สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวฮอกไกโดในช่วงฤดูร้อนกันครับ ก่อนอื่นมาอ่านเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากการสังเกตของผมในการเที่ยวก่อนนะครับ เผื่อจะช่วยให้เพื่อนๆเตรียมแผนการได้ง่ายขึ้น
1. Furano และ Biei ช่วงฤดูร้อนเริ่มต้นอย่างเต็มตัวเมื่อดอกลาเวนเดอร์บาน ซึ่งช่วง peak จะเป็นกลางๆเดือนกรกฎาคมจึงถึงต้นๆสิงหาคมของทุกปี อากาศร้อนไม่มากถ้าไม่มีแดดครับ อุณหภูมิอยู่ในช่วง 20-25 C แต่ถ้าวันไหนฟ้าเปิดและพระอาทิตย์เจิดจ้า ความร้อนจะขยับไปถึง 30 C ได้เลยทีเดียว
2. สืบเนื่องจากข้อ 1 สิ่งที่เพื่อนๆไม่ควรลืมนั่นก็คือ ร่ม ครีมกันแดด หมวก และแว่นกันแดด หากใครคิดว่าจะไปเพื่อหลบร้อนจากไทย อาจจะต้องเผื่อใจนิดนึงครับว่า อาจจะไม่เย็นอย่างที่คาด แต่ถ้าไม่มีแดดและฟ้าครึ้ม อากาศก็จะสบายๆน่าเดินเล่นเป็นอย่างยิ่ง
3. เนื่องจากช่วงลาเวนเดอร์บาน เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก โดยเฉพาะจีน ไทย และเกาหลีจะพากันยกขโยงมา เพื่อนๆควรสำรองที่พักตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างน้อย 3-4 เดือนเพื่อความชัวร์ ผมเลือกพักใน Biei ติดกับ JR เลย ซึ่งสามารถเดินทางได้สะดวกมาก
4. ถ้าไปเที่ยวกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป แนะนำให้เช่ารถขับครับ เพราะจะประหยัดเวลาและสบายกว่าปั่นจักรยานมาก โดยเฉพาะใน Biei เนื่องจากทั้งเมืองเป็นทิวเขาสูงๆต่ำๆ หากไม่ใช่สิงห์นักปั่น เพื่อนๆอาจต้องเสียเวลาปั่นทั้งวันเพียงเพื่อตามหาต้นไม้ที่จะไปเช็คอิน และอาจหมดแรงเอาเสียดื้อๆได้ นอกจากนี้ หากเช่ารถก็หมดห่วงเรื่องที่หลบฝนไปอีกเรื่องหนึ่งครับ
5. Furano และ Biei ไม่ใช่เมืองใหญ่ เพราะฉะนั้นแค่ 1-2 ทุ่ม เมืองก็เงียบแล้ว ร้านอาหารส่วนใหญ่ปิดหลัง 17-18 น. ดังนั้น อาจต้องจัดเวลาเที่ยวดีๆและเตรียมเสบียงเผือไว้เวลาหิวครับ
6. ในฤดูร้อนพระอาทิตย์ตกช้าและขึ้นเช้ามาก ทำให้เวลาตอนกลางวันนานกว่าปกติ ถ้าไม่อยากถูกแสงอรุณปลุกขึ้นมาให้หัวเสีย อย่าลืมปิดม่านให้มิดชิดครับ ไม่งั้นตี 4 แสงแดดก็แยงตาแล้ว
Furano
ผมเที่ยว Furano และ Biei รวมๆแล้ว 2 วันครับ โดยขับรถจาก Biei แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ใน Furano เที่ยวหลักๆ 2 ที่ครับ คือ Tomita farm และ Nakafurano Municipal Laverder Garden ครับ
Tomita Farm
Location : 349 276 801 หรือ ใส่เบอร์โทรศัพท์ใน GPS 0167-39-3939
Fee : ไม่มีค่าเข้า
ระยะเวลาที่แนะนำในการเข้าชม : 3 ชั่วโมงหรือมากกว่า ถ้าจะเก็บให้หมดทุกจุด
สิ่งที่ไม่ควรพลาด :
- ถ่ายรูปชิคๆ กับทุ่งลาเวนเดอร์ที่กว้างสุดลูกหูลูกตา
- ลิ้มลองซอล์ฟครีมกลิ่นลาเวนเดอร์ และชิมเมลอนแช่เย็นที่แค่กัดคำแรก กลิ่นหอมๆของเมลอนก็พร้อมจะทำให้เพื่อนๆฟินที่สุดถึงที่สุด
- ช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์ ไม่ว่าจะเป็น Hand cream, shampoo, bath cream น้ำหอมอโรม่า และอื่นๆอีกมากในราคาย่อมเยา
ข้อควรระวัง
- คนเยอะที่สุดของที่สุด พยายามหลีกเลี่ยงวันหยุดถ้าเป็นไปได้
- ทำใจร่มๆในการถ่ายภาพ เพราะยากมากที่จะไม่ติดคน
ฟาร์มโทมิตะ มีจุดให้เที่ยวชมหลักๆ 6 จุดตามภาพด้านล่างครับ
ที่มา :
http://www.farm-tomita.co.jp/en/farm/
1. Hanabito field เป็นจุดแรกของฟาร์ม ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยทุ่งดอกไม้หลากสีสันที่เปลี่ยนไปตามฤดูด่างๆ
2. Sakiwai field เป็นจุดแรกที่เพื่อนๆจะได้สัมผัสกับดอกลาเวนเดอร์อย่างใกล้ชิด มีทางเดินที่สามารถถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม ในบริเวณสวนจะมีเชือกกั้นไว้ไม่ให้เข้าไป แนะนำให้ทำตามกฎด้วยนะครับ อย่าล้ำเข้าไปเชียว
3. Autumn and Spring field เป็นจุดทุ่งดอกไม้หลากสีสันต่อมา ซึ่งพันธุ์ไม้จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลเช่นกัน เนื่องจากผมมาในช่วงที่ลาเวนเดอร์เป็นพระเอก ทำให้ทุ่งนี้ผู้คนดูบางตาและเงียบเหงาไปเลยครับ
4. Traditional lavender field เป็นทุ่งที่ปลูกลาเวนดอร์ไว้ตลอดเนินเขา ทำให้มองเห็นได้จากระยะไกล เพื่อนๆสามารถเดินเท้าขึ้นไปชมได้จนถึงจุดยอดเลยครับ โชคดีตรงที่มีเงาของต้นสนคอยบังแดดไว้ให้เป็นระยะ ไม่อย่างนั้นคงเสียน้ำปริมาณมากจากแดดร้อนเปรี้ยงแน่ๆ
5. Lavender forest field เป็นทุ่งลาเวนเดอร์ขนาดยักษ์บนเนินเขาที่มีความชันน้อยกว่า Traditional lavender field มีป่าสนอยู่สุดทุ่งทำให้ดูร่มรื่นขึ้น มีร้านขายซอฟท์ครีมอยู่ริมทุ่งและมีจุดให้ชมวิวในระยะสูงด้วย
6. Irodori field เป็นจุดที่ทุกคนทั่วโลกรู้จักดีจากโปสเตอร์และหนังสือท่องเที่ยว นี่คือทุ่งดอกไม้สายรุ้งนั่นเอง เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุดก็ว่าได้ครับ
ก่อนออกจากฟาร์มอย่าลืมแวะช้อบของฝากกันก่อนนะครับ รวมถึงด้านหน้ายังมี Tomita Melon House ให้ลิ้มลองเมลอนหวานฉ่ำ และสามารถซื้อเป็นของฝากได้ครับ
Nakafurano Municipal Laverder Garden
Location : 349 734 679
Fee : ค่ากระเช้า 300 Yen
ระยะเวลาที่แนะนำในการเข้าชม : ประมาณ 1 ชั่วโมง
สิ่งที่ไม่ควรพลาด :
- ชมวิวเมือง Furano จากมุมสูง
- สัมผัสสายลมและมุมมองทุ่งลาเวนเดอร์จากกระเช้าที่กำลังเคลื่อนตัว
ข้อควรระวัง
- ผู้ที่กลัวความสูงอาจต้องเตรียมใจก่อนขึ้นนะครับ
ใน Furano มีทุ่งลาเวนเดอร์อยู่มากมาย ที่แห่งนี้มีจุดเด่นไม่เป็นรองใครตรงที่มีกระเช้าให้ขึ้นไปชมจากมุมสูง เพื่อนๆสามารถสัมผัสสายลมและแสงแดดได้อย่างเต็มที่ขณะที่ตัวลอยสูงขึ้นๆ แนะนำให้มาช่วงเย็นๆ เพราะแสงจะสวยมากและไม่ร้อนจนเกินไปครับ
คู่นี้น่ารักมากครับ
#Flower Land Kamifurano
Location : 349 518 415
Fee : ฟรี
ระยะเวลาที่แนะนำในการเข้าชม : ประมาณ 1 ชั่วโมง
สิ่งที่ไม่ควรพลาด :
- ชมวิวเมือง Furano จากมุมสูง และชมยอดเขาโทะกะชิสุดอลังการ
ข้อควรระวัง
- ร้อนมากกกกกกก
[CR] Furano & Biei 2017 : Hokkaido Summer Trip Part I
1. Furano และ Biei ช่วงฤดูร้อนเริ่มต้นอย่างเต็มตัวเมื่อดอกลาเวนเดอร์บาน ซึ่งช่วง peak จะเป็นกลางๆเดือนกรกฎาคมจึงถึงต้นๆสิงหาคมของทุกปี อากาศร้อนไม่มากถ้าไม่มีแดดครับ อุณหภูมิอยู่ในช่วง 20-25 C แต่ถ้าวันไหนฟ้าเปิดและพระอาทิตย์เจิดจ้า ความร้อนจะขยับไปถึง 30 C ได้เลยทีเดียว
2. สืบเนื่องจากข้อ 1 สิ่งที่เพื่อนๆไม่ควรลืมนั่นก็คือ ร่ม ครีมกันแดด หมวก และแว่นกันแดด หากใครคิดว่าจะไปเพื่อหลบร้อนจากไทย อาจจะต้องเผื่อใจนิดนึงครับว่า อาจจะไม่เย็นอย่างที่คาด แต่ถ้าไม่มีแดดและฟ้าครึ้ม อากาศก็จะสบายๆน่าเดินเล่นเป็นอย่างยิ่ง
3. เนื่องจากช่วงลาเวนเดอร์บาน เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก โดยเฉพาะจีน ไทย และเกาหลีจะพากันยกขโยงมา เพื่อนๆควรสำรองที่พักตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างน้อย 3-4 เดือนเพื่อความชัวร์ ผมเลือกพักใน Biei ติดกับ JR เลย ซึ่งสามารถเดินทางได้สะดวกมาก
4. ถ้าไปเที่ยวกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป แนะนำให้เช่ารถขับครับ เพราะจะประหยัดเวลาและสบายกว่าปั่นจักรยานมาก โดยเฉพาะใน Biei เนื่องจากทั้งเมืองเป็นทิวเขาสูงๆต่ำๆ หากไม่ใช่สิงห์นักปั่น เพื่อนๆอาจต้องเสียเวลาปั่นทั้งวันเพียงเพื่อตามหาต้นไม้ที่จะไปเช็คอิน และอาจหมดแรงเอาเสียดื้อๆได้ นอกจากนี้ หากเช่ารถก็หมดห่วงเรื่องที่หลบฝนไปอีกเรื่องหนึ่งครับ
5. Furano และ Biei ไม่ใช่เมืองใหญ่ เพราะฉะนั้นแค่ 1-2 ทุ่ม เมืองก็เงียบแล้ว ร้านอาหารส่วนใหญ่ปิดหลัง 17-18 น. ดังนั้น อาจต้องจัดเวลาเที่ยวดีๆและเตรียมเสบียงเผือไว้เวลาหิวครับ
6. ในฤดูร้อนพระอาทิตย์ตกช้าและขึ้นเช้ามาก ทำให้เวลาตอนกลางวันนานกว่าปกติ ถ้าไม่อยากถูกแสงอรุณปลุกขึ้นมาให้หัวเสีย อย่าลืมปิดม่านให้มิดชิดครับ ไม่งั้นตี 4 แสงแดดก็แยงตาแล้ว
Furano
ผมเที่ยว Furano และ Biei รวมๆแล้ว 2 วันครับ โดยขับรถจาก Biei แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ใน Furano เที่ยวหลักๆ 2 ที่ครับ คือ Tomita farm และ Nakafurano Municipal Laverder Garden ครับ
Tomita Farm
Location : 349 276 801 หรือ ใส่เบอร์โทรศัพท์ใน GPS 0167-39-3939
Fee : ไม่มีค่าเข้า
ระยะเวลาที่แนะนำในการเข้าชม : 3 ชั่วโมงหรือมากกว่า ถ้าจะเก็บให้หมดทุกจุด
สิ่งที่ไม่ควรพลาด :
- ถ่ายรูปชิคๆ กับทุ่งลาเวนเดอร์ที่กว้างสุดลูกหูลูกตา
- ลิ้มลองซอล์ฟครีมกลิ่นลาเวนเดอร์ และชิมเมลอนแช่เย็นที่แค่กัดคำแรก กลิ่นหอมๆของเมลอนก็พร้อมจะทำให้เพื่อนๆฟินที่สุดถึงที่สุด
- ช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์ ไม่ว่าจะเป็น Hand cream, shampoo, bath cream น้ำหอมอโรม่า และอื่นๆอีกมากในราคาย่อมเยา
ข้อควรระวัง
- คนเยอะที่สุดของที่สุด พยายามหลีกเลี่ยงวันหยุดถ้าเป็นไปได้
- ทำใจร่มๆในการถ่ายภาพ เพราะยากมากที่จะไม่ติดคน
ฟาร์มโทมิตะ มีจุดให้เที่ยวชมหลักๆ 6 จุดตามภาพด้านล่างครับ
ที่มา : http://www.farm-tomita.co.jp/en/farm/
1. Hanabito field เป็นจุดแรกของฟาร์ม ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยทุ่งดอกไม้หลากสีสันที่เปลี่ยนไปตามฤดูด่างๆ
2. Sakiwai field เป็นจุดแรกที่เพื่อนๆจะได้สัมผัสกับดอกลาเวนเดอร์อย่างใกล้ชิด มีทางเดินที่สามารถถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม ในบริเวณสวนจะมีเชือกกั้นไว้ไม่ให้เข้าไป แนะนำให้ทำตามกฎด้วยนะครับ อย่าล้ำเข้าไปเชียว
3. Autumn and Spring field เป็นจุดทุ่งดอกไม้หลากสีสันต่อมา ซึ่งพันธุ์ไม้จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลเช่นกัน เนื่องจากผมมาในช่วงที่ลาเวนเดอร์เป็นพระเอก ทำให้ทุ่งนี้ผู้คนดูบางตาและเงียบเหงาไปเลยครับ
4. Traditional lavender field เป็นทุ่งที่ปลูกลาเวนดอร์ไว้ตลอดเนินเขา ทำให้มองเห็นได้จากระยะไกล เพื่อนๆสามารถเดินเท้าขึ้นไปชมได้จนถึงจุดยอดเลยครับ โชคดีตรงที่มีเงาของต้นสนคอยบังแดดไว้ให้เป็นระยะ ไม่อย่างนั้นคงเสียน้ำปริมาณมากจากแดดร้อนเปรี้ยงแน่ๆ
5. Lavender forest field เป็นทุ่งลาเวนเดอร์ขนาดยักษ์บนเนินเขาที่มีความชันน้อยกว่า Traditional lavender field มีป่าสนอยู่สุดทุ่งทำให้ดูร่มรื่นขึ้น มีร้านขายซอฟท์ครีมอยู่ริมทุ่งและมีจุดให้ชมวิวในระยะสูงด้วย
6. Irodori field เป็นจุดที่ทุกคนทั่วโลกรู้จักดีจากโปสเตอร์และหนังสือท่องเที่ยว นี่คือทุ่งดอกไม้สายรุ้งนั่นเอง เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุดก็ว่าได้ครับ
ก่อนออกจากฟาร์มอย่าลืมแวะช้อบของฝากกันก่อนนะครับ รวมถึงด้านหน้ายังมี Tomita Melon House ให้ลิ้มลองเมลอนหวานฉ่ำ และสามารถซื้อเป็นของฝากได้ครับ
Nakafurano Municipal Laverder Garden
Location : 349 734 679
Fee : ค่ากระเช้า 300 Yen
ระยะเวลาที่แนะนำในการเข้าชม : ประมาณ 1 ชั่วโมง
สิ่งที่ไม่ควรพลาด :
- ชมวิวเมือง Furano จากมุมสูง
- สัมผัสสายลมและมุมมองทุ่งลาเวนเดอร์จากกระเช้าที่กำลังเคลื่อนตัว
ข้อควรระวัง
- ผู้ที่กลัวความสูงอาจต้องเตรียมใจก่อนขึ้นนะครับ
ใน Furano มีทุ่งลาเวนเดอร์อยู่มากมาย ที่แห่งนี้มีจุดเด่นไม่เป็นรองใครตรงที่มีกระเช้าให้ขึ้นไปชมจากมุมสูง เพื่อนๆสามารถสัมผัสสายลมและแสงแดดได้อย่างเต็มที่ขณะที่ตัวลอยสูงขึ้นๆ แนะนำให้มาช่วงเย็นๆ เพราะแสงจะสวยมากและไม่ร้อนจนเกินไปครับ
คู่นี้น่ารักมากครับ
#Flower Land Kamifurano
Location : 349 518 415
Fee : ฟรี
ระยะเวลาที่แนะนำในการเข้าชม : ประมาณ 1 ชั่วโมง
สิ่งที่ไม่ควรพลาด :
- ชมวิวเมือง Furano จากมุมสูง และชมยอดเขาโทะกะชิสุดอลังการ
ข้อควรระวัง
- ร้อนมากกกกกกก