ต้องออกตัวก่อนเลยว่า เป็นทริปแรกที่เขียนรีวิว.. มาเริ่มเลยละกันเนอะ
ช่วงเวลาในการเดินทางคือ ปลายกรกฎาคม 2560
"หลวงพระบาง" แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกสงบแล้วอะ มันต้องเป็นเมืองชิวๆแน่เลย (ในใจคิดไว้อย่างนั้น 5555) แต่มันจะเรียบง่ายอย่างที่เขาว่ากันไหมนะ ต้องมาลองดูกัน...
เกริ่นก่อนว่า จขกท เดินทางกับเพื่อนสาวที่สนิทกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ รู้จักกันดีจนบางครั้งไม่แม้แต่เอ่ยปากเพื่อนก็รู้ใจเราเสมอ ทริปนี้จึงเป็นทริปที่สบายใจมาก ไม่ต้องกลัวว่าจะพาใครไปลำบาก เพราะมันคือเพื่อนเรา ถ้าลำบากมันจะด่าเราเอง 5555555
instagram ::
https://www.instagram.com/07.11_n/
.....
...
..
การเดินทางมาหลวงพระบางมี 2 ทางเลือก จะบินตรงจาก กทม-หลวงพระบาง ก็ได้สะดวกดี หรือจะมาทางรถทัวร์ก็มีสองสายคือ เลย-หลวงพระบาง และก็เวียงจันทน์-หลวงพระบาง ด้วยความที่เราอยากลองเส้นทางใหม่ ที่เค้าบอกกันว่าสบายกว่า...(รึเปล่า) จขกท เลยเลือกมาทางจังหวัดเลย
....โดยเริ่มทริปนี้ด้วยรถตู้จากขอนแก่น-เมืองเลย เที่ยวสุดท้าย 16.15 น. (ออกตรงเวลามากนะขอบอก)
มาถึง บขส.จังหวัดเลยก็ประมาณสอง สามทุ่มได้มั้ง
ด้วยความกลัวตกรถ เราไปจองตั๋วรถทัวร์ไปหลวงพระบางไว้เลย ค่ารถ 700 บาทนะจ๊ะ
อ๋ออย่าลืมเตรียมพาสปอร์ตไปด้วยเด้อ (ต้องมีอายุพาสปอร์ตเหลือมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป จขกท เกือบไม่ได้ผ่านด่าน 55555)
รถจะออกจากบขส.เลยเวลา 08.00 น. มาก่อนสักครึ่งชั่วโมงนะคะ บนตั๋วจะระบุเลยที่นั่ง (อย่านั่งผิดเด้อ จขกท นั่งผิดมาแล้ว5555) รถจะออกจากประเทศไทยโดยผ่านด่านที่ อ.ท่าลี่ จ.เลย ด่านนี้คนไม่เยอะ รอคิวผ่านด่านไม่นาน
บนรถทัวร์จะมีขนมและถุงพลาสติกให้ 2 ถุง เข้าใจว่าให้ใส่ขยะ เอ๊ะหรือใส่อวก 55555 (อันนี้มโนไปเอง)
เส้นทาง เลย-หลวงพระบาง โดยรวมไม่ค่อยคดเคี้ยวมาก เมื่อเทียบกับฝั่ง เวียงจันทร์-หลวงพระบาง เรียกว่าสบายตัวได้เลยละ วิวสวย มีทุ่งนาป่าเขาให้ชื่นชมไปตามทางเพลินๆ พักทานข้าวเที่ยงตอนบ่ายสอง (มีคูปองให้) และพักให้เข้าห้องน้ำระหว่างทางสองสามรอบ
มาถึงหลวงพระบางก็ประมาณห้า หกโมงเย็น (เรื่องเวลานี่อย่าถามความแน่นอนจากเรานะ ไม่มี !! 5555 รู้แต่เวลาเริ่ม เวลาจบไม่รู้ ก็อย่างว่าทริปไม่ได้แพลนนี่เนาะ คิดจะมาก็แบกกระเป๋ามาโล๊ด)
มาถึงบสข.หลวงพระบาง ก็ต่อรถตุ๊กๆ รถกระป๊อ รถเครื่อง นั่นแหละไม่รู้เค้าเรียกรถอะไรกันแน่ 5555 เอาเป็นว่าเดี๋ยวจะมีลุงๆ มาถามว่าไปไหน จะแอบบอกว่าคนละ 40 บาทนะเข้าไปโซนตลาดมืด (โซนที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอะแหละ) แพงกว่านี้ไม่ไป (เพราะจริงๆ มันไม่ได้ไกลมาก แต่เดินก็คงไม่ไหวเช่นกัน)
มาถึงอย่างแรกที่ควรทำคือแลกเงิน ก็ประมาณ 1บาท=250กีบ (ขึ้นอยู่กับวันด้วยนะ)
จขกท แลก 5,000บาท เลยต้องถือเงินเป็นล้านนะเออ
แล้วลุงเขาก็ไปส่งที่พัก (ที่จองผ่านอโกด้ามา) ฟรี breakfast นะคุณขา ในราคา 480 บาทไทย ถือว่าถูกนะ เพราะถ้าจะซื้ออาหารเช้าทานต้องแพงกว่า 80 บาทแน่ๆ (ราคาก็จะประมาณนี้แหละ ถือว่าอยู่ได้ ไม่หรูหรามากมาย ปลอดภัยก็พอ) อีกอย่างเค้าเป็นบุฟเฟ่ต์ด้วย จขกท แอบเอาขนมปังไปกินที่น้ำตกด้วยแหละเพราะมันอันใหญ่มากกกกกกกกกกกกก !!! (เป็นการประหยัดอีกทาง อิอิ)
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ เราก็คิดขึ้นมาได้ว่า ไปเที่ยวที่หนักๆก่อนดีกว่า อีกวันค่อยชิลๆ ในเมือง
ฉนั้นวันนี้เราจึงตกลงกันว่าจะไปน้ำตกตาดกวางสี มี 2 ทางให้เลือกสรร
1.จะนั่งรถกระป๊อ ตุ๊กๆ รถเครื่อง เออนั่นละสักอย่างได้ในราคา 100,000 กีบไป-กลับ (400บาท ได้ราคาที่พักคืนนึงเลยนะ)
หรือ 2. เช่ามอเตอร์ไซต์ 100,000 กีบเช่นกัน แต่ใช้ได้ 24 hr ไง สองสาวแกร่งอย่างเราเลยเลือกวิธีที่ 2 เพราะว่าจะเอาไว้แว๊นเมืองหลวงพระบางซะหน่อย อีกอย่างทางมันไม่น่ายาก(คิดเอง) แม้คุณลุงรถตุ๊กๆ จะหวาดล้อมว่าถนนไม่ดีเหมือนเมืองไทยก็ตาม (จริงๆเมืองไทยก็ไม่ได้ดีทุกที่นะลุง)
เส้นทางไปถนนคล้ายๆ ที่ไทยเรานี่ละ แต่ต้องขับชิดขวานะ ย้ำว่าขวา !! จขกท เลี้ยวเข้าแยกหรือวงเวียงทีไร งงทุกที
เปิด GPS ดูทางตั้งแต่ที่พัก เพราะไม่ได้ซื้อซิมลาว อยากจะลองไปแบบไม่มีโซเชียลดูบ้าง มันน่าจะดีกว่า เพราะเรามาพักผ่อนหนิ ไม่ได้อยากคิดถึงใครหรือเรื่องอะไรให้กังวลใจ (นอกเรื่องมากคะ 555555) นั่นละ ทางไปนี่ตรงอย่างเดียว ถึงทางที่ต้องเลี้ยวจะมีป้ายบอกเป็นระยะ ไม่ต้องห่วงว่าจะหลง (ป้ายภาษาอังกฤษก็มี ภาษาลาวก็เดาเอาคะคุณ อิอิ)
...ระหว่างทางมาก็มีภูเขาสวยให้ดูเพลิน (แต่คนขับห้ามเพลิน)
ถึงสักที นี่งายยยตาดกวางสีที่ล่ำรือ !! ไม่ต้องห่วงว่าฤดูฝนน้ำจะขุ่นจะแดงอะไรนะ เพราะเป็นน้ำตกจากภูเขาหินปูน เขียว สวย ใส ดีงามตามรีวิวเด้อค่าาา !! 5555
น้ำเย็นมากนะ เสี่ยงต่อการเป็นตะคริวมาก มุมนี้นักท่องเที่ยวนิยมมากระโดด ถ่ายช็อทสวยๆ
หลังจากกลับจากน้ำตก ด้วยความเหนื่อยล้า เราเลยมานั่งชิลที่ร้านกาแฟ Joma (ร้านที่ในรีวิวหลวงพระบางหลายๆ กระทู้แนะนำให้มา)
ในร้านจะมีเครื่องดื่ม ชากาแฟ คิดเป็นราคาไทยก็พอๆ กับร้านกาแฟบ้านเรานี่ละ อ่อ..มีขนมด้วยนะ !! บราวนี่ พาย เบเกอรี่ต่างๆ ให้เลือกมากมาย
หลวงพระบาง ทริปนี้ไม่มีแพลน.. อยากมาก็มา อยากไปก็ไป !! (เส้นทาง เลย-หลวงพระบาง)
ช่วงเวลาในการเดินทางคือ ปลายกรกฎาคม 2560
"หลวงพระบาง" แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกสงบแล้วอะ มันต้องเป็นเมืองชิวๆแน่เลย (ในใจคิดไว้อย่างนั้น 5555) แต่มันจะเรียบง่ายอย่างที่เขาว่ากันไหมนะ ต้องมาลองดูกัน...
เกริ่นก่อนว่า จขกท เดินทางกับเพื่อนสาวที่สนิทกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ รู้จักกันดีจนบางครั้งไม่แม้แต่เอ่ยปากเพื่อนก็รู้ใจเราเสมอ ทริปนี้จึงเป็นทริปที่สบายใจมาก ไม่ต้องกลัวว่าจะพาใครไปลำบาก เพราะมันคือเพื่อนเรา ถ้าลำบากมันจะด่าเราเอง 5555555
instagram :: https://www.instagram.com/07.11_n/
...
..
การเดินทางมาหลวงพระบางมี 2 ทางเลือก จะบินตรงจาก กทม-หลวงพระบาง ก็ได้สะดวกดี หรือจะมาทางรถทัวร์ก็มีสองสายคือ เลย-หลวงพระบาง และก็เวียงจันทน์-หลวงพระบาง ด้วยความที่เราอยากลองเส้นทางใหม่ ที่เค้าบอกกันว่าสบายกว่า...(รึเปล่า) จขกท เลยเลือกมาทางจังหวัดเลย
....โดยเริ่มทริปนี้ด้วยรถตู้จากขอนแก่น-เมืองเลย เที่ยวสุดท้าย 16.15 น. (ออกตรงเวลามากนะขอบอก)
ด้วยความกลัวตกรถ เราไปจองตั๋วรถทัวร์ไปหลวงพระบางไว้เลย ค่ารถ 700 บาทนะจ๊ะ
รถจะออกจากบขส.เลยเวลา 08.00 น. มาก่อนสักครึ่งชั่วโมงนะคะ บนตั๋วจะระบุเลยที่นั่ง (อย่านั่งผิดเด้อ จขกท นั่งผิดมาแล้ว5555) รถจะออกจากประเทศไทยโดยผ่านด่านที่ อ.ท่าลี่ จ.เลย ด่านนี้คนไม่เยอะ รอคิวผ่านด่านไม่นาน
มาถึงบสข.หลวงพระบาง ก็ต่อรถตุ๊กๆ รถกระป๊อ รถเครื่อง นั่นแหละไม่รู้เค้าเรียกรถอะไรกันแน่ 5555 เอาเป็นว่าเดี๋ยวจะมีลุงๆ มาถามว่าไปไหน จะแอบบอกว่าคนละ 40 บาทนะเข้าไปโซนตลาดมืด (โซนที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอะแหละ) แพงกว่านี้ไม่ไป (เพราะจริงๆ มันไม่ได้ไกลมาก แต่เดินก็คงไม่ไหวเช่นกัน)
แล้วลุงเขาก็ไปส่งที่พัก (ที่จองผ่านอโกด้ามา) ฟรี breakfast นะคุณขา ในราคา 480 บาทไทย ถือว่าถูกนะ เพราะถ้าจะซื้ออาหารเช้าทานต้องแพงกว่า 80 บาทแน่ๆ (ราคาก็จะประมาณนี้แหละ ถือว่าอยู่ได้ ไม่หรูหรามากมาย ปลอดภัยก็พอ) อีกอย่างเค้าเป็นบุฟเฟ่ต์ด้วย จขกท แอบเอาขนมปังไปกินที่น้ำตกด้วยแหละเพราะมันอันใหญ่มากกกกกกกกกกกกก !!! (เป็นการประหยัดอีกทาง อิอิ)
ฉนั้นวันนี้เราจึงตกลงกันว่าจะไปน้ำตกตาดกวางสี มี 2 ทางให้เลือกสรร
1.จะนั่งรถกระป๊อ ตุ๊กๆ รถเครื่อง เออนั่นละสักอย่างได้ในราคา 100,000 กีบไป-กลับ (400บาท ได้ราคาที่พักคืนนึงเลยนะ)
หรือ 2. เช่ามอเตอร์ไซต์ 100,000 กีบเช่นกัน แต่ใช้ได้ 24 hr ไง สองสาวแกร่งอย่างเราเลยเลือกวิธีที่ 2 เพราะว่าจะเอาไว้แว๊นเมืองหลวงพระบางซะหน่อย อีกอย่างทางมันไม่น่ายาก(คิดเอง) แม้คุณลุงรถตุ๊กๆ จะหวาดล้อมว่าถนนไม่ดีเหมือนเมืองไทยก็ตาม (จริงๆเมืองไทยก็ไม่ได้ดีทุกที่นะลุง)
เปิด GPS ดูทางตั้งแต่ที่พัก เพราะไม่ได้ซื้อซิมลาว อยากจะลองไปแบบไม่มีโซเชียลดูบ้าง มันน่าจะดีกว่า เพราะเรามาพักผ่อนหนิ ไม่ได้อยากคิดถึงใครหรือเรื่องอะไรให้กังวลใจ (นอกเรื่องมากคะ 555555) นั่นละ ทางไปนี่ตรงอย่างเดียว ถึงทางที่ต้องเลี้ยวจะมีป้ายบอกเป็นระยะ ไม่ต้องห่วงว่าจะหลง (ป้ายภาษาอังกฤษก็มี ภาษาลาวก็เดาเอาคะคุณ อิอิ)
...ระหว่างทางมาก็มีภูเขาสวยให้ดูเพลิน (แต่คนขับห้ามเพลิน)
ในร้านจะมีเครื่องดื่ม ชากาแฟ คิดเป็นราคาไทยก็พอๆ กับร้านกาแฟบ้านเรานี่ละ อ่อ..มีขนมด้วยนะ !! บราวนี่ พาย เบเกอรี่ต่างๆ ให้เลือกมากมาย