเองทำให้แม้นเมืองตัดสินใจจบทุกสิ่งทุกอย่างลงด้วยตัวเอง ในฐานะเจ้าหญิงแห่งเชียงเงินชีวิตของเธอจะเป็นรากค้ำจุนบ้านเมือง อย่างที่เคยเป็นมาตลอด ที่เชียงพระคำจะไม่มีมิ่งหล้ามีแต่แม้นเมืองที่ป่วยหนักหลังจากการคลอดลูกชายคนเดียวของเธอ "เจ้าแก้ว" ไศลรัตน์ ความแค้นที่เจ้าหน่อเมืองมีต่อเจ้าน้อยศุขวงศ์ แผนเลือดเย็นที่จะล่อลวง "เขา" ไปยังภูผาเมือง เพื่อสำเร็จแค้น แผนกลลวงที่จะเปิดเผยเรื่องของมิ่งหล้าก็เป็นเธอเองที่จบเรื่องนี้ ร่างบอบบางในชุดเดินป่าของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ผมยาวสลวยที่เขาเคยบอกว่าชอบถูกตัดสั้น เธอขึ้นไปบนภูผาเมืองเพื่อพบกับความตาย ไม่มีเสียงร้องแม้ซักนิดยามที่คมมีดของเจ้าหน่อเมืองกรีดลงบนร่างกาย แสงมืดมัวคงช่วยกลบเกลื่อน เรื่องคงจบเร็วขึ้นหากเธอกัดฟันผ่านความเจ็บปวดนี้ไปได้
ทุกคนที่เธอรักไม่เป็นไร เธอไม่ต้องเสียอะไรไปทั้งสิ้น
บัดนี้เธอรู้ว่าตัวเองนั้นเปลี่ยนไปแล้ว .... ไร้รากดั่งมีราก มีรากเท่าเสียราก เพราะเธอรู้แบบนั้นเธอถึงต้องทำอย่างนี้ ความคิดยึดติดที่เชียงเงินมองว่ามีรากต่างหากเล่าที่พาทุกคนมาถึงจุดนี้ แต่ในฐานะเจ้าหญิงแห่งเชียงเงินเธอจึงต้องเสียสละเทิดเกียรติและศักดิ์ศรีของบ้านเมือง และ ในฐานะผู้หญิงที่มอบหัวใจให้ผู้ชายคนหนึ่งไปจนหมด เธอจึงพร้อมใจเลือกทางนี้ "ความตาย" เทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอ ประวัติ รูปภาพ ตัวตน จะหายไปจนหมดเหมือนไม่เคยมีตัวตนของผู้หญิงคนนี้อยู่ที่เชียงพระคำ
เพียงบ้านเมืองอยู่ คนที่รักยังอยู่เท่านั้นก็เพียงพอ