Cars 3 (Brian Fee, 2017) คะแนน B
By Form Corleone
"แม้ไม่ได้แปลกใหม่ด้วยพล็อตเรื่องแต่ความบันเทิงนั้นยังคงคุณภาพและสนุกสนานตลอดทั้งเรื่อง" ความสนุกของภาพยนตร์แอนิเมชั่นฝั่งสตูดิโอดิสนีย์และพิกซาร์นั้นไม่เคยมีผลงานที่ไร้คุณภาพในตัวบทภาพยนตร์เลยสักเรื่องเดียว ภาพรวมของงานค่ายนี้จึงการันตีความดีงามในตัวเนื้อเรื่องอยู่เสมอ ผิดถนัดกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นของค่ายอื่นที่มีความเด็กน้อยและมีประเด็นสาระที่ชวนปวดหัว สำหรับภาพยนตร์ภาคต่อของสตูดิโอนี้มักจะมาพร้อมกับการเติบโตของตัวละครผ่านกาลเวลาอยู่เสมอ สำหรับ Car 3 ที่อาศัยระยะเวลาห่างจาก Car 2 ถึง 6 ปี ทำให้งานภาพและองค์ประกอบต่างๆในเรื่องนั้นสวยงาม+พิถีพิถันเอาใจใส่ทุกรายละเอียดมากๆ และแน่นอนว่าตัวบทภาพยนตร์มาพร้อมกับการเติบโตของตัวละครในเรื่อง แม้รูปแบบที่ตัวหนังเองนำเสนอจะไม่ได้แปลกตาหรือผิดไปจากสิ่งที่คิดไว้, ตัวหนังก็ยังคงมีเสน่ห์และชวนให้สนุกร่วมลุ้นไปเรื่อยๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความธรรมชาติของมุกตลกที่ไม่เยอะเกินไปผสมเรื่องราวที่ย่อยง่าย+เข้าถึงง่าย ทั้งหมดที่ทำให้งานนี้ดูมีระดับมีชั้นเชิงถ้าเทียบกับหนังการ์ตูนที่เข้าบ้านเราในปีนี้ อาทิ Despicable Me 3 ที่เราไม่สามารถมองเห็นพัฒนาการของตัวละครได้เลยและจัดไปในทางน่าผิดหวังอย่างมากถ้าเอามาเปรียบเทียบกับ Car 3 นอกเหนือไปจากตัวบทภาพยนตร์และงานภาพที่ใส่ใจรายละเอียดอย่างดีแล้ว งานกำกับของ 'Brian Fee' ยังถือว่าสอบผ่านในการทำงานผู้กำกับแอนิเมชั่นขนาดยาวเรื่องแรกในชีวิต
ดังนั้น Car 3 จึงสามารถตอบสนองความบันเทิงในรูปแบบภาพยนตร์แอนิเมชั่นได้ดีในระดับที่ไม่รู้สึกหงุดหงิดไปกับพฤติกรรมของตัวละครในเรื่อง แม้จะมีบางจังหวะที่ตัดสลับเหตุการณ์ในเรื่องรวดเร็วเกินไปในช่วงวินาทีสำคัญของเรื่อง, เรื่องราวแง่มุมที่หนังนำเสนอเป็นแบบฉบับที่เราคุ้นชินสำหรับภาพยนตร์ภาคต่อและภาคที่ขึ้นต้นด้วยเลข 3 เราก็มักจะได้เห็นเรื่องราวแบบนนี้อยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ตัวหนังไม่ได้เหมาะเฉพาะแค่ทำเพื่อให้เด็กดูเพียงอย่างเดียว, ผู้ใหญ่ก็สามารถดูได้สบายๆ หนังเองยังแฝงสาระของการเป็นผู้ใหญ่ไว้พอสมควรแต่ไม่ได้ให้ประเด็นนี้หนักมากจนเกินไป ถ้าให้เทียบกับงานภาคที่แล้วเราชอบงานภาคนี้มากกว่า แต่ถ้าเทียบกับงานภาคแรกนั้นสำหรับเรายังไม่ถึงกับชอบเท่าภาคแรกเพราะความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครในภาคนี้มีน้อยเกินไปนิด ท้ายสุด การเลือกรับชมภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้น่าจะเหมาะกับช่วงเวลาผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับความสนุกบนสนามแข่งรถ พร้อมร่วมเอาใจช่วยตัวละครในการก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆไปให้ได้รวมทั้งเรียนรู้การเติบโตไปอีกขั้นหนึ่งของตัวละคร 'Lightning McQueen' ที่อาจจะเป็นตัวละครตัวโปรดของใครหลายๆคนครับ…
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง
ฝากกด like Page ด้วยนะครับ
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/ 
Review: Cars 3 (Brian Fee, 2017) เขียนโดย Form Corleone
By Form Corleone
"แม้ไม่ได้แปลกใหม่ด้วยพล็อตเรื่องแต่ความบันเทิงนั้นยังคงคุณภาพและสนุกสนานตลอดทั้งเรื่อง" ความสนุกของภาพยนตร์แอนิเมชั่นฝั่งสตูดิโอดิสนีย์และพิกซาร์นั้นไม่เคยมีผลงานที่ไร้คุณภาพในตัวบทภาพยนตร์เลยสักเรื่องเดียว ภาพรวมของงานค่ายนี้จึงการันตีความดีงามในตัวเนื้อเรื่องอยู่เสมอ ผิดถนัดกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นของค่ายอื่นที่มีความเด็กน้อยและมีประเด็นสาระที่ชวนปวดหัว สำหรับภาพยนตร์ภาคต่อของสตูดิโอนี้มักจะมาพร้อมกับการเติบโตของตัวละครผ่านกาลเวลาอยู่เสมอ สำหรับ Car 3 ที่อาศัยระยะเวลาห่างจาก Car 2 ถึง 6 ปี ทำให้งานภาพและองค์ประกอบต่างๆในเรื่องนั้นสวยงาม+พิถีพิถันเอาใจใส่ทุกรายละเอียดมากๆ และแน่นอนว่าตัวบทภาพยนตร์มาพร้อมกับการเติบโตของตัวละครในเรื่อง แม้รูปแบบที่ตัวหนังเองนำเสนอจะไม่ได้แปลกตาหรือผิดไปจากสิ่งที่คิดไว้, ตัวหนังก็ยังคงมีเสน่ห์และชวนให้สนุกร่วมลุ้นไปเรื่อยๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความธรรมชาติของมุกตลกที่ไม่เยอะเกินไปผสมเรื่องราวที่ย่อยง่าย+เข้าถึงง่าย ทั้งหมดที่ทำให้งานนี้ดูมีระดับมีชั้นเชิงถ้าเทียบกับหนังการ์ตูนที่เข้าบ้านเราในปีนี้ อาทิ Despicable Me 3 ที่เราไม่สามารถมองเห็นพัฒนาการของตัวละครได้เลยและจัดไปในทางน่าผิดหวังอย่างมากถ้าเอามาเปรียบเทียบกับ Car 3 นอกเหนือไปจากตัวบทภาพยนตร์และงานภาพที่ใส่ใจรายละเอียดอย่างดีแล้ว งานกำกับของ 'Brian Fee' ยังถือว่าสอบผ่านในการทำงานผู้กำกับแอนิเมชั่นขนาดยาวเรื่องแรกในชีวิต
ดังนั้น Car 3 จึงสามารถตอบสนองความบันเทิงในรูปแบบภาพยนตร์แอนิเมชั่นได้ดีในระดับที่ไม่รู้สึกหงุดหงิดไปกับพฤติกรรมของตัวละครในเรื่อง แม้จะมีบางจังหวะที่ตัดสลับเหตุการณ์ในเรื่องรวดเร็วเกินไปในช่วงวินาทีสำคัญของเรื่อง, เรื่องราวแง่มุมที่หนังนำเสนอเป็นแบบฉบับที่เราคุ้นชินสำหรับภาพยนตร์ภาคต่อและภาคที่ขึ้นต้นด้วยเลข 3 เราก็มักจะได้เห็นเรื่องราวแบบนนี้อยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ตัวหนังไม่ได้เหมาะเฉพาะแค่ทำเพื่อให้เด็กดูเพียงอย่างเดียว, ผู้ใหญ่ก็สามารถดูได้สบายๆ หนังเองยังแฝงสาระของการเป็นผู้ใหญ่ไว้พอสมควรแต่ไม่ได้ให้ประเด็นนี้หนักมากจนเกินไป ถ้าให้เทียบกับงานภาคที่แล้วเราชอบงานภาคนี้มากกว่า แต่ถ้าเทียบกับงานภาคแรกนั้นสำหรับเรายังไม่ถึงกับชอบเท่าภาคแรกเพราะความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครในภาคนี้มีน้อยเกินไปนิด ท้ายสุด การเลือกรับชมภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้น่าจะเหมาะกับช่วงเวลาผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับความสนุกบนสนามแข่งรถ พร้อมร่วมเอาใจช่วยตัวละครในการก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆไปให้ได้รวมทั้งเรียนรู้การเติบโตไปอีกขั้นหนึ่งของตัวละคร 'Lightning McQueen' ที่อาจจะเป็นตัวละครตัวโปรดของใครหลายๆคนครับ…
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง
ฝากกด like Page ด้วยนะครับ
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/