จากการสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดภูเก็ต โดย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้มีการคาดการณ์ว่า จังหวัดภูเก็ตจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอีก 3 ปีข้างหน้า หลังจากการเข้าสู่การเป็นสมาร์ทซิตี (smart city) โดยราคาขายอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้น ปัจจุบันพบว่าคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ มีราคาเปิดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 130,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งส่วนมากเป็น Resort Property ที่อยู่ริมหาด และที่ดินหายากแล้ว ราคาปรับเพิ่มจากโครงการใหม่ที่เปิดตัวในปี 2016 ถึง 41%
นอกจากนี้ ยังพบราคาขายเฉลี่ยโครงการคอนโดฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปัจจุบันราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 99,700 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้น 12% จากปี 2559 อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่ความเป็น smart city จะยิ่งส่งผลให้พื้นที่ภูเก็ตกลายเป็นทำเลทองมากยิ่งขึ้น ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่นี้สูงขึ้นจากจำนวนแรงงานระดับผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมดิจิตอลที่มีกำลังซื้อปานกลาง-สูง อาจทำให้ราคาขายอสังหาฯในอนาคตปรับตัวขึ้นอีกไม่น้อย
ข้อมูลล่าสุดพบว่า มีโครงการที่เปิดตัวใหม่ในช่วงเดือนมีนาคม 2559-มีนาคม 2560 จำนวน 5,226 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึง 121% จากโครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 3,961 หน่วย (ส่วนแบ่ง 76%) ทาวน์เฮาส์ 689 หน่วย (ส่วนแบ่ง 13%) โครงการบ้านเดี่ยว 576 หน่วย (ส่วนแบ่ง 11%) ขณะที่ความต้องการยังอยู่ในระดับที่ดีที่ประมาณ 71%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,288 วันที่ 17 -19 สิงหาคม พ.ศ. 2560
สมาร์ท ซิตี ดันอสังหาฯภูเก็ตโต
จากการสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดภูเก็ต โดย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้มีการคาดการณ์ว่า จังหวัดภูเก็ตจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอีก 3 ปีข้างหน้า หลังจากการเข้าสู่การเป็นสมาร์ทซิตี (smart city) โดยราคาขายอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้น ปัจจุบันพบว่าคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ มีราคาเปิดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 130,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งส่วนมากเป็น Resort Property ที่อยู่ริมหาด และที่ดินหายากแล้ว ราคาปรับเพิ่มจากโครงการใหม่ที่เปิดตัวในปี 2016 ถึง 41%
นอกจากนี้ ยังพบราคาขายเฉลี่ยโครงการคอนโดฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปัจจุบันราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 99,700 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้น 12% จากปี 2559 อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่ความเป็น smart city จะยิ่งส่งผลให้พื้นที่ภูเก็ตกลายเป็นทำเลทองมากยิ่งขึ้น ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่นี้สูงขึ้นจากจำนวนแรงงานระดับผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมดิจิตอลที่มีกำลังซื้อปานกลาง-สูง อาจทำให้ราคาขายอสังหาฯในอนาคตปรับตัวขึ้นอีกไม่น้อย
ข้อมูลล่าสุดพบว่า มีโครงการที่เปิดตัวใหม่ในช่วงเดือนมีนาคม 2559-มีนาคม 2560 จำนวน 5,226 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึง 121% จากโครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 3,961 หน่วย (ส่วนแบ่ง 76%) ทาวน์เฮาส์ 689 หน่วย (ส่วนแบ่ง 13%) โครงการบ้านเดี่ยว 576 หน่วย (ส่วนแบ่ง 11%) ขณะที่ความต้องการยังอยู่ในระดับที่ดีที่ประมาณ 71%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,288 วันที่ 17 -19 สิงหาคม พ.ศ. 2560