ความสำคัญของการเลือกเส้นทาง --- สำหรับมือใหม่

* เตือนก่อน ผมไม่ได้เก่งนะครับและอยู่ในตลาดไม่นานมาก แค่อยากจะแชร์ให้มือใหม่เฉยๆ มีอะไรเสริมได้บอกผมได้นะครับยินดีรับฟังครับ*****

    ตอนผมเข้ามาในตลาดการลงทุนแรกๆ ผมไม่ค่อยชอบกับการบอกว่า ผมสาย VI ผมสาย กราฟ หรืออะไรแบบนั้น แต่เมื่ออยู่นานมาเรื่อยๆ จึงได้เห็นความสำคัญของการระบุว่าจริงๆแล้วเราคือนักลงทุนแบบไหนสำหรับมือใหม่ ผมพลาดมาก่อน ไม่อยากให้มือใหม่เป็นเหมือนผม หากอยู่ในสินธรมานาน ก็จะพบกระทู้แบบนี้ประจำ และจะพบต่อไป
            "ผมติดหุ้นตัวนี้อยู่ทำไงดีครับ"
            "ผมขายตัวนี้มาซื้อตัวนี้ดีมั้ยครับ"
            "หุ้น XXX ขึ้นมามากแล้วผมขายดีมั้ยครับ"
    ที่เจอคำถามแบบนี้เพราะ เราไม่รู้ว่าเราลงทุนแบบไหน เราอยู่สายไหนกันแน่ เรามีเส้นทางแบบไหนกันแน่ การที่เราได้เลือกเส้นทางการลงทุน อย่างน้อยๆ มันก็ทำให้เรามีกรอบในการลงทุน "สำหรับการเริ่มต้น ผมคิดว่ากรอบ สำคัญมากครับ" การลงทุนเป็นศาสตร์ที่เหมือนทุกๆศาสตร์ครับ คุณต้องมีกรอบแล้วค่อยออกนอกกรอบ อย่างการฝึกวิทยายุทธ์ของหนังจีน เขาก็มีกรอบตามคัมภีร์ การฝึกกีตาร์ก็มีกรอบ มีสเกล หลังจากนั้นค่อย Improvise ดังนั้นการลงทุนมันก็ต้องมีกรอบมาก่อน ไม่เช่นนั้นเราจะหลงได้ครับ
ทำไมการมีกรอบถึงสำคัญ?
    
1. คุณจะไม่หลงทาง คุณจะแน่วแน่มากขึ้นกับแนวทางของคุณ การลงทุนมี 2 ทางใหญ่ๆ คือ สายคุณค่า(VI) กับสายดูราคา(เรียกให้ดูดีคือวิเคราะห์ทางเทคนิค(Technical Analysis.. TA)) การลงทุนใน 2 ทางนี้มันค่อนข้างจะสวนทางการอยู่ หากคุณไม่รู้ว่าจะอยู่สายไหนมันจะ งง ครับ เช่น
        " สาย VI จะมอง พื้นฐาน หากราคาลงมา เขาจะซื้อ , สาย TA ถ้าราคาลงมาหลุดแนวรับ เขาจะขาย, (อันนี้ทั่วๆไปนะครับ)" คุณจะเห็นว่า ราคาลงเหมือนกัน แต่ 2 สายจะทำไม่เหมือนกัน ถ้าหากคุณไม่รู้ว่าอยู่สายไหน คุณจะรน และจะไม่เป็นตัวของตัวเองทันที คุณอาจจะเคยได้ยิน เข้าซื้อแบบ VI แต่ขายแบบ TA อะไรแบบนี้ เช่น ตั้งใจซื้อหุ้น XXX เพราะดูพื้นฐานมาแล้วว่าดี(VI) แต่พอราคาลงมาหน่อยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน เราก็อาจจะไม่มั่นใจละว่าขายดีมั้ย แต่ถ้าเรามีกรอบให้ตัวเราสักเล็กน้อยว่าเราเลือกแล้วว่า เราคือ VI แท้ๆ เราก็จะถือต่อจนกว่าพื้นฐานจะเปลี่ยนค่อย
ขายออกไป  นี่คือความสำคัญของ กรอบ

     2. คุณจะทำการบ้านได้ถูกไม่เสียเวลาไปกับอย่างอื่น เพราะแน่นอนอยู่แล้วครับ สาย VI ก็ไปอ่านงบการเงิน ไปเข้าประชุมผู้ถือหุ้น อ่านหนังสือพิมพ์ ดูเทรนการเปลี่ยนแปลงของตลาด เทรนอนาคต อะไรแบบนั้น สายกราฟ ก็นั่งดูกราฟ วีค เดย์ ชั่วโมง ว่าสวยไม่สวย Harmonic ครบ Pattern หรือยัง แทงเทียน Engulfing หรือยัง มาติด Fib retrace ตรงไหนแล้ว น่าเข้าไม่น่าเข้า ทำนองนั้น  หากคุณไม่มีกรอบ คุณก็อาจจะไม่รู้ว่าต้องไปทำการบ้านตรงไหน
     3. ตลาดหุ้น มันแสดงออกได้อย่างไม่มีขอบเขต  ตรงนี้สำคัญมากครับ เมื่อตลาดมันแสดงออกมาได้อย่างไม่มีขอบเขต ยิ่งเราไม่มีกรอบ ไม่มีขอบเขตด้วย มันจะไปกันใหญ่ครับ  หากเรามีกรอบหน่อย อย่างน้อยๆเราก็พอจะได้ทำตามกรอบบ้าง
**************************
         เมื่อมาถึงระยะนึงแล้ว คุณจะรู้ว่าตัวคุณชอบแบบไหน หรือคุณจะ Hybrid หรือจะสาย VIVI หรือทำอะไรยังไงได้หมด ถ้าคุณมีแผนการลงทุน แล้วทำตามแผนนั้นๆ ตรงนี้คือสิ่งที่ต้องเรียนรู้ คือการทำแผนการลงทุน แผนการลงทุนมีความสำคัญมากๆๆๆๆๆ  เช่น
         - สาย VI อาจจะการดู EPS PE กำไรขาดทุน แต่อย่างน้อยๆ เขาก็จะคำนวณราคาที่เขาคิดว่ามี MOS ที่ดี บางท่านในสินธรเรียก แต้มต่อ ว่าราคานี้ควรเข้า ราคานี้ควรออก
        -  สาย TA ก็อาจจะดูแนวรับแนวต้าน Risk reward ratio นิสัยใจคอของตัวหุ้น patternของกราฟหุ้นตัวนั้นๆ ว่าราคานี้เข้าได้ ราคานี้ควรออก
               จะเห็นได้ว่า หากมีแผนที่ดี คุณจะไม่เกิดคำถามว่า ราคานี้ควรเข้าหรือยัง ราคานี้ควรออกหรือยัง เพราะคุณได้ทำแผนไว้หมดแล้ว
             "แผนการลงทุนว่าสำคัญแล้ว การทำตามแผนสำคัญกว่าครับ"
          แต่สิ่งที่เหมือนกันของนักลงทุนที่ดีไม่ว่าจะสายไหน คือ การทำการบ้านอย่างหนักหน่วง หนักหน่วงมากๆครับ ถึงจะประสบความสำเร็จได้ถ้าไม่ออกไปจากตลาดเสียก่อน มีคนเคยบอกไว้ว่า หากคุณจะเข้ามาเล่นๆ คุณก็จะได้เล่นๆเสียเงินเล่นๆกลับไปเช่นกัน เพราะฉะนั้นจริงๆแล้ว ผมไม่ค่อยชอบคำว่าเล่นหุ้นครับ เพราะมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นี่มันเงินจริงๆ ชีวิตจริง เจ็บจริง ครับ  วันนี้คุณได้ทำแผนการลงทุนหรือยัง??? ผมลาละครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่