คู่มือ Atomic Blonde (2017) สำหรับคนที่ดูไม่รู้เรื่อง (สปอยล์ทั้งเรื่อง)

ก่อนอื่นมาดู ชื่อประเทศ, ชื่อหน่วยงาน, ชื่อตัวละคร, และหน้าตาของแต่ละฝ่ายให้ขึ้นใจกันก่อน ถ้าจำได้จะดูหนังเข้าใจง่ายขึ้นเยอะ

เรื่องราวจะเกิดที่กรุงเบอร์ลินประเทศเยอรมันในช่วงสงครามเย็น ที่มีกำแพงเบอร์ลินซึ่งโซเวียตสร้างไว้กันคนทางฝั่งตนย้ายไปตะวันตก

ประเทศเยอรมนีตะวันตก ปกครองโดยพันธมิตร 3 ประเทศคือ อังกฤษ, อเมริกา, ฝรั่งเศส
ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปกครองโดยสหภาพโซเวียต ซึ่งประกอบด้วยประเทศรัสเซีย และรัฐหรือเมืองขึ้นต่าง ๆ ของรัสเซีย

อังกฤษ (MI6)

1. หัวหน้าหน่วย ซี (C)
2. ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส เอริค เกรย์ (Eric Gray)
3. สายลับ เดวิด เพอร์ซิวัล (David Percival)
4. สายลับ จิมมี่ หรือ เจมส์ แกสคอยน์ (James Gasciogne)
5. นางเอก หรือ สายลับ ลอร์เรน บรัวตั้น (Lorraine Broughton)


อเมริกา (CIA)

เอ็มเม็ตต์ เคิร์ซเฟลด์ต (Emmett Kurzfeldt)


ฝรั่งเศส (DGSE)

สายลับ เดลฟีน ลาซาล (Delphine Lasalle)


สหภาพโซเวียต (KGB)

1. สายลับ อเล็กซานเดอร์ เบรโมวิช (Aleksander Bremovych)
2. สายลับ ยูริ แบ็คติน (Yuri Bakhtin)


เยอรมนีตะวันออก หรือ รัสเซีย (Stasi)

ตำรวจลับ สปายกลาส (Spyglass)


และนี่คือเรื่องราวทั้งหมด ค่อย ๆ อ่านตามไปช้า ๆ ทีละข้อนะ ถ้าจำชื่อคนไหนไม่ได้ให้เลื่อนขึ้นไปดูรูปข้างบนนะครับ

1. สปายกลาส มอบ The List ให้ แกสคอยน์ เพื่อแลกกับการหลบหนีไปฝั่งตะวันตก

2. The List คือไมโครฟิล์มเก็บรายชื่อและข้อมูลลับของสายลับที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ในเยอรมันทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก ซ่อนอยู่ในนาฬิกาข้อมือที่สร้างโดย ช่างทำนาฬิกา ซึ่งเป็นพ่อค้าคนกลางในตลาดมืด

3. สปายกลาส จึงโดนตามล่าในข้อหาขายชาติ ที่ดันเอารายชื่อไปให้ MI6 ของอังกฤษ

4. แกสคอยน์ ข้ามฝั่งไปหา สปายกลาส ตามที่นัดไว้เพื่อคุ้มกันให้เขาและครอบครัวข้ามแดน แต่ดันโดนสายลับฉายา แซ็ตเชล ทรยศ ขายความลับให้ KGB รู้

5. แกสคอยน์  จึงต้องรีบหนีกลับฝั่งตะวันตกก่อน แต่ก็โดน แบ็คติน ตามมาฆ่าเพื่อชิงรายชื่อในนาฬิกาตามที่ เบรโมวิช สั่งให้มา

6. เมื่อ สปายกลาส ไม่เจอ แกสคอยน์ จึงต้องสืบหา MI6 คนอื่นจากข้อมูลรายชื่อที่เขาจำไว้ ซึ่งก็คือ เพอร์ซิวัล แล้วก็นัดพบกันที่งานปาร์ตี้เพื่อให้พาข้ามแดนแทนตามข้อตกลงที่ MI6 สัญญาไว้ ถึงแม้ตอนนี้จะไม่มีรายชื่อของจริงให้ แต่เขาก็จำข้อมูลรายชื่อทั้งหมดได้

7. ลูกน้อง เบรโมวิช จับกลุ่มวัยรุ่นในปาร์ตี้ได้ตอนเข้าไปหาตัว สปายกลาส ซึ่ง เพอร์ซิวัล พาเขาหนีได้เสียก่อน แล้ว เบรโมวิช ก็ซ้อมวัยรุ่นคนหนึ่งให้คนอื่นดูเพื่อถามถึง สปายกลาส

8. เบรโมวิช รู้ว่า แบ็คติน ไม่ยอมเอารายชื่อมาให้ และคงเก็บไว้ขายให้คนอื่น เลยสั่งให้ลูกน้องตามหาเขาด้วย

9. ที่ประเทศอังกฤษ เอริค เรียกนางเอกมาประชุมเพื่อรายงานสรุปภารกิจที่นางเอกเพิ่งทำเสร็จ ให้เขา, เอ็มเม็ตต์, และซีฟัง

10. ภารกิจของนางเอกคือติดต่อ เพอร์ซิวัล ให้เป็นผู้ช่วยเพื่อเอา The List มาจาก แบ็คติน และสืบหาตัวเพื่อสังหารสายลับ 2 หน้า แซ็ตเชล

11. โดยให้นางเอกปลอมเป็นทนายชื่อ อลิซาเบธ ลอยด์ ที่พ่อแม่ของ แกสคอยน์ ส่งมารับศพกลับอังกฤษ ซึ่งมีการหลอกไม่ให้ใครรู้ว่า แกสคอยน์ เป็นเป็นสายลับ ด้วยการระบุในเอกสารว่าเป็นพนักงานที่ทำงานในบริษัททนายเดียวกันกับนางเอก แต่คนละแผนก

12. นางเอกไปถึงเยอรมันตะวันตก โดยมีสายลับฝรั่งเศส ลาซาล ที่มาสืบหารายชื่อเช่นกันคอยจับตาดูอยู่ แล้วนางเอกก็โดนคนของ เบรโมวิช ชิงลักพาตัวตัดหน้า เพอร์ซิวัล เพื่อถามว่ามาทำไมเพราะรู้ว่าเป็น MI6 แต่ก็โดนนางเอกจัดการ โดยมี เพอร์ซิวัล ขับรถตามมาและซ้อมคนที่มาลักพาตัวเพื่อส่งสารถึง เบรโมวิช ว่าอย่ามายุ่ง

13. เนื่องจากนางเอกทำวีซ่าเข้าประเทศโดยระบุว่ามารับศพ จึงต้องรีบไปติดต่อ แต่หากได้รับเร็วก็จะถูกเยอรมันส่งเธอและศพกลับทันที ทำให้ไม่มีเวลาทำภารกิจ เธอจึงต้องถ่วงเวลาด้วยการใส่เลขหนังสือเดินทางในเอกสารรับศพผิด

14. นางเอกค้นบ้าน แกสคอยน์ เจอรูปเขาถ่ายคู่กับ เพอร์ซิวัล และรู้ว่า เพอร์ซิวัล คงแอบแจ้งตำรวจให้มาจัดการนางเอก เพราะเขาคนเดียวที่รู้ว่าเธอจะมาค้นที่นี่

15. เพอร์ซิวัล บอกนางเอกว่า แบ็คติน คงยังไม่ได้เอารายชื่อให้ใคร เธอจึงไปสืบข่าวในคาเฟ่เซ็นทรัลตามนามบัตรที่คนของ เบรโมวิช ให้ไว้ตอนลักพาตัวเธอ

16. นางเอกเจอ เบรโมวิช แล้ว ลาซาล ช่วยไม่ให้เขาจับนางเอกไป

17. เพราะไม่มีข่าวของ แบ็คติน และรายชื่อที่เขาได้ไปในฝั่งตะวันตก นางเอกจึงติดต่อ ช่างทำนาฬิกา เพื่อเข้าถึงเครือข่ายในฝั่งตะวันออก เนื่องจากเธอไม่ไว้ใจ เพอร์ซิวัล ถึงแม้เขาจะมีเส้นสายจนสามารถเข้าออกได้ทั้งสองฝั่งก็ตาม

18. เจ้าหน้าที่ ตม. โทรแจ้ง KGB ว่านางเอกข้ามแดนมา ทำให้ เบรโมวิช สั่งลูกน้องสะกดรอยตามและจับตัว แต่เธอก็หนีไปพบผู้นำเครือข่ายคนนั้นตามพิกัดที่ ช่างทำนาฬิกา ให้ไว้ได้

19. ผู้นำเครือข่ายบอกไม่รู้ข่าว แบ็คติน และบอก ช่างทำนาฬิกา เล่าว่ามีคนถามถึงรายชื่อหลายคน จากนั้นก็คุยถึงเรื่องเครือข่ายหนุ่มสาวทางฝั่งนี้ที่จะช่วยนางเอก

20. แบ็คติน ข้ามไปฝั่งตะวันตกและไปหา ช่างทำนาฬิกา เพื่อเสนอขายรายชื่อ จากนั้นเขาก็โดน เพอร์ซิวัล สะกดรอยตามฆ่าเพื่อแก้แค้นให้ แกสคอยน์ เพื่อนของเขา จากนั้นก็ชิงรายชื่อไป

21. ถึงตรงนี้นางเอกเพิ่งจะรู้ว่า สปายกลาส ท่องจำรายชื่อในไมโครฟิล์มไว้ได้ทั้งหมดจากปาก เพอร์ซิวัล ที่ปิดบังมาตลอด

22. นางเอกตกลงกับ เพอร์ซิวัล ว่าจะช่วยพา สปายกลาส และครอบครัวข้ามแดนเพราะเขามีค่าพอ ๆ กับรายชื่อ ทั้งหมดเดินปะปนไปกับขบวนประท้วงของกลุ่มเครือข่ายที่ไม่เอาคอมมิวนิสต์

23. เพอร์ซิวัล แอบบอกแผนให้ KGB รู้ เลยมาซุ่มยิงนางเอกและ สปายกลาส แต่เธอรู้ทันสั่งให้กลุ่มเครือข่ายกางร่มบังสายตามือปืน

24. เพอร์ซิวัล จึงต้องยิง สปายกลาส ด้วยตัวเองเพื่อจะได้เหลือเขาเพียงคนเดียวที่ครอบครองรายชื่อไว้ จากนั้นเขาก็พาลูกเมียของ สปายกลาส ข้ามฝั่งไปหา เอ็มเม็ตต์ ได้สำเร็จ

25. นางเอกพา สปายกลาส หนี แต่ก็ช่วยเขาจากการจมน้ำไม่ได้

26. นางเอกจับได้ว่า เพอร์ซิวัล แอบใส่เครื่องติดตามแบบฝรั่งเศสในเสื้อโค้ท เพื่อให้ดูเหมือนเป็นฝีมือของ ลาซาล

27. ลาซาล โทรไปต่อว่า เพอร์ซิวัล เรื่องเครื่องติดตาม และบอกว่ารู้ความลับที่เขาฆ่า แบ็คติน และเอารายชื่อไป จนเขาต้องมาฆ่าเธอปิดปาก

28. นางเอกเจอซองใส่รูปที่ ลาซาล แอบถ่ายตอน เพอร์ซิวัล ฆ่า แบ็คติน เธอจึงรู้ว่าเขามีรายชื่อจึงไปหาและเจอตัวขณะที่เขากำลังหนี เขาบอกรู้ว่านางเอกคือใครจากที่ได้อ่านใน The List และหลอกว่ารายชื่อไม่ได้อยู่ที่เขาแล้ว กำลังถูกส่งไปให้ MI6 นางเอกไม่เชื่อ และพูดว่าเขาคือ แซ็ตเชล เขาเลยรู้ว่าเธอตั้งใจให้จบแบบนี้คือใส่ร้ายเขา จากนั้นเธอก็ฆ่าเขาและเก็บนาฬิกาที่มีรายชื่อไว้เอง

29. เพอร์ซิวัล ทุ่มเททำงานทุกอย่างให้ MI6 มาหลายปี ฝังตัวในเบอร์ลินจนมีเส้นสายมากมาย แต่ ซี กับ เอริค กลับไม่เห็นหัวเขา ให้เขาเป็นเพียงผู้ช่วยซาตานหรือนางเอก เขาจึงต้องหักหลัง

30. นางเอกตัดต่อเทปเสียงที่เธอแอบบันทึกไว้ตลอดเวลาที่ทำภารกิจมอบให้ MI6 โดยทำให้เหมือนว่า เพอร์ซิวัล ก็คือ แซ็ตเชล ส่วนรายชื่อเธอโกหกว่าไม่รู้หายไปไหน

31. เนื่องจากนางเอกทำให้ ซี และ เอริค เชื่อว่า แซ็ตเชล คือ เพอร์ซิวัล ซึ่งเป็นคนของ MI6 เอง หากรายงานนี้รั่วไหลจะไม่เป็นผลดีกับอังกฤษ ซี จึงสั่งว่าภารกิจและการสนทนาในห้องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น คือให้ทำลายบันทึกทิ้ง

32. นางเอกถูก ซี สั่งให้ไปพักร้อน 10 ปี เป็นการพักงานที่เธอทำงานพลาดเอารายชื่อมาไม่ได้

33. นางเอกในฐานะ แซ็ตเชล นัดพบ เบรโมวิช ที่ฝรั่งเศส บอกจะขายนาฬิกาที่มีรายชื่อให้ โดยเขารู้ว่า แซ็ตเชล คือนางเอก เพราะ เพอร์ซิวัล เป็นคนบอก ซึ่งที่นางเอกนัดพบก็เพื่อฆ่าเขาปิดปากเรื่องที่เธอเคยติดต่อขายความลับต่าง ๆ ให้เขาในนาม แซ็ตเชล

34. เบรโมวิช และลูกน้องจะฆ่านางเอก แต่โดนเธอฆ่าแทน ส่วนนาฬิกาที่ให้เขาไปนั้นเธอเอาไมโครฟิล์มรายชื่อออกไปก่อนแล้ว

35. นางเอกขึ้นเครื่องบินที่กำลังจะบินไปที่ แลงลีย์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่ตั้งของ CIA

36. บนเครื่องเธอพบ เอ็มเม็ตต์ ที่ทักทายว่า "กลับบ้านกันเถอะ" เธอก็ตอบว่า "กลับบ้านกัน และดีใจที่ตีบทแตก" ประกอบกับการที่เธอกล้าเรียกเขาว่า "เฒ่าตุ๋ย" ด้วยนั้น แสดงให้เห็นว่ารู้จักและสนิทสนมกันมานาน ดังนั้นเธอจึงไม่ใช่ MI6 ที่แปรพักตร์มาเข้ากับ CIA

37. แต่เธอคือเจ้าหน้าที่ CIA ที่สหรัฐส่งไปแฝงตัวเป็นสายลับอยู่ใน MI6 เพื่อชิงรายชื่อมาเป็นของอเมริกา จะได้มั่นใจว่าไม่มีใครได้ไปแม้กระทั่ง MI6 ของอังกฤษเอง เพื่อให้กำแพงเบอร์ลินโดนทุบตามประกาศของประธานาธิปดีสหรัฐที่ออกข่าวตอนต้นเรื่อง

38. ถ้าลองย้อนไปดูฉากที่นางเอกฝันถึง แกสคอยน์ ซึ่งมีคำพูดบอกว่าเรารู้ตัวจริงของ แซ็ตเชล แล้ว และ แกสคอยน์ บอกให้เธอหนี ซี่งนี่น่าจะเป็นสิ่งที่นางเอกเล่าให้ เอริค ฟังในฉากหนึ่งว่า "เธอไปค้นห้อง แกสคอยน์ เพราะเขาเคยบอกบางอย่างให้รู้ก่อนเธอจะจากมา" ดังนั้นสิ่งที่เขาบอกก็คือ รู้ว่าเธอคือ แซ็ตเชล ทำให้เธอต้องทรยศ แกสคอยน์ โดยยืมมือ KGB เพื่อหวังให้ฆ่าเขาแทนเธอ

39. นางเอกหรือ แซ็ตเชล จึงไม่ใช่แค่สายลับ 2 หน้า แต่เป็นถึง 3 หน้า คือเป็น CIA ที่ปลอมเป็น MI6 และขายความลับให้ KGB

40. หากรายชื่อ เดอะลิสต์ (The List) เป็นเหมือน Atomic Bomb หรือระเบิดปรมาณูที่ทำให้สงครามเย็นยืดเยื้อไปอีก 40 ปีแล้วละก็ นางเอก ชาร์ลิซ (Charlize Theron) ก็เป็น Atomic Blonde สายลับสาวผมบลอนด์สวยกระจุยวัย 40 ที่สามารถยับยั้งการทำลายล้างของระเบิดลูกนั้นได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่