สามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่ เข้าฉายที่จีนวันแรกโดนวิจารณ์ในแง่ลบดังกระหึ่ม สวนทางกับกระแสบวกในตอนแรก

*คำเตือน* กระทู้นี้เต็มไปด้วย spoil และคำวิจารณ์แบบตรงไปตรงมา ซึ่งอาจจะทำให้แฟนคลับดาราบางท่านไม่พอใจ ต้องขออภัยล่วงหน้าเป็นอย่างยิ่ง


เมื่อวานนี้ (3 ส.ค) ภาพยนตร์จีนฟอร์มยักษ์เรื่องสามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่ หรือที่ใช้ชื่ออังกฤษว่า Once Upon A time ได้เข้าฉายที่จีนเป็นวันแรก โดยสร้างจากนิยายชื่อดังในชื่อเรื่องเดียวกัน และเวอร์ชั่นซีรีส์ก็เพิ่งออกอากาศไปเมื่อต้นปี โกยเรตติ้งและเสียงชมไปอย่างล้นหลาม

ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์นี้ ช่วงเปิดตัวตอนแรกและมีภาพโปรโมทพระนางออกมา คือ หลิวอี้เฟยและหยางหยาง ทำเอาแฟนคลับดาราและแฟนนิยายกรี๊ดกันสนั่น เพราะจากภาพที่ปล่อยออกมานั้นทั้งสองคนดูงดงามและซีจีฉากต่างๆก็สวยงาม แต่พอเริ่มมีภาพและตัวอย่างปล่อยออกมาเรื่อยๆ ก็ทำให้แฟนนิยายเริ่มที่จะผิดหวัง ทั้งคอสตูม ทรงผมประหลาด ซีจี visual effect ที่มากจนล้น รวมถึงดาราสมทบคนอื่นๆที่ถูกจับแต่งหน้าแต่งตัวซะจนหลุดโลก Avatar จนน่าสงสารนักแสดงเลยทีเดียวเชียว

ซึ่งตรงกันข้ามกับเวอร์ชั่นซีรีส์ที่ตอนปล่อยภาพโปรโมทออกมาช่วงแรกนั้นโดนก่นด่าซะแทบไม่มีชิ้นดี ทำเอานักแสดงหมดกำลังใจไปตามๆกัน แต่พอออกฉายเท่านั้นกลับกลายเป็นฮิตถล่มทลาย โกยทั้งเรตติ้ง ยอดวิว และกระแสของซีรีส์จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่จางหายไปเลยด้วยซ้ำ เพราะเขารักษาบทประพันธ์ แกนหลักสำคัญของเรื่องคงไว้ทั้งหมด แอคติ้งนักแสดงแต่ละคนแทบจะเต็มร้อย นี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวอร์ภาพยนตร์รู้สึกกดดันมากจนต้องเร่งปล่อยภาพและตัวอย่างออกมาเยอะๆ พาดาราเดินสายจนตัวแทบจะหักกันแล้วมั้ง

พอถึงเมื่อวานที่ภาพยนตร์ออกฉายแน่นอนว่าเป็นไปตามคาดที่ทำรายได้เกิน 100 กว่าล้านได้ในวันแรก แต่กระแสวิจารณ์กลับตรงกันข้ามกับรายได้อย่างสิ้นเชิง ผมขอวิจารณ์ในฐานะคนที่ไปแอบดูมาแล้ว (ไม่ได้ภูมิใจที่ได้ไปแอบดูนะ เพียงแต่ดูแล้วอยากมาวิจารณ์ก็เท่านั้น) ไม่ได้วิจารณ์จากแค่รูปที่เห็นอย่างเดียว บอกได้แค่สี่คำนี้ว่า "สร้างมาทำไม"

1. เอานิยายรักโรแมนติกเทพเซียนโบราณของจีน มาดัดเป็นนิยายบู๊ปนโรแมนติกสไตล์ยุโรป ไม่คงกลิ่นอายความเป็นจีนไว้เลย
2. คอสตูมแนวแฟนตาซีหลุดโลก บอกไม่ถูกว่าแนวไหน ออกสไตล์ยุโรปปนแขกปนจีนปนอินเดีย .... มั่วกันไปหมด
3. บทที่ถูกยำซะเละเทะ ซีนสำคัญของเรื่องถูกเปลี่ยนใหม่หมด ที่เห็นชัดๆคือซู่ซู่รักอาหลีมากจนจะพาไปกระโดดแท่นประหารเซียนด้วยกัน ระหว่างทางที่น่ายน่ายสาวใช้วิ่งพาไป ก็ไปเจ๊อะเข้ากับซู่จิ่นกลางทางแล้วซู่จิ่นก็เป็นคนพาซู่ซู่ไปโดดแท่นเอง ต่อมาพี่เยี่ยตามมาทัน ยืนคุยร่ำลาสั่งเสียก่อนนางจะกระโดดลงไป....แต่พี่เยี่ยชะงักและไม่กระโดดตามลงไป (แต่ซีนตอนที่ซู่จิ่นแกล้งตกลงไปน่ะ พี่เยี่ยรีบโดดตามไปช่วยทันที พอเป็นเมียรักฮีกลับไม่โดดตาม ....ผู้กำกับคิดอะไรอยู่ (มาแก้ไขว่าสรุปแล้วโดดตามแต่มีชะงักกึกอยู่ก่อน ที่ผมดูภาพมันไม่ชัด และเรื่องตัดสลับไปมาเลยไม่เห็น ต้องขอโทษด้วยครับ)
4. เคมีพระนางที่ตอนแรกแฟนคลับพากันปลื้มสุดฤทธิ์ (ทั้งๆที่ยังไม่ได้ดูกันเลยด้วยซ้ำ) ผลออกมาคืออย่าได้จับสองคนนี้มาเล่นคู่กันอีกเลย
5. คาแร็ตเตอร์ของพระนางถูกจับเปลี่ยนไปจากนิยายหมด เยี่ยหัวกลายเป็นหนุ่มน้อยขี้เล่น ในขณะที่ป๋ายเฉี่ยนกูกูกลายเป็นนางเอกจอมโวยวาย ไม่มีมาดซ่างเสิน ปล่อยโฮร้องไห้โว๊กว๊ากโวยวายต่อหน้าคนอื่นบ่อยมากแทบจะทั้งเรื่อง
5. ฉากแทบทั้งเรื่องใช้ blue screen หมด แทบจะไม่มีไปถ่ายทำนอกสถานที่เลย  ขนาดซีนในป่าท้อหรือชิงชิวก็ทำ cg หมด เราจะเห็นว่าเวอร์ซีรีส์นั้นยังมีภูเขา แม่น้ำ ดอกไม้ แหล่งสถานที่สวยๆที่ยกกองไปถ่ายทำกันจริงๆ แต่ภาพยนตร์ไม่มีเลย ดูออกว่าเป็น cg แทบทั้งหมด สงสัยคิวดาราคงไม่ได้จริงๆ

เดี๋ยวจะหาว่าผมอคติไปเอง งั้นลองอ่านจากสื่อทั้ง 3 link นี้ดูนะฮะ

http://www.bestchinanews.com/Entertainment/13500.html
http://www.bestchinanews.com/Entertainment/13496.html
http://www.bestchinanews.com/Entertainment/13493.html

สรุปคร่าวๆจากทั้ง 3 link ได้ว่าแม้ภาพยนตร์จะทำรายได้ดี แต่ไม่มีอะไรเป็นที่น่าจดจำและตราตรึงใจได้เท่าซีรีส์เลยสักนิด ส่วนที่รายได้ดีก็มาจาก 3 สาเหตุหลัก คือ 1.ดารานำไอดอล 2.คนส่วนใหญ่อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงเมื่อเทียบกับเวอร์ซีรีส์ และ 3.จากภาพโปรโมทในตอนแรกทำให้อยากไปดู  ยังวิจารณ์ถึงคอสตูมที่ดูอู้ฟู่หรูหราจนแปลกประหลาด ไม่รู้จะเรียกว่าสไตล์ชาติไหน (ง่ายๆคือไม่บ่งบอกความเป็นจีน) สุดท้ายยังวิจารณ์ถึงการแสดงและผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมาของหลิวอี้เฟยหลังจากที่เธอหันหลังให้วงการซีรีส์และไปเอาดีด้านภาพยนตร์ว่า ถ้าไม่รุ่งก็อย่าฝืน ให้กลับมาวงการซีรีส์เถอะ (ตรงนี้โดนใจผมมาก)

กระแสแง่ลบขนาดนี้ โอกาสฉายในไทยน่าจะยากแล้วล่ะ อาจได้แค่ลงแผ่นแค่นั้น

เอารูปสวยๆมาฝาก ..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่