@@@@@ คุณประทับใจหรือภูมิใจอะไรในฐานะเป็นคนไทย @@@@

สืบเนื้องจากอ่านผ่านๆตามาหลายครั้ง เจอความเห็นแสดงความเกลียดชังประเทศตัวเองแบบเหมารวมในด้านลบ เช่น กะลาแลนด์บ้าง  หรืออย่างล่าสุดกรณีที่มีข่าวเกิดขึ้นจากคำพูดของเด็กที่ต้องลบข้อความออกภายหลัง  เลยเกิดความสงสัยว่า  ประเทศเราไม่มีอะไรดีที่น่าภูมิใจเลยเหรอ  หรือว่า ถ้าดึงเข้าการเมืองหน่อย  ต้องรอให้พรรคบางพรรคเข้ามาทำงาน  จึงจะเจริญขึ้นผิดหูผผิดตา

แล้วประเทศไทยจะเจริญหรือไม่ ในแง่ไหน ต้องมีปัจจับอะไรบ้าง
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 40
พวกชังชาติจะนอนหลับหรือเปล่า แค่อ่านยังรู้สึกจะอ้วก แค่ความภูมิใจในชาติตัวเองของคนอื่นยังทนไม่ได้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
กระทู้ดีๆ แทนที่จะพูดถึงเรื่องดีๆ แต่มีคนไร้มารยาท เข้ามาพูดถึงเรื่องแย่ๆ ภ

อ่านภาษาไทยไม่ออกเหรอครับ หัวกระทู้เค้าถามชัดเจน เรื่องดีๆในชีวิตคุณไม่มีเลยเหรอครับ

สำหรับผม ผมภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย มีภาษาไทย อาหารไทย ความมีน้ำใจของคนไทย ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรของไทย

พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่9 ทั่วโลก เค้าให้การยอมรับ

แน่นอนเรื่องที่ไม่ดีก็เยอะ โดยเฉพาะการมีวินัย การแยกแยะ การรู้จักมารยาท

ก็ขนาดเค้าถามเรื่องดีๆ ยังมีคนไร้มารยาทเข้ามาโพสๆเรื่องไม่ดี พวกนี้แหละครับ ดูเอาไว้ เริ่มที่แก้นิสัยแบบนี้ก่อนเลยครับ

แยกแยะให้เป็น รักษามารยาทด้วย
ความคิดเห็นที่ 14
1. ภูมิใจที่ได้เกิดบนแผ่นดินไทย ที่มีพระพุทธศาสนาได้ฝังรากไว้แน่นหนา ทำให้ได้รู้ถึงรสพระธรรมคำสอนที่เน้นถึงความเป็นจริงของชีวิต
2. ภูมิใจที่ได้เกิดบนแผ่นดินไทย ที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มั่นคง ทำให้ได้รู้ว่า สถาบันแห่งนี้ไม่เคยทอดทิ้งคนไทย ทุกข์และสุขร่วมกันตลอดมา
3. ภูมิใจที่ได้เกิดบนแผ่นดินไทย ที่มีคนไทยซึ่งมีวัฒนธรรมประเพณีของตนเอง ทำให้คนไทยส่วนใหญ่มีเมตตา จะสุขหรือทุกข์ก็พร้อมจะช่วยเหลือกัน

เรื่องที่มีคนบางคน บางกลุ่มด่าว่าเมืองไทยไม่ดี ก็ต้องมีเมตตากับเขาครับ ให้อภัยกับผู้ที่ยังด้อยด้วยวัย ด้วยความรู้ และยังด้อยประสบการณ์ชีวิต
ความคิดเห็นที่ 29
เผอิญผมเกิดในครอบครัวที่คุณแม่เคร่งศาสนา สมัยเด็กๆก็คิดว่าประเทศไทยมีดีที่มีศาสนาพุทธ
เวลาโตขึ้น เรียน ทำงาน หรือลงทุนอะไร ไม่ว่าหนัก หรือ มาก ก็ไม่ค่อยทำให้ผมเครียดเกินไป
เพราะยอมรับความล้มเหลวล่วงหน้าไว้แล้ว สังคมก็สบายๆ คนไทยเป็นคนปรับตัวเก่ง
มีน้ำใจ บริการดี เราจึงโดดเด่นด้านบริการ น่าจะอันดับต้นๆของโลก

ส่วนที่บอกว่าต้องให้บางพรรคมาถึงจะเจริญผิดหูผิดตานั้น เค้าก็ได้โอกาสบริหารเด็ดขาดเต็มที่ร่วบ 10 ปี
แทบจะพรรคเดียวแบบที่ไม่มีรัฐบาลไหนได้รับมาก่อน  จากนโยบาย ผลลัพธ์ระยะยาวก็ไปปรากฎให้เห็นในรัฐบาล
ยิ่งลักษณนั่นแหละครับ   ความจริงในโลกนี้ เรามีแบบอย่างให้เรียนรู้ มีการศีกษา วิจัย มีการเขียนเป็นตำรา
บอกวิธีที่ถูกให้เราเดินตามอยู่แล้ว สิ่งที่ชี้วัดว่าประเทศจะประสพความสำเร็จเป็นประเทศพัฒนาแล้ว
หรือ ล้มเหลว คือคำว่า institutions

มันไม่ใช่แค่ประทับใจกับประชานิยม 2-3 อย่าง เมื่อนำมาใช้แล้วประเทศจะเจริญ ไม่ได้งายดายขนาดนั้น
ผู้บริหารประเทศจะต้องมีความเสียสละ ต่อสู้กับอุปสรรคที่เป็นเงื่อนไขที่ทำได้ยากไปขัดผลประโยชน์
คนอื่น รวมทั้งผลประโยชน์ตนเองและพรรคพวก

ผมศีกษาย้อนหลังแล้ว ค่อนข้างชี่นชมรัฐบาลป๋าเปรมกว่ารัฐบาลอื่นนะครับ ท่านไม่ใช่ผู้นำที่เก่ง และ
ฉลาดที่สุด แต่เป็นผู้นำที่คนเก่งอยากทำงานด้วย  และท่านเลือกใช้คนได้ถูกว่าใครเก่ง  
ข้อนี้ผมว่าทำได้ดีกว่าคุณลุงนะครับ

เฮ้อออออ   ว่าจะเขียนย่อที่สุด ยังเสียเวลาขนาดนี้ครับ
ความคิดเห็นที่ 27
ใน คห.14 ผมได้พูดถึงเพียงแต่ความภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย ไว้ 3 ข้อ เพื่อตอบประเด็นหัวข้อกระทู้  แต่เมื่อย้อนกลับไปดูเนื้อความในกระทู้ของท่าน จขกท. แล้วจึงได้รู้ว่ายังมีประเด็นคำถามที่ท่าน จขกท.ได้ถามไว้ว่า "แล้วประเทศไทยจะเจริญหรือไม่ ในแง่ไหน มีปัจจับอะไรบ้าง"
ก็ต้องยอมรับครับว่า ยังพูดถึงเรื่องราวในกระทู้ได้ไม่ครบถ้วน ตามที่ท่าน จขกท. สงสัยอยากทราบ เลยขออนุญาตเพิ่มเติมตรงนี้นะครับ

ชาติไทยและคนไทยเราก็มิใช่เป็นชาติที่ดีพร้อมมีส่วนด้อยกว่าเขา ในขณะเดียวกันเราก็มิได้ต้อยต่ำกว่าใครในทุกเรื่อง เรามีทั้งส่วนดีและส่วนด้อย
เรื่องนี้มันก็เป็นกันทุกชาตินะครับ ทุกชาติในโลกก็ดีมีไม่ดีอยู่ตนเอง เหมือนตัวตนของมนุษย์ที่เป็นอยู่ ส่วนด้อยของเราคือรักความสบาย ทำอะไรที่
คิดว่ามันง่ายๆไว้ก่อน จะด้วยตำแหน่งของภูมิภาค สภาพภูมิอากาศ และวัฒนธรรมประเพณี รวมๆกันทำให้คนไม่ขยันขันแข็ง
แต่ส่วนที่เด่นของเราก็มี เช่น ภาษา ประเพณี ชาติพันธุ์ อาหาร ฯ เรื่องพวกนี้ชาติที่ไม่มีเรื่องดังกล่าวเป็นสมบัติเป็นมรดกเป็นประวัติศาสตร์ของตนเอง  มักแอบอิจฉาตาร้อนเรานะครับ ซึ่งไม่ควรต้องยกเป็นตัวอย่างว่าใครบ้าง

ส่วนคำถามของท่าน จขกท.ที่ว่า แล้วไทยเราจะเจริญ ในแง่ไหน ด้วยปัจจัยอะไรหรือไม่
ตรงนี้ขอยกตัวอย่าง นิยาย sci-fi ที่เป็นนิยายที่แต่งขึ้นทำนองบรรยายคาดเดาถึง เหตุการณ์และเรื่องราวในอนาคตนะครับ เพราะเป็นประจักษ์พยาน
มาแล้วว่า นิยายไซไฟ หลายเรื่องในอดีตคาดเดาถึงอนาคตได้ถูกต้อง เช่น การมีโทรศัพท์ การสื่อสารโดยไม่มีสาย การไปดวงจันทร์ มนุษย์อวกาศ
และอีกหลายเรื่องที่คนในยุคสมัยนั้นบอกว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ แต่เมื่อถึงยุคนี้ อุปกรณ์และเรื่องราวเหล่านั้นเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน ซึ่งสมมุติว่า
ถ้าคนในยุคนี้ย้อนเวลากลับไปเล่าให้คนในยุคโบราณฟัง อาจถูกจับเผาไฟ ข้อหาแม่มดได้นะครับ

มีนิยายไซไฟ-นิยายวิทยาศาสตร์หลายเรื่อง พูดถึงการไปตั้งหลักแหล่งอยู่บนดวงดาวต่างๆ ของมนุษย์ จากนั้นสภาพการเมืองระหว่างดวงดาว ก็คือ
โลกแต่โลกที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ได้กลายสภาพเป็นรัฐเพียงรัฐเดียว หมายความทั้งโลกปกครองด้วยคณะผุ้ปกครองชุดเดียว จะด้วยระบบอะไรก็แล้วแต่ ทว่า.ความเจริญและเทคโนโลยี่ของแต่ละโลกรัฐก็อยุ่ในระดับใกล้เคียงกันทั้งสิ้น

ที่เยิ่นเย้อมาถึงตอนนี้ เพื่อบอกว่า อย่างไรเสียเมืองไทยก็ต้องเจริญขึ้นแน่ๆ ครับ ไม่มีอะไรมาขวางกั้นความเจริญที่มันจะ "ต้อง" เกิดขึ้นในชาติต่างๆ
บนโลกนี้ได้ เพราะมนุษย์ต้องติดต่อสื่อสารทำมาค้าขายและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน ไม่มีใครหรือระบบการปกครองใดจะมีพลังเพียงพอสกัดกั้นความเจริญที่ค่อยๆ แผ่ขยายไปได้หรอกครับ ข้อจำกัดก็เพียงแค่ระยะเวลาเท่านั้น

ยกตัวอย่างใกล้ๆเราที่เห็นได้ ก็คือ เมียนมาร์ที่เมื่อไม่กี่สิบปีก่อน ไฟฟ้ายังมีแค่เฉพาะเมืองใหญ่ๆ ตามชนบททั่วไปใช้ตะเกียงหรือเทียนไข บัดนี้ดินแดนส่วนใหญ่ของเมียนมาร์ แม้แต่ในพื้นที่ของชนกลุ่มน้อยก็มีแสงสว่างยามค่ำคืน ถนน-หนทางมีการปรับปรุงก่อสร้างเพิ่มขึ้นทุกปี
ในลาวที่ยุคเก่าก่อน น้ำประปามีเวลาให้ใช้จำกัด นอกเวลาไม่ไหล ปัจจุบันชาวไร่ชาวนาลาวมีเครื่องมือเพื่อใช้ในการเกษตร มีความรู้เรื่องเทคโนโลยี่
เพิ่มขึ้น จะไปดูถูกคนลาวหาว่าเป็นคนด้อยปัญญาไม่ได้แล้วนะครับ

อีกไม่นานเพียงไม่กี่ปี รถไฟฟ้าจะกลายเป็นเส้นทางเดินทางปกติของคนเมือง  การขึ้นรถไฟความเร็วสูงจะเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา และบรรดาสายไฟที่ระโยงระยางอยุ่ตามทางสาธารณะจะหายไปจากสายตา  รถที่ใช้ไฟฟ้าเป็นกำลังขับเคลื่อนมีระบบนำทางก็จะเห็นเกลื่อนกลาดถนน

ไม่ต้องใจร้อนด่วนได้ครับ  อย่างไรๆ เมืองไทยก็เจริญแน่ อยุ่ที่เราทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน สามัคคีกัน ไม่นานก็ตามเขาทันได้
ความคิดเห็นที่ 4
เคยเจอมาหลายชนชาติ
คนไทยเนี่ยน่ารักที่สุก

เรายังคงเชื่อว่า คนไทย หัวอ่อน ยอมรับอะไรง่ายๆ
ในเวลาปรกตินะ
คนไทยไม่ค่อยชอบมีปากเสียงกัน พูดถึงชีวิตประจำวันนะ

ทุกวันนี้ ความเกลียดชัง เห็นได้แค่ใน social (ของจริงก็พอมีแต่น้อย ถ้าไม่ใช่เรื่องการเมืองนะ)

ชีวิตใน social มันดุดัน เพราะประเทศไทย ยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองการใช้งาน social ที่ดี
มันมาไวไป ไวจนคนรับไม่ทัน คิดว่ามีแต่ส่วนดี

ความสามารถ การปรับตัว ความเข้าใจ คนไทยอยู่ในระดับค่อนข้างสูง
เพียงแต่ การแสดงออก การอวดภูมิ การแสดงความสามารถในตนเอง คนไทยยังมีความกล้าน้อย
แต่มันก็ไม่ใช่ผลเสีย อะไรมากนัก เลยทำให้มีการแข่งขันกันต่ำ ชีวิตปรกติเลยดูชิลๆ

เมืองไทยมีดีหลายอย่าง คนไทยก็ดีหลายอย่าง

บางคนบอกว่า การเมืองทำให้คนไทยเปลี่ยนไป
เราก็มาคิดว่า รปห เกิดขึ้นมา มากกว่า 10 หน ทำไมคนไทยยังยิ้มได้

บางที เราควรหาสาเหตุอะไรใหม่ๆคิดให้ละเอียด และแยบคายขึ้น อาจจะพบคำตอบจริงๆของมันนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่