เจ็บศอกด้านนอก รักษาเบื้องต้นได้อย่างไร และสาเหตุอะไรทำให้เกิดได้บ้าง??

ในชีวิตประจำวันเรามักจะใช้แขนและศอกทำงานไม่ว่าจะเป็นงานหนักหรืองานเบา มักมีการกระดกข้อมือ
และเหยียดศอกอยู่เสมอ เช่น การปัดกวาดบ้าน การทาสี การตีกลอง ตลอดจนการเล่นกีฬาต่างๆ ขณะทำกิจกรรมต่างๆกล้ามเนื้อ
อาจทำงานอยู่ในลักษณะเกร็ง หรือทำงานซ้ำๆ กัน  ส่งผลทำให้เกิดอาการปวดบริเวณข้อศอกด้านนอกทำให้เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน
หรือดำเนินชีวิตได้   อาการปวดบริเวณข้อศอกนี้จัดเป็นกลุ่มโรคทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่พบบ่อย    
โรคข้อศอกเทนนิส หรือเอ็นกล้ามเนื้อข้อศอกอักเสบ ภาษาอังกฤษเรียกว่า tennis elbow  หรือศัพท์ทางการแพทย์ว่า lateral epicondylitis




สาเหตุการเกิดโรค

                  กล้ามเนื้อกลุ่มนี้มีหลายมัด บางมัดทำหน้าที่กระดกข้อมือ บางมัดทำหน้าที่กระดกนิ้ว และบางมัดทำหน้าที่ร่วมกับตัวอื่นๆ
ในการงอศอก  โดยจะมีจุดเกาะที่บริเวณปุ่มกระดูกที่อยู่ด้านนอกของข้อศอก เมื่อกล้ามเนื้อเหล่านี้ทำงานหนัก
จะส่งผลทำให้เกิดการบาดเจ็บเนื่องจากมีการฉีกขาดของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ซึ่งจะตามมาด้วยการอักเสบและกระบวนการรักษาตนเอง
หากกระบวนการนี้เป็นไปได้ด้วยดีผู้ป่วยก็จะหายเป็นปกติ  
                  แต่อย่างไรตาม เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับผู้ที่ต้องทำงาน เพราะในการทำงานมักมีการใช้กล้ามเนื้อเหล่านั้นซ้ำแล้วซ้ำอีกทำให้เกิดการบาดเจ็บซ้ำ จนกระทั่งเกิดการบาดเจ็บในลักษณะเรื้อรัง เช่น  กีฬาที่มีการใช้แร็กเก็ต การเหวี่ยงแขนในท่าหลังมือ (back hand)  หรือต้องกระดกข้อมือบ่อยๆ  งานสำนักงานที่มีการพิมพ์ดีด คอมพิวเตอร์บ่อยๆ งานในโรงงานอุตสาหกรรมที่พนักงานต้องใช้แรงดึง เกร็งข้อมือมากๆ  ช่างทาสี ฉาบปูน ที่ต้องปัดข้อมือขึ้นลงตลอดเวลา แม่บ้านที่ทำความสะอาดบ้านด้วยการปัดกวาด



อาการของโรค
          
                   ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บบริเวณข้อศอกเมื่อมีการทำงานของกล้ามเนื้อที่อยู่ด้านนอกของแขน  เมื่อทำการยืดหรือกดกล้ามเนื้อ
ก็จะมีอาการเจ็บแบบแหลมๆอยู่กับที่ หรือการเจ็บร้าวไปบริเวณอื่นได้  ซึ่งอาการเจ็บร้าวนี้จะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีปัญหาแบบเรื้อรัง
หรือเกิดการบีบรัดเส้นประสาทหรือการตึงตัวของเส้นประสาทร่วมด้วย
                   อาการเจ็บอาจเป็นลักษณะเป็นๆ หายๆ หรือเจ็บตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับระยะของโรค และลักษณะการเกิดของโรค
หากจากการใช้งานกล้ามเนื้อข้อศอกมากๆ หรือทันทีทันใดจะทำให้มีการฉีกขาดของเอ็นหรือกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง  
ส่งผลให้มีการอักเสบแบบเฉียบพลัน ซึ่งจะมีอาการปวด บวม และร้อนบริเวณด้านนอกของข้อศอก ขณะที่ถ้าเป็นการเกิดแบบค่อยเป็นค่อยไป ความรุนแรงของอาการจะขึ้นอยู่กับระยะของโรค โดยในระยะเริ่มแรก อาการจะไม่มากนัก ผู้ป่วยสามารถทำงานได้ตามปกติ แต่ถ้าทำงานต่อเนื่องนานๆ อาการจะมากขึ้น และถ้าไม่มีการรักษาหรือการจัดการที่ดี อาการจะมากขึ้นจนกระทั่งไม่สามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้



การตรวจร่างกาย

                   หากมีอาการปวดบริเวณด้านนอกของข้อศอก โดยอาการปวดนั้นเกิดขึ้นเมื่อกระดกและเกร็งข้อมือ หรือเหยียดศอกพร้อมกับงอข้อมือและกำมือ (กล้ามเนื้อจะถูกยืด) และหากเอามืออีกข้างกดบริเวณกล้ามเนื้อที่อยู่ด้านนอกของข้อศอกแล้วมีอาการเจ็บ
ให้สันนิษฐานในเบื้องต้นได้ว่า มีอาการของโรคข้อศอกเทนนิสดังกล่าว บางคนอาจมีอาการชา หรืออ่อนแรงร่วมด้วย จำเป็นต้องได้รับการตรวจร่างกายเพิ่มขึ้น เพราะลักษณะอาการชาและอ่อนแรงเป็นตัวบ่งบอกถึงการบาดเจ็บของระบบประสาท ซึ่งอาจจะมีการกดทับเส้นประสาทบริเวณคอ หรือไหล่ได้
      



การรักษา
                  
                    การรักษาจะเป็นไปตามระยะของโรค หากมีการอักเสบอยู่ ควรใช้ความเย็นประคบ (เช่น ถุงน้ำแข็งหรือแผ่นเย็นห่อผ้า)
หรือทำอัลตร้าซาวน์ และใช้ยาภายนอกลดการอักเสบ   นอกจากนั้นควรพักการใช้งานของแขน ร่วมกับการใช้ผ้ายืดกระชับหรือประคองกล้ามเนื้อและข้อ เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อ หากไม่มีการอักเสบแล้วควรออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่น ของกล้ามเนื้อ และควรปรับสภาพงานให้เหมาะสม เพื่อลดภาระการทำงานของกล้ามเนื้อลง เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงการเกิดโรคซ้ำ  หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์
    


การป้องกันการเกิดโรค

                   1. เมื่อทำงานแล้วเริ่มมีอาการเมื่อยบริเวณด้านนอกของข้อศอก ให้พักการทำงาน โดยอาจหยุดการทำงานเลย  
หรืออาจทำงานให้ช้าลง  เราอาจเปลี่ยนไปทำงานอย่างอื่นที่ไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อด้านนอกข้อศอก
                   2. เลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสม หรือใช้อุปกรณ์เสริม เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อ เช่น นักกีฬาต้องเลือกไม้แร็กเก็ต
ให้เหมาะสมเฉพาะบุคคลและเกมการเล่น พนักงานทาสีอาจใช้อุปกรณ์ เช่น ลูกกลิ้งที่เปลี่ยนการทำงานในลักษณะการปัดแปลงเป็นการใช้มือดันขึ้นลง
                   3. ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มความแข็งให้กล้ามเนื้อและสามารถสู้กับงานได้







บทความโดย ฟิสิคอลคลินิกกายภาพบำบัด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่