กราบสวัสดีทุกคนอีกรอบนะครับ ต่อจากกระทู้ที่แล้ว
เราก็ได้กลับไปเยือนที่นั่นอีกรอบ แต่รอบนี้พิเศษใส่ไข่ดาว 10 ฟองเลย ครับ
สถานที่ : หมู่13 ช่างเคิ่ง แม่แจ่ม เชียงใหม่ 50270
เรื่องที่พัก นั้นตามนี้นะครับ
- บ้านพักมาจิโพ โทร 081-020 1691 (ต้องพยายามโทรบ่อยๆเพราะไม่ค่อยมีสัญญาณโทรติดยาก)
- บ้านพักของพี่ศรชัย มี 2 หลัง นอนได้หลังละ 3-4 คน เบอร์ติดต่อ โทร 084-435 9887 , 097-191 6131
- บ้านพี่วีรศักดิ์ โทร 093-074 2686 อยู่ถัดมาจากบ้านมาฉิโพ เป็นบ้านหลังเดียว น่าจะพักได้ประมาณ 6-10 คน เพราะหลังใหญ่
- บ้านพี่ทองดี ห่างจากบ้านมาฉิโพ ประมาณไม่กี่เมตร หากเดินทางมาจากตัวเมืองแม่แจ่มจะถึงก่อนมาจิโพ โทร 080-847 8863
- บ้านพัก พี่วัฒ พี่บัติ อยู่เลยบ้านมาฉิโพขึ้นไปเกือบถึงหมู่บ้าน โทร 080-794 6883, 085-713 1891
รอบนี้เราไปกับทริป เลยไม่ต้องซีเรียสอะไร นอนไหนก็ได้ แต่ที่ขริงนั้นนอนบ้านไหนก็ได้ครับเพราะ เราก็เดินถึงกันหมด
การเดินทางนั้นก็เหมือนเดิม
การไปบ้านป่าบงเปียงนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและสภาพถนนด้วย
1. มีรถส่วนตัวมอเตอร์ไซค์ ถ้าช่วงนั้นฝนตก ทางแฉะ มีโคลน ควรขับรถไปเส้น แม่แจ่ม - ที่ว่าการอำเภอแม่แจ่ม - บ้านทุ่งยาว - บ้านป่าบงเปียง แต่ถ้าฤดูร้อนไปได้ ควรเช็ครถเติมลม สำรองน้ำมัน ไว้ด้วย
2. รถยนต์ (4*4) ถ้าคิดว่าไหวเพราะทางมันเเฉะ เละ ก็ไปตามเส้นสีดำเลยไม่ต้องอ้อม หาอุปกรณ์กันติดหล่มด้วย ฤดูร้อนไปได้ ถ้าอยากสบาย ๆ ก็ไปทางแม่แจ่ม - ที่ว่าการอำเภอเเม่เเจ่ม - บ้านทุ่งยาว - บ้านป่าบงเปียง
3. ไม่มีรถ นั่งรถขึ้นไปจาก ขนส่งช้างเผือก-จอมทอง จากจอมทองไปแม่แจ่ม โดยโทรติดต่อที่พักให้เอารถมารับ 700 Bath/คัน ถ้าไปหลาย ๆ คนคุ้ม
แผนที่ / Map
ให้ไปแค่ 2 ทางนี้ >>>ทางอ้อมไกล วิวสวยนิดนึง ชันก่อนถึงบ้านป่าบงเปียง
>>>ทางไม่อ้อม ฤดูฝนจะโหดมาก ฤดูอื่น OK
พร้อมแล้วไปกันเลยครับ
โดย อ.โอ Wirati Keeratikanchai
เริ่มออกเดินทางที่วัดสวนดอก
จากนั้นก็ออกไปเดินทางไป ที่จอมทองครับ เเวะไหว้พระที่วัดกับซื้อพวกรองเท้า เพื่อไปลุยโคลน ถ้าไม่อยากให้รองเท้าสวย ๆเปื้อน
วัดพระธาตุศรีจอมทอง
น้ำตกสิริธาร
มุมนี้ต้องมุดลงไปหน่อยครับ แต่ระวังลื่น
พี่ร่วมทริป
ระหว่างทางก็ไปแวะบ้านกองกาน เจอชาวนากำลังดำนาเลยครับเลยเก็บภาพซักหน่อย
[center
ส่วนตรงนี้ก็เป็น บ้านบนนา วิวสวยดีครับเหมาะแก่การบินโดรน
ขอแถมด้วย ช่างภาพมือใหม่ของ LifeISScape
วิวระหว่างทางก่อนจะถึงบ้านป่าครับ สามารถเก็บภาพได้ตลอดทาง (ทางอ้อม)
พี่ร่วมทริป พี่หมูแห่ง Photo Lover first
ถึงแล้วคร๊าบ เราก็ไม่พลาดที่จะออกไปหามุมเด็ด ๆ เพราะมุมมหาชนนั้นเห็นว่าาเค้ากั้นไว้เพราะคนเข้าไปเหยียบเละ
Landmark กันเลย
กล้องที่เราใช้ก็ธรรมดานี่แหละครับ Nikon D7100, Nikkor 18-105 , Tokina 11-16 f/2.8, Xiaomi Yi, iPhone 6s plus
ฟ้าประทานจริง ๆวันนี้
ช่วงก่อน Twilight
(ใช้ เทคนิค BKT ของ Nikon ก็คือการทำ HDR นั่นแหละครับ)
(ใช้ เทคนิค BKT ของ Nikon ก็คือการทำ HDR นั่นแหละครับ)
(ใช้ เทคนิค BKT ของ Nikon ก็คือการทำ HDR นั่นแหละครับ)
(ใช้ เทคนิค BKT ของ Nikon ก็คือการทำ HDR นั่นแหละครับ ประกอบกับ Panorama แนวตั้ง)
(มีแสงลอดผ่านเมฆลงมาบ้างให้เกิดมิติ)
ถ่ายเจาะแบบ Tele ก็สวยไปอีกแบบครับ
(เก็บแฉกพระอาทิตย์บ้าง แต่ฝุ่นเต็มกล้องเลย)
ช่วงหลังจากพระอาทิตย์ตกก็สวยไปอีกแบบ ย้ายจุดกันเเทบจะไม่ทันเลย
(ยังก่ะเมืองนอก)
(บรรยากาศแบบสุด ๆ แต่ก็มียุงมีมดมากัดให้รำคาญ)
(แถมมุม...หลายคนที่ไปอาจจะงง ว่ามุมไหนตอบได้เลยว่า มุม Photoshop เพราะหาไม่เจอตอตเย็นนั้น)
แถมภาพจากกล้องคนอื่น
มี Time Lapse มาฝากนิดหน่อย
จากนั้นก็เดินกลับมายังที่พักอาบน้ำ ทานข้าวเย็น
อย่าพึ่งนอนคืนนี้เราโทรไปบอกเทวดาไว้ว่าอย่าปล่อยเมฆมา เพราะเราจะไปจับช้างกันที่นี่
วิธีจับช้าง
1.ควรเช็คพระจันทร์ เพราะถ้าพระจันทร์สวางเกินก็อดเจอช้าง
2.เช็คพยากรณ์ อากาศให้ดีดี
3.เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม กล้องเลนส์ ขาตั้ง ไฟฉาย ต่าง ๆ
เทคนิคการ Process ทางช้างเผือก นั้นทางเราได้ใช้เทคนิคการทำ median stack เพื่อเพิ่มรายละเอียดของทางช้างเผือกและลด Noise ด้วย ส่วนวิธีการทำนั้นไว้กระทู้หน้า ส่วนการตั้งค่าต่าง ๆ นั้น ก็ประมาณ iso 1600-2500 แล้วแต่กล้องว่ารับได้เเค่ไหน Speed 20-30 sec ยิ่งยาวดาวยิ่งยืด f/1.4-3.5 แล้วแต่เลนส์แต่ละตัวจะกว้างแค่ไหน(ของเรา iso 2000 f2.8 speed 25-30 s)
เราจะดูทิศทางของทางช้างเผือกโดยใช้ Application Star Chart Free
ส่องหาได้เลยครับ สามารถเลือกเวลาได้ด้วย เจ๋ง
จากนั้นก็ลองตั้งกล้องยิงช้างกันเลย ลองเช็คก่อนก็ได้ครับค่าที่ตั้งก็ iso 2000 f 2.8 (เลือกให้กว้างที่สุด) Speed 25 sec.
(โผล่มาแล้ว ดีนะที่เมฆยังไม่มา)
[SR] ไปบ้านป่าบงเปียงกับ LifeIsScape รอบ 2
- บ้านพักของพี่ศรชัย มี 2 หลัง นอนได้หลังละ 3-4 คน เบอร์ติดต่อ โทร 084-435 9887 , 097-191 6131
- บ้านพี่วีรศักดิ์ โทร 093-074 2686 อยู่ถัดมาจากบ้านมาฉิโพ เป็นบ้านหลังเดียว น่าจะพักได้ประมาณ 6-10 คน เพราะหลังใหญ่
- บ้านพี่ทองดี ห่างจากบ้านมาฉิโพ ประมาณไม่กี่เมตร หากเดินทางมาจากตัวเมืองแม่แจ่มจะถึงก่อนมาจิโพ โทร 080-847 8863
- บ้านพัก พี่วัฒ พี่บัติ อยู่เลยบ้านมาฉิโพขึ้นไปเกือบถึงหมู่บ้าน โทร 080-794 6883, 085-713 1891
1. มีรถส่วนตัวมอเตอร์ไซค์ ถ้าช่วงนั้นฝนตก ทางแฉะ มีโคลน ควรขับรถไปเส้น แม่แจ่ม - ที่ว่าการอำเภอแม่แจ่ม - บ้านทุ่งยาว - บ้านป่าบงเปียง แต่ถ้าฤดูร้อนไปได้ ควรเช็ครถเติมลม สำรองน้ำมัน ไว้ด้วย
2. รถยนต์ (4*4) ถ้าคิดว่าไหวเพราะทางมันเเฉะ เละ ก็ไปตามเส้นสีดำเลยไม่ต้องอ้อม หาอุปกรณ์กันติดหล่มด้วย ฤดูร้อนไปได้ ถ้าอยากสบาย ๆ ก็ไปทางแม่แจ่ม - ที่ว่าการอำเภอเเม่เเจ่ม - บ้านทุ่งยาว - บ้านป่าบงเปียง
3. ไม่มีรถ นั่งรถขึ้นไปจาก ขนส่งช้างเผือก-จอมทอง จากจอมทองไปแม่แจ่ม โดยโทรติดต่อที่พักให้เอารถมารับ 700 Bath/คัน ถ้าไปหลาย ๆ คนคุ้ม
[center
(ใช้ เทคนิค BKT ของ Nikon ก็คือการทำ HDR นั่นแหละครับ)
(ใช้ เทคนิค BKT ของ Nikon ก็คือการทำ HDR นั่นแหละครับ)
(ใช้ เทคนิค BKT ของ Nikon ก็คือการทำ HDR นั่นแหละครับ)
(ใช้ เทคนิค BKT ของ Nikon ก็คือการทำ HDR นั่นแหละครับ ประกอบกับ Panorama แนวตั้ง)
(มีแสงลอดผ่านเมฆลงมาบ้างให้เกิดมิติ)
ถ่ายเจาะแบบ Tele ก็สวยไปอีกแบบครับ
(เก็บแฉกพระอาทิตย์บ้าง แต่ฝุ่นเต็มกล้องเลย)
(แถมมุม...หลายคนที่ไปอาจจะงง ว่ามุมไหนตอบได้เลยว่า มุม Photoshop เพราะหาไม่เจอตอตเย็นนั้น)
วิธีจับช้าง
1.ควรเช็คพระจันทร์ เพราะถ้าพระจันทร์สวางเกินก็อดเจอช้าง
2.เช็คพยากรณ์ อากาศให้ดีดี
3.เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม กล้องเลนส์ ขาตั้ง ไฟฉาย ต่าง ๆ
เทคนิคการ Process ทางช้างเผือก นั้นทางเราได้ใช้เทคนิคการทำ median stack เพื่อเพิ่มรายละเอียดของทางช้างเผือกและลด Noise ด้วย ส่วนวิธีการทำนั้นไว้กระทู้หน้า ส่วนการตั้งค่าต่าง ๆ นั้น ก็ประมาณ iso 1600-2500 แล้วแต่กล้องว่ารับได้เเค่ไหน Speed 20-30 sec ยิ่งยาวดาวยิ่งยืด f/1.4-3.5 แล้วแต่เลนส์แต่ละตัวจะกว้างแค่ไหน(ของเรา iso 2000 f2.8 speed 25-30 s)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น