[CR] นั่งวีลแชร์เที่ยว สิงคโปร์ Travel in Singapore by Wheelchair

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกว่านี่เป็นกระทู้แรก หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ
ไม่รอช้า เข้าเรื่องกันดีกว่า ตามหัวข้อที่บอกว่า "นั่งวีลแชร์เที่ยวสิงคโปร" คือเราเดินไม่ได้ค่ะ ประสบอุบัตเหตุทำให้เดินไม่ได้เลยหลายปีแล้ว และต้องใช้วีลแชร์ในชีวิตประจำวัน วันนึงเกิดอยากไปเที่ยวต่างประเทศจึงได้วางแผนที่จะไป สิงคโปร์ เพราะรู้ๆ กันว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความสะดวกต่อวีลแชร์หรือรถเข็นพอสมควร เลยอยากไปลองดู เอาล่ะค่ะจองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยว ระหว่างวันที่ 15-17 กรกฎาคม 2017 ที่ผ่านมา ก่อนไปเที่ยวพยายามหารีวิวคนที่นั่งวีลแชร์ไปเที่ยวว่าเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่เจอเลย จนเป็นที่มาของกระทู้นี้ สำหรับคนพิการที่อยากไปเที่ยวต่างแดน หรือแม้กระทั่งใครที่มีญาติผู้สูงอายุ ที่ท่านเดินไม่ไหวแล้วหรือบาดเจ็บ ต้องนั่งวีลแชร์ ก็จะได้เป็นข้อมูลไม่มากก็น้อยนะคะ ยิ้ม การไปเที่ยวครั้งนี้เราไปเที่ยวกับแฟนสองคนค่ะ  เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน
ไปเที่ยวกันเล้ยยยยหัวใจหัวใจหัวใจ

วันแรก: เราตื่นตีสี่อาบน้ำแต่งตัว และออกไปสนามบินดอนเมืองตอนตีห้า ถึงสนามบินตอนเกือบๆหกโมงเช้า และเราก็เข้าไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบินที่จองมา เราบินของ Thai Lion Air ค่ะ เป็นครั้งแรกที่ลองของสายการบินนี้ พอเช็คอินเสร็จเราก็มีเวลาเหลือเล็กน้อย จึงได้ซื้อกาแฟกินก่อนเข้าไปใน Gate เพราะร้านข้างในจะแพงกว่าข้างนอกนะคะ เวลา Boarding ของเราคือ 06:55 น. Boarding Time จะบอกในตั๋วของเราหลังเช็คอินแล้ว มันหมายถึง เวลาที่ ประตูเครื่องบินเปิดให้ผู้โดยสารเข้าไปนั่งด้านในเครื่องนั่นเอง

ขออธิบายเรื่องการโหลดวีลแชร์ขึ้นเครื่องก่อนนะคะ เพราะสำคัญมาก สำหรับ Wheelchair User (หรือผู้ที่ใช้วีลแชร์อย่างเรา) สำหรับวีลแชร์ทั่วไป จะโหลดขึ้นเครื่องได้ไม่มีปัญหาอะไร วีลแชร์ทั่วไปหมายถึง วีลแชร์แบบที่เรานั่งนี้ค่ะ พูดง่ายๆ ก็คือต้องใช้แรงงคนที่นั่ง หมุนล้อวีลแชร์พาตัวเองไปนั่นเอง ภายในวีลแชร์จะไม่มีการติดตั้งใดๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า ไม่มีแบตเตอร์รี่ หรือไม่มีวงจรอิเลคทรอนิกส์ พนักงานที่สนามบินจะเรียกว่า วีลแชร์แบบ Manual (แมนน่วล) ตอนที่เราไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ พนักงานจะถามเราว่า ''วีลแชร์แบบไหนคะ?'' เราก็จะบอกว่า ''แบบ Manual ค่ะ'' ถ้าบอกแบบนี้ก็เป็นที่รู้กันว่า ไม่มีระบบไฟฟ้า หรือแบตเตอร์รี่ใดๆค่ะ สามารถนำขึ้นเครื่องได้เลย

ที่พนักงานถามแบบนี้ก็เพราะว่า หากวีลแชร์เรามีแบตเตอร์รี่ จะไม่สามารถโหลดขึ้นเครื่องได้นะคะ อันเนื่องมาจาก กฎความปลอดภัยของสายการบินนั่นเอง ถ้าหากเพื่อนคนไหนใช้วีลแชร์ที่มีแบตเตอร์แล้ว มีความจำเป็นที่ต้องนำไปด้วย แนะนำว่าก่อนจองตั๋วเครื่องบิน ให้โทรไปสอบถามข้อมูลทางสายการบินก่อนว่าถ้าในกรณีนี้ จะมีวิธีใดที่สามารถนำขึ้นเครื่องไปด้วยได้ ถ้าหากสายการบินนึงไม่ได้ ก็ให้ลองโทรถามหลายๆ สายการบินดูนะคะ ที่บอกเงื่อนไขหรือข้อมูลเลยไม่ได้ ก็เพราะว่าคนพิการมีข้อกำจัด และความต้องการที่ต่างกันไปในแต่ละคน เรื่องนี้ต้องดูเป็นเคสๆไป จึงแนะนำให้โทรไปสอบถาม และบอกข้อมูลของเราให้พนักงานฟังอย่างละเอียดดีกว่าค่ะ
เพราะแต่ละสายการบิน จะมีวิธีจัดการกับเรื่องนี้แตกต่างกันไป และนั่นก็หมายถึงเราอาจต้องจ่ายเพิ่มกับบริการนี้ หรือใครที่นั่งวีลแชร์ไฟฟ้าหรือที่มีแบตเตอร์รี่ ที่สามารถจะเปลี่ยนมานั่งวีลแชร์แบบธรรมดาไปได้ (Manual) ก็อาจจะแก้ไขปัญหาโดยการ เปลี่ยนมานั่งวีลแชร์แบบธรรมดาไปนะคะ เมื่อทำแบบนี้แล้วการเดินทางของเราจะได้ราบลื่น ไม่ติดปัญหาอะไรค่ะ

พูดถึงเรื่องแบตเตอรี่ ใครๆก็ต้องพก Power Bank (แบตสำรอง) ไปไว้ชาร์จโทรศัพท์มือถือกันนะคะ กฎของสายการบินง่ายๆก็คือ ให้เรานำแบตสำรอง ติดตัวนำขึ้นเครื่องไปด้วย เพราะสายการบินจะไม่อนุญาตให้ใส่กระเป๋าโหลดใต้เครื่อง (เหมือนกับเรื่องวีลแชร์ของเรานั่นเอง) และแบตเตอร์รี่สำรองของเรา ต้องมีความจุไฟฟ้า ต่ำกว่า 32,000 mAh และมีข้อความบอกความจุบนตัวแบตสำรองไว้อย่างชัดเจน จึงสามารถจะนำขึ้นได้ค่ะ เพราะแฟนเราเคยเจอกรณีนี้มาแล้ว นำแบตสำรองที่มีความจุต่ำกว่าที่กำหนดไป แต่ไม่มีข้อความระบุความจุไฟฟ้าชัดเจน เจ้าหน้าที่ก็จะไม่อนุญาตให้เรานำขึ้นไปนะคะ (เราก็เคารพกฎไม่นำไปด้วยค่ะ)

เข็นเข้าไปหา Gate ของเรากันค่ะ แต่ก่อนอื่นต้องผ่านด่าน ตม. ก่อนหรือย่อมาจาก ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง นั่นเอง เอกสารสำคัญที่เราต้องแสดงต่อ ตม. ก่อนขึ้นเครื่องทั้งขาไปและขากลับคือ Passport และตั๋วเครื่องบิน ขาดสองอย่างนี้ไม่ได้บินนะคะ ใครที่ยังไม่มี Passport ก็ไปทำรอได้เลย การทำ Passport จะรอประมาณอาทิตย์นึงก็ได้แล้วค่ะ ช่องเข้าแถวให้ ตม. ตรวจ สำหรับวีลแชร์หรือผู้พิการจะได้ช่องทางพิเศษนะคะ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะเรียกเราไปเอง ไม่ต้องไปรอเข้าแถวกับคนปกติ รวมทั้งผู้ติดตามของเราก็จะได้ไปด้วยค่ะ และก็ผ่าน ตม. มาอย่างเรียบร้อย

ตามทางจะมีป้ายบอกนะคะ ว่า Gate ของเราต้องไปทางไหน เมื่อเข้ามาแล้ว หากใครอยากเข้าห้องน้ำก่อนบินก็ทำได้ตอนนี้เลยค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปห้องน้ำมา แต่มีห้องน้ำสำหรับคนพิการ ไปเข้ามาแล้วสะดวกค่ะ

เดินมาไม่ไกลมากก็ถึง Gate แล้วค่ะ


มาถึงตอนสำคัญอีกอย่าง สำหรับผู้ที่นั่งวีลแชร์ต้องจำไว้นะคะ การเปิดให้เข้าไปในเครื่องนั้น เมื่อเปิดประตูแล้ว เจ้าหน้าที่จะมาเชิญผู้โดยสารที่นั่งวีลแชร์ เข้าไปนั่งในเครื่องก่อน เมื่อนั่งเรียบร้อย จึงอนุญาตให้ผู้โดยสารท่านอื่นเข้าไป เพื่อความสะดวกของเราและผู้โดยสารท่านอื่นนั่นเองค่ะ

เจ้าหน้าที่เข็นมาถึงประตูเครื่องแล้ว เครื่องบินมีความกว้างพอ รถวีลแชร์เราเข้าไปได้ค่ะ

มาอธิบายเรื่องที่นั่งกันหน่อย เจ้าหน้าที่สายการบินของ Thai Lion Air ได้บอกไว้ว่า 5 แถวแรกบนเครื่องบิน จะถูกล็อคไว้สำหรับ Senior หรือผู้ที่ต้องการพิเศษ (ว่าง่ายๆคือสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ เด็กหรือคนท้อง) เพราะแถวด้านหน้าจะกว้างและอยู่ใกล้พนักงานที่สุด เพื่อความสะดวกในการเข้าช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที อันนี้เราถือว่าดีมากๆค่ะ สำหรับสายการบิน Low Cost แต่การบริการไม่ Low ไปด้วย เราได้นั่งแถว A และวีลแชร์ก็เข้าไปเทียบได้ถึงที่นั่ง เมื่อนั่งแล้วจะเห็นได้ว่ามีที่ว่างด้านหน้าเหลือเฟือ ส่วนคนนั่งข้างๆ คือแฟนเองค่ะ อ่อ..เราขึ้นเครื่องโดยงวงช้างนะคะ สะดวกมากๆ


เครื่ิองได้กำลังออกจากงวงช้างแล้ว เตรียมที่จะไปลานบินเพื่อ Take Off เครื่อง ขึ้นไปแล้วค่ะ ตอนนี้ต้องปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดนะคะ ทำตามเจ้าหน้าที่บอกอย่างเคร่งครัดค่ะ

เมื่อเครื่อง Take Off เรียบร้อย เราอยู่บนฟ้าแล้ว เอารูปวิวกรุงเทพสวยๆจากด้านบนมาฝากค่ะ
ชื่อสินค้า:   วีลแชร์เที่ยวในสิงคโปร์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่