ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณข้อมูลดีๆ และคำแนะนำจากเพื่อนๆ ใน Pantip ทุกคน ทำให้ไปเที่ยวคนเองคนเดียวและกลับมาไทยได้อย่างปลอดภัย โดยไม่โดนล้วงกระเป๋า
ส่วนใหญ่ผมก็ไปเที่ยวตามที่หลายท่านเคยได้อ่านรีวิวในนี้ และหาข้อมูลเองบ้าง ก็คงจะไม่ได้ลงรูปอะไรเท่าไหร่ แต่จะแชร์ประสบการณ์จริงๆที่ได้พบเจอที่นั่น เผื่อว่าจะมีประโยชน์กับคนที่จะไปเที่ยวรัสเซีย ซึ่งก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด โดยขอสรุปเป็นข้อๆดังนี้ครับ
1. การจองที่นั่งบนเครื่อง เนื่องจากใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน ประมาณ 9 ชั่วโมงกว่าๆ ดังนั้นจึงต้องลุกออกไปเข้าห้องน้ำบ้าง ซึ่งถ้าเป็นคนที่เข้าห้องน้ำบ่อยๆ ก็ควรจะจองที่นั่งริมทางเดินเพื่อความสะดวกของตัวเราเอง (แต่ผมจองริมหน้าต่าง ดีที่เข้าห้องน้ำไม่บ่อยมาก)
2. พอเครื่องลงไปถึงสนามบิน การต่อคิวผ่านตม. ค่อนข้างยาว ให้เดินไปทางช่องทางขวา และสังเกตว่ามีเจ้าหน้าที่ตรงจุดนั้นกี่คน ตอนแรกผมเข้าไปต่อแถวขวาสุด แต่มีเจ้าหน้าที่คนเดียว เลยต้องออกมาต่อแถวใหม่ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สองคน ทำให้เร็วกว่าแถวเดิม และอย่าลืมเก็บเอกสาร Immigration Card ไว้กับตัวเองให้ดีๆ เพราะจะต้องคืนตม.ตอนเดินทางกลับ และที่โรงแรมจะขอตอนเช็คอินพร้อมกับ Passport และอาจจะโดนตำรวจสุ่มตรวจในสถานีรถไฟ
3. เนื่องจากออกมาช้า ทำให้กระเป๋าบนสายพานถูกยกออกมาให้โดยเจ้าหน้าที่ ตอนแรกก็ใจเสีย นึกว่ากระเป๋าหาย เพราะไม่อยู่บนสายพาน สรุปวางอยู่บนพื้น (แบบกระจัดกระจาย) ก็ค่อยๆหาไป
4. การนั่งรถออกไปตัวเมือง พอดีลองหาข้อมูลในเน็ต พบว่าค่าโดยสารรถบัส Express Bus (No. 308) ไปถึงสถานี Domodedovskaya ในราคา 121 RUB ซึ่งถูกกว่า Aeroexpress พอสมควร และเดินออกมาจากสนามบินไม่ไกลนัก จะมีป้ายรถเมล์อยู่ ถ้าไม่แน่ใจให้เราไปถามคนขับว่า "เมโตร"ถ้าใช่ เค้าก็จะพยักหน้าบอกเอง
http://www.domodedovo.ru/en/passengers/transport/bus/
5. การซื้อตั๋วในสถานี Metro ที่ Moscow ต้องใช้เขียนตัวเลขของเงิน Ruble ที่เราจะซื้อ เช่น จะซื้อ 20 เที่ยว ก็เขียน 720 RUB เค้าก็จะออกตั๋วมาให้ ตอนแรกเขียน 20 (เที่ยว) เค้าไม่เข้าใจ สื่อสารภาษาอังกฤษยากมากๆ
6. การหลงทางเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าจะถามทางคนรัสเซีย ควรเตรียมแผนที่ที่มีภาษารัสเซียไปด้วย และให้เข้าไปดูในเว็บที่เราจองโรงแรมว่ามีการเปลี่ยนชื่อหรือไม่ ของตัวผมเอง ตอนแรกเห็นป้ายโรงแรม แต่ไม่มีคำว่า Complex เลยคิดว่าน่าจะเป็นอีกที่ สรุปโรงแรมเปลี่ยนชื่อ ^^"
7. การขึ้นเมโทร จะแยกทางเข้าและทางออกต่างหาก ห้ามเดินเข้าผิดทาง และสแกนแค่ตอนเข้าเท่านั้น เพราะเก็บค่าโดยสารเท่ากันตลอดสาย ในกรณีที่จะเปลี่ยนสาย ระวังอย่าเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปทางออก เพราะสถานีส่วนใหญ่มันเปลี่ยนกลับลงมาข้างล่างอีกไม่ได้ ต้องเสียรอบฟรีๆไปรอบนึง แล้วค่อยสแกนผ่านเข้ามาใหม่
8. การจองตั๋วเข้าชมสถานที่ บางแห่งคิวยาวมากๆ เช่น Peterhof Palace และ Catherine Palace ซึ่งบางคนอาจจะจองตั๋วออนไลน์ เช่น ตัวผมเองจองตั๋วเข้าชม Peterhof Palace ผ่านทาง
http://tickets.peterhofmuseum.ru/en#section=23 ตอนเข้าไปชมสวน (Lower Park) ก็สามารถใช้กระดาษที่เรา Print มา สแกนเข้าไปได้ แต่ถ้าจะเข้าไปชม Museum ด้านใน ต้องไปต่อคิวเปลี่ยนตั๋วอีกรอบ ซึ่งแถวด้านในยาวมากๆ ดังนั้นแนะนำให้ไปเปลี่ยนตั๋วตั้งแต่ด้านนอก เพราะแถวสั้นกว่าเยอะเลย แต่ถ้าเข้าไปแล้ว ก็ต้องไปต่อแถวด้านใน ทำให้ผมต้องทิ้งตั๋วไปเพราะขี้เกียจรอคิว
9. อาหารการกินที่รัสเซีย มีหลากหลายมากๆ ราคาก็แตกต่างกัน บางอย่างก็ถูกปากคนไทย ส่วนการสื่อสารนั้นก็ใช้ภาษามือเป็นหลัก โดยชี้เมนูที่เราต้องการแล้วชูนิ้วชี้ขึ้น (อย่าใช้นิ้วอื่นนะ) บางร้านมีเมนูภาษาอังกฤษให้ ก็จะสะดวกขึ้น แต่ถ้าไปทานตามร้านอาหาร อาจจะต้องให้ทิปพนักงานบ้าง (แต่ไม่ได้กำหนดว่าต้องเท่าไหร่)
10. กระเป๋าสตางค์ แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน ส่วนผมจะแบ่งเงินใส่กระเป๋าตังค์สำหรับใช้ในแต่ละวัน และที่เหลือจะใส่ในกระเป๋าแบนๆ และเอาไว้ในเป้ ซึ่งมีหลายช่อง สรุปไม่โดนล้วง แต่มีคนเดินตามแถวเครมลิน แล้วคุยภาษารัสเซีย ตอนนั้นก็ใช้สติแล้วจ้องหน้าจนเค้าต้องเดินหลบไปเอง อาจเพราะเราแต่งตัวไม่โดดเด่นด้วย เลยไม่เป็นเป้าหมายเท่าไหร่
ตอนนี้นึกออกแค่นี้ ถ้าใครมีอะไรสอบถามก็เชิญได้เลยครับ (ถ้าตอบได้นะ 555)
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการไปเที่ยวรัสเซีย ระหว่างวันที่ 5-12 ส.ค. 2560
ส่วนใหญ่ผมก็ไปเที่ยวตามที่หลายท่านเคยได้อ่านรีวิวในนี้ และหาข้อมูลเองบ้าง ก็คงจะไม่ได้ลงรูปอะไรเท่าไหร่ แต่จะแชร์ประสบการณ์จริงๆที่ได้พบเจอที่นั่น เผื่อว่าจะมีประโยชน์กับคนที่จะไปเที่ยวรัสเซีย ซึ่งก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด โดยขอสรุปเป็นข้อๆดังนี้ครับ
1. การจองที่นั่งบนเครื่อง เนื่องจากใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน ประมาณ 9 ชั่วโมงกว่าๆ ดังนั้นจึงต้องลุกออกไปเข้าห้องน้ำบ้าง ซึ่งถ้าเป็นคนที่เข้าห้องน้ำบ่อยๆ ก็ควรจะจองที่นั่งริมทางเดินเพื่อความสะดวกของตัวเราเอง (แต่ผมจองริมหน้าต่าง ดีที่เข้าห้องน้ำไม่บ่อยมาก)
2. พอเครื่องลงไปถึงสนามบิน การต่อคิวผ่านตม. ค่อนข้างยาว ให้เดินไปทางช่องทางขวา และสังเกตว่ามีเจ้าหน้าที่ตรงจุดนั้นกี่คน ตอนแรกผมเข้าไปต่อแถวขวาสุด แต่มีเจ้าหน้าที่คนเดียว เลยต้องออกมาต่อแถวใหม่ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สองคน ทำให้เร็วกว่าแถวเดิม และอย่าลืมเก็บเอกสาร Immigration Card ไว้กับตัวเองให้ดีๆ เพราะจะต้องคืนตม.ตอนเดินทางกลับ และที่โรงแรมจะขอตอนเช็คอินพร้อมกับ Passport และอาจจะโดนตำรวจสุ่มตรวจในสถานีรถไฟ
3. เนื่องจากออกมาช้า ทำให้กระเป๋าบนสายพานถูกยกออกมาให้โดยเจ้าหน้าที่ ตอนแรกก็ใจเสีย นึกว่ากระเป๋าหาย เพราะไม่อยู่บนสายพาน สรุปวางอยู่บนพื้น (แบบกระจัดกระจาย) ก็ค่อยๆหาไป
4. การนั่งรถออกไปตัวเมือง พอดีลองหาข้อมูลในเน็ต พบว่าค่าโดยสารรถบัส Express Bus (No. 308) ไปถึงสถานี Domodedovskaya ในราคา 121 RUB ซึ่งถูกกว่า Aeroexpress พอสมควร และเดินออกมาจากสนามบินไม่ไกลนัก จะมีป้ายรถเมล์อยู่ ถ้าไม่แน่ใจให้เราไปถามคนขับว่า "เมโตร"ถ้าใช่ เค้าก็จะพยักหน้าบอกเอง http://www.domodedovo.ru/en/passengers/transport/bus/
5. การซื้อตั๋วในสถานี Metro ที่ Moscow ต้องใช้เขียนตัวเลขของเงิน Ruble ที่เราจะซื้อ เช่น จะซื้อ 20 เที่ยว ก็เขียน 720 RUB เค้าก็จะออกตั๋วมาให้ ตอนแรกเขียน 20 (เที่ยว) เค้าไม่เข้าใจ สื่อสารภาษาอังกฤษยากมากๆ
6. การหลงทางเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าจะถามทางคนรัสเซีย ควรเตรียมแผนที่ที่มีภาษารัสเซียไปด้วย และให้เข้าไปดูในเว็บที่เราจองโรงแรมว่ามีการเปลี่ยนชื่อหรือไม่ ของตัวผมเอง ตอนแรกเห็นป้ายโรงแรม แต่ไม่มีคำว่า Complex เลยคิดว่าน่าจะเป็นอีกที่ สรุปโรงแรมเปลี่ยนชื่อ ^^"
7. การขึ้นเมโทร จะแยกทางเข้าและทางออกต่างหาก ห้ามเดินเข้าผิดทาง และสแกนแค่ตอนเข้าเท่านั้น เพราะเก็บค่าโดยสารเท่ากันตลอดสาย ในกรณีที่จะเปลี่ยนสาย ระวังอย่าเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปทางออก เพราะสถานีส่วนใหญ่มันเปลี่ยนกลับลงมาข้างล่างอีกไม่ได้ ต้องเสียรอบฟรีๆไปรอบนึง แล้วค่อยสแกนผ่านเข้ามาใหม่
8. การจองตั๋วเข้าชมสถานที่ บางแห่งคิวยาวมากๆ เช่น Peterhof Palace และ Catherine Palace ซึ่งบางคนอาจจะจองตั๋วออนไลน์ เช่น ตัวผมเองจองตั๋วเข้าชม Peterhof Palace ผ่านทาง http://tickets.peterhofmuseum.ru/en#section=23 ตอนเข้าไปชมสวน (Lower Park) ก็สามารถใช้กระดาษที่เรา Print มา สแกนเข้าไปได้ แต่ถ้าจะเข้าไปชม Museum ด้านใน ต้องไปต่อคิวเปลี่ยนตั๋วอีกรอบ ซึ่งแถวด้านในยาวมากๆ ดังนั้นแนะนำให้ไปเปลี่ยนตั๋วตั้งแต่ด้านนอก เพราะแถวสั้นกว่าเยอะเลย แต่ถ้าเข้าไปแล้ว ก็ต้องไปต่อแถวด้านใน ทำให้ผมต้องทิ้งตั๋วไปเพราะขี้เกียจรอคิว
9. อาหารการกินที่รัสเซีย มีหลากหลายมากๆ ราคาก็แตกต่างกัน บางอย่างก็ถูกปากคนไทย ส่วนการสื่อสารนั้นก็ใช้ภาษามือเป็นหลัก โดยชี้เมนูที่เราต้องการแล้วชูนิ้วชี้ขึ้น (อย่าใช้นิ้วอื่นนะ) บางร้านมีเมนูภาษาอังกฤษให้ ก็จะสะดวกขึ้น แต่ถ้าไปทานตามร้านอาหาร อาจจะต้องให้ทิปพนักงานบ้าง (แต่ไม่ได้กำหนดว่าต้องเท่าไหร่)
10. กระเป๋าสตางค์ แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน ส่วนผมจะแบ่งเงินใส่กระเป๋าตังค์สำหรับใช้ในแต่ละวัน และที่เหลือจะใส่ในกระเป๋าแบนๆ และเอาไว้ในเป้ ซึ่งมีหลายช่อง สรุปไม่โดนล้วง แต่มีคนเดินตามแถวเครมลิน แล้วคุยภาษารัสเซีย ตอนนั้นก็ใช้สติแล้วจ้องหน้าจนเค้าต้องเดินหลบไปเอง อาจเพราะเราแต่งตัวไม่โดดเด่นด้วย เลยไม่เป็นเป้าหมายเท่าไหร่
ตอนนี้นึกออกแค่นี้ ถ้าใครมีอะไรสอบถามก็เชิญได้เลยครับ (ถ้าตอบได้นะ 555)