เกริ่นเรื่องก่อนนะคะ เรากับแฟนหมั้นกันวันที่ 2/5/63 ก่อนที่จะเริ่มพิธีหมั้น ผู้ใหญ่ฝั่งเรากับฝั่งแฟน ก็มานั่งตกลงค่าสินสอดกันก่อน คือตกลงกันไว้ว่า เงิน 130,999 บาท กับทอง 1 บาท แต่ไม่ได้ตกลงกันว่าจะแต่งปีไหน พอมาเริ่มพิธี ก็พูดกันเริ่มเงินกับทองเสร็จ พ่อเราก็พูดว่า แต่งปีหน้า เราก็แบบห้ะ! ในใจก็ไม่ได้พูดขัดอะไร หลังจากนั้นเราก็คุยกับแม่ แต่งปีหน้าหาเงินไม่ทันหรอกนะ ( เรากับแฟนช่วยกันหา เพราะแฟนเราไม่มีพ่อกับแม่ แม่ได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนพ่อเขาก็มีครอบครัวใหม่ไปแล้ว แฟนเราเรียนไม่จบ ปวช.ออกกลางคัน ก็เลยไปหางานทำที่ระยอง ตอนระยะเวลาที่เขาทำงาน เขาไม่เคยส่งเงินให้คนที่เคยเลี้ยงดูเขาเลย จนกระทั่งมาเจอเรา เราเป็นคนบอกให้เขาส่งเงินไปให้คนที่เลี้ยงดูบ้าง ) เรากับแฟนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าพร้อมค่อยแต่งแล้วกัน แต่เดือนที่ผ่านมา ยายโทรมาบอกจะให้แต่งปลายปีนี้ ซึ่งเรายังไม่มีเงินเลย พึ่งจะซื้อทอง 1 บาท กับ แหวน 1 สลึงไป เราก็บอกยายไปว่า ยังไม่พร้อม ยังไม่มีเงินแต่ง มีแต่ทอง ยายก็ไม่ฟังอะไร ให้บอกแต่แฟนเราไปคุยกับ ญาติผู้ใหญ่ฝั่งเขา พอน้าของแฟนรู้ ก็มาว่าครอบครัวเราหน้าเงิน มีแต่จะเอาเงิน จะรีบไปไหน ซึ่งเราได้ยินก็เคืองๆ ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ( เรามาทำงานกับญาติฝั่งแฟน เป็นธุรกิจส่วนตัว) ตอนพ่อโทรมาเล่นด้วย เราก็เล่าให้พ่อฟังว่าเรายังไม่พร้อมยังไม่มีเงินแต่ง พ่อเอาแต่พูดว่าไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะต้องหาเงินแต่ง ให้ผู้ใหญ่ฝั่งแฟนเราช่วย ให้เราหาเท่าที่ทำได้ นอกนั้นก็ให้เขาหามาเพิ่มจนครบ แค่มาวางหน้างานก็จบ พ่อไม่เอาเงิน จบงานพ่อจะคืนทุกบาท แต่หลังจากที่คุยกับพ่อเสร็จ ประมาณอาทิตย์นึง ตาของแฟนก็เข้าโรงบาลผ่าตัดไตข้างนึง แล้วเราก็ได้หยุดงาน ไม่มีงานทำทั้งแฟนและเรา คือตอนนี้เครียดมาก ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เรายังไม่พร้อมเรื่องเงิน และเราก็ไม่อยากกู้เงินมาแต่งด้วย เครียดมากจนบ้างครั้งก็คิดฆ่าตัวตาย คิดไปต่างๆว่าไม่อยากแต่งแล้ว มันถูกกดดัดทั้งสองฝั่ง เครียดจนบ้างครั้งก็แอบร้องไห้คนเดียว
พ่อแม่และยายต้องการให้แต่งงานปลายปีนี้ แต่เรายังไม่พร้อม