และก็คงจะพอ ทำให้ พันธมิตร ซึ่งปัจจุบัน กลายร่างมาเป็นสลิ่ม ได้หยุดยั้ง ความเห็นแก่ได้ กับพฤติกรรมชั่วๆ ของตัวเองลงบ้าง หลายสิ่งหลายอย่าง พฤติกรรมนอกกรอบนอกรีด ของคนพวกนี้ ถูกคุ้มครอง ปกป้อง ยิ่งกว่าไข่ในหิน ทำอะไรก็ไม่ผิด

การการันตีแบยนี้ ยิ่ง เป็นการทำให้สลิม พวกนี้ย่ามใจ ในพฤติกรรม ไม่ดีไม่งามของตัวเอง แล้วเอาไปตีกิน ทับถมคนอื่น ว่าสิ่งที่ตัวเองทำ นั้น ถูกต้องแล้ว ชอบแล้วหรือดีแล้ว ทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจ หรือใครๆก็มองเห็นว่า เป็นสิ่งชั่วร้าย ที่คนปกติไม่กล้าทำกัน เพียงแต่ มีตราประทับการันตี ว่าไม่ใช่เป็นสิ่งชั่วร้ายจากผู้อยู่เบื้องหลังหรือให้ท้ายแค่นั้นเอง

การยกคำร้อง หรือพิพากษาว่า จำเลยไม่ผิด นั้น ก็เป็นเสมือนการตอกหน้าสลิ่มว่า สิ่งที่พวกสลิ่ม ร้องเรียกหา หรือพยายามบอกว่าโหยหาความยุติธรรม เพื่อจะเอามาทับถม ซ้ำเติมคนอื่น อย่างที่เคยเคยทำมานั้น มันไม่ใช่สิ่งดีงามอะไรเลย เป็นสิ่งผิดผิด ที่คนให้ท้าย ก็น่าจะเริ่มรู้สึก เอื้อมระอา กับพฤติกรรมของสลิ่มพวกนี้ เต็มทนแล้ว

ปกติคำพิพากษาต่างๆ ที่จะออกมา ในวันตัดสินอรรถคดีต่างๆ  สลิ่ม หรือคนทั่วไป มักจะเดาไม่มีผิดเพี้ยน ว่า จำเลยจะโดนยังไง หรือจะถูกลงโทษอย่างไร แทบจะเรียกว่า อ่านขาดในคำพิพากษาได้เลย แต่วันนี้ ก็เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า คำพิพากษานั้น ไม่ได้เป็นดั่งที่สลิม เคยคาดเดาไว้เหมือนครั้งก่อนๆที่ผ่านมา

หลายคน หลายฝั่ง ก็หน้าแตกไปต่างๆกัน ไม่คิดว่า การร้องเรียกหาความยุติธรรม กับการกระทำที่ผิดผิด แท้จริงแล้ว ก็คือการประจาน พฤติกรรมการทำชั่วของพวกตัวเองนั่นแหละ .. เมื่อศาลท่านบอกว่า การชุมนุม ต่างๆของพันธมิตร เป็นการกระทำที่อยู่นอกกรอบของกฎหมาย หรือกฎหมายไม่ได้ให้ความคุ้มครอง แปลไทยเป็นไทยง่ายๆก็คือ เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย นั่นเอง

สลิ่มก็คงรู้ตัวดี ว่าต่อไปนี้ เหตุการณ์ก็คงจะไม่เหมือนเดิมแล้ว การเอาแต่ใจเห็นแก่ได้ ทำอะไรผิดผิด ก็ไม่ถูกลงโทษ นับจากนี้เป็นต้นไป ก็คงจะต้องระแวดระวังเป็นอย่างดี และคงจะเอา ตราประทับ การันตี การกระทำไม่ดีต่างๆ แล้วมีตราประทับบอกว่าถูกต้องแล้วชอบแล้ว ไปหาตีกิน หรือทับถมคนอื่น ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

เมื่อเช้า เห็นสลิ่ม ออกมาตั้งกระทู้ ลักษณะรอความยุติธรรม เสมือนเป็นหนึ่งว่า รอกรี๊ด เพื่อจะรอซ้ำเติม จำเลย หรือผู้ถูกกล่าวหา ว่าจะต้องโดนแน่ๆ และหากคำพิพากษา เป็นไปตามที่ พวกสลิ่มคาดหวัง หรือที่เราเห็นๆมา แบบไม่เคยผิด ป่านนี้ คงมี กระทู้ตีกิน เยาะเย้ยถากถาง และซ้ำเติม ผู้ที่ถูกกล่าวหา เป็นแน่แท้

นี่คือนิสัยถาวรของสลิ่ม ที่รู้ทั้งรู้ ว่าตัวเองทำไม่ถูกต้อง แต่ก็อาศัย ปัจจัยแวดล้อม สิ่งการันตีต่างๆ ในพฤติกรรมชั่วชั่วนั้น ว่า ไม่เป็นความชั่ว แท้จริงแล้ว สลิ่มก็รู้อยู่แก่ใจว่า สิ่งที่ตัวเองทำนั้น มันคือความชั่ว แต่เป็นความชั่ว ที่ถูกรับรอง ด้วย คนดีรับรองว่าไม่ชั่ว และจริงๆแล้ว ที่บอกว่าคนดี คนส่วนมาก เขาก็ไม่ได้มองว่าเป็นคนดีสักเท่าไหร่หรอก ก็แค่เขามองว่า เป็นพวกคนเลว แล้วเสแสร้งแกล้งเอาหน้ากากคนดีมาสวม ใส่แค่นั้นเอง