สวัสดีค่ะ คือต้องบอกก่อนว่าเราเป็นสาวประเภท2ค่ะ อายุ 28 ปี ทำงานบริษัทและเป็นกรรมการบริษัทเกียวกับ ตัดเย็บและส่งออกเสื้อสูทค่ะ เป็นบริษัทต่างชาติแต่จดทะเบียนในนามคนไทย ซึ่งเราและพี่อีกคนจดทะเบียนเป็นกรรมการบริษัทร่วมกัน

พอดีปลายเดือนนี้จะมีการประชุมเพื่อปรับแผนการตลาดใหม่ ทางบริษัทแม่ที่อเมริกาก็เลยส่งจดหวานเชิญมาให้ และบริษัทจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และค่าอาหาร
เราเลยจัดการทำเรื่องขอวีซ่าอเมริกา โดยมีเอกสารประกอบการขอมากมายดังนี้
1. จดหมายเชิญจากทางอเมริกาตัวจริง ส่งมาทางFedex
2. แผนการเดินทาง Agenda
3. หนังสือรับรองบริษัท ภาษาอังกฤษที่ออกจากกระทรวงพานิช ที่ระบุว่าเราเป็นกรรมการบริษัท
4. หน้า passport ของเจ้านายที่รับรองให้เรา
5. เอกสารอื่นๆเกียวกับการเงิน การศึกษา และที่อยู่

พอถึงวันสัมภาษณ์ (8 สิงหาที่ผ่านมา )เราได้นัดสัมึคู่กับพี่ที่เป็นกรรมการบริษัทร่วม เนื่องจากต้องไปด้วยกัน
เราก็ทำตามขั้นตอนทุกอย่างจนถึงห้องสัมภาษณ์ โดยด่านแรกจะคัดกรอกเอกสารกับเจ้าหน้าที่คนไทยก่อน โดยเค้าก็ขอดูแค่ จดหมายเชิญและหนังสือรับรองบริษัท
เราก็ให้เค้าไป พี่เค้าก็เช็คข้อมูล ไม่รู้ว่าพิมพ์อะไรสักอย่าง น่าจะเป็นเลขประจำตัวผู้เสียภาษีบริษัท จากนั้นให้เราพิมนิ้วมือและไปเข้าแถวรอสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ต่างชาติ
ระหว่างรอเราก็ได้ยินคนอื่นคุยกัน บางคนก็ขอครั้งแรก บ้างคนบอกครั้งที่สองโดยรอประมาณ 3 เดือนแล้วมาสมัครใหม่
เราก็รอจนถึงคิวเรา เราก็เข้าไปสัมภาษณ์คู่กับพี่อีกคน โดยคนสัมภาษณ์เป็นฝรั่งผู้ชาย เค้าถามแค่ " เคยไปอเมริกามาก่อนไหม " เราก็บอกว่าไม่เคย
" เราทำงานอะไร" เราก็บอกว่าเราเป็นหนึ่งในกรรมการบริษัท แล้วเค้าดูเอกสารที่เราให้ไป

แล้วก็ถามว่า ทำไมถึงต้องไปประชุม เรากับพี่อีกคนก็ช่วยกันอธิบาย แต่ดูเหมือนว่าเค้าไม่ได้ตั้งใจฟัง แค่ก้มหน้าก้มตาพิมพ์อะไรสักอย่าง

จากนั้นก็เงยหน้า แล้วบอกว่า พี่อีกคนผ่าน แต่เราไม่ผ่าน ให้รอ 1 ปี แล้วค่อยมาลองสมัครใหม่ โดยยื่นกระดาษใบเล็กๆให้ ที่ระบุว่า "ท่านมีคุณสมบัติไม่ตรงกับประเภทวี่ซ่าที่คุณสมัคร " เราและพี่อีกคนไดแต่ยืน งงๆ แล้วเจ้าหน้าที่ขอให้ออกไป

สรุปเอกสารที่เตรียมไป ไม่ขอดูเพิ่มเติมเลย ไม่ได้ถามอะไรมากมาย แค่ดูจากลักษณะภายนอกเรา แล้วก็บอกว่าเราไม่ผ่าน กินเงินค่าสมัคร 5600 บาทฟรีๆ
เราก็มานั่งนึกดูว่าเราพลาดตรงไหน สงสังคงจะเป็นที่เราเป็นสาวประเภท 2 แน่ๆเลย ยังงี้เราควรจะลองอีครั้งไหมค่ะ เพราะถ้าเค้าตัดสินเราจากเพศสภาพ ยังไงเราก็คงไม่ผ่าน ต่อให้มีหลักฐานแน่นแค่ไหน

เจ้านายเราเค้าโทรมาหาสถานทูตจากอเมริกา คุยกัน 3 ชั่วโมงเค้ายังไม่เชื่อเราเลยว่าเราจะไม่หลบหนีเข้าเมือง

ใครมีขอเสนอแนะให้บ้างไม่ค่ะ