สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป...
ใช่ค่ะตามหัวข้อแล้วฟังดูน่าดีใจเนาะ ... แต่ ณ ตอน นี้ ทำไม " ฉันถึงรู้สึกหนักใจจัง "
...เริ่ม ต้น...
คือเรากับแฟน ทำธุรกิจร่วมกันได้สักพัก คบกันมาได้5ปี มีอยู่วันนึง แฟนก็พูดถึง
เรื่องแต่งงานขึ้นมา เพราะตอนนั้นแฟนเราเค้าก็คิดว่า เริ่มมีเงินก้อนนึงแล้ว (ต้องบอกก่อนนะคะ
ว่าเราไม่ได้เร่งรัดอะไรแฟนเราที่จะให้เค้ามาจัดงานแต่งนี่) พออยู่ดีๆเค้าก็พูดขึ้นมาว่า
จะจัดงานแต่งช่วงเดือนสิงหา 60' นี้ เราก็ตกใจนะ เพราะตอนที่เค้าบอกนี่ช่วงปลายๆเดือน
มิถุนา 60' เองเราก็ทักท้วงไปว่ามันเร็วไปไหม... เค้าก็บอกมาว่า " ถ้าไม่แต่ง ตอนนี้ ก็ไม่ต้องแต่ง"
ในใจตอนนั้นนะบอกตรงๆว่า มันเร็วไปว่ะ ใจก็อยากจะให้เลื่อนไปช่วงปลายปี.. เราก็ถามเค้าไป
ว่า ทำไมต้องรีบขนาดนี้ ...เค้าตอบว่า " ช่วงนี้เริ่มมีเงินก้อนเลยอยากรีบแต่งรีบจัดการ กลัวเงินจะ
หมดถ้าเลื่อนไปช่วงอื่น " ....เราก็ อืม OK ...
....เริ่ม จัดการรายละเอียด....
พอได้วันชัวร์ๆว่าจะจัดงานช่วง ปลายๆสิงหาคม เราก็เตรียมการต่างๆนานา คือเราตั้งใจกันว่าจะจัดงาน
แบบง่ายๆเน้นประหยัดๆสุดๆ เพราะแฟนเราไม่อยากสิ้นเปลืองมาก อ่าาา... เราก็เริ่ม ปรึกษากับป
ผู้ใหญ่ ก็บอกเราว่างานเราจะจัดการเองทุกสิ่งอย่างเลยไม่ขอรบกวนผู้ใหญ่ ...เริ่มจากเรื่องขวบขันหมาก
เราก็ถามผู้ใหญ่นะว่ามันจำเป็นไหม เค้าก็บอกมีก็ได้ไม่มีก็ได้ เราก็ตัดเลยจร้าา ไม่เอาขบวนขันหมาก กลัวเปลือง
มีแต่ ยกน้ำชา และ ก็กินเลี้ยงเลย (นี้คือรายละเอียดวันงานค่ะ)
เริ่ม พิมพ์การ์ด - ไปจองถ่ายพรีฯ - หาของชำร่วยของรับไหว้(อันนี้มีญาติช่วยค่ะ) - จองโต๊ะจีน ประมาณ20ตัว
พอเริ่มเครีย อะไรๆไปเยอะแล้ว ถ่ายพรีฯเสร็จแล้ว
....จุดเริ่มต้น ของ ความหนักใจ....
1.พ่อแม่เรา เค้าแยกทางกัน (จากกันด้วยไม่ดีเท่าไหร่)พ่อก็ไม่อยากมาเจอแม่ แต่แม่ไม่มีปัญหาอะไรเราก็เห็นใจพ่อที่ไม่อยากมาเจอแม่ แต่ใจเราก็อยากให้พ่อมา เพราะครั้งนึงในชีวิตของลูกสาวคนนึงเราก็อยากให้ทั้งพ่อและแม่มาแสดงความยินดีกับเราด้วย (ประเด็นนี้ก็ทำให้เราร้องไห้ไปยกใหญ่อยู่)
2.เรื่องค่าใช้จ่าย พอพูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายใครๆก็คงหนักใจเหมือนๆกันเนาะ แต่คือของเราอ่ะเหมือนงบมันบีบด้วยแหละ ประเด็นแรกคือค่าเดินทาง ทางฝั่งของพ่อกับแม่เรา เราก็ตั้งใจกันไว้ว่าจะช่วยพ่อกับแม่กัน ทั้งค่าเดินทางค่าที่พัก1คืน คือมากันโดยเช่ารถตู้กันมาส่วนนึง ค่ารถตู้ก็หมื่นต้นๆ(ของแม่)เพราะระยะทางมันไกลมากกก ของทางฝั่งพ่อก็พอประมาณไม่เท่าไหร่อยู่ที่หลักพันต้นๆ แต่ที่พักเราก็จองไว้ให้เค้าพร้อมเลย...พอคุยรายละเอียดกับแฟนเค้าก็บอกจะช่วย พ่อ5,000 แม่5,000 เท่านี้....อืมมม ค่ะ จอจบไป เราก็คิดในใจไว้แล้วล่ะ เด่วไม่พอเราจะเอาเงินเก็บเราเองออกไปช่วยอีก
....แล้วเราก็นั่งคำนวน นู้นนี่นั้นกันไปคุยกันไปเครียดกันไป แฟนเราเค้าก็เลยพูดขึ้นมาว่า " เหงแบบนี้ แล้ว ไม่อยากจัดเลย " !!! " กลัวเงินจะหมด " หึหึ ...เรานั่งฟังก็สตั้นไปเหมือนกันนะ !!!!!! บอกตรงๆในใจตอนนั้นคือ เสียใจเหมือนกันแหละ ....เฮ้ออ!!! เราก็เงียบไปเลยไม่พูดอะไร เพราะพูดไม่ออก มันจุกๆหน่อยๆ กลับมาบ้านก็ไม่ได้คุยรัย ณ ตอนนี้คิดนะ ว่าอยากหนี้ไปไกลๆ จะได้ไม่ต้องจัดมันหรอกงานอ่ะ จะได้ไม่เปลืองเงินที่ร่วมทำร่วมสร้างมาด้วยกัน แฟนเราก็จะได้ไม่ตั้งมานั่งกลัวว่า เงินจะหมด!!!!!! เฮ้อออออออออ
......ปล. บทเรียนกับเหตุการณ์นี้เราคิดว่า " ถ้าไม่พร้อมจริงๆ อย่าจัดเลยงานแต่ง อ่ะ "
ฉันกำลังจะแต่งงาน แต่!!!!!!
ใช่ค่ะตามหัวข้อแล้วฟังดูน่าดีใจเนาะ ... แต่ ณ ตอน นี้ ทำไม " ฉันถึงรู้สึกหนักใจจัง "
...เริ่ม ต้น...
คือเรากับแฟน ทำธุรกิจร่วมกันได้สักพัก คบกันมาได้5ปี มีอยู่วันนึง แฟนก็พูดถึง
เรื่องแต่งงานขึ้นมา เพราะตอนนั้นแฟนเราเค้าก็คิดว่า เริ่มมีเงินก้อนนึงแล้ว (ต้องบอกก่อนนะคะ
ว่าเราไม่ได้เร่งรัดอะไรแฟนเราที่จะให้เค้ามาจัดงานแต่งนี่) พออยู่ดีๆเค้าก็พูดขึ้นมาว่า
จะจัดงานแต่งช่วงเดือนสิงหา 60' นี้ เราก็ตกใจนะ เพราะตอนที่เค้าบอกนี่ช่วงปลายๆเดือน
มิถุนา 60' เองเราก็ทักท้วงไปว่ามันเร็วไปไหม... เค้าก็บอกมาว่า " ถ้าไม่แต่ง ตอนนี้ ก็ไม่ต้องแต่ง"
ในใจตอนนั้นนะบอกตรงๆว่า มันเร็วไปว่ะ ใจก็อยากจะให้เลื่อนไปช่วงปลายปี.. เราก็ถามเค้าไป
ว่า ทำไมต้องรีบขนาดนี้ ...เค้าตอบว่า " ช่วงนี้เริ่มมีเงินก้อนเลยอยากรีบแต่งรีบจัดการ กลัวเงินจะ
หมดถ้าเลื่อนไปช่วงอื่น " ....เราก็ อืม OK ...
....เริ่ม จัดการรายละเอียด....
พอได้วันชัวร์ๆว่าจะจัดงานช่วง ปลายๆสิงหาคม เราก็เตรียมการต่างๆนานา คือเราตั้งใจกันว่าจะจัดงาน
แบบง่ายๆเน้นประหยัดๆสุดๆ เพราะแฟนเราไม่อยากสิ้นเปลืองมาก อ่าาา... เราก็เริ่ม ปรึกษากับป
ผู้ใหญ่ ก็บอกเราว่างานเราจะจัดการเองทุกสิ่งอย่างเลยไม่ขอรบกวนผู้ใหญ่ ...เริ่มจากเรื่องขวบขันหมาก
เราก็ถามผู้ใหญ่นะว่ามันจำเป็นไหม เค้าก็บอกมีก็ได้ไม่มีก็ได้ เราก็ตัดเลยจร้าา ไม่เอาขบวนขันหมาก กลัวเปลือง
มีแต่ ยกน้ำชา และ ก็กินเลี้ยงเลย (นี้คือรายละเอียดวันงานค่ะ)
เริ่ม พิมพ์การ์ด - ไปจองถ่ายพรีฯ - หาของชำร่วยของรับไหว้(อันนี้มีญาติช่วยค่ะ) - จองโต๊ะจีน ประมาณ20ตัว
พอเริ่มเครีย อะไรๆไปเยอะแล้ว ถ่ายพรีฯเสร็จแล้ว
....จุดเริ่มต้น ของ ความหนักใจ....
1.พ่อแม่เรา เค้าแยกทางกัน (จากกันด้วยไม่ดีเท่าไหร่)พ่อก็ไม่อยากมาเจอแม่ แต่แม่ไม่มีปัญหาอะไรเราก็เห็นใจพ่อที่ไม่อยากมาเจอแม่ แต่ใจเราก็อยากให้พ่อมา เพราะครั้งนึงในชีวิตของลูกสาวคนนึงเราก็อยากให้ทั้งพ่อและแม่มาแสดงความยินดีกับเราด้วย (ประเด็นนี้ก็ทำให้เราร้องไห้ไปยกใหญ่อยู่)
2.เรื่องค่าใช้จ่าย พอพูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายใครๆก็คงหนักใจเหมือนๆกันเนาะ แต่คือของเราอ่ะเหมือนงบมันบีบด้วยแหละ ประเด็นแรกคือค่าเดินทาง ทางฝั่งของพ่อกับแม่เรา เราก็ตั้งใจกันไว้ว่าจะช่วยพ่อกับแม่กัน ทั้งค่าเดินทางค่าที่พัก1คืน คือมากันโดยเช่ารถตู้กันมาส่วนนึง ค่ารถตู้ก็หมื่นต้นๆ(ของแม่)เพราะระยะทางมันไกลมากกก ของทางฝั่งพ่อก็พอประมาณไม่เท่าไหร่อยู่ที่หลักพันต้นๆ แต่ที่พักเราก็จองไว้ให้เค้าพร้อมเลย...พอคุยรายละเอียดกับแฟนเค้าก็บอกจะช่วย พ่อ5,000 แม่5,000 เท่านี้....อืมมม ค่ะ จอจบไป เราก็คิดในใจไว้แล้วล่ะ เด่วไม่พอเราจะเอาเงินเก็บเราเองออกไปช่วยอีก
....แล้วเราก็นั่งคำนวน นู้นนี่นั้นกันไปคุยกันไปเครียดกันไป แฟนเราเค้าก็เลยพูดขึ้นมาว่า " เหงแบบนี้ แล้ว ไม่อยากจัดเลย " !!! " กลัวเงินจะหมด " หึหึ ...เรานั่งฟังก็สตั้นไปเหมือนกันนะ !!!!!! บอกตรงๆในใจตอนนั้นคือ เสียใจเหมือนกันแหละ ....เฮ้ออ!!! เราก็เงียบไปเลยไม่พูดอะไร เพราะพูดไม่ออก มันจุกๆหน่อยๆ กลับมาบ้านก็ไม่ได้คุยรัย ณ ตอนนี้คิดนะ ว่าอยากหนี้ไปไกลๆ จะได้ไม่ต้องจัดมันหรอกงานอ่ะ จะได้ไม่เปลืองเงินที่ร่วมทำร่วมสร้างมาด้วยกัน แฟนเราก็จะได้ไม่ตั้งมานั่งกลัวว่า เงินจะหมด!!!!!! เฮ้อออออออออ
......ปล. บทเรียนกับเหตุการณ์นี้เราคิดว่า " ถ้าไม่พร้อมจริงๆ อย่าจัดเลยงานแต่ง อ่ะ "