สวัสดีครับ หลังจากที่รอคอยมานานกับ Adidas Crazy Explosive 2017 ตอนนี้ก็เดินทางมาถึงเมืองไทยกันแล้ว หลายๆคนคงได้ลองสวมใส่กันแล้ว ส่วนตัวผมนั้นได้ลองทั้งตัวปกติและ Primenit แต่ตัดสินใจซื้อตัว Primenit ครับ มาคราวนี้ Adidas จัดเทคโนโลยีมาคล้ายๆรุ่นเดิมต่างกันนิดหน่อยเรื่อง Design และ Feeling ที่ต่างจากเดิมครับ





ผู้จำหน่ายคือร้าน Dilok ครับ


คราวนี้ผมทดสอบทั้งหมด 4 วัน สี่สนาม เป็นปูนไม่เรียบหยาบๆผสมๆกัน สนามสวนรถไฟ สนามบีโปรบางนา สนามบีโปรอ่อนนุช ครับ



Traction :: พื้นเป็นพื้นใสโชว์ Torsion System หรือ Shank plate สีดำสะดุดตา ลายพื้นออกแนวงงๆ หลายๆคนเรียกว่า ลายรังมด เห็นครั้งแรกคิดในใจจะไปไวเหมือนอีกค่ายหรือเปล่า ผมเลยใส่เล่นครั้งแรกที่สนามปูนขัดซะเลย ผลคือ เบรคได้ประมาณนึง ไม่ฉุดเท้าเราจนหยุดกับที่ สไลด์เล็กน้อยคล้าย Kobe 11 Elite ไม่หนึบเท่าไหร่ แต่ก็แอบมีลื่นตรงฝุ่นนิดนึงต้องขยันเอามือปาด สภาพพื้นรองเท้าหลังจากเล่นสนามปูน ผิดคาด ค่อนข้างจะแข็งแรงทนทาน ไม่เป็นรอยเท่าไหร่ มีสัมผัสได้ว่าสึกแค่นิดเดียว ผิดกับพื้นใสของอีกค่ายที่เล่นแค่ครั้งเดียว พื้นไปแทบทั้งแถบ


ส่วนสนามปาร์เก้ถือว่าดี แอบลื่นเล็กน้อยตรงพื้นที่มีฝุ่น เบรคเสียงเงียบ ไม่ค่อยหนึบ ปาดฝุ่นแล้วก็ไม่ค่อยหนึบ พื้นสไลด์เวลาเบรคนิดนึง รวมๆแล้วถือว่าดี ใส่เล่นสี่ครั้งแล้วพื้นยังทนใช้ได้ครับ


คะแนน 4/5



Cusion :: Boost นั้นทำหน้าที่ได้ดี Crazy Explosive จะมีแผ่นพลาสติกหุ้มพื้นด้านข้างไว้ ไม่ให้โฟมกระจายตัวไปด้านข้างมากเกินไป จนทำให้รู้สึกเด้งกว่า Crazy Light boost และ Harden Vol.1 ประมาณนึง โดยรวมประทับใจกับระบบ Boost ของ Adidas อยู่แล้วครับ


คะแนน :: 5/5






Fit :: ผมใส่ Harden Vol.1 11 Us ใส่ Crazy Light Boost 10.5 Us ส่วน Crazy Explosive นั้น ต้องใส่ 11.5 Us ถึงจะพอดีครับ งงกับ Fit ของ Adidas เหมือนกัน ความต่างของ ตัวปกติกับ Primenit คือ fit ที่ใส่แล้วความรู้สึกจะต่างเลย ตัวปกติ จะเป็น ระบบลิ้นรองเท้า มี flywire ใช้เชือกเส้นใหญ่และเป็น Mid cut ใส่แล้วจะรู้สึกมีพื้นที่ในรองเท้าประมาณนึง แต่ Primenit จะใส่แล้วรู้สึกเหมือนใส่ถุงเท้าเพราะเป็นผ้าทอชิ้นเดียว ใส่สบายกว่า กระชับและเข้ารูปกว่าครับ เชือกเส้นแบนถูกร้อยกับ Flywire ช่วยให้กระชับดียิ่งขึ้น ต่อให้เป็นทรง Bootie แต่ก็ความรู้สึกคล้ายๆใส่กับตัวปกติครับ


คะแนน 4/5






Material :: ตัวปกติเป็นผ้าตะข่าย และตัวท๊อปคือผ้าทักและเป็นทรงถุงเท้า อย่างอื่นเหมือนกันครับ วัสดุดี การขึ้นลายหน้าผ้าก็เหมือนกันทั้งสองรุ่นครับ ต่างกันแค่วัสดุกับทรงแค่นั้นเอง ใส่สบายระบายอากาศดีครับ


คะแนน 4/5



Support :: Heel Counter แข็งประมาณนึงแต่ใส่แล้วไม่รู้สึกรำคาญ กันพลิกด้านข้างทำยื่นออกมากันเท้าพลิกได้ดี ไม่รู้สึกถึงการสไลด์เท้าเบรคด้านข้างแล้วไม่ปลอดภัย เป็น Mid Cut ถึงตาตุ่มพอดีช่วยให้มั่นใจ Sock Like ทำให้ข้อเท้ากระชับแน่นพอดี มั่นใจในการเล่นมากขึ้น 


คะแนน 4/5





สรุป :: สมกับเป็นตัวเรือธงของค่ายสามขีดครับ ทำออกมาได้ดีมาก และสีก็สวยด้วย (สีพิเศษยิ่งสวย) ใส่เดินและใส่เล่นก็ดีทั้งคู่ครับ ทีนี้ต้องมาวัดเรื่องความทนทานกันอีกทีครับ ส่วนตัวประทับใจมากกับคู่นี้จนชอบค่ายสามขีดไปทันที แต่ใจยังรัก Swoosh เหมือนเดิมนะครับ รอ Hyperdunk 2017 flynit วางขายแล้วอยากเทียบมากกับ React ว่าดีขนาดไหนครับ ถ้ามีโอกาสแล้วจะกลับมารีวิวกับ Nike Hyperdunk 2017 ครับ


สวัสดีครับ