เมื่อเข้าปี 2560 เราก็เริ่มเล็งหาโปรรีไฟแนนซ์บ้าน เพราะโปรน้ำท่วม 3% 5 ปีของเรากำลังจะหมดในวันที่ 30 ก.ค. 60
ประมาณช่วงเดือนมีค.จึงได้แวะไปถามธอสว่า กำลังจะผ่อนบ้านครบ ธนาคารมีโปรretention ดอกเบี้ยอะไรบ้าง ก็ได้คำตอบว่า มีอย่างเดียวคือ MRR-2 (= 6.75-2) และต้องให้ถึง 30 ก.ค.ก่อนค่อยทำเรื่อง จึงมองว่าดอกยังสูงอยู่ดีจึงถามถึงรายละเอียดการรีไฟแนนซ์ จนท.ก็ให้ใบแจ้งความจำนงมาและบอกว่ายังยื่นไม่ได้ ต้องครบก่อนจึงจะยื่นได้
หลังจากนั้นเราจึงไปหาข้อมูลดอกเบี้ยอื่นที่ธนาคารอื่น จึงไปที่ธนาคารออมสิน เจ้าหน้าที่แนะนำว่าอีกหลายเดือนโปรอาจจะเปลี่ยน จึงแนะนำให้ไปดูที่งาน money expoที่จะจัดในเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นเราก็ตั้งตารองานนี้เลย พร้อมกับเสิชหาข้อมูลว่าการรีไฟแนนซ์ของธนาคารต่างๆใช้หลักฐานอะไรบ้าง ก็เตรียมไว้ให้พร้อมเลย
เมื่อถึงวันงาน money expo เราก็เดินสำรวจดอกเบี้ยทั้งงาน ทุกธนาคาร
เคยโพสไว้ที่กระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/36443471/comment9
แล้วก็ใช้โปรแกรมคำนวณดอกเบี้ยของเวป
http://www.thaiinterest.com/home-loan/calculator.aspx
เทียบดูดอกเบี้ย และโปรโมชั่นของทุกธนาคารในงาน ได้ออกมาตามตาราง
ซึ่งเราคำนวณตามเงื่อนไขของเราว่าเราจะผ่อนเดือนละ30,000 บาท และจะปิดบัญชีที่ปีที่2 เราจึงดูว่าธนาคารไหนเหลือเงินต้นน้อยที่สุด ซึ่งผลก็ได้เป็นอันดับ 1 คือ กรุงศรี (ปีแรก 0.75 ปีที่2 MRR-2.45) อันดับสองคือ กรุงไทย และทั้ง 2 ธนาคารสามารถปิดบัญชีก่อน 3 ปีได้ ยกเว้นrefinanceจะเสียค่าปรับ
เราจึงกลับไปที่บู๊ทธนาคารเพื่อยื่นเอกสารขอรีไฟแนนซ์กับ 2 ธนาคารนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของทั้งสองธนาคาร บริการดีมาก ๆ และได้แนะนำว่าให้ทำเรื่องไว้ทั้ง 2 ที่ได้เลย
หลังจากวันงาน จนท.ก็ดำเนินเรื่องจนประมาณปลายเดือน มิ.ย.จนท.ทั้ง 2 ธนาคารก็ติดต่อมาว่าอนุมัติแล้ว และนัดดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ต่อ เช่น ให้บริษัทเข้ามาประเมินบ้าน หลังประเมินบ้านกับธนาคารกรุงศรีเราแล้วก็บอกยกเลิกกับกรุงไทยไป
จนท.มาหาถึงที่ทำงานเพื่อให้เปิดบัญชี จ่ายค่าประกันภัยบ้าน จ่ายค่าอากร 550 บาทและนัดหมายกันคร่าวๆว่าจะเจอกันที่สนง.ที่ดินวันไหน
รู้สึกว่าค่าประกันบ้านแพง 5พันกว่าบาท ทั้งที่ธอส 3พันกว่าบาท เขาบอกว่าเพราะมูลค่าบ้านเพิ่มขึ้น555
ระหว่างนี้ก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะไปทำเรื่องกับฝ่ายธอส ด้วยความรู้สึกงก ไม่อยากเสียค่าดอกเบี้ยช่วงดอกเบี้ยลอยตัวหลังหมดโปรน้ำท่วม จึงหาข้อมูลต่อโดยโทรถาม call center ของธอส และหน้าเพจธอส ได้ข้อมูลว่าใช้เวลาดำเนินการ 10-14วันทำการ (จำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้) ซึ่งเป้าหมายที่เราคิดไว้คือ เมื่อหมดโปรเราก็อยากจะรีไฟแนนซ์ทันที วันเสาร์ที่24 มิ.ย. 60 จึงไปที่ธอส สาขาเดอะมอลล์งามวงค์วาน เพื่อกรอกใบขอรีไฟแนนซ์ไปธนาคารกรุงศรี ระบุด้วยว่าได้รับอนุมัติจากธนาคารอื่นแล้ว และแจ้งความประสงค์กำหนดวันนัดเป็นวันที่ 31 ก.ค. 60
หลังจากยื่นเรื่องไปแล้ว ไม่เกิน 1 อาทิตย์ก็มีจนท.ธอสโทรมาเพื่อให้ไปทำเรื่องรีไฟแนนซ์ที่สำนักงานใหญ่
วันที่ 5ก.ค.60 เราก็ไปดำเนินการที่สนง.ใหญ่ ได้ทราบยอดที่ต้องไปบอกธ.กรุงศรีให้ออกเช็ค และคอนเฟิมวันนัด ซึ่งก็ได้ตามที่แจ้งความประสงค์ไว้ และเราต้องเอาสมุดบัญชีธนาคารของเราไปด้วยเพื่อเป็นเอกสารสำหรับรับโอนค่าเวนคืนประกันบ้านด้วย แต่ยังไม่รู้ว่าจะได้คืนเท่าไร
เมื่อถึงวันนัดไถ่ถอนย้ายธนาคาร จนท.กรุงศรีก็โทรหา แต่เมื่อไปถึงที่ดิน จนท.ของทั้ง 2 ธนาคาร เขาก็คุยกันไว้แล้ว เราเพียงแค่เซ็นในเอกสารตามที่จนท.บอก ยื่นเอกสาร ครบถ้วน ได้ฉโนดมาให้ธนาคารกรุงศรี จนท.กรุงศรีก็ให้เช็คกับธอสไป เป็นอันเสร็จพิธี
ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ต้องจ่ายวันนั้น
ค่าธรรมเนียมไถ่ถอนธอส. 1000 บาท
ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ธนาคารกรุงศรีสรุปมา
**** เกร็ดเพิ่มเติม 1.สามารถไปยื่นใบขอรีไฟแนนซ์ที่สาขาไหนก็ได้ แล้วเขาจะส่งไปที่สาขาต้นเรื่องที่เราได้ทำสัญญาด้วยเอง
2.สามารถยื่นเรื่องก่อนครบกำหนดได้ ไม่ต้องทำหลังครบตามที่จนท.บอกแล้วเสียดอกเบี้ยฟรี ๆ ช่วงที่ลอยตัว แต่ก็ไม่น่าจะนานเกินไป อย่างของเรายื่นก่อนประมาณ 1 เดือน
ทั้งนี้ กระบวนการรีไฟแนนซ์ของเราราบรื่นมากทุกขั้นตอน
ต้องขอขอบคุณแหล่งข้อมูลดี ๆ จากอินเตอร์เนต และพันทิพย์ และเวปนี้
http://athlons.blogspot.com/p/blog-page_50.html
ขอบคุณเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ให้บริการอย่างดี ตั้งแต่จนท.ธนาคารออมสินที่แนะนำงาน money expo จนท.จากบูทในงาน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ให้ข้อมูลดอกเบี้ยของกรุงไทยคนแรกที่มาจากสาขาอนุสาวรีย์แนะนำโปรดอกเบียได้ดีมาก แต่พอกลับมาที่บูทของกรุงไทยอีกทีก็ตามไม่เจอ จึงได้จนท.จากสาขารัตนาธิเบศน์มาดูแลแทน ซึ่งก็บริการดีเช่นกัน ดำเนินเรื่องให้ตลอดจนถึงวันที่เราปฏิเสธยกเลิกกับเขาไป และจนท.สินเชื่อกรุงศรีจากสาขาตลาดรังสิตที่ดำเนินการให้อย่างดีจนสำเร็จ และจน.ตัวแทนจากธนาคารที่ดำเนินการให้ที่สำนักงานที่ดินด้วยค่ะ
รีวิว refinance[บ้านจากโปรน้ำท่วมธอส ไปธนาคารกรุงศรี 2560
ประมาณช่วงเดือนมีค.จึงได้แวะไปถามธอสว่า กำลังจะผ่อนบ้านครบ ธนาคารมีโปรretention ดอกเบี้ยอะไรบ้าง ก็ได้คำตอบว่า มีอย่างเดียวคือ MRR-2 (= 6.75-2) และต้องให้ถึง 30 ก.ค.ก่อนค่อยทำเรื่อง จึงมองว่าดอกยังสูงอยู่ดีจึงถามถึงรายละเอียดการรีไฟแนนซ์ จนท.ก็ให้ใบแจ้งความจำนงมาและบอกว่ายังยื่นไม่ได้ ต้องครบก่อนจึงจะยื่นได้
หลังจากนั้นเราจึงไปหาข้อมูลดอกเบี้ยอื่นที่ธนาคารอื่น จึงไปที่ธนาคารออมสิน เจ้าหน้าที่แนะนำว่าอีกหลายเดือนโปรอาจจะเปลี่ยน จึงแนะนำให้ไปดูที่งาน money expoที่จะจัดในเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นเราก็ตั้งตารองานนี้เลย พร้อมกับเสิชหาข้อมูลว่าการรีไฟแนนซ์ของธนาคารต่างๆใช้หลักฐานอะไรบ้าง ก็เตรียมไว้ให้พร้อมเลย
เมื่อถึงวันงาน money expo เราก็เดินสำรวจดอกเบี้ยทั้งงาน ทุกธนาคาร
เคยโพสไว้ที่กระทู้นี้https://ppantip.com/topic/36443471/comment9
แล้วก็ใช้โปรแกรมคำนวณดอกเบี้ยของเวป http://www.thaiinterest.com/home-loan/calculator.aspx
เทียบดูดอกเบี้ย และโปรโมชั่นของทุกธนาคารในงาน ได้ออกมาตามตาราง
ซึ่งเราคำนวณตามเงื่อนไขของเราว่าเราจะผ่อนเดือนละ30,000 บาท และจะปิดบัญชีที่ปีที่2 เราจึงดูว่าธนาคารไหนเหลือเงินต้นน้อยที่สุด ซึ่งผลก็ได้เป็นอันดับ 1 คือ กรุงศรี (ปีแรก 0.75 ปีที่2 MRR-2.45) อันดับสองคือ กรุงไทย และทั้ง 2 ธนาคารสามารถปิดบัญชีก่อน 3 ปีได้ ยกเว้นrefinanceจะเสียค่าปรับ
เราจึงกลับไปที่บู๊ทธนาคารเพื่อยื่นเอกสารขอรีไฟแนนซ์กับ 2 ธนาคารนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของทั้งสองธนาคาร บริการดีมาก ๆ และได้แนะนำว่าให้ทำเรื่องไว้ทั้ง 2 ที่ได้เลย
หลังจากวันงาน จนท.ก็ดำเนินเรื่องจนประมาณปลายเดือน มิ.ย.จนท.ทั้ง 2 ธนาคารก็ติดต่อมาว่าอนุมัติแล้ว และนัดดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ต่อ เช่น ให้บริษัทเข้ามาประเมินบ้าน หลังประเมินบ้านกับธนาคารกรุงศรีเราแล้วก็บอกยกเลิกกับกรุงไทยไป
จนท.มาหาถึงที่ทำงานเพื่อให้เปิดบัญชี จ่ายค่าประกันภัยบ้าน จ่ายค่าอากร 550 บาทและนัดหมายกันคร่าวๆว่าจะเจอกันที่สนง.ที่ดินวันไหน
รู้สึกว่าค่าประกันบ้านแพง 5พันกว่าบาท ทั้งที่ธอส 3พันกว่าบาท เขาบอกว่าเพราะมูลค่าบ้านเพิ่มขึ้น555
ระหว่างนี้ก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะไปทำเรื่องกับฝ่ายธอส ด้วยความรู้สึกงก ไม่อยากเสียค่าดอกเบี้ยช่วงดอกเบี้ยลอยตัวหลังหมดโปรน้ำท่วม จึงหาข้อมูลต่อโดยโทรถาม call center ของธอส และหน้าเพจธอส ได้ข้อมูลว่าใช้เวลาดำเนินการ 10-14วันทำการ (จำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้) ซึ่งเป้าหมายที่เราคิดไว้คือ เมื่อหมดโปรเราก็อยากจะรีไฟแนนซ์ทันที วันเสาร์ที่24 มิ.ย. 60 จึงไปที่ธอส สาขาเดอะมอลล์งามวงค์วาน เพื่อกรอกใบขอรีไฟแนนซ์ไปธนาคารกรุงศรี ระบุด้วยว่าได้รับอนุมัติจากธนาคารอื่นแล้ว และแจ้งความประสงค์กำหนดวันนัดเป็นวันที่ 31 ก.ค. 60
หลังจากยื่นเรื่องไปแล้ว ไม่เกิน 1 อาทิตย์ก็มีจนท.ธอสโทรมาเพื่อให้ไปทำเรื่องรีไฟแนนซ์ที่สำนักงานใหญ่
วันที่ 5ก.ค.60 เราก็ไปดำเนินการที่สนง.ใหญ่ ได้ทราบยอดที่ต้องไปบอกธ.กรุงศรีให้ออกเช็ค และคอนเฟิมวันนัด ซึ่งก็ได้ตามที่แจ้งความประสงค์ไว้ และเราต้องเอาสมุดบัญชีธนาคารของเราไปด้วยเพื่อเป็นเอกสารสำหรับรับโอนค่าเวนคืนประกันบ้านด้วย แต่ยังไม่รู้ว่าจะได้คืนเท่าไร
เมื่อถึงวันนัดไถ่ถอนย้ายธนาคาร จนท.กรุงศรีก็โทรหา แต่เมื่อไปถึงที่ดิน จนท.ของทั้ง 2 ธนาคาร เขาก็คุยกันไว้แล้ว เราเพียงแค่เซ็นในเอกสารตามที่จนท.บอก ยื่นเอกสาร ครบถ้วน ได้ฉโนดมาให้ธนาคารกรุงศรี จนท.กรุงศรีก็ให้เช็คกับธอสไป เป็นอันเสร็จพิธี
ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ต้องจ่ายวันนั้น
ค่าธรรมเนียมไถ่ถอนธอส. 1000 บาท
ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ธนาคารกรุงศรีสรุปมา
**** เกร็ดเพิ่มเติม 1.สามารถไปยื่นใบขอรีไฟแนนซ์ที่สาขาไหนก็ได้ แล้วเขาจะส่งไปที่สาขาต้นเรื่องที่เราได้ทำสัญญาด้วยเอง
2.สามารถยื่นเรื่องก่อนครบกำหนดได้ ไม่ต้องทำหลังครบตามที่จนท.บอกแล้วเสียดอกเบี้ยฟรี ๆ ช่วงที่ลอยตัว แต่ก็ไม่น่าจะนานเกินไป อย่างของเรายื่นก่อนประมาณ 1 เดือน
ทั้งนี้ กระบวนการรีไฟแนนซ์ของเราราบรื่นมากทุกขั้นตอน
ต้องขอขอบคุณแหล่งข้อมูลดี ๆ จากอินเตอร์เนต และพันทิพย์ และเวปนี้ http://athlons.blogspot.com/p/blog-page_50.html
ขอบคุณเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ให้บริการอย่างดี ตั้งแต่จนท.ธนาคารออมสินที่แนะนำงาน money expo จนท.จากบูทในงาน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ให้ข้อมูลดอกเบี้ยของกรุงไทยคนแรกที่มาจากสาขาอนุสาวรีย์แนะนำโปรดอกเบียได้ดีมาก แต่พอกลับมาที่บูทของกรุงไทยอีกทีก็ตามไม่เจอ จึงได้จนท.จากสาขารัตนาธิเบศน์มาดูแลแทน ซึ่งก็บริการดีเช่นกัน ดำเนินเรื่องให้ตลอดจนถึงวันที่เราปฏิเสธยกเลิกกับเขาไป และจนท.สินเชื่อกรุงศรีจากสาขาตลาดรังสิตที่ดำเนินการให้อย่างดีจนสำเร็จ และจน.ตัวแทนจากธนาคารที่ดำเนินการให้ที่สำนักงานที่ดินด้วยค่ะ