กระแสหนังออกมาเป็น 2 ขั้วสุดๆ ชอบไปเลย ไม่ชอบไปเลย สำหรับหนังเรื่อง สยามสแควร์
-----
เราอยู่ฝั่งชอบเอามากๆ และจะขอพูดถึงมันเสียหน่อย
สยามสแควร์ (2017) คะแนน 9/10
หนังเริ่มมาแบบหนังผีทั่วไป ตำนานที่สยาม ผีตัวหนึ่ง ที่หลอกหลอน และพูดถึงกันมา 30 ปี จนกลายเป็นเรื่องเล่าหลอนๆต่างๆนา ว่าถ้าใครเจอผีตัวนี้ จะตื่นมาพร้อมด้ายสีแดงที่ข้อมือ หมายหัวว่าจะเอาชีวิต
วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งก็ต้องได้ประสบพบเจอเห็นการณ์หลอนนี้ โดยที่ชีวิตของตัวพวกเขาเองก็กำลังอยู่ในวิกฤติทั้งเรื่องเพื่อน ความรัก และการเรียน
ถ้าหนังมาเส้นนี้ ทั่วๆไป คนถูกผีหลอกไปเรื่อย เราก็คงชอบแหละนะ แต่ก็เป็นหนังผีอีกเรื่องที่สนุกดี แต่คงจะไม่ได้จำอะไรมาก หนังตลอดการดู ทำให้เราคิดวกวนไปมาในหัวตลอด ว่าเกิดอะไรขึ้น อีนี่เป็นใคร Suspense ที่นี่มาถึงจุดนึงที่ทำให้เราชอบหนักเลย กรี้ดเลย คือความกล้าหาญในการเล่าเรื่องหักมุมกลางเรื่อง ซึ่งเนิร์ดมาก และเราชอบมากกก
การเฉลยนี้ เฉลยออกมาแล้วทำให้เนื้อเรื่องจากเรื่องผีเปลี่ยนไปเลย และทำให้หนังเล่าในส่วนที่เหลือ กลายเป็น กฎเกณฑ์ผีใหม่ และเป็นผีที่ไม่ได้เกิดจากคนตาย แต่เป็นความเชื่อแบบใหม่ การรวมพลังงานของความกลัวจนกลายเป็นรูปธรรม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้และผีก็อิงมาจากบุคคลคนหนึ่งที่หายสาปสูญไปในสยามเมื่อ 30 ปีก่อน จนคนเอาไปพูดๆกันจนเกิดเรื่องผีขึ้นมา และทำให้ผีมีจริง แต่นางไม่ได้หายไปไหนจ้า นางหาบสาปสูญเพราะหลุดเข้าหลุมดำในตอนไฟดับที่สยามเมื่อ 30 ปี และหลุดเข้ามาในยุคปัจจุบัน ทำให้ช่วงเวลา 30 ปี ที่นางหายไปเกิดเรื่องผีของนางมากมาย แน่นอนว่าเธอก็ต้องมาเผชิญหน้ากับ ผีหรือสิ่งมีชีวิตนี้ ที่อิงจากตำนานตัวเองเธอ กับสิ่งที่เล่าๆต่อกันมา
ซึ่งการเฉลยนี้ทำให้หนังแบบ เห้ยยยย บียอนด์ทะลุมิติมาก ท้าทายมาก เพราะมันเสี่ยงมากๆ ที่ทำให้คนที่ชอบก็จะชอบมากๆได้ เพราะมันจะสะท้อน สภาวะของตัวละครจากอดีต และตัวนำในปัจจุบันได้ชัดมากๆ กับสิ่งที่หนังพยายาม เล่าดราม่าชีวิตของตัวละคร จิตใจ มาตลอดแต่ต้น และตบได้ดี ฟินในท้ายสุดกับตอนจบหนังเลย
(มันจะมีความเป็นหนังดี ที่มากกว่าหนังผี เพื่อนที่ไปดูด้วยบอกว่า ไม่ได้ชอบหนังเรื่องนี้ ในเชิงหนังผีดี แต่ชอบในเชิงหนังที่เล่าเรื่องสะท้อนปมตัวละคร เมสเสจดี โดยมีเรื่องผีเป็นองค์ประกอบไปเลย)
แต่ขณะเดียวกัน คนดูอีกกลุ่มที่หากผ่านกลางเรื่องนั้น และเกิดอาการไม่ชอบไม่อินไม่เก็ท จะมองว่า ปัญญาอ่อน และถูกผลักออกจากหนังเลย ทำให้ครึ่งหลังจะกลายเป็นไร้สาระ เพ้อเจ้อ สำหรับคนกลุ่มหลังได้
และสำหรับเรื่องของผีเอง นั่นแหละ มันกล้าหาญที่เล่าเรื่องผีนี้ ได้เล่นใหญ่มาก ครึ่งหลังเวย์แฟนตาซี เงื่อนไขเวอร์วังมาก ไปไกลกว่าหนังผีแก้คำสาปทั่วไป ทำให้เข้าใจว่าคนไม่ชอบจะแบบ "เล่นอะไรกันวะ"
จริงๆหนังค่อยข้างมีความ High Concept คล้ายพวกหนังผีที่พยายามทำตัวเหนือๆออกนอกขนบ แบบ Take me home สุขสันต์วันกลับบ้าน , ห้องหุ่น (หนัง) , The Eye Diary หริอหนังผีอะไรที่เนื้อเรื่องกูต้องบียอนด์ไปให้ไกล เงื่อนไขของผีเล่นใหญ่ ซึ่งถ้าทำไม่ถึง คือไม่ผ่านเลย
แต่สำหรับเรา (เราฝั่งคนดูที่อิน) เราให้ผ่าน ซึ่งถ้ามองฝั่งเรา ซึ่งเป็นคนดูที่ชอบเรื่องนี้ บอกตรงๆ เราไม่มีอะไรจะติเลย 55555+ เราก็เนิร์ดไซไฟพอควรเลยชอบเรื่องนี้มากๆ แต่เราก็พูดข้อเสีย (ในมุมคนอื่นมั้ง) ดักไว้ดังข้างบน เพราะเดาๆรสนิยมดูหนังคนทั่วๆไปออกอยู่บ้าง ว่าอาจจะงงเต็ก หรือแบบ wtf อยู่
ข้อเสีย :
-ตัวละครปอนด์ ดูเกินๆ เหมือนใช้ function ได้ไม่ครบ เหมือนไม่รู้ว่าทำไมต้องมาเกี่ยวกับคำสาป
-มุขผีหลอกบางมุข แบบการตัดต่อสลับหน้าสลับร่างอะไรแบบนี้ เชยนะ (แต่ซีนที่ตัวละครถูกแยก seperate ในห้องเรียน หรือซีนฝัน ซีนแบบหายไปในกำแพงไรงี้ มันขนลุก และ Classy มาก ส่วนตัวไม่ชอบหนังตุ้งแช่น่ะ)
[CR] รีวิว สยามสแควร์ หนังผีเล่นใหญ่ระดับทะลุมิติ interstellar (มีสปอย)
-----
เราอยู่ฝั่งชอบเอามากๆ และจะขอพูดถึงมันเสียหน่อย
สยามสแควร์ (2017) คะแนน 9/10
หนังเริ่มมาแบบหนังผีทั่วไป ตำนานที่สยาม ผีตัวหนึ่ง ที่หลอกหลอน และพูดถึงกันมา 30 ปี จนกลายเป็นเรื่องเล่าหลอนๆต่างๆนา ว่าถ้าใครเจอผีตัวนี้ จะตื่นมาพร้อมด้ายสีแดงที่ข้อมือ หมายหัวว่าจะเอาชีวิต
วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งก็ต้องได้ประสบพบเจอเห็นการณ์หลอนนี้ โดยที่ชีวิตของตัวพวกเขาเองก็กำลังอยู่ในวิกฤติทั้งเรื่องเพื่อน ความรัก และการเรียน
ถ้าหนังมาเส้นนี้ ทั่วๆไป คนถูกผีหลอกไปเรื่อย เราก็คงชอบแหละนะ แต่ก็เป็นหนังผีอีกเรื่องที่สนุกดี แต่คงจะไม่ได้จำอะไรมาก หนังตลอดการดู ทำให้เราคิดวกวนไปมาในหัวตลอด ว่าเกิดอะไรขึ้น อีนี่เป็นใคร Suspense ที่นี่มาถึงจุดนึงที่ทำให้เราชอบหนักเลย กรี้ดเลย คือความกล้าหาญในการเล่าเรื่องหักมุมกลางเรื่อง ซึ่งเนิร์ดมาก และเราชอบมากกก
การเฉลยนี้ เฉลยออกมาแล้วทำให้เนื้อเรื่องจากเรื่องผีเปลี่ยนไปเลย และทำให้หนังเล่าในส่วนที่เหลือ กลายเป็น กฎเกณฑ์ผีใหม่ และเป็นผีที่ไม่ได้เกิดจากคนตาย แต่เป็นความเชื่อแบบใหม่ การรวมพลังงานของความกลัวจนกลายเป็นรูปธรรม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งการเฉลยนี้ทำให้หนังแบบ เห้ยยยย บียอนด์ทะลุมิติมาก ท้าทายมาก เพราะมันเสี่ยงมากๆ ที่ทำให้คนที่ชอบก็จะชอบมากๆได้ เพราะมันจะสะท้อน สภาวะของตัวละครจากอดีต และตัวนำในปัจจุบันได้ชัดมากๆ กับสิ่งที่หนังพยายาม เล่าดราม่าชีวิตของตัวละคร จิตใจ มาตลอดแต่ต้น และตบได้ดี ฟินในท้ายสุดกับตอนจบหนังเลย
(มันจะมีความเป็นหนังดี ที่มากกว่าหนังผี เพื่อนที่ไปดูด้วยบอกว่า ไม่ได้ชอบหนังเรื่องนี้ ในเชิงหนังผีดี แต่ชอบในเชิงหนังที่เล่าเรื่องสะท้อนปมตัวละคร เมสเสจดี โดยมีเรื่องผีเป็นองค์ประกอบไปเลย)
แต่ขณะเดียวกัน คนดูอีกกลุ่มที่หากผ่านกลางเรื่องนั้น และเกิดอาการไม่ชอบไม่อินไม่เก็ท จะมองว่า ปัญญาอ่อน และถูกผลักออกจากหนังเลย ทำให้ครึ่งหลังจะกลายเป็นไร้สาระ เพ้อเจ้อ สำหรับคนกลุ่มหลังได้
และสำหรับเรื่องของผีเอง นั่นแหละ มันกล้าหาญที่เล่าเรื่องผีนี้ ได้เล่นใหญ่มาก ครึ่งหลังเวย์แฟนตาซี เงื่อนไขเวอร์วังมาก ไปไกลกว่าหนังผีแก้คำสาปทั่วไป ทำให้เข้าใจว่าคนไม่ชอบจะแบบ "เล่นอะไรกันวะ"
จริงๆหนังค่อยข้างมีความ High Concept คล้ายพวกหนังผีที่พยายามทำตัวเหนือๆออกนอกขนบ แบบ Take me home สุขสันต์วันกลับบ้าน , ห้องหุ่น (หนัง) , The Eye Diary หริอหนังผีอะไรที่เนื้อเรื่องกูต้องบียอนด์ไปให้ไกล เงื่อนไขของผีเล่นใหญ่ ซึ่งถ้าทำไม่ถึง คือไม่ผ่านเลย
แต่สำหรับเรา (เราฝั่งคนดูที่อิน) เราให้ผ่าน ซึ่งถ้ามองฝั่งเรา ซึ่งเป็นคนดูที่ชอบเรื่องนี้ บอกตรงๆ เราไม่มีอะไรจะติเลย 55555+ เราก็เนิร์ดไซไฟพอควรเลยชอบเรื่องนี้มากๆ แต่เราก็พูดข้อเสีย (ในมุมคนอื่นมั้ง) ดักไว้ดังข้างบน เพราะเดาๆรสนิยมดูหนังคนทั่วๆไปออกอยู่บ้าง ว่าอาจจะงงเต็ก หรือแบบ wtf อยู่
ข้อเสีย :
-ตัวละครปอนด์ ดูเกินๆ เหมือนใช้ function ได้ไม่ครบ เหมือนไม่รู้ว่าทำไมต้องมาเกี่ยวกับคำสาป
-มุขผีหลอกบางมุข แบบการตัดต่อสลับหน้าสลับร่างอะไรแบบนี้ เชยนะ (แต่ซีนที่ตัวละครถูกแยก seperate ในห้องเรียน หรือซีนฝัน ซีนแบบหายไปในกำแพงไรงี้ มันขนลุก และ Classy มาก ส่วนตัวไม่ชอบหนังตุ้งแช่น่ะ)