ความเป็นกลางของธาตุ ความเป็นกลางในทางความเคลื่อนไหวกระทำของธาตุ..ทำธาตุให้บริสุทธิ์

กระทู้สนทนา
ดูกรปุณณะ..กรรมดำมีวิบากดำมีอยู่..กรรมขาวมีวิบากขาวมีอยู่..กรรมทั้งดำทั้งขาวมีวิบากทั้งดำทั้งขาวมีอยู่..
กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมมีอยู่..
(พระพุทธองค์ทรงตรัสเทศนาแก่พระปุณณะ)
จากพระไตรปิฎก  เล่มที่ ๑๓ พระสุตตันตะปิฎก เล่มที่ ๕  มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ กุกกุโรวาทสูตร
.........................................................................................................................................
ความเป็นกลางของธาตุ ความเป็นกลางของพลังงาน ความเป็นกลางของแรงดึงแรงยึดในตนเองของธาตุ
ทำให้ธาตุบริสุทธิ์สันติ..
ยิ่งในตนเองของธาตุมีความเป็นกลางที่สูงขึ้นมากเท่าไร ธาตุนั้นก็ยิ่งมีความบริสุทธิ์ที่สูงขึ้นไปตามลำดับ..
........................................................................................................................................
มรรค ๘..ศีล สมาธิ ปัญญา คือทางสายกลางที่พระพุทธองค์ตรัสสอนนั้นหมายถึงความเป็นกลางของจิต
ความเป็นกลางในทางการเคลื่อนไหวกระทำของจิต และความเป็นกลางทางความยึดถือของจิต..
จึงทำให้จิตมีความบริสุทธิ์ มีกรรมบริสุทธิ์ มีความยึดถือบริสุทธิ์..เป็นที่สิ้นแห่งกรรม
.....................................................................................................................
ความเป็นกลางคือความพอดีๆ ไม่สุดโต่ง ไปทางชอบและชัง..หย่อนยานหรือสุดโต่ง
จิตที่มีความเป็นกลางจึงไม่มีชอบ-ไม่มีชัง..ไม่มีการก่อกรรมไปด้วยความชอบและความชัง
จิตที่ไม่มีชอบ-ไม่มีชัง จึงเป็นจิตที่มีศีล มีความสงบ(สมาธิ) มีปัญญา..
จิตตรง กายตรง ไม่เฉไฉ..
พลังงานตรงไม่เบี่ยงเบน..คิดตรง พูดตรง ทำตรง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่