สวัสดีค่ะ เราเพิ่งไปเล่น paragliding หรือร่มรอนครั้งแรกในชีวิตมา และประทับใจมาทั้งประสบการณ์ วิว และบริการ เลยอยากจะมารีวิวใน pantip เผื่อเป็นทางเลือกให้เพื่อน ๆ ค่ะ

จริง ๆ แล้วปลายปีเรามีแพลนจะไปเล่น skydiving ที่นิวซีแลนด์ แต่ชีวิตนี้ไม่เคยทำอะไรโลดโผนขนาดนี้มาก่อน จะไปโดดร่มเลยก็กลัวว่าเสียเป็นหมื่น ๆ ขึ้นไปถึงบนเครื่องแล้วจะขาสั่นไม่กล้าโดด พอดีมีทริปไปเกาหลีที่มีวันว่างไม่รู้จะไปไหนอยู่ แล้วเจอโฆษณา day trip พาไปเล่น paragliding พอดี ก็เลยคิดว่า เอาวะ ไปลองดูสักที (คิดเอาเองว่าเล่น paragliding คงเป็นขั้นเบบี๋ของ skydiving ถ้าอันนี้ยังรับไม่ได้จะได้แคนเซิลแผน skydiving ทัน) แต่ทัวร์แบบ day trip จากโซลไปก็แสนแพง (ตก 8,xxx บาท) เลย search หาเอาใน google ซึ่งขั้นตอนในการเลือกไม่มีไรมากค่ะ เลือกที่รูปสวยและจองง่ายที่สุด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เลือกไปที่นี่เพราะเจ๊คนนี้เลยค่ะ http://blog.funtastickorea.com/paragliding-in-danyang-korea/

เมืองที่เราไปมีชื่อว่า Danyang อยู่ใน Chungcheongbuk-do ห่างจาก Seoul ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 2 ชั่วโมงถ้านั่งรถบัส
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
pilot ที่เราติดต่อด้วยใช้ชื่อว่า Paraman ค่ะ ข้อมูลภาษาอังกฤษครบถ้วน จองง่ายไม่ซับซ้อน เราติดต่อจองผ่านเว็บ meetup แล้วโอนเงินมัดจำก่อน 30,000 วอน (มีเพื่อนเกาหลีเลยขอให้เพื่อนโอนไปให้ก่อน) ส่วนที่เหลืออีก 70,000 วอนไปจ่ายวันจริง โดยราคา 100,000 วอน (ประมาณ 3,000 บาทไทย) นี้รวมค่าเล่น paragliding พร้อมกล้อง gopro และค่ารถรับ-ส่งที่สถานีรถบัส/รถไฟ (หลังโดดเสร็จถ้ายังไม่อยากกลับ Seoul จะเที่ยวต่อก่อนก็บอกได้ พี่ก็จะพาไปส่งค่ะ)

ก่อนวันจริงหนึ่งวัน พี่ Paraman ก็แมสเซจมาคอนเฟิร์มว่าอากาศดี ได้โดดแน่ (ถ้าพยากรณ์อากาศท่าทางไม่ดีพี่จะแจ้งแคนเซิลและคืนเงินมัดจำให้)
วันเดินทางจริงง่ายมากค่ะ ทำตามขั้นตอนที่พี่เขียนไว้ใน meetup ทุกอย่าง ขึ้นรถไฟใต้ดินไปสถานีรถไฟใต้ดิน Gangbyeon สาย 2 เพื่อไปขึ้นรถบัสที่ Dong Seoul (East Seoul) Bus Terminal ค่ารถ 13,300 วอน ไปซื้อที่นั่นได้เลยไม่ต้องจองไปก่อน เราขึ้นรถ 9 โมง ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ถึงที่ Danyang 11 โมงพอดี

พอลงรถก็เจอคุณพี่ Paraman มารอรับอยู่แล้ว ขับรถจากสถานีรถบัสไปประมาณ 15 นาที (ขึ้นเขาคดเคี้ยวถนนแคบ คิดว่าจะเมารถก่อนจะได้เล่นร่มร่อนซะแล้ว) ก็จะมาถึงเขา Yangbangsan ความสูง 644 เมตร จุดหมายของเรา Danyang Dusan Leisure Park (단양두산레저파트) ค่ะ ระหว่างทางพี่ก็เล่าไปเรื่อย ว่าที่นี่มีภูเขาล้อมรอบ ทำให้อากาศค่อนข้างดี ลมไม่แรงเกิน (ถ้าแรงเกิน 20 km/hr จะเล่นไม่ได้ อันตราย) เล่นร่มร่อนได้ทั้งปี เดือน ๆ นึงจะมีวันที่ลมแรงจนเล่นไม่ได้แค่ 2-3 วัน ในขณะที่บางที่อย่างซอรักซาน บางทีเดือนนึงมีวันที่เล่นได้แค่ 2-3 วันก็มี (แต่วิวก็ผิดกันเนอะ ที่ซอรักซานจะสูงกว่าด้วยค่ะ) และเล่นที่นี่ค่อนข้างเซฟค่ะ พี่พูดภาษาอังกฤษเก่ง ไม่มีปัญหาด้านการสื่อสารใด ๆ

พอมาถึงพี่ก็พาไปฝากกระเป๋าใน locker (ฟรี) โดยให้เราเอาติดตัวไปแค่มือถือเท่านั้น เซ็นชื่อทำประกัน และจ่ายเงินส่วนที่เหลือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ระหว่างนี้แอบกวาดตาไปเห็นลายเซ็นของใครสักคนใน Teentop เดาว่าเป็น L.Joe


ระหว่างรอลุง pilot ที่จะพาเราเล่นเตรียมของเราก็เม้ามอยกับ pilot คนอื่น ๆ ไปเรื่อยค่ะ พี่ก็บรีฟให้เพื่อนฟัง ว่าเรามาจากไทยแลนด์ (ฟังไม่ออกหรอก ได้ยินแต่แทกุกๆ) ลุงอีกคนก็รีบปรี่เข้ามาบอกว่าเคยไปเล่น paragliding ที่ภูทับเบิก สวยมากเลยนะ เอารูปมาโชว์พร้อมแนะนำให้เราไปเล่นที่ภูทับเบิกบ้าง ถ้าชอบ ซึ่งสวยจริง เราบุคมาร์คไว้เป็นทริปถัดไปแล้วค่ะ เราก็เม้ามอยกับลุง ๆ กันไป (พบว่าเกือบทุกคนเคยมาเมืองไทย) คุยกันรู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่งแต่ก็สนุกดี พอหายเหงาระหว่างรอ ข้างบนมี pilot ประจำประมาณ 10 คน จะเวียนกันโดด พี่ที่มารับเราก็เป็นหนึ่งใน pilot แต่เราโดดกับลุงอีกคน
พอลุงที่จะพาเราโดดเตรียมของพร้อมก็มาเตรียมตัวให้เราค่ะ มีชุดหมีให้ใส่ทับ จับใส่หมวก ใส่สนับเข่า (สำหรับตอนลงซึ่งเราจะต้องลงท่าก้น เอาขาชี้ฟ้า) ตัวเป้ที่แบกไว้นี่จะกางเป็นเก้าอี้ให้เรานั่งตอนอยู่บนอากาศค่ะ ตอนที่จะเทคออฟลุงจะให้เราเป็นคนถือกล้องไว้ก่อน เพราะลุงคงต้องบังคับร่ม แต่พอขึ้นแล้วลุงก็เอากล้องไปถือให้ค่ะ

แต่งตัวออกมาเป็นแบบนี้

หลังจากนั้นคุณพี่ Paraman มาบรีฟให้ฟัง ว่าจะร่อนจากตรงนี้ไปลงตรงนั้น ตอนเทคออฟจะต้องวิ่งๆๆๆๆๆ ห้ามหยุดเด็ดขาดนะ จะอันตรายมาก แล้วตอนลงยกขาขึ้น เอาก้นลง จบ เราก็แบบ เออ ฟังดูง่ายเนอะ สบ๊ายยย

เราก็ทำตามนั้นเลยค่ะ วิ่งๆๆๆๆ แต่คือ วิ่งได้แค่สองสามก้าวก็วิ่งไม่ไปละ (เพิ่งรู้ทีหลังว่าที่วิ่งไม่ไปเพราะกำลังจะลอยแล้ว เหมือนร่มก็พยายามดึงเราขึ้นจากพื้น ตอนแรกนึกว่า pilot หยุดเราเลยหยุดถาม โดนวิ่งชนแทบกระเด็น) สรุปคือได้วิ่งจริงๆ ไม่เกิน 10 ก้าวก็ร่อนแล้วค่ะ

วันนั้นมีหมอกนิดหน่อย กับช่วงที่ผ่านมาฝนตกทำให้น้ำในแม่น้ำ Namhangang (จะไหลไปรวมกับแม่น้ำ Bukhangang เป็นแม่น้ำฮันที่ไหลผ่านกรุงโซลนั่นเองค่ะ) ออกเหลืองขุ่น ไม่สวยเหมือนที่เห็นในรีวิว เฟลนิดๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ คิดซะว่าได้เล่นก็โชคดีแล้ว พอขึ้นไปแล้วก็สบายเลยค่ะ นอกจากดูวิวแล้วก็ถ่ายวีดิโอนี่แหละ ลุงก็พยายามหามุมให้ มีบอกมุมนี้ Best shot ยิ้มหน่อย เราก็ยิ้มลมตีหน้าจนเหงือกแห้งเลยค่ะ





รวมระยะเวลาที่อยู่บนฟ้าประมาณ 10 นาที แล้วแต่ลม ฯลฯ ซึ่งเราว่ากำลังดี ก่อนลงรู้สึกเริ่มเมานิดๆ ถ้านานกว่านี้น่าจะมีอ้วกพุ่ง ความรู้สึกเหมือนเล่นเรือไวกิ้ง ที่จะหวิวๆ และมวนท้องค่ะ แต่ได้เวลาลงพอดีเลยรอดตัว ระหว่างที่อยู่บนฟ้า ลุงก็พาวนดูวิว มีพาโฉบยอดไม้พอเสียว (อันนี้เสียวจริง มีกรี๊ด นึกว่าร่วง) พอเริ่มลดระดับมาลงที่ทุ่งฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ ก็เตรียมยกขาพร้อมลงท่าก้น ลงมาเจอพี่เอารถบรรทุกเล็กลงมารอรับที่ด้านล่าง เพื่อพากลับขึ้นไปที่เดิม (เมารถต่ออี๊ก เจอทางคดเคี้ยวตอนขึ้นเขา นั่งนิ่งไม่คุยกะใครเลยค่ะ)

ระหว่างอยู่บนฟ้า ตอนแรกก็เขินๆ ที่ลุงบอกให้ยิ้มให้กล้องตลอดเลย แต่พอลงมา เออ พอเรามองกล้องมันดูโอเคจริง ๆ เพราะลุงจะวีดิโอที่ถ่ายไว้มาถ่ายลงมือถือให้หลังลงมา พร้อมแคป screenshot ช็อตเด็ด ๆ พร้อมอวดเพื่อนในโซเชียลให้เสร็จ พาเดินถ่ายรูปรอบ ๆ หาพรอพไม้กวาดมาให้เราถ่ายท่ากระโดดขี่ไม้กวาด (เพิ่งมาเห็นในรีวิวว่าเป็นท่ายอดฮิต เหมือนคนที่มาโดดจะโดนบังคับถ่ายเกือบทุกคน)

พอได้เวลาอันสมควรก็ร่ำลากับลุง ส่วนพี่ก็ถามว่าเราจะไปไหน กลับโซลเลยไหม เราก็เลยสัมภาษณ์ถามที่เที่ยวเอาจากพี่เลยค่ะ พี่ก็เลยไปส่งทิ้งไว้ให้เที่ยวแถว ๆ นั้น คือไป Gosu Cave เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตร ทำทางเดินราวจับดีตลอดทาง (มีสะพานบังคับให้เดิน ไม่ต้องเดินไปบนหิน แถมถุงมือเพื่อให้จับราวได้สะดวก ไม่ลื่น พร้อมให้กลับบ้านเป็นที่ระลึกไปเลย อันนี้ดี เอาไปใช้ต่อตอนไปเดินเล่นกำแพงเมืองโซลบนเขาวันถัดไปได้) อันนี้ส่วนตัวแล้วคิดว่าผ่านได้ค่ะ ถ้ำเมืองไทยเยอะแยะไม่แตกต่าง หินงอกหินย้อยดูไปคล้าย ๆ กันหมด ค่าเข้า 11,000 วอน ด้านหน้าถ้ำมีทำศูนย์การเรียนรู้เรื่องหินงอกหินย้อยและสัตว์ในถ้ำ ดูแล้วทำดีมากเหมาะแก่การพาลูกมา (แต่อ่านไม่ออก เดินผ่าน ๆ) ระหว่างทางในถ้ำมีเจ้าหน้าที่ประจำเป็นระยะๆ เหมือนคอยให้ความรู้ ตอนคนว่างๆ เราเลยเดินไปถามว่าอธิบายเป็นภาษาอังกฤษได้ไหม เขาตอบสั้นๆ No โอเค ผ่านนนนน

ต่อจากถ้ำก็ไปดูหินกลางน้ำ Dodam Sambong (3 Peak Island) เป็นยอดหินสามยอดที่โผล่กลางแม่น้ำ ถือเป็นวิวเด็ดของดันยางค่ะ เป็นเบอร์หนึ่งใน Eight Views of Danyang มันก็สวยดีสำหรับคนชอบดูหินดูน้ำดูภูเขาแบบเรา ตำนานเล่าว่า Dodam Sambong นี้แสดงถึงเรื่องราวรักสามเศร้าค่ะ โดยยอดใหญ่สุดตรงกลางที่มีศาลากลางน้ำคือสามี ข้างหนึ่งเป็นภรรยา อีกข้างหนึ่งเป็นภรรยาน้อย ภรรยามีลูกไม่ได้เลยไปมีภรรยาน้อย ภรรยาหลวงก็เลยงอนหันหลังให้สามีค่ะ

ต่อไปออกนอกเมืองไปประมาณครึ่งชม. มีจุดขึ้นเรือล่องแม่น้ำ ตอนเราไป ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว เลยไม่มีเรือออก (จะออกเรือต้องเหมาลำ ตัดไป งบหมด) แต่แค่วิวแถวนั้นก็สวยแล้วค่ะ

หนึ่งวันใน Danyang ของเราก็จบลงเท่านี้ค่ะ อยู่บนฟ้าสนุกมากจริง ๆ คิดว่าน่าจะต้องมีทริปไปโดดร่มหรือเล่นร่มร่อนอีกที่ไหนซักที่แน่ ๆ วิวที่นี่สวย แต่ถ้าถามว่าสวยมากไหม คิดว่าคงมีที่สวยกว่านี้ ต้องตามหากันต่อไป แต่ถือว่าเป็นการเหินฟ้าครั้งแรกที่ประทับใจมากค่ะ