ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าต้องไม่มีที่อยู่ เพราะเอาบ้านไปทำธุรกรรมกับคนรู้จัก แต่แล้วบ้านก็ต้องหลุดมือผมไป ทำให้ ข้าพเจ้าไม่มีที่อยู่ เลยใช้วิธีเดินไปเรื่อยๆ เพื่อจะไปหาที่สักที่ที่ข้าพเจ้าซุกหัวนอน ข้าพเจ้าเดินไปเรื่อยๆ อย่างล่องลอย และ ไร้จุดหมาย คิดอะไรไม่ออก ในตัวมีเสื้อผ้าชุดเดียว โทรศัพท์และเงินนิดหน่อย ข้าพเจ้าไม่รู้จะปรึกษาใครดีเพราะไม่มีคนรู้จัก หลังจาก เดินไปเรื่อยๆจนเหนื่อย ตอนนั้นเวลามั้นก็ดึกมาก อากาศค่อนข้างหนาว ข้าพเจ้าก็เลยแอบเข้าข้างทางเพื่อพักตั้งสติ ที่นั่นเป็นบ้าน ครึ่งปูนครึ่งไม้แต่เขาใด้รื้อหลังคาและฝาบ้านออกทั้งสี่ด้าน
เหลือแต่ปูนความสูงประมาณศอกนึง ข้าพเจ้า เลยไปนั่ง อาศัยปูนเตี้ยๆเป็นที่กำบัง ข้าพเจ้าเอาแต่นั่งร้องฟูมฟาย จน หลับไปทั้งน้ำตา แต่ข้าพเจ้าก็ต้องตื่น ในเวลาดึก เพราะอากาศมัน หนาวมาก หนาวจับใจ ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมา เจอกับความจริง ก็ต้องร้องให้อีกครั้ง เพราะอยากให้มันเป็นแค่ความฝัน ข้าพเจอเดินไปเดินมาก็ไปเจอ สายไฟ ข้าพเจ้าคิดอะไรไม่ออก บวกกับ หนาว ข้าพเจ้าใช้สายไฟ ไปมัดกับคานบ้านทำเป็นบ่วง หลังจากทำบ่วงเรียบร้อย ข้าพขอขมาบิดามารดา และเจ้าของสถาณที่ เสร็จแล้วข้าพเจ้า ก็ขอนอนหลับอีกครั้ง ในใจคิดว่า ตื่นมาหากไม่เห็นบ่วงนี้แสดงว่าข้าพเจ้าฝันไป แต่ถ้ายังเห็นบ่วงนี้แสดงว่ามันเป็นความจริง และข้าพเจ้า จะจบชีวิตทันที ข้าพเจ้าหลับไปไม่นานก็ต้องตื่น ตื่นมาก็พบกับบ่วงนั้น ข้าพเจ้าสะอื้น และเดินตรงไปที่บ่วงแบบไม่ลังเล ตามอย่างที่ตั้งใจ ในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังจะเอา ศรีษะเข้าไปในบ่วง ก็ใด้ยินเสียงนึงผุดมาในหัวข้าพเจ้า เสียงนั้นมันไม่ใช่ความคิด ลักษณะเหมือนกับที่เราคุยกับตัวเอง เสียงนั้นว่า จะตายก็รีบตายช้าทำไมข้าจะใด้ไปสักที ผมชะงักพูดกับตัวเอง นี่เสียงใคร แล้ว ก็ใด้ยินเสียงนั้นอีก แต่ทว่าใด้ยินอยู่ข้างหลังข้าพเจ้า พูดว่าเร็วสิ เอาเลยๆไอหนุ่ม เสียงนั้นชัดเจนมาก จนข้าพเจ้ารู้ใด้เลยว่ามันคืออะไร แต่เสียงนั้นไม่ใด้มีท่าทีคุกคามข้าพเจ้า ข้าพเจ้าลงมาจากก้อนอิฐ นั่งฟังให้แน่ใจ ว่ามันคืออะไร สิ่งนั้นข้าพเจ้าไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต และข้าพเจ้าก็หลับไป แต่ข้าพเจ้าไม่หนาวแล้วรู้สึกใด้ว่ามันอุ่นอย่างชัดเจน เหมือนตอนเราเป็นเด็กอยู่ในออ้มกอดของ บิดามารดา ข้าพเจ้ารู้สึกใด้ว่าโดนลูบศรีษะ กล่อมข้าพเจ้า เหมือนมีผ้าห่มที่มองไม่เห็นคลุมร่างกายข้าพเจ้าอยู่ ข้าพเจ้าใด้ยินเสียงนินทาข้าพเจ้า ว่าไอหนุ่มนี่ขี้สงสัยชะมัด พร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข ของคนแก่ ทั้งชายหญิง ข้าพเจ้าตื่นมาก็เจอกับลูกแมวตัวเล็ก หูแหว่ง นอนอยู่ที่พุง ข้าพเจ้าก็เอามันมาลูบ มันก็คงชะตากรรมเดียวกัน ข้าพเจ้าสงสารมัน ข้าพเจ้าเลยไปปลดบ่วงลงมา พามันเดินไปด้วย เดินไป เดินไปไม่นานข้าพเจ้าก็เจอป้ายรับสมัครงาน พร้อมที่พัก เขารับข้าพเจ้าทันที ตอนนี้ข้าพเจ้านั่งทบทวนดูก็ใด้แต่รู้สึกขอบคุณ สถาณที่นั้น ตอนนี้ ข้าพเจ้ายัง เดินไปเล่นที่นั่นบ่อยๆ จะอะไรก็ช่างแต่เขาช่วยชีวิตข้าพเจ้า และให้แมวมาด้วยตัวนึง
วินาทีที่ข้าพเจ้าคิดสั้น
เหลือแต่ปูนความสูงประมาณศอกนึง ข้าพเจ้า เลยไปนั่ง อาศัยปูนเตี้ยๆเป็นที่กำบัง ข้าพเจ้าเอาแต่นั่งร้องฟูมฟาย จน หลับไปทั้งน้ำตา แต่ข้าพเจ้าก็ต้องตื่น ในเวลาดึก เพราะอากาศมัน หนาวมาก หนาวจับใจ ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมา เจอกับความจริง ก็ต้องร้องให้อีกครั้ง เพราะอยากให้มันเป็นแค่ความฝัน ข้าพเจอเดินไปเดินมาก็ไปเจอ สายไฟ ข้าพเจ้าคิดอะไรไม่ออก บวกกับ หนาว ข้าพเจ้าใช้สายไฟ ไปมัดกับคานบ้านทำเป็นบ่วง หลังจากทำบ่วงเรียบร้อย ข้าพขอขมาบิดามารดา และเจ้าของสถาณที่ เสร็จแล้วข้าพเจ้า ก็ขอนอนหลับอีกครั้ง ในใจคิดว่า ตื่นมาหากไม่เห็นบ่วงนี้แสดงว่าข้าพเจ้าฝันไป แต่ถ้ายังเห็นบ่วงนี้แสดงว่ามันเป็นความจริง และข้าพเจ้า จะจบชีวิตทันที ข้าพเจ้าหลับไปไม่นานก็ต้องตื่น ตื่นมาก็พบกับบ่วงนั้น ข้าพเจ้าสะอื้น และเดินตรงไปที่บ่วงแบบไม่ลังเล ตามอย่างที่ตั้งใจ ในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังจะเอา ศรีษะเข้าไปในบ่วง ก็ใด้ยินเสียงนึงผุดมาในหัวข้าพเจ้า เสียงนั้นมันไม่ใช่ความคิด ลักษณะเหมือนกับที่เราคุยกับตัวเอง เสียงนั้นว่า จะตายก็รีบตายช้าทำไมข้าจะใด้ไปสักที ผมชะงักพูดกับตัวเอง นี่เสียงใคร แล้ว ก็ใด้ยินเสียงนั้นอีก แต่ทว่าใด้ยินอยู่ข้างหลังข้าพเจ้า พูดว่าเร็วสิ เอาเลยๆไอหนุ่ม เสียงนั้นชัดเจนมาก จนข้าพเจ้ารู้ใด้เลยว่ามันคืออะไร แต่เสียงนั้นไม่ใด้มีท่าทีคุกคามข้าพเจ้า ข้าพเจ้าลงมาจากก้อนอิฐ นั่งฟังให้แน่ใจ ว่ามันคืออะไร สิ่งนั้นข้าพเจ้าไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต และข้าพเจ้าก็หลับไป แต่ข้าพเจ้าไม่หนาวแล้วรู้สึกใด้ว่ามันอุ่นอย่างชัดเจน เหมือนตอนเราเป็นเด็กอยู่ในออ้มกอดของ บิดามารดา ข้าพเจ้ารู้สึกใด้ว่าโดนลูบศรีษะ กล่อมข้าพเจ้า เหมือนมีผ้าห่มที่มองไม่เห็นคลุมร่างกายข้าพเจ้าอยู่ ข้าพเจ้าใด้ยินเสียงนินทาข้าพเจ้า ว่าไอหนุ่มนี่ขี้สงสัยชะมัด พร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข ของคนแก่ ทั้งชายหญิง ข้าพเจ้าตื่นมาก็เจอกับลูกแมวตัวเล็ก หูแหว่ง นอนอยู่ที่พุง ข้าพเจ้าก็เอามันมาลูบ มันก็คงชะตากรรมเดียวกัน ข้าพเจ้าสงสารมัน ข้าพเจ้าเลยไปปลดบ่วงลงมา พามันเดินไปด้วย เดินไป เดินไปไม่นานข้าพเจ้าก็เจอป้ายรับสมัครงาน พร้อมที่พัก เขารับข้าพเจ้าทันที ตอนนี้ข้าพเจ้านั่งทบทวนดูก็ใด้แต่รู้สึกขอบคุณ สถาณที่นั้น ตอนนี้ ข้าพเจ้ายัง เดินไปเล่นที่นั่นบ่อยๆ จะอะไรก็ช่างแต่เขาช่วยชีวิตข้าพเจ้า และให้แมวมาด้วยตัวนึง