จาก
http://ppantip.com/topic/32787603 ครับ
วันนี้ผมเจอเขาพร้อมกับแฟนของเขาซึ่งเป็นผู้หญิงและเป็นหมอฟันเหมือนกันครับเลยชวนกันไปกินข้าวข้างนอกกัน ความรู้สึกมันบอกไม่ถูกอะครับ อาจเป็นเพราะเราเองก็ทำใจมาแล้วในระดับนึงอะครับ
ตอนนั้นเสียใจก็เสียใจแต่พอได้คุยกะแฟนเขาก็พบว่าแฟนเขานี่ก็เป็นคนดีคนนึงเลยทีเดียว
เราก็รู้สึกยินดีที่สองคนนี้เขาคบกันความรู้สึกตอนนั้นเหมือนตอนที่เพื่อนสนิทผมมันบอกว่ามันมีแฟนแต่น้ำตาก็มีปริ่มๆบ้างนะครับ
แต่พอแยกออกมาตอนขับรถกลับคอนโดเท่านั้นแหละครับ ไม่รู้เป็นเพราะเพลงในวิทยุที่ผมฟังในรถด้วยหรือเปล่า น้ำตานี่มาจากไหนก็ไม่รู้มาเป็นน้ำป่าไหลหลากเลยตอนนั้นดราม้าดราม่า แต่พอร้องไห้เสร็จผมก็พยายามตั้งสติแล้วอยู่ๆ ผมก็พูดกับตัวเองว่า "ร้องไห้ทำไมวะร้องไปก็ไม่ได้ผัวเป็นหมอฟันอยู่ดี"
ส่วนเรื่องที่จะไปสิงคโปร์ผมก็บอกเขาไปแล้วนะครับ ตอนที่แฟนเขากลับไปแล้ว หมอฟันเขาก็ทำท่าเหมือนชอคๆ ผมยังจำประโยคที่เราคุยกันได้อยู่เลย
" เฮ้ย กูมีเรื่องจะบอกหว่ะ"ผมพยายามทำหน้านิ่งสุดฤทธิ์เลยครับ
"อะไรวะ" หมอฟัน
"ปีหน้ากูกับคงไม่ได้เจอกันบ่อยๆอย่างนี้แล้วหว่ะ กูต้องไปทำงานที่สิงคโปร์ตั้งแต่ต้นปีเลยหว่ะ" ผม
"จิงหรอวะ อืมยังไงก็โชคดีนะเว่ย กูคงคิดถึงมากๆเลยหว่ะ เป็นไรวะร้องไห้ทำไม ไม่เป็นไรเว่ยไม่เป็นไร" หมอฟันเขาทำหน้าชอคๆเจื่อนๆ แต่ผมนี่น้ำตงน้ำตาไปละครับจนเขาเอามือมาตบที่ไหล่ผมปลอบใจ
"กูไม่เป็นไรเว่ย" ผมพูดทั้งที่น้ำตายังนองๆอยู่อย่างนั้นแหละครับ
"แต่เราก็ยังมีเวลาอยู่ด้วยกันนะ อีกตั้งเดือนกว่าๆ ไม่งั้นก็คุยไลน์หรือเฟสบุ๊คกับกูก็ได้นะ เอดไปยังไม่ค่อยได้คุยกันเลย เทคโนโลยีมีใช้ดิวะ ยังไงกูก็อยากคุยกับอย่างนี้ไปเรื่อยๆนะ กลับมาไทยช่วงไหนก็นัดไปเที่ยวกันดูหนังฟังเพลงกันก็ได้" หมอฟันเขาพยายามพูดปลอบใจผมแต่ผมตอนนั้นรู้สึกไม่ดีมากเลยครับที่เขาพูดอย่างนั้นกับผม เข้าใจไหมครับมีแฟนอยู่แล้วจะมาพูดอย่างนี้กับผมทำไมผมไม่ใช่แฟนมันซะหน่อยจนผมเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่เลยสวนมันไป
"พอเหอะ แล้วแฟนอะ เอาเวลาไปอยู่กับแฟนเถอะ"ผมพุดทั้งที่ยังร้องไห้อยู่นะครับแล้วรีบวิ่งขึ้นลิฟท์กลับห้องผมไปเลย จนตอนนี้ผมเลยมาตั้งกระทู้นี่แหละครับ ตอนนี้ผมคงปลงกับความรักไปอีกซักพัก5555
จุดจบของ สถาปนิกที่เเอบชอบหมอฟันคอนโดเดียวกันครับ(y)
วันนี้ผมเจอเขาพร้อมกับแฟนของเขาซึ่งเป็นผู้หญิงและเป็นหมอฟันเหมือนกันครับเลยชวนกันไปกินข้าวข้างนอกกัน ความรู้สึกมันบอกไม่ถูกอะครับ อาจเป็นเพราะเราเองก็ทำใจมาแล้วในระดับนึงอะครับ
ตอนนั้นเสียใจก็เสียใจแต่พอได้คุยกะแฟนเขาก็พบว่าแฟนเขานี่ก็เป็นคนดีคนนึงเลยทีเดียว
เราก็รู้สึกยินดีที่สองคนนี้เขาคบกันความรู้สึกตอนนั้นเหมือนตอนที่เพื่อนสนิทผมมันบอกว่ามันมีแฟนแต่น้ำตาก็มีปริ่มๆบ้างนะครับ
แต่พอแยกออกมาตอนขับรถกลับคอนโดเท่านั้นแหละครับ ไม่รู้เป็นเพราะเพลงในวิทยุที่ผมฟังในรถด้วยหรือเปล่า น้ำตานี่มาจากไหนก็ไม่รู้มาเป็นน้ำป่าไหลหลากเลยตอนนั้นดราม้าดราม่า แต่พอร้องไห้เสร็จผมก็พยายามตั้งสติแล้วอยู่ๆ ผมก็พูดกับตัวเองว่า "ร้องไห้ทำไมวะร้องไปก็ไม่ได้ผัวเป็นหมอฟันอยู่ดี"
ส่วนเรื่องที่จะไปสิงคโปร์ผมก็บอกเขาไปแล้วนะครับ ตอนที่แฟนเขากลับไปแล้ว หมอฟันเขาก็ทำท่าเหมือนชอคๆ ผมยังจำประโยคที่เราคุยกันได้อยู่เลย
" เฮ้ย กูมีเรื่องจะบอกหว่ะ"ผมพยายามทำหน้านิ่งสุดฤทธิ์เลยครับ
"อะไรวะ" หมอฟัน
"ปีหน้ากูกับคงไม่ได้เจอกันบ่อยๆอย่างนี้แล้วหว่ะ กูต้องไปทำงานที่สิงคโปร์ตั้งแต่ต้นปีเลยหว่ะ" ผม
"จิงหรอวะ อืมยังไงก็โชคดีนะเว่ย กูคงคิดถึงมากๆเลยหว่ะ เป็นไรวะร้องไห้ทำไม ไม่เป็นไรเว่ยไม่เป็นไร" หมอฟันเขาทำหน้าชอคๆเจื่อนๆ แต่ผมนี่น้ำตงน้ำตาไปละครับจนเขาเอามือมาตบที่ไหล่ผมปลอบใจ
"กูไม่เป็นไรเว่ย" ผมพูดทั้งที่น้ำตายังนองๆอยู่อย่างนั้นแหละครับ
"แต่เราก็ยังมีเวลาอยู่ด้วยกันนะ อีกตั้งเดือนกว่าๆ ไม่งั้นก็คุยไลน์หรือเฟสบุ๊คกับกูก็ได้นะ เอดไปยังไม่ค่อยได้คุยกันเลย เทคโนโลยีมีใช้ดิวะ ยังไงกูก็อยากคุยกับอย่างนี้ไปเรื่อยๆนะ กลับมาไทยช่วงไหนก็นัดไปเที่ยวกันดูหนังฟังเพลงกันก็ได้" หมอฟันเขาพยายามพูดปลอบใจผมแต่ผมตอนนั้นรู้สึกไม่ดีมากเลยครับที่เขาพูดอย่างนั้นกับผม เข้าใจไหมครับมีแฟนอยู่แล้วจะมาพูดอย่างนี้กับผมทำไมผมไม่ใช่แฟนมันซะหน่อยจนผมเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่เลยสวนมันไป
"พอเหอะ แล้วแฟนอะ เอาเวลาไปอยู่กับแฟนเถอะ"ผมพุดทั้งที่ยังร้องไห้อยู่นะครับแล้วรีบวิ่งขึ้นลิฟท์กลับห้องผมไปเลย จนตอนนี้ผมเลยมาตั้งกระทู้นี่แหละครับ ตอนนี้ผมคงปลงกับความรักไปอีกซักพัก5555