คือเราเป็นสาวประเภทสอง อายุ สามสิบต้นๆ เคยมีความรักมาก็เยอะ แต่เคยคบกับแฟนคนแรกมาประมาณ 8 ปี ก็เชื่อว่านั้นคือรักแท้ .. และเป็นรักนิรันดร์ แต่การที่เราถูกฝ่ายชายนอกใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เราหมดความอดทนที่จะยืนเคียงข้างเขาต่อไป จนวันหนึ่งเรามีคนอื่นบ้าง แล้วเขาจับได้ว่าเรามีคนอื่น ทั้งๆ ที่เป็นปีที่เรากำลังจะลงเอยด้วยการแต่งงานกัน .. ปีนั้นฝ่ายชายบอกว่าทรมานใจกับสิ่งที่เราทำกับเขามาก .. เขาแทบจะฆ่าเรา แต่ด้วยความที่เขารักเรา เขาจึงทำไม่ลง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเลิกกัน.. และล้มแผนการหมั้นและแผนแต่งงานลง
หลังจากที่เราเลิกกับเขา เราก็เผชิญความเสียงกับความรักมาตลอด คบได้นานสุดก็สองปี หนึ่งปี และก็ หกเดือน เราเริ่มอึนๆกับความรัก และกลับไปคิดถึงความรักวัยเด็กที่เราคิดว่านั้นคือคนที่เราต้องการ แต่ไม่เคยได้ครอบครองจริงๆ จังสักที เราเป็นคนที่ไม่ได้สวยถึงขั้นนางงาม แต่ถือว่าไปวัดกลางคืนหมาไม่หอนเป็นพอ การศึกษาอยู่ในระดับสูง เป็นคนอัธยาศัยดี และเป็นที่รู้จักในสังคม .. บางทีคนนอกมองเหมือนเราเป็นคนเจ้าชู้ แต่จริงๆ แล้วไม่เลย เพียงแต่เราสามารถเข้าได้กับคนทุกคน ด้วยความที่เราเป็นคนคุยสนุก
เราเฝ้ารอผู้ชายที่เรียกว่าความรักในวัยเด็กมาเป็นเวลานาน เรียกได้ว่า ตั้งแต่คบแฟนคนแรกที่คบมาแปดปี ก็ไม่เคยลืมความรักในวัยเด็กตอนนั้นเลย อยู่มาวันหนึ่งเราได้คุยกับชายที่เป็นคนรักในวัยเด็ก ชายคนนั้นในวัย ยีสิบห้าปี ช่างหล่อเหล่า สูงโปรง สง่า โอ้ยดั่งเทพบุตร.. เรานี่เหมือนอะไรก็ไม่รู้ นี้ถ้าไม่ติดว่าการศึกษาดี คงหาอะไรไปเทียบกับเขาไม่ได้เลย ..5555555555 ขำตัวเอง
เป็นเวลาสองปีแล้วที่เรายังศรัทธา ในรักแท้ และซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง โดยที่ไม่ยอมเปิดใจให้ใครเข้ามาง่ายๆ ได้อีก แต่ก็อย่างว่า มนุษย์เรานี้ ใจโลเล บางครั้งบางคราว (ว่าตัวเอง) มันก็มีหลุดบ้างเผลอบ้าง เวลาที่มีใครคิดว่าเขาจะดี เข้ามา แต่สุดท้ายแล้ว เราก็ไม่สามารถทำใจให้รักใครได้อีก
และอยู่มาวันหนึ่งเราได้พบกับเพื่อนเก่า.. ซึ่งต้องบอกตามตรงว่า เราก็เคยแอบปลื้มเพื่อนคนนี้อยู่.. เรียกได้ว่าเป็นสเปคอันดับสอง เราได้ไปเที่ยวด้วยกัน เราได้คุยกับมากขึ้น โทรหากันบ่อยขึ้น จนเรารู้สึกอีดอัดกับความรู้สึกตัวเองว่า จริงๆ แล้วเรารู้สึกอย่างไรกับเขา และเขารู้สึกอย่างไรกับเรากันแน่
จนวันหนึ่งที่เราทนไม่ไหว ต้องไปปรึกษาเพื่อนผู้ชายที่เป็นเพื่อนสนิทของเรา ที่เขารู้จักเราดี และรู้จักผู้ชายคนนั้นดีเหมือนกัน เพราะเรานั้นเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก แรกๆ เราไม่ได้บอกกับเพื่อนเราว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร แต่จนแล้วจนเล่า เราก็อึดอัดจนต้องบอกไปว่าผู้ชายที่เข้ามานั้นเป็นใคร
ก่อนหน้านี่เพื่อนเราบอกว่า ผู้ชายโดยทั่วไปถ้าเข้ามาลักษณะนี้ เขาแค่หวังจะหลอกฟัน หลอกกินสนุกไปเล่นๆ เท่านั้น อย่าไปอะไรมาก แต่พอเราได้เฉลยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร มันก็ทำให้เพื่อนเราคนนี้เขว่กับคำแนะนำที่ให้มาก่อนหน้านี่
แต่เขาก็ทิ้งท้ายกับเราด้วยประโยคที่ว่า "กูว่าอย่างไม่มีทางเจอรักแท้หรอกวะ เชื่อกู" "พวกมันก็แค่หวังฟันสนุกๆ จะมาเอาทำเมียจริงจังกูว่าไม่น่าใช่หรอกวะ" "แต่ยังไงกูก็อวยพรให้ได้เจอรักแท้สักทีนะ"
เราก็เลยเกิดคำถามว่า เรา..ไม่มีโอกาสได้เจอรักแท้จริงๆ เหรอ รักแท้ไม่มีในโลกสำหรับเพศที่สามจริงๆ เหรอ ทั้งๆที่ หน้าตาเราก็ไม่ได้แย่ การศึกษาก็สูง ฐานะทางสังคมก็มี แล้วมันจะไม่มีคนที่เรารักในแบบที่เราเป็นแบบนี้ได้จริงๆ เหรอ
รักแท้ยังมีอยู่จริงหรือไม่ รักเกิดจากเราหรือพรหมลิขิตกันแน่
หลังจากที่เราเลิกกับเขา เราก็เผชิญความเสียงกับความรักมาตลอด คบได้นานสุดก็สองปี หนึ่งปี และก็ หกเดือน เราเริ่มอึนๆกับความรัก และกลับไปคิดถึงความรักวัยเด็กที่เราคิดว่านั้นคือคนที่เราต้องการ แต่ไม่เคยได้ครอบครองจริงๆ จังสักที เราเป็นคนที่ไม่ได้สวยถึงขั้นนางงาม แต่ถือว่าไปวัดกลางคืนหมาไม่หอนเป็นพอ การศึกษาอยู่ในระดับสูง เป็นคนอัธยาศัยดี และเป็นที่รู้จักในสังคม .. บางทีคนนอกมองเหมือนเราเป็นคนเจ้าชู้ แต่จริงๆ แล้วไม่เลย เพียงแต่เราสามารถเข้าได้กับคนทุกคน ด้วยความที่เราเป็นคนคุยสนุก
เราเฝ้ารอผู้ชายที่เรียกว่าความรักในวัยเด็กมาเป็นเวลานาน เรียกได้ว่า ตั้งแต่คบแฟนคนแรกที่คบมาแปดปี ก็ไม่เคยลืมความรักในวัยเด็กตอนนั้นเลย อยู่มาวันหนึ่งเราได้คุยกับชายที่เป็นคนรักในวัยเด็ก ชายคนนั้นในวัย ยีสิบห้าปี ช่างหล่อเหล่า สูงโปรง สง่า โอ้ยดั่งเทพบุตร.. เรานี่เหมือนอะไรก็ไม่รู้ นี้ถ้าไม่ติดว่าการศึกษาดี คงหาอะไรไปเทียบกับเขาไม่ได้เลย ..5555555555 ขำตัวเอง
เป็นเวลาสองปีแล้วที่เรายังศรัทธา ในรักแท้ และซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง โดยที่ไม่ยอมเปิดใจให้ใครเข้ามาง่ายๆ ได้อีก แต่ก็อย่างว่า มนุษย์เรานี้ ใจโลเล บางครั้งบางคราว (ว่าตัวเอง) มันก็มีหลุดบ้างเผลอบ้าง เวลาที่มีใครคิดว่าเขาจะดี เข้ามา แต่สุดท้ายแล้ว เราก็ไม่สามารถทำใจให้รักใครได้อีก
และอยู่มาวันหนึ่งเราได้พบกับเพื่อนเก่า.. ซึ่งต้องบอกตามตรงว่า เราก็เคยแอบปลื้มเพื่อนคนนี้อยู่.. เรียกได้ว่าเป็นสเปคอันดับสอง เราได้ไปเที่ยวด้วยกัน เราได้คุยกับมากขึ้น โทรหากันบ่อยขึ้น จนเรารู้สึกอีดอัดกับความรู้สึกตัวเองว่า จริงๆ แล้วเรารู้สึกอย่างไรกับเขา และเขารู้สึกอย่างไรกับเรากันแน่
จนวันหนึ่งที่เราทนไม่ไหว ต้องไปปรึกษาเพื่อนผู้ชายที่เป็นเพื่อนสนิทของเรา ที่เขารู้จักเราดี และรู้จักผู้ชายคนนั้นดีเหมือนกัน เพราะเรานั้นเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก แรกๆ เราไม่ได้บอกกับเพื่อนเราว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร แต่จนแล้วจนเล่า เราก็อึดอัดจนต้องบอกไปว่าผู้ชายที่เข้ามานั้นเป็นใคร
ก่อนหน้านี่เพื่อนเราบอกว่า ผู้ชายโดยทั่วไปถ้าเข้ามาลักษณะนี้ เขาแค่หวังจะหลอกฟัน หลอกกินสนุกไปเล่นๆ เท่านั้น อย่าไปอะไรมาก แต่พอเราได้เฉลยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร มันก็ทำให้เพื่อนเราคนนี้เขว่กับคำแนะนำที่ให้มาก่อนหน้านี่
แต่เขาก็ทิ้งท้ายกับเราด้วยประโยคที่ว่า "กูว่าอย่างไม่มีทางเจอรักแท้หรอกวะ เชื่อกู" "พวกมันก็แค่หวังฟันสนุกๆ จะมาเอาทำเมียจริงจังกูว่าไม่น่าใช่หรอกวะ" "แต่ยังไงกูก็อวยพรให้ได้เจอรักแท้สักทีนะ"
เราก็เลยเกิดคำถามว่า เรา..ไม่มีโอกาสได้เจอรักแท้จริงๆ เหรอ รักแท้ไม่มีในโลกสำหรับเพศที่สามจริงๆ เหรอ ทั้งๆที่ หน้าตาเราก็ไม่ได้แย่ การศึกษาก็สูง ฐานะทางสังคมก็มี แล้วมันจะไม่มีคนที่เรารักในแบบที่เราเป็นแบบนี้ได้จริงๆ เหรอ