ตั้งแต่ หุ้น Earth มีปัญหาเรื่องการผิดนัด ชำระเงิน ตั๋ว BE จนส่อเค้าล้มละลาย
ทำให้ทาง SET แขวน SP และให้มีการตรวจสอบบริษัท และให้ชี้แจง ก่อนที่จะพิจารณาเพิกถอนออกจากตลาด หรือ เปิดให้ซื้อขายอีกครั้ง
กรณีที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เมื่อตลาดแขวน SP หุ้น มักมีคนที่ติดหุ้น นั้นอยู่ออกมา โวยว่าไม่เป็นธรรม ทำให้ เสียประโยชน์จากการซื้อขายหุ้นนั้น
แต่คนที่อยู่วงนอกไม่ได้ ถือหุ้นนั้น ก็อาจจะรู้สึกว่า ตัวเองโชคดี ที่ได้ข่าว และไม่ได้เข้าไปรับหุ้นตัวนั้นเข้ามาถือไว้ ให้เสียหาย
เกิดเป็นมุมองสองมุม
แต่ถ้ามองอย่างเป็นกลาง ตลาดมีหน้าที่ตรวจสอบ ดูแล และ ประกาศเตือน และคุ้มครองนักลงทุนส่วนใหญ่
ดังนั้น เมื่อเกิดความผิดปกติ ของบริษัท ที่จะมีผลต่อการดำเนินการ ของบริษัท อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งทางบวกและลบ
การที่จะหยุดซื้อขาย และ เตือนให้ คนทั้งหมดในตลาดได้ทราบข้อมูลทั่วกันก่อนเปิดซื้อขายใหม่อีกรอบ ทั้ง ข่าวด้านบวก และลบ เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
(ข่าวที่กระทบบริษัท และ อาจจะมีการ แขวน H หรือ SP อาจจะเป็นข่าวดีมากๆ ที่จะทำให้ ผลประกอบการบริษัท ก้าวโดด SET อาจจะรอให้ข่าวชัดเจนก่อนที่ คนถือหุ้นจะขายหมูก็ได้(แต่ข่าวแบบนี้มีน้อย ส่วนใหญ่มักเป็น ข่าวร้ายๆกดราคาหุ้นซะมากกว่า)
และหลังจาก แขวน SP แล้ว SET ควรรีบเข้าไปตรวจสอบ ข่าว และ ฐานะการดำเนินงานของบริษัทนั้น อย่างรวดเร็ว และ ถูกต้องที่สุด
อย่างกรณีของ Earth เมื่อมีข่าวร้าย ขนาดนี้ ก็เข้าไป
ตรวจสอบบัญชีหนี้สินต่างๆ ว่ามีเหลือเท่าไร มีอนาคตในการดำเนินการต่อมั้ย หรือ ล้มละลาย เหลือส่วนทีจะแบ่งให้ผู้ถือหุ้นแค่ไหน หรือไม่เหลือเลย
คือต้องเช็คข้อมูลล่าสุดของบริษัทให้ชัดเจน โปร่งใสที่สุด แล้วประกาศให้นักลงทุนรับทราบทั่วๆกัน
ก่อนประกาศให้มีการซื้อขายใหม่อีกรอบ ให้ นักลงทุนตัดสินใจกัน อีกทีว่า ควรจะซื้อขายกันที่ราคาเท่าไร
คือถ้า ข้อมูลยังไม่ชัดเจน มัน ก็ไม่เป็นธรรมกับนักลงทุน
คิดเล่นๆ ถ้าสมมุติ ความเลวร้ายมันไม่ได้มากเหมือนที่คิด สมมุติว่ามูลค่ามันลดลงไม่ได้มากนัก (แค่สมมุตินะ ครับ) ถ้ารีบ ปลด SP เร็วก่อน ที่ข้อมูลจะถูกต้องครบถ้วน เปิดมา ราคาร่วงลงไป เกิดที่ควรจะเป็นผู้ถือหุ้น อยู่ก็เสียหาย ขายหมู
แต่ตรงกันข้าม ถ้าความเลวร้ายมันรุนแรง แบบว่า ล้มละลายเป็น 0 เลย ตลาดปล่อยให้เปิดซื้อขาย ก็จะกลายเป็นทำให้คนที่ไม่ทราบข่าว อาจจะเข้าไปรับที่ราคา ฟลอร์แรกๆ ติดมือกลับมา เสียหายได้เช่นกัน
ดังนั้นข้อมูล ที่จะแจ้งออกมา ต้อง ถูกต้อง และโปร่งใส ให้รับทราบทั่วๆกันถึงจะเป็นธรรม
และ แน่นอน การดำเนินการ ควรทำอย่างจริงจัง รวดเร็วมีประสิทธิภาพ เหตุผลที่คนโวยกัน ก็คงเป็นความล่าช้าของตลาดที่ทำให้คนที่ถือหุ้น อยู่เสียประโยชน์ ถ้าหุ้นนั้นมันไม่ได้เสียหายร้ายแรงขนาดล้มละลาย ทำให้ เสียโอกาส ขายนำเงินออกมาใช้ ถ้าต้องการ
แต่ ถ้าตรวจสอบแล้วมันเลว ร้ายถึงขั้นล้มละลายจริงๆ ก่อน จะปลดออกจากตลาด หลังจากแถลงข้อมูลทุกอย่างให้นักลงทุนทราบครบถ้วนแล้ว ก็ควรปลด SP แล้วปล่อยให้ ตลาดกำหนดราคา ซื้อขาย กันเอง อีกครั้ง อาจจะเป็นการ ลง Floor ติดๆกันแบบไม่มีคนรับ เลยก็ได้ แต่ก็ยังถือว่าให้โอกาส ตลาด(คนซ้อและขาย ที่ได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว เป็นคนตัดสินใจ อีกที
เป็นอีกมุมมองของ คนที่ไม่ได้มีส่วนได้เสีย กับ กรณีที่เกิดขึ้นนี้ แต่ว่ามองแบบกลางๆ
เพื่อนๆอาจจะมีมุมมองที่ต่างกันไปหลายแบบ ลอง คุยกันดูครับ เผื่อตลาดจะรับฟัง นำไปเป็นแนวทางปรับปรุง
== อีกมุมมอง ของคนไม่มีส่วนได้เสีย กรณี ขอให้ปลด SP หุ้น Earth ==
ทำให้ทาง SET แขวน SP และให้มีการตรวจสอบบริษัท และให้ชี้แจง ก่อนที่จะพิจารณาเพิกถอนออกจากตลาด หรือ เปิดให้ซื้อขายอีกครั้ง
กรณีที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เมื่อตลาดแขวน SP หุ้น มักมีคนที่ติดหุ้น นั้นอยู่ออกมา โวยว่าไม่เป็นธรรม ทำให้ เสียประโยชน์จากการซื้อขายหุ้นนั้น
แต่คนที่อยู่วงนอกไม่ได้ ถือหุ้นนั้น ก็อาจจะรู้สึกว่า ตัวเองโชคดี ที่ได้ข่าว และไม่ได้เข้าไปรับหุ้นตัวนั้นเข้ามาถือไว้ ให้เสียหาย
เกิดเป็นมุมองสองมุม
แต่ถ้ามองอย่างเป็นกลาง ตลาดมีหน้าที่ตรวจสอบ ดูแล และ ประกาศเตือน และคุ้มครองนักลงทุนส่วนใหญ่
ดังนั้น เมื่อเกิดความผิดปกติ ของบริษัท ที่จะมีผลต่อการดำเนินการ ของบริษัท อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งทางบวกและลบ
การที่จะหยุดซื้อขาย และ เตือนให้ คนทั้งหมดในตลาดได้ทราบข้อมูลทั่วกันก่อนเปิดซื้อขายใหม่อีกรอบ ทั้ง ข่าวด้านบวก และลบ เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
(ข่าวที่กระทบบริษัท และ อาจจะมีการ แขวน H หรือ SP อาจจะเป็นข่าวดีมากๆ ที่จะทำให้ ผลประกอบการบริษัท ก้าวโดด SET อาจจะรอให้ข่าวชัดเจนก่อนที่ คนถือหุ้นจะขายหมูก็ได้(แต่ข่าวแบบนี้มีน้อย ส่วนใหญ่มักเป็น ข่าวร้ายๆกดราคาหุ้นซะมากกว่า)
และหลังจาก แขวน SP แล้ว SET ควรรีบเข้าไปตรวจสอบ ข่าว และ ฐานะการดำเนินงานของบริษัทนั้น อย่างรวดเร็ว และ ถูกต้องที่สุด
อย่างกรณีของ Earth เมื่อมีข่าวร้าย ขนาดนี้ ก็เข้าไป
ตรวจสอบบัญชีหนี้สินต่างๆ ว่ามีเหลือเท่าไร มีอนาคตในการดำเนินการต่อมั้ย หรือ ล้มละลาย เหลือส่วนทีจะแบ่งให้ผู้ถือหุ้นแค่ไหน หรือไม่เหลือเลย
คือต้องเช็คข้อมูลล่าสุดของบริษัทให้ชัดเจน โปร่งใสที่สุด แล้วประกาศให้นักลงทุนรับทราบทั่วๆกัน
ก่อนประกาศให้มีการซื้อขายใหม่อีกรอบ ให้ นักลงทุนตัดสินใจกัน อีกทีว่า ควรจะซื้อขายกันที่ราคาเท่าไร
คือถ้า ข้อมูลยังไม่ชัดเจน มัน ก็ไม่เป็นธรรมกับนักลงทุน
คิดเล่นๆ ถ้าสมมุติ ความเลวร้ายมันไม่ได้มากเหมือนที่คิด สมมุติว่ามูลค่ามันลดลงไม่ได้มากนัก (แค่สมมุตินะ ครับ) ถ้ารีบ ปลด SP เร็วก่อน ที่ข้อมูลจะถูกต้องครบถ้วน เปิดมา ราคาร่วงลงไป เกิดที่ควรจะเป็นผู้ถือหุ้น อยู่ก็เสียหาย ขายหมู
แต่ตรงกันข้าม ถ้าความเลวร้ายมันรุนแรง แบบว่า ล้มละลายเป็น 0 เลย ตลาดปล่อยให้เปิดซื้อขาย ก็จะกลายเป็นทำให้คนที่ไม่ทราบข่าว อาจจะเข้าไปรับที่ราคา ฟลอร์แรกๆ ติดมือกลับมา เสียหายได้เช่นกัน
ดังนั้นข้อมูล ที่จะแจ้งออกมา ต้อง ถูกต้อง และโปร่งใส ให้รับทราบทั่วๆกันถึงจะเป็นธรรม
และ แน่นอน การดำเนินการ ควรทำอย่างจริงจัง รวดเร็วมีประสิทธิภาพ เหตุผลที่คนโวยกัน ก็คงเป็นความล่าช้าของตลาดที่ทำให้คนที่ถือหุ้น อยู่เสียประโยชน์ ถ้าหุ้นนั้นมันไม่ได้เสียหายร้ายแรงขนาดล้มละลาย ทำให้ เสียโอกาส ขายนำเงินออกมาใช้ ถ้าต้องการ
แต่ ถ้าตรวจสอบแล้วมันเลว ร้ายถึงขั้นล้มละลายจริงๆ ก่อน จะปลดออกจากตลาด หลังจากแถลงข้อมูลทุกอย่างให้นักลงทุนทราบครบถ้วนแล้ว ก็ควรปลด SP แล้วปล่อยให้ ตลาดกำหนดราคา ซื้อขาย กันเอง อีกครั้ง อาจจะเป็นการ ลง Floor ติดๆกันแบบไม่มีคนรับ เลยก็ได้ แต่ก็ยังถือว่าให้โอกาส ตลาด(คนซ้อและขาย ที่ได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว เป็นคนตัดสินใจ อีกที
เป็นอีกมุมมองของ คนที่ไม่ได้มีส่วนได้เสีย กับ กรณีที่เกิดขึ้นนี้ แต่ว่ามองแบบกลางๆ
เพื่อนๆอาจจะมีมุมมองที่ต่างกันไปหลายแบบ ลอง คุยกันดูครับ เผื่อตลาดจะรับฟัง นำไปเป็นแนวทางปรับปรุง