[CR] Run away with me at Furano biei Otaru พาไปวิ่งเล่นในทุ่งนา และ ทุ่ง Lavender ที่ Hokkaido

เนื่องจากมีวันหยุดยาวช่วงเข้าพรรษา สองเพื่อนสนิทที่คบกันมาสิบ ๆ ปีอยู่ ๆ ก็ชวนกันไปฮอกไกโด อยากไปกินเมล่อนและวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ เกิดอยากโลกสวย ...จะรออะไรละคะ จองตั๋วเลยเดินทาง 18 กรกฏาคม กลับ 27 กรกฏาคม 2559 ...เป็นการเดินทางไปเที่ยวฮอกไดโดครั้งแรก ไม่มีแพลนอะไรทั้งนั้นพึ่งพา App TripAdvisor ชีวิตฉันมีแต่แอพนำทาง จะเดินหลงทางตามแอพไป...ทริปนี้เราจองที่พักผ่าน Airbnb ทั้ง ๆที่มีข่าวไม่ค่อยจะดีแต่เราถามย้ำกับทาง host เค้ายืนยันรับประกัน...และทดลองใช้ Sim2Fly เพราะบางช่วงเวลาเราจะได้แยกย้ายกันไปทำมาหากิน (ช็อปปิ้ง) แล้วนัดมาเจอกัน ที่สำคัญมันดีงามติดต่อกันได้ตลอดเวลา ไม่ต้องคอยเดินตามกันเป็นลูกเป็ด

นางเอกของทริปนี้ (สุดท้ายเกือบกลายเป็นนางรองของทริป แต่นางสวยจริงไรจริงคะ ถามว่าหอมไหมก็หอมแบบน้ำยากลิ่นลาเวนเดอร์แหละคะ)


การเตรียมตัวก็ไม่มีอะไรมาก แว่นกันแดด หมวก เพราะเป็นฤดูร้อน พกร่มไปด้วยเผื่อเจอฝน(จริง ๆ บ้าน host มีเตรียมไว้ให้แบกไปหนักเลย) เสื้อผ้ารองเท้าเหมือนที่ไส่ที่บ้านเราดี๊ดีไม่เปลืองเนื้อที่กระเป๋า


ซื้อซิมและบัตรเติมเงิน แนะนำให้ไส่ซิมและเปิดใช้งานที่สนามบินตอนอยู่ไทยเลยค่ะ  การเดินทางเราไม่ได้ซื้อ pass เพราะเรายังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง Lavender ถ้าแดดไม่ออกเจอฝนตกหนักก็อาจจะเปลี่ยนสถานที่ไว้ไปดูหน้างาน เลยใช้บัตรคิตตี้ (บัตร ICOCA Card เป็นบัตรเติมเงินเพื่อนขึ้นรถไฟ ซื้อของร้านสะดวกซื้อ ใช้ขึ้นรถไฟได้ทั้ง JR และ Subway เติมเงินเข้าในบัตรได้ตามร้าน Lowsan)


ที่พัก Airbnb ดีทุกอย่างแต่เป็นห้องพัดลม (โชคดีช่วงที่ไป sapporo อากาศไม่ร้อนมาก)


ตื่นมาเช้าวันที่ 20 เช็คสภาพอากาศผ่านเว็บ ok เราเดินทางไปดินแดนแห่งโลกสวยกัน ไปซื้อ pass Furano Biei Rail Ticket ที่ออฟฟิตขายตั๋ว JR สถานี Sapporo ราคา 6500 เยน แอบแพง.... จริง ๆ ไม่แพงหรอก pass นี้ใช้งานได้ในพื้นที่ Furano 3 วันฟรี เพราะสำหรับคนที่ไปเที่ยวแบบพักค้างคืนแถว Biei หรือ Furano 2 คืน ***โทษฐานของคนที่ไม่ศึกษาข้อมูลก็ต้องจ่ายไปไว้รอบหน้าค่อยไปพักแถวนั้น (ไม่รู้เมื่อไหร่)


ซื้อ pass เสร็จเรียบร้อยเช็คขบวนรถเร็วสุดที่จะไป Furano  SAPPORO(JR) 07.52 - FURANO 09.55 นั่งขบวน Route ที่ 3 ในรูปขึ้นไปตามนั้นไม่น่าจะหลง


Furano

กว่ารถเที่ยวแรกจากสาย Norokko Train จะมาถึงสถานี Furano เวลา 11.52 เรามีเวลาเที่ยวเมือง Furano เกือบ 2 ชั่วโมง ออกมาตั้งหลักด้านนอกสถานี


เปิด TripAdvisor ค้นหาเมือง Furano แถวนี้มีอะไรบ้างเข้าไปเลยเมนู Things to Do เลยตัดสินใจไป museum "Kita no Kuni Kara" เพราะเดินเท้าจากสถานีไปแค่ 5 นาทีถึง ***ไม่ได้ศึกษามาเลยว่าเป็น Museum เกี่ยวกับอะไร


ค่าเข้า museum ราคา 500 เยน ก็คุ้มค่าคุ้มราคานะคะ ทำให้รู้ว่า Furano สวยทุกฤดู ภาพด้านไว้ทุกคนลองหาโอกาสเข้าไปเที่ยวชมดูเองนะคะ


TOMITA FRAM

ได้เวลา 11.52 รถไฟขบวน Norokko Train ก็มาถึงสถานี Furano ขบวนนี้จะพาเราไปยังฟาร์ม Tomita คนเยอะพอสมควรมีตั๋วทั้งแบบระบุที่นั่งและไม่ระบุที่นั่งนะคะ ของเราจองแบบไม่ระบุที่นั่ง พอไปถึงชานชาลาต้องถามพนักงานว่าไม่ระบุที่นั่งต้องไปยืนรอต่อแถวตรงจุดไหน รถไฟขบวนนี้จะเปิดให้บริการเฉพาะช่วงที่มีดอก Lavender เท่านั้นนะคะ เป็นรถไฟโบราณแบบ open air วิวหน้าต่างบานใหญ่ ๆ แบบพาโนรามาโชคดีวันที่ไปแดดไม่ร้อนมากและไม่เจอฝน


ข้อมูลตารางเวลารถไฟน่ะคะ จากสถานี Furano เราใช้เวลาประมาณ 25 นาทีก็มาถึงสถานี Lavender Fram Lv. ลงสถานีนี้เพื่อเที่ยวฟาร์ม Tomita


สวัสดี Tomita อือนายคงคุ้นเคยดีกับคนไทย .... คนไทยมาเที่ยวที่นี่กันเยอะจริง ๆ คะ ดี ๆ อบอุ่น


ฟาร์มกว้างมาก สวนดอกไม้สุดลูกหูลูกตานางสวยงามจริง ๆ Lavender กำลังบ้านเต็มที่ เนื่องจากฟาร์มมีสวนดอกไม้หลายแปลงเราแยกย้ายกับเื่ืพื่อนเพื่อเดินถ่ายรูปดอกไม้ชมสวน แล้วนัดเจอกันตอนบ่าย 2 ที่สถานีรถไฟเพื่อจะไปเที่ยวต่อที่ Biei


พริ้วไหวสวยงาม


อิจฉาผึ้งแมลงได้ดอกดมดอกไม้


มาวิ่งเล่นแปลงด้านบนกันบ้างค่ะ


มองจากมุมนี้สีม่วงเป็นรูปหัวใจเลยค่ะ ยอมแพ้ในความงามคุ้มค่าที่นั่งรถมาสองชั่วโมงกว่า


ชมจากวิวมุมสูงบ้าง ทางฟาร์มดีมากนอกจากให้เข้าฟรีแล้วยังมีจุดให้ขึ้นไปชมวิวมุมสูงได้ด้วย *** แต่เค้าก็มีรายได้จากการขายของแทนคะ

สวยทุกมุม


ผึ้งน้อยคอยดอม ๆ ดม ๆ


ใกล้ๆ นี่ได้กลิ่นหอม


มามุมนี้บ้าง


อยากอยู่ที่นี่ทั้งวัน


โลกสวยจริง ๆ


แค่วิ่งเล่นดูดอกไม้ถ่ายรูปเวลาเดินเร็วมาก........อยากหยุดอยู่ตรงนี้นานนาน


ย้ายร่างไปวิ่งเล่นสวนด้านล่างกันบ้างคะ...


เริ่มร้อนเหงื่อเริ่มมาพัก ๆ กิน ๆ เมล่อนหอมหวานชื่นใจกินตอนเหนื่อย ๆ ร้อน ๆ ฟิน


เค้านิยมชิมซอฟครีม lavender กันเราว่าเมล่อนอร่อยกว่า กัดไปแล้วคำหนึ่งแล้วชอบอร่อยดี กลิ่นหอมเมลอนรสชาติไม่หวานมาก เลยถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย


เดินเล่นไปมาจนทั่วฟาร์มก็ได้เวลาบ่ายสอง บ๊าย บาย Tomita ฟาร์ม เดินมารอรถไฟที่สถานีเพื่อจะเดินทางไปที่ Biei คนเยอะมาก... เรายืนไปตลอดทางจนถึง Biei


Biei

ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเราก็มาถึงสถานี Biei ออกมานอกสถานีเพื่อจะเช่าจักรยานไปปั่นเล่นในทุ่งนาวิวหลักล้านพาโนรามา มาก ๆ บ้านหลังซ้ายมือในรูปคือร้านที่บริการเช่าจักรยานนะคะ เราเช่าร้านนี้เจ้าของร้านใจดี อธิบายเส้นทางและมีแผนที่ให้ว่าเราสามารถแวะชมจุดไหนบ้าง


จักรยานให้เลือกเช่าแบบไฟฟ้านะคะ ราคา 600 เยนต่อชั่วโมง ย้ำว่าอย่างก!! เช่ารุ่นธรรมดานะคะ ถึงมาราคารุ่นธรรมดาแค่ 200 เยนต่อชั่วโมง ... ระหว่างทางเราเห็นบางคนที่เช่าแบบธรรมดามาไม่สามารถผ่านเนินสวย ๆ ไปได้ บางคนยอมแพ้เข็นจักรยานกลับ ... ทำให้พลาดที่สวย ๆ ไปน่าเสียดาย


ปั่นขึ้นเนินแรก ตรงเนินนี้คนที่เช่าแบบธรรมดานี่ต้องเข็นจักรยานกัน สงสัยหมดแรง ของเราแบบไฟฟ้า ปั่นไปชมวิวไป ลมพัดเย็น ๆ วิวสุดลูกหูลูกตา คุ้มค่ามาก ๆ


แวะพักถ่ายรูปเล่นตรงนี้กันนิดหน่อยแล้วไปต่อค่ะ Step ลงเนินนี่มีกรี๊ด!!!!!!! (ที่นี่กรี๊ดได้คะไม่มีคนเลย สนุกมากชีวิตเหมือนตอนเด็ก ๆ ซนไปตามเรื่องตามราว ปั่นไปตามแผนที่)


ผ่านทุ่งข้าวสาลี


ทอแสงสีทอง


สีทองสลับสีเขียวยังกับภาพวาด  ด้านขวามือเห็นพุ่มต้นไม้ สามสี่ต้นไหมค่ะ ไกล ๆ นั่นคือ "Parent-Child" Tree แต่ละต้นนี่มีประวัตินะคะ


หลังจากปั่นขึ้นเนินลงเนิน พอเจอทางเรียบนี่สนุกไม่ต้องคอยระวังมาก แต่ถนนโล่นนาน ๆ จะมีรถยนต์ผ่านมาที


Ken & Mary Tree ตรงจุดนี้มีเชอร์รี่ขายด้วยหวานอร่อยไม่แพงด้วยกล่องละ 300 เยน


เชอร์รี่หวานดีคะ เป็นคุณยายขายอยู่ ท่านให้พวกเราชิม พอเรายกนิ้วโป้งบอกว่าอร่อยเยี่ยมมาก ยายแถมให้เยอะเลยคะ (ยายก็พูดภาษาญี่ปุ่นรัว ๆ หัวเราะรัว ๆ น่ารักดีคะ)


อีกสักรูป

บ๊าย ๆ บาย กลับก่อนนะ Biei ไว้รอบหน้าจะมาพักแถวนี้จะได้ปั่นจักรยานได้นาน ๆ กว่านี้ *** มีเส้นทางสำหรับปั่นจักรยานที่ Biei หลายเส้นทางมาก รอบหน้าจะไม่พลาดแล้ว


ได้เวลากลับ คืนจักรยานแล้วขึ้นรถ JR Furano Line เที่ยว 18.30 ไปยังสถานี ASAHIKAWA เพื่อต่อรถกลับ Sapporo


ถึงสถานี ASAHIKAWA เวลา 19.10 รอรถไฟสาย LTD.EXP SUPER KAMUI44 รถออกจากสถานีเวลา 20.00 ถึง Sapporo 21.25 เราใช้ pass ที่ซื้อมาเมื่อตอนเช้าคะ ก็ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับวันนี้ สนุกมาก ๆ ด้วย ที่ชอบอีกอย่างคือ sim2fly ตอนขึ้นรถไฟ Norokko เนื่องจากคนเยอะเราเลยหาเพื่อนไม่เจอ ก็ Chat คุยกันแทนไม่ต้องเสียเวลาตามหากัน


Otaru
ตอนแรกตั้งใจจะไปเก็บเชอร์รี่ก่อนแล้วมาแวะเี่ที่ยว Otaru แต่เนื่องจากเมื่อวานกินผลเชอร์รี่ไปเยอะแล้วตอนไปปั่นจักรยานที่ Biei ก็เลยตัดออกเหลือแค่ Otaru นั่งรถไฟไป Otaru ขาไปให้นั่งทางด้านขวามือ ขากลับให้นั่งทางด้านซ้ายมือ จะได้เห็นวิวทะเลตอนนั่งรถไฟคะ ค่าตั๋วประมาณ 600 กว่าเยน เรามีเงินอยู่ในบัตรคิตตี้อยู่แล้วเลยไม่ได้ซื้อตั๋ว


ไปถึง Otaru ยังเช้าอยู่แล้ว และก็ยังอิ่มด้วยจะไปไหนก่อนดี ก็เลยตัดสินใจขึ้นไปเดินเล่นถนนบนเนินเขา ผ่านหมู่บ้าน ปลูกดอกไม้และผักสวนครัวเกือบทุกบ้าน เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย ฆ่าเวลาเพื่อให้หิวจะได้กินข้าวที่ตลาดปลาแถว ๆ สถานี


ผ่านศาลเจ้าขึ้นไปด้านบนมองเห็นวิวทะเล


ดอกไฮเดนเยีย ตลอดทางเดิน
ชื่อสินค้า:   Hokkaido Summer
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่