วันนี้พึ่งมีโอกาศได้ดูหนังเรื่องสยามสแควร์ ก็เตรียมใจมาระดับนึงไม่ได้คาดหวังมาก ได้ยินเสียงรีวิวจากทั้งสองมุม วันนี้เลยอยากมารีวิวในฐานะคนชอบดูหนังครับ
ด้านพลอตถือว่ากล้าหยิบมาเล่นมากๆ ใครจะไปคิดว่ามีผีอยู่ในสยาม ซึ่งส่วนนี้สำหรับผมรู้สึกน่าสนใจตั้งแต่ดูตัวอย่าง ซีนน่ากลัวทำได้ดี แต่บางซีนก็ดูยืดยาดไปหน่อย(ฉากที่ไฟดับและเห็นผีนั่งอยู่ ในท้ายๆเรื่อง) กับหนังเรื่องอื่นเรารู้สึกว่าพอเข้าซีนน่ากลัวดนตรีเร้าขึ้นมา ก็จะรู้สึกถูกบิ้วอารมณ์ แต่เรื่องนี้รู้สึกว่าเมื่อไหร่เมิงจะหลอกซะที มีมาบ้าง แต่ซีนต้นเรื่องที่เจอผีด้ายแดงจนถึงหายเข้ากำแพงถือว่าทำได้ดี หลอนดี พอมาถึงช่วงท้ายเรื่องหนังก็เฉลยปมว่านิดข้ามเวลามาจากเมื่อ30ปีก่อน เชดเข้ มิติใหม่แห่งวงการหนังไทยตรงส่วนนี้ผมรับได้นะ เจ๋งดี (ตรงจุดนี้ทำให้หนังเรื่องนี้แตกเป็น2เสียง ) แต่จุดที่ผมขัดใจจริงๆ....
การตัดต่อครับ การตัดต่อที่หลายๆฉากก็ไม่ค่อยสมูท ตอนเปิดเรื่องที่หยิบเอาจุดท้ายๆเรื่องมาเปิดเรื่องแล้วค่อยเล่าย้อนเหมือนหนังเรื่องอื่นๆ (ฉากที่เมย์กับเพื่อนมานั่งเรียนแล้วเจอผีด้ายแดงเป็นครั้งแรก) ตอนต้นเรื่องเล่าอีกแบบ พอท้ายเรื่องเล่าอีกแบบ มันก็พอตีความได้ว่าเออเพื่อนเมย์คงใส่รา้ยเมย์ไม่พูดความจริง ว่าตัวเพื่อนเองที่ไปคุยกับผีด้ายแดง แต่มันดูไม่ค่อยสมูทลื่นไหล อีกฉากคือฉากความฝันที่เมย์ไปตามหาเพื่อน อยู่ๆคิดจะตัดก็ตัดไปตัดมา อ้าว ตกลงฝันหรอ55555 ฉากโดนผีเหวี่ยงในห้องช่วงท้ายๆ ยอมรับว่างงมากๆกล้องตัดไปตัดมา มองไม่รู้ใครเป็นใคร เปิดมาอีกทีคือเห็นเติร์กตกตึก
-_-
หนังชอบเปิดประเด็นเรื่องๆนึง แล้วตัดหนีไปประเด็นอื่นเช่น ฉากที่เมย์มาได้ยินว่าเพื่อนใส่ความตัวเอง กำลังทะเลาะกันว่าทำไมแกทำงี้ แล้วผีด้ายแดงก้เข้ามา...ตัดมาอีกทีตอนจบ คือทั้งสองคนก็แยกกัน เจอหน้าไม่ทัก และอีหลายๆฉาก ดูเหมือนมันไปไม่สุด จะเคลียมั้ย ก็ไม่ ตัดฉากมาอย่าง งงๆ ซึ่งสาเหตุหลักๆน่าจะมาจากตัวละคร10คน ที่ดูเหมือนจะเยอะเกินไป เพียงแค่จำชื่อได้แม่นทุกคนก็ยากแล้ว เปิดเรื่องมาคนนู้นเจอคนนี้อ้างชื่อบุคคลที่3ไปถึงคนนู้นแบบ คนดุก้ได้แต่สับสนว่ามันเป็นใครบลาๆ ต้องกลางๆเรื่องถึงพอจะเชื่อมโยงเองได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะโดนยัดปมมาให้เกือบทุกคน และมันดูเหมือนยัดเกินไป จนมันดูไม่สุดในปมแต่ละคน
ส่วนที่ดีที่สุดอีกอย่างของหนังคือ สิ่งที่ผกกต้องการสื่อทำออกมาได้ชัดเจนดี ว่าจุดประสงค์คืออะไร และทำให้คนดูอินกับแมสเสจได้ไม่ยาก นักแสดงหลายๆคนแสดงได้สมบทบาท แต่คนที่โดดเด่นจนต้องยกนิ้วให้คือ เบส อ้าวเฮ้ย แสดงดีมากๆ ซีนไหนมีเบส ซีนนั้นอาตลอดๆ อีกคนคือ นิด(พลอย อาบัติ)
[สยามสแควร์] หนังผีที่หักมุมอีกเรื่อง แต่.... (สปอย)
ด้านพลอตถือว่ากล้าหยิบมาเล่นมากๆ ใครจะไปคิดว่ามีผีอยู่ในสยาม ซึ่งส่วนนี้สำหรับผมรู้สึกน่าสนใจตั้งแต่ดูตัวอย่าง ซีนน่ากลัวทำได้ดี แต่บางซีนก็ดูยืดยาดไปหน่อย(ฉากที่ไฟดับและเห็นผีนั่งอยู่ ในท้ายๆเรื่อง) กับหนังเรื่องอื่นเรารู้สึกว่าพอเข้าซีนน่ากลัวดนตรีเร้าขึ้นมา ก็จะรู้สึกถูกบิ้วอารมณ์ แต่เรื่องนี้รู้สึกว่าเมื่อไหร่เมิงจะหลอกซะที มีมาบ้าง แต่ซีนต้นเรื่องที่เจอผีด้ายแดงจนถึงหายเข้ากำแพงถือว่าทำได้ดี หลอนดี พอมาถึงช่วงท้ายเรื่องหนังก็เฉลยปมว่านิดข้ามเวลามาจากเมื่อ30ปีก่อน เชดเข้ มิติใหม่แห่งวงการหนังไทยตรงส่วนนี้ผมรับได้นะ เจ๋งดี (ตรงจุดนี้ทำให้หนังเรื่องนี้แตกเป็น2เสียง ) แต่จุดที่ผมขัดใจจริงๆ....
การตัดต่อครับ การตัดต่อที่หลายๆฉากก็ไม่ค่อยสมูท ตอนเปิดเรื่องที่หยิบเอาจุดท้ายๆเรื่องมาเปิดเรื่องแล้วค่อยเล่าย้อนเหมือนหนังเรื่องอื่นๆ (ฉากที่เมย์กับเพื่อนมานั่งเรียนแล้วเจอผีด้ายแดงเป็นครั้งแรก) ตอนต้นเรื่องเล่าอีกแบบ พอท้ายเรื่องเล่าอีกแบบ มันก็พอตีความได้ว่าเออเพื่อนเมย์คงใส่รา้ยเมย์ไม่พูดความจริง ว่าตัวเพื่อนเองที่ไปคุยกับผีด้ายแดง แต่มันดูไม่ค่อยสมูทลื่นไหล อีกฉากคือฉากความฝันที่เมย์ไปตามหาเพื่อน อยู่ๆคิดจะตัดก็ตัดไปตัดมา อ้าว ตกลงฝันหรอ55555 ฉากโดนผีเหวี่ยงในห้องช่วงท้ายๆ ยอมรับว่างงมากๆกล้องตัดไปตัดมา มองไม่รู้ใครเป็นใคร เปิดมาอีกทีคือเห็นเติร์กตกตึก
-_-
หนังชอบเปิดประเด็นเรื่องๆนึง แล้วตัดหนีไปประเด็นอื่นเช่น ฉากที่เมย์มาได้ยินว่าเพื่อนใส่ความตัวเอง กำลังทะเลาะกันว่าทำไมแกทำงี้ แล้วผีด้ายแดงก้เข้ามา...ตัดมาอีกทีตอนจบ คือทั้งสองคนก็แยกกัน เจอหน้าไม่ทัก และอีหลายๆฉาก ดูเหมือนมันไปไม่สุด จะเคลียมั้ย ก็ไม่ ตัดฉากมาอย่าง งงๆ ซึ่งสาเหตุหลักๆน่าจะมาจากตัวละคร10คน ที่ดูเหมือนจะเยอะเกินไป เพียงแค่จำชื่อได้แม่นทุกคนก็ยากแล้ว เปิดเรื่องมาคนนู้นเจอคนนี้อ้างชื่อบุคคลที่3ไปถึงคนนู้นแบบ คนดุก้ได้แต่สับสนว่ามันเป็นใครบลาๆ ต้องกลางๆเรื่องถึงพอจะเชื่อมโยงเองได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะโดนยัดปมมาให้เกือบทุกคน และมันดูเหมือนยัดเกินไป จนมันดูไม่สุดในปมแต่ละคน
ส่วนที่ดีที่สุดอีกอย่างของหนังคือ สิ่งที่ผกกต้องการสื่อทำออกมาได้ชัดเจนดี ว่าจุดประสงค์คืออะไร และทำให้คนดูอินกับแมสเสจได้ไม่ยาก นักแสดงหลายๆคนแสดงได้สมบทบาท แต่คนที่โดดเด่นจนต้องยกนิ้วให้คือ เบส อ้าวเฮ้ย แสดงดีมากๆ ซีนไหนมีเบส ซีนนั้นอาตลอดๆ อีกคนคือ นิด(พลอย อาบัติ)