#CaseStudyหุ้น
.
หุ้น ERW หรือ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) …
ทำไมจึงน่าสนใจ? แล้วมันจะไปต่อไหวมั้ย?
ตัวผมเองคิดว่าหุ้นตัวนี้เข้าข่าย “หุ้นสินทรัพย์มาก” ที่ผมเคยเขียนเป็นบทความเอาไว้
แถมยังพ่วงการเติบโตไปด้วยในตัวนั่นเองครับ …
.
ถ้าเรามาดูการเติบโตของรายได้ของ erw
ต้องบอกว่ามันเติบโตอย่างช้าๆ
และกำไรของกิจการยังคงแกว่งตัว ไม่แน่นอน (แต่มีแววว่ากำไรจะเติบโตในระยะหลัง)
สาเหตุก็เพราะ “การลงทุน” ที่ยังหนักหน่วงในแบรนด์ HOP INN
ซึ่งเป็น budget hotel ทีขยายตัวอย่างรวดเร็ว น่าจับตามองครับ
.
สิ่งที่ผมกล่าวว่าหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นสินทรัพย์ก็คือ
การที่เอราวัณนั้นมีโรงแรมใจกลางเมืองที่ยังไม่ปรับมูลค่าของสินทรัพย์ใหม่
และด้วยการขยายตัวอย่างรวดเร็วทำให้ หนี้สินต่อทุน สูงมาก สภาพคล่องก็ดูไม่ค่อยดี …
แต่เหตุการณ์เหล่านี้อาจจะหมดไปได้ ถ้าหากเจ้าของปรับมูลค่าของสินทรัพย์ในมือเสียใหม่
จะทำให้หนี้สินต่อทุนลดลง กู้เงินได้มากขึ้น สภาพคล่องก็จะดีขึ้นไปเองครับ …
.
สิ่งที่น่าสนใจอีกเรื่องสำหรับหุ้นตัวนี้ก็คือ budget hotel จะมี “จุดคุ้มทุน” หรือ Break Even Point (BVP) ที่ต่ำกว่าโรงแรมเต็มรูปแบบ …
จากที่ผมฟังข้อมูลมานั้น budget hotel มี bvp ต่ำเพียง 65 – 75% occupancy rate หรือของอัตราการเข้าพัก …
พูดง่ายๆ ก็คือ แค่คนมาพักเกินครึ่งไปหน่อยก็คุ้มทุนแล้ว ที่เหลือคือเก็บกำไร “ล้วนๆ” นั่นเอง
.
ERW มีเป้าจะมีห้องพักราว 10,000 ห้อง หากแต่ละห้องมีกำไรเฉลี่ย 10-15% ของรายรับ
และเลยจุดคุ้มทุนไปแล้ว ก็จะถึงจุดที่ “กำไรไหลมาเทมา”
ตามสูตรของการเล่นหุ้นโตเร็ว หรือ Growth Stock นั่นเองครับ …
.
มาดูเรื่องอื่นๆ ประกอบกันบ้าง …
.
ลักษณะการประกอบธุรกิจของ ERW
.
ERW บริษัทและบริษัทย่อยประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุนพัฒนาและดำเนินธุรกิจโรงแรมที่สอดคล้องกับทำเล
สถานที่ตั้ง และกลุ่มเป้าหมาย เป็นธุรกิจหลัก
โดยมีธุรกิจอื่น ได้แก่ ธุรกิจพื้นที่ให้เช่า และธุรกิจบริหารอาคาร
โดยธุรกิจที่น่าสนใจคือโรงแรมขนาดเล็กที่กำลังขยายไปในหลายพื้นที่
เป้าหมายของโรงแรม Hop Inn
.
สำหรับธีมการลงทุนหุ้นตัวนี้ผมเข้าใจว่าอนาคตอาจกลายเป็นกิจการทดแทนโรงแรมราคาประหยัด
โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เน้นพักประหยัด อันได้แก่ ชาวจีน นักท่องเที่ยวแบกเป้
และอีกกลุ่มที่น่าสนใจก็คือ กลุ่มที่ทำธุรกิจแล้วต้องเดินทางไปต่างจังหวัด
พวกเซลล์ที่ต้องวิ่งขายของต่างจังหวัด หรือต้องไปติดต่อธุรกิจ ไปติดต่องาน
แม้แต่อาจารย์ หรือนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ต้องไปเก็บตัวอย่าง ทำงานวิจัย ลงพื้นที่
พูดง่ายๆ ก็คือ กลุ่มนี้มีงบประมาณจำกัดในการพักอาศัยนั่นเอง
.
รุกต่างประเทศ
.
สิ่งที่น่าสนใจอีกประการก็คือ ทางบริษัทได้ไปลงทุนยังต่างประเทศ
โดยนำโมเดลโรงแรมราคาประหยัด หรือ Budget Hotel ไปรุกตลาดประเทศฟิลิปปินส์
ทำไมต้องเป็นประเทศนี้ ถ้าเราเทียบขนาดเศรษฐกิจของไทยที่ตกปีละกว่า 4 แสนล้านเหรียญ
ในขณะที่ฟิลิปปินส์มีขนาดเศรษฐกิจเพียง 1 แสนกว่าล้านเหรียญ
แต่ประชากรในประเทศสูงกว่าประเทศไทยเกือบเท่าตัว
หมายความว่าโอกาสในการเติบโตยังมีอยู่ค่อนข้างมาก
ในขณะที่หมู่เกาะของฟิลิปปินส์ยังมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ
ซ่อนอยู่เยอะพอสมควร ทำให้อนาคตอาจมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปชายหาดตามหมู่เกาะต่างๆ
เพิ่มขึ้นก็เป็นไปได้ครับ
.
ใครสนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่เพจนะครับ
.
(
นายแว่น-ลงทุน)
https://www.facebook.com/NaiwaenTammada
ERW หุ้นโรงแรมจะไปต่อไหวมั้ย?
.
หุ้น ERW หรือ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) …
ทำไมจึงน่าสนใจ? แล้วมันจะไปต่อไหวมั้ย?
ตัวผมเองคิดว่าหุ้นตัวนี้เข้าข่าย “หุ้นสินทรัพย์มาก” ที่ผมเคยเขียนเป็นบทความเอาไว้
แถมยังพ่วงการเติบโตไปด้วยในตัวนั่นเองครับ …
.
ถ้าเรามาดูการเติบโตของรายได้ของ erw
ต้องบอกว่ามันเติบโตอย่างช้าๆ
และกำไรของกิจการยังคงแกว่งตัว ไม่แน่นอน (แต่มีแววว่ากำไรจะเติบโตในระยะหลัง)
สาเหตุก็เพราะ “การลงทุน” ที่ยังหนักหน่วงในแบรนด์ HOP INN
ซึ่งเป็น budget hotel ทีขยายตัวอย่างรวดเร็ว น่าจับตามองครับ
.
สิ่งที่ผมกล่าวว่าหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นสินทรัพย์ก็คือ
การที่เอราวัณนั้นมีโรงแรมใจกลางเมืองที่ยังไม่ปรับมูลค่าของสินทรัพย์ใหม่
และด้วยการขยายตัวอย่างรวดเร็วทำให้ หนี้สินต่อทุน สูงมาก สภาพคล่องก็ดูไม่ค่อยดี …
แต่เหตุการณ์เหล่านี้อาจจะหมดไปได้ ถ้าหากเจ้าของปรับมูลค่าของสินทรัพย์ในมือเสียใหม่
จะทำให้หนี้สินต่อทุนลดลง กู้เงินได้มากขึ้น สภาพคล่องก็จะดีขึ้นไปเองครับ …
.
สิ่งที่น่าสนใจอีกเรื่องสำหรับหุ้นตัวนี้ก็คือ budget hotel จะมี “จุดคุ้มทุน” หรือ Break Even Point (BVP) ที่ต่ำกว่าโรงแรมเต็มรูปแบบ …
จากที่ผมฟังข้อมูลมานั้น budget hotel มี bvp ต่ำเพียง 65 – 75% occupancy rate หรือของอัตราการเข้าพัก …
พูดง่ายๆ ก็คือ แค่คนมาพักเกินครึ่งไปหน่อยก็คุ้มทุนแล้ว ที่เหลือคือเก็บกำไร “ล้วนๆ” นั่นเอง
.
ERW มีเป้าจะมีห้องพักราว 10,000 ห้อง หากแต่ละห้องมีกำไรเฉลี่ย 10-15% ของรายรับ
และเลยจุดคุ้มทุนไปแล้ว ก็จะถึงจุดที่ “กำไรไหลมาเทมา”
ตามสูตรของการเล่นหุ้นโตเร็ว หรือ Growth Stock นั่นเองครับ …
.
มาดูเรื่องอื่นๆ ประกอบกันบ้าง …
.
ลักษณะการประกอบธุรกิจของ ERW
.
ERW บริษัทและบริษัทย่อยประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุนพัฒนาและดำเนินธุรกิจโรงแรมที่สอดคล้องกับทำเล
สถานที่ตั้ง และกลุ่มเป้าหมาย เป็นธุรกิจหลัก
โดยมีธุรกิจอื่น ได้แก่ ธุรกิจพื้นที่ให้เช่า และธุรกิจบริหารอาคาร
โดยธุรกิจที่น่าสนใจคือโรงแรมขนาดเล็กที่กำลังขยายไปในหลายพื้นที่
เป้าหมายของโรงแรม Hop Inn
.
สำหรับธีมการลงทุนหุ้นตัวนี้ผมเข้าใจว่าอนาคตอาจกลายเป็นกิจการทดแทนโรงแรมราคาประหยัด
โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เน้นพักประหยัด อันได้แก่ ชาวจีน นักท่องเที่ยวแบกเป้
และอีกกลุ่มที่น่าสนใจก็คือ กลุ่มที่ทำธุรกิจแล้วต้องเดินทางไปต่างจังหวัด
พวกเซลล์ที่ต้องวิ่งขายของต่างจังหวัด หรือต้องไปติดต่อธุรกิจ ไปติดต่องาน
แม้แต่อาจารย์ หรือนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ต้องไปเก็บตัวอย่าง ทำงานวิจัย ลงพื้นที่
พูดง่ายๆ ก็คือ กลุ่มนี้มีงบประมาณจำกัดในการพักอาศัยนั่นเอง
.
รุกต่างประเทศ
.
สิ่งที่น่าสนใจอีกประการก็คือ ทางบริษัทได้ไปลงทุนยังต่างประเทศ
โดยนำโมเดลโรงแรมราคาประหยัด หรือ Budget Hotel ไปรุกตลาดประเทศฟิลิปปินส์
ทำไมต้องเป็นประเทศนี้ ถ้าเราเทียบขนาดเศรษฐกิจของไทยที่ตกปีละกว่า 4 แสนล้านเหรียญ
ในขณะที่ฟิลิปปินส์มีขนาดเศรษฐกิจเพียง 1 แสนกว่าล้านเหรียญ
แต่ประชากรในประเทศสูงกว่าประเทศไทยเกือบเท่าตัว
หมายความว่าโอกาสในการเติบโตยังมีอยู่ค่อนข้างมาก
ในขณะที่หมู่เกาะของฟิลิปปินส์ยังมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ
ซ่อนอยู่เยอะพอสมควร ทำให้อนาคตอาจมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปชายหาดตามหมู่เกาะต่างๆ
เพิ่มขึ้นก็เป็นไปได้ครับ
.
ใครสนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่เพจนะครับ
.
(นายแว่น-ลงทุน)
https://www.facebook.com/NaiwaenTammada