(Re write) (Full) GHost Detective File 1 เหงา

กลางดึกในหมู่บ้านจัดสรรย่านชานเมือง ถนนคอนกรีตขนาด2เลนในหมู่บ้าน ที่เป็นหลุมเป็นบ่อบ้างตามกาลเวลา แสงสว่างของไฟข้างทางนั้นค่อนข้างห่าง แต่มันก็ไม่ถึงกับน่ากลัวเสียทีเดียว เพราะข้างทางนั้นเป็นบ้านคน

   "เอี๊ยดๆ" ในเวลา5ทุ่มกว่า แม้แต่เสียงจักรยานเก่าๆของเด็กสาว ม.ปลาย ที่ปั่นจักรยานเก่าๆคันเดียวของบ้านไปส่งข้าวให้พ่อของเธอที่เป็นยามเฝ้าอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน ซึ่งอิงดาวก็ปั่นจักรยานแบบนี้เป็นปกติ แต่วันนี้เธอรู้สึกว่ามันแปลกไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

   หมู่บ้านทวีสุข เป็นหมู่บ้านเล็กๆย่านชานเมืองของเมืองกรุง พ่อบอกว่าหมู่บ้านนี้มีอายุพอๆกับอิงดาว ด้านหน้าหมู่บ้านแม้จะติดถนนใหญ่ แต่ตรงหน้าหนู่บ้านเป็นป่ารก ด้านตรงข้ามนั้นเป็นทาวน์เฮาส์ ซึ่งส่วนมากจะเป็นเป็นร้านขายของหรือกิจการเล็กๆโดยมีลูกค้าสำคัญก็คือคนในหมู่บ้านนี่แหละ และตรงด้านป่ารกริมถนนมีต้นไทยใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง พ่อเคยเล่าให้อิงดาวฟังว่า เป็นต้นไทรที่มีเจ้าที่สถิตอยู่ จึงมีผ้าสามสีและศาลขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านสร้างไว้ให้ตั้งอยู่ และเมื่อผ่านจากโซนทาวน์เฮาส์ ถึงจะเป็นโซนบ้านเดี่ยว ซึ่งบ้านของอิงดาวอยู่ท้ายหมู่บ้าน

   "ฮื้อๆ" เสียงร้องไห้ลอยมาตามสายลม เพียงแต่มันเป็นเสียงร้องไห้ของเด็ก อิงดาวมองเห็นเด็กผู้ชายยืนร้องไห้อยู่หน้าต้นไทรใหญ่ เธอรู้สึกคุ้นๆหน้าเด็กชาย ซึ่งก็เป็นเด็กในหมู่บ้านเธอเอง

   "นี่น้องร้องไห้ทำไมเหรอคะ" อิงดาวปั่นจักรยานเข้าไปถาม เด็กผู้ชายค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา เด็กชายมีดวงตาบวมเป่งจากการร้องไห้ และคราบน้ำตาและน้ำมูก ดูหน้าสงสาร

   "ผมอยากกลับบ้านครับ ฮื้อๆๆๆ" เด็กชายตอบ พลางร้องไห้ และด้วยความที่ว่าเป็นเด็กในหมู่บ้าน อิงดาวจึงอาสาไปส่ง โดยให้เด็กชายนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง

อิงดาวปั่นจักรยานออกไปโดยที่เด็กชายคนนั้นซ้อนท้าย เขากอดเอวเธอแน่น มันก็ยังพอทำให้อิงดาวรู้สึกสบายใจได้อย่างว่าเธอได้สัมผัสถึงความอุ่นจากตัวของเด็ก

"แล้วน้องบ้านอยู่ที่ไหนเหรอจ้ะ " อิงดาวถาม เป็นคำถามเพื่อเริ่มบทสนธนา เพราะเธอรู้สึกว่าบรรยากาศมันเงียบผิดปกติ เพราะบางบ้านที่เค้าเลี้ยงหมา ก็น่าจะมีหมาเห่าบ้าง แต่นี่กลับไม่มีเสียงใดๆแม้แต่เสียงแมลง

"อยู่ตรงซอยท้ายหมู่บ้านครับ" เด็กน้อยพูดแบบสะอึกสะอื้น อิงดาวก็ได้แต่คอยปลอบ พอคุยกันไปคุยกันมาก็ได้ความว่าเด็กคนนี้ชื่อโหน่ง โหน่งอายุ8ขวบ พ่อแม่ทำงานกลับมาดึก ทำให้ทุกเย็นเขาชอบเล่นเกมส์ที่ร้านหน้าหมู่บ้าน และวันนี้เขากลับดึกไปหน่อยจะกลับบ้านก็กลัวพ่อแม่ตี เลยมาร้องไห้อยู่ที่หน้าต้นไทร

"ไม่เป็นไรนะเดี๋ยวกลับถึงบ้านก็บอกพ่อแม่เค้าดีละกัน แล้วก็ขอโทษเค้าซะนะ" เด็กชายตอบตกลง

บ้านของโหน่งอยู่ตรงซอยท้ายหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ตรงข้าวกับซอยบ้านอิงดาว เธอมาส่งโหน่งถึงหน้าบ้าน แต่บ้านของโหน่งปิดไฟหมด สงสัยว่าพ่อกับแม่คงนอนไปแล้ว อิงดาวจึงบอกกับเด็กว่า ถ้ามีอะไรก็ไปหาเธอที่บ้านได้ บ้านของเธออยู่ซอยตรงข้ามนี่เอง

หลังจากที่ส่งโหน่งเสร็จเธอก็กลับไปที่บ้าน อิงดาวเข้านอนทั้งทีเพราะรู้สึกเพลีย เธอหลับไปเมื่อหัวถึงหมอนไม่นาน

"ฮื้อๆ"เสียงร้องไห้ลอยมาจากความมืดมิด อิงดาวรู้สึกตัวขึ้นมาก็เจอกับบ้านหลังหนึ่ง นั่นเป็นบ้านของโหน่ง เด็กชายที่เธอเพิ่งไปส่ง บรรยากาศรอบตัวดูมืดมิดและหงอยเหงา เสียงร้องไห้ดังมาจากข้างหลังของเธอ พอเธอหันหลังกลับเธอก็พบโหน่งกำลังยืนร้องไห้

"น้อง น้องร้องไห้ทำไมจ้ะ"

"ผมเข้าบ้านไม่ได้ครับ คุณตาไม่ให้เข้าบ้าน" โหน่งชี้ไปที่บ้าน อิงดาวหันไปมอง เธอเห็นคนแก่ชุดขาวอยู่อยู่ตรงประตูบ้าน สีหน้าดุดัน ท่าทางน่ากลัว

"คุณตาคะ ทำไมไม่ให้น้องคนนี้เข้าบ้านล่ะคะ ดูซิร้องไห้ใหญ่แล้ว" อิงดาวถามชายแก่ แต่ไม่ว่าจะขอร้องยังไงคำตอบก็ยังเหมือนเดิม

"เด็กนี่จะเข้าบ้านไม่ได้ พ่อแม่เค้าไม่อนุญาติ" อิงดาวจนปัญญา สงสัยว่าพ่อแม่คงจะโกรธโหน่งจริงๆ

"งั้นมาอยู่บ้านพี่ก่อนก็ได้ พรุ่งนี้ค่อยกลับบ้านไปขอโทษพ่อกับแม่นะ"

"ครับ" โหน่งพยักหน้า แต่สีหน้าโหน่งเปลี่ยนไป โหน่งผิวซีเผือดเหมือนไม่มีเลือด คราบน้ำตาบนแก้มกลับกลายเป็นคราบเลือด อิงดาวตกใจ จนตื่น

(ฝันไปเหรอเนี้ย) เธอคิดไหนใจ พอดีโทรศัพท์มือถือของโทรดังเธอจึงรับโทรศัพท์

"ดาวเหรอลูก รีบมาหาพ่อหน่อย หมู่บ้านเรามีคนตาย"

...................................
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่