ผมจะเรียนให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านทราบก่อนว่า (การขายของบน amazon หากคุณไม่ได้รักในการขายจริงหรือหวังผลกำไรระยะสิ้น อย่าคิดลองครับ)
เพราะ การที่หวังผลกำไร ระยะสั้นจาก amazon.com คุณอาจหาเงินได้จำนวนหนึ่งแต่คุณอาจยืนอยู่ได้ไม่นาน ด้วยปัจจัยหลายๆสาเหตุ
และเมื่อคุณคิดจะที่เข้าร่วมกับ amazon แล้ว ไม่ว่ายังไงก็แล้ว หากคุณยังไม่ประสบความสำเร็จผมอยากให้สู้ต่อไปเพราะผม ยังเป็นเด็กและสู้บน amazon มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ผลลัพธ์ ที่ได้ ผมถือว่าผมประสบความสำเร็จ ระดับหนึ่งเลยครับ
วิธีขายของบน amazon ยังไงให้ขายได้ หรือ ให้อยู่รอด
ก่อน อื่น ผมต้องอธิบาย การเรียกเก็บเงินจาก amazon ก่อนนะ ครับ หากคุณ สมัครเป็น แบบ seller professionals คุณจะถูกเรียกเก็บเงินรายเดือนเป็นจำนวน 1300-1400 บาท หรือ 39.99$ นะครับ ค่าเงินเค้าขึ้นๆๆลง นี้คือ 1 สิ่งที่คุณต้องทำใจเอาไว้เพราะคุณจพถูกเรียกเก็บทุกเดือน
ต่อไป เรามาพูดถึง ค่าคอม มิสชั่น ของamazon ที่เรียกเก็บจากเราบ้าง ยกตัวอย่าง ผมตั้งขายของ 1 ชิ้น ราคา 100 USD ผมจะถูก เรียกเก็บค่า คอมมิสชั่นทันที 15 % ค่าคอม มิสชั่นของคุณจะถูกหัก ออกหลังจากขายสิ้นค้าได้ทัน ตอนเวลาลงขายให้ + ค่าคอมมิสชั่นเข้าไปด้วย
ถ้าถามโอ้โห หักเยอะขนาดนี้ เราจะได้อะไร ให้คุณคิดนะครับ ค่าเงิน USD CAD ไม่เหมือนค่าเงินไทย เพราะฉะนั้นการที่คุณจะขายอะไรซัก1อย่าง คุณต้องคิดคำนวณให้ดี 1 ค่าขนส่ง+ค่าคอมมิสชั่น
ยกตัวอย่างผมขาย ยาสีฟัน ซื้อ จากประเทศไทย 65 บาท ยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่ 1 สิ่งที่ผมต้องคิดคือ ต้นทุน
ต้นทุนมีอะไร 1 ค่าเดินทาง 2 ค่าขนส่ง ต่อไปหากเราคิดเรียบร้อยแล้วว่าต้นทุนทั้งหมดเท่าไร ให้เราคิดถึงกำไรว่าเราอยากได้เท่าไร
ผมยกตัวอย่างการตั้งราคาขายอย่างเช่น ผมตั้งขาย ยาสีฟันในราคา 35.98 US=1227 THB
เราซื้อในราคา 65 บาทค่านั่งรถไฟซื้อ 50 บาท ค่า ขนส่ง 105 บาท ค่าคอมมิสชั่น 15% 180 บาท และเมื่อหัก รวมทุกอย่างแล้ว คุณจะได้กำไรจากการขายยาสีฟันดอกบัวคู่ 827 บาท ถ้าผมถามทุกท่านว่า ขายในไทยได้ไหม ยาสีฟันดอกบัวคู่ซื้อ 65 บาท กำไร 827 บาท ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ทุกท่านคงอยากทราบว่า แค่ยาสีฟันทำไมขายได้จริงหรอ ผมอยากจะให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านเห็นว่า แม่แต่หนังยาง ดอกเก็กฮวยแห้ง หมูหยอง ดอกกุหลาบปลอม1 ช่อผมก็ ขายมาแล้ว ครับ
ต่อไป เราจะมาพูดกันเรื่องที่สำหรับคนไหนที่เคยขายแล้วไม่รอดบน amazon ขาดทุน
ทำไมถึงขาดทุนล่ะครับ! ผมมองเห็นคนส่วนใหญ่ที่ทำ amazon ส่วนมากด้วยนิสัยมักง่ายชอบ coppy หรือ ภาษา amazon เรียกกันว่า sell on amazon
sell on amazon หรือการ coppy คืออะไร คือการที่เราเข้าไปเห็นสินค้า 1 ตัวที่เราหาได้ เห็นว่ามีรีวิว การซื้อ เมื่อคุณและเลยมีการอยากที่จะขายสินค้าชิ้นนั้นขึ้นมาเหมือนกัน
ยกตัวอย่างเช่น! พริก และ ซอสหอยนางรม หรือมาม่า แน่นอนครับ ของพวกนี้มีรีวิวค่อนข้างที่จะเยอะ หากคุณกำลังคิดจะกดปุ่ม seller on amazon คุณคิดผิดอย่างหนัง เพราะหลังจากที่คุณเข้าไปขายร่วมกับ ผู้ที่ลงขายสินค้าเป็นคนแรก คุณจะถูกลดราคา ด้วยคนอื่นๆ เพราะฉะนั้น มันจะทำให้คุณตั้งราคาการขายที่ต่ำที่สุด และคุณก็กำลังจะคิดว่าคุณต้องขายได้ แน่นอน! (มันขายได้แน่นอนครับ) ถามว่าถ้าคุณจะเอาแต่ออเดอร์ คุณไม่เอากำไรใช่ไหมหากคุณทำเช่นนั้น อย่างเช่นมาม่า ผู้ลงขายคนแรก ตั้งอยู่ที่ 12 PACK ราคา 45.98 USD แต่เมื่อคนที่สองเข้าเห็นว่ามีการขายได้ คนที่ 2 เกิดความคิดขึ้นที่ว่า เห้ย 45.98 มันแพงไป เอาซัก 30.00USD ดีดว่ายังไงก็ได้กำไร ใช่ครับตอนนั้น คุณยังได้ ต่อไปคนที่ 3 เข้ามาเห็น เฮ้ย! มาม่าขายได้ 30US แพงไป เอาซัก 25US ดีดว่า ต่อไปคนที่ 4 เข้ามาเห็น เฮ้ย!มาม่า แพงไป 25 เอาซัก 15 กำลังดี กำไรนิดหน่อยดีกว่าไม่มีออเดอร์ ต่อไป คนที่ 5 เข้ามาเห็น โอ้โห เม่งตั้งกันซ่ะถูก เอาว่ะ อยากน้อยก็มีออเดอร์ ยังไงก็ยังได้ส่ง ตั้งเม่งซัก 8 US พอ ผมถามหน่อย มาม่าซอง ละ 6 บาท 12ห่อ +ค่าส่ง เท่าไร แล้วครับ ค่าคอมมิสชั่น + เข้าไป อีกค่าเช่าร้าน ต่อเดือนอีก คิดแล้วหรอ ครับที่กดปุ่ม sell on amazon หุหุ ผมเจอมาเยอะ ล่าสุดผมเห็น มามา 1 กล่อง ราคา 3USD ก็เจอมาแล้วไม่รู้เหมือนกันจะขายเพื่ออะไร ขายไปก็ขาดทุน
(จำไว้นะครับ amazon ไม่ได้กำไรหนดราคาตายตัวว่าคุณจะต้องขายขั้นต่ำเท่าไร คุณต้องขายให้ตัวคุณได้กำไรคุณถึงจะยืนรอด)
ต่อมาเรามาว่ากันด้วยเรื่อง อ้าวแล้วแบบนี้เราจะขายยังไงละ ให้ได้กำไรเยอะๆ
1 เลยสินค้าของคุณ สินค้าบนประเทศไทยมีเป็น ล้านๆสินค้า หากคุณไปเจอว่าคุณอยากขายอันนั้นอันนี้แต่มีคนขายแล้วจะขายได้หรอ จะสู้เค้าไหวหรอ
ทำยังไงถึงจะสู้
1 keyword ต้องดีจริงๆๆครับ amazon ไม่ได้บังคับให้คุณใส่ keyword นะ แต่ถ้าหากคุณจะใส่คุณจะสามารถใส่ได้ 5 พัน คำ ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มโอกาศในการขายให้กับคุณอย่างมาก
2 สิ่งดึงดูดลูกค้า ผมกำลัง หมายถึงรูปภาพ และ พวก รายละเอียดสิ้นค้าต่างๆนานา และวิธีใช้ หรือ สรรพคุณของสิ้นค้าตัวนั้น หากคุณ ลงครบ และตั้งใจใส่ใจในการลงขายแต่ละชิ้น คุณจะมีโอกกาศ ประสบคามสำเร็จถึง 80 %
3. อธิบายวิธีการจัดส่งของคุณให้ชัดเจน และ ระบุวันเวลาถูกต้อง และใส่รายละเอียดสินค้าครบถูกต้อง อย่างเช่น สิ้นค้าสูงเท่าไรยาวเท่าไรกว้างเท่าไร ผลิตจากอะไร แบรนด์ไหน ผลิตที่ประเทศอะไร
หากคุณทำทุกข้อที่ผมบอก โอกาศที่คุณจะขายสินค้าตัวนั้นได้ มันมีมากถึง 85%
แล้วเราต้องใช้เวลาในการลงสินค้านานไหม ตอบเลยครับสำหรับมือใหม่ 30 นาที-1-2 ชั่วโมง เมื่อคุณคล่องแล้ว คุณจะไวเอง ครับ ทุกวันนี้ผมลงขายสินค้าแต่ละชิ้นเพียงชิ้นละ 5 นาที พูดแล้วก็อยากจะโชว์ ออเดอร์รึเกิน แต่มันโพสรูปไม่ได้ เพราะ พันทิปไม่อณุญาติ
เอาเป็นว่ามือใหม่ amazon นะครับ ลองทำตามที่ผมบอก ผมเชื่อว่าคุณจะอยู่บน amazon รอดแน่นอน หากใครมีข้อส่งสัย ยินดีหลังไมค์ครับ บ้ายบาย
ขอให้ประสบความสำเร็จ นะครับ อ๋อลืม การสมัคร amazon ทุกวันนี้ ไม่ง่ายแล้วนะครับ เตรียมเอกสารให้พร้อม ล่ะ ยิ้ม Good luck
ผม จะอธิบายวิธีขายของบนเว็ปไซร์ ที่มียอดผู้ซื้อและ ผู้ขาย ที่เยอะแยะที่สุดในโลก และเป็นอันดับ 1 นั้นก็คือ amazon
เพราะ การที่หวังผลกำไร ระยะสั้นจาก amazon.com คุณอาจหาเงินได้จำนวนหนึ่งแต่คุณอาจยืนอยู่ได้ไม่นาน ด้วยปัจจัยหลายๆสาเหตุ
และเมื่อคุณคิดจะที่เข้าร่วมกับ amazon แล้ว ไม่ว่ายังไงก็แล้ว หากคุณยังไม่ประสบความสำเร็จผมอยากให้สู้ต่อไปเพราะผม ยังเป็นเด็กและสู้บน amazon มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ผลลัพธ์ ที่ได้ ผมถือว่าผมประสบความสำเร็จ ระดับหนึ่งเลยครับ
วิธีขายของบน amazon ยังไงให้ขายได้ หรือ ให้อยู่รอด
ก่อน อื่น ผมต้องอธิบาย การเรียกเก็บเงินจาก amazon ก่อนนะ ครับ หากคุณ สมัครเป็น แบบ seller professionals คุณจะถูกเรียกเก็บเงินรายเดือนเป็นจำนวน 1300-1400 บาท หรือ 39.99$ นะครับ ค่าเงินเค้าขึ้นๆๆลง นี้คือ 1 สิ่งที่คุณต้องทำใจเอาไว้เพราะคุณจพถูกเรียกเก็บทุกเดือน
ต่อไป เรามาพูดถึง ค่าคอม มิสชั่น ของamazon ที่เรียกเก็บจากเราบ้าง ยกตัวอย่าง ผมตั้งขายของ 1 ชิ้น ราคา 100 USD ผมจะถูก เรียกเก็บค่า คอมมิสชั่นทันที 15 % ค่าคอม มิสชั่นของคุณจะถูกหัก ออกหลังจากขายสิ้นค้าได้ทัน ตอนเวลาลงขายให้ + ค่าคอมมิสชั่นเข้าไปด้วย
ถ้าถามโอ้โห หักเยอะขนาดนี้ เราจะได้อะไร ให้คุณคิดนะครับ ค่าเงิน USD CAD ไม่เหมือนค่าเงินไทย เพราะฉะนั้นการที่คุณจะขายอะไรซัก1อย่าง คุณต้องคิดคำนวณให้ดี 1 ค่าขนส่ง+ค่าคอมมิสชั่น
ยกตัวอย่างผมขาย ยาสีฟัน ซื้อ จากประเทศไทย 65 บาท ยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่ 1 สิ่งที่ผมต้องคิดคือ ต้นทุน
ต้นทุนมีอะไร 1 ค่าเดินทาง 2 ค่าขนส่ง ต่อไปหากเราคิดเรียบร้อยแล้วว่าต้นทุนทั้งหมดเท่าไร ให้เราคิดถึงกำไรว่าเราอยากได้เท่าไร
ผมยกตัวอย่างการตั้งราคาขายอย่างเช่น ผมตั้งขาย ยาสีฟันในราคา 35.98 US=1227 THB
เราซื้อในราคา 65 บาทค่านั่งรถไฟซื้อ 50 บาท ค่า ขนส่ง 105 บาท ค่าคอมมิสชั่น 15% 180 บาท และเมื่อหัก รวมทุกอย่างแล้ว คุณจะได้กำไรจากการขายยาสีฟันดอกบัวคู่ 827 บาท ถ้าผมถามทุกท่านว่า ขายในไทยได้ไหม ยาสีฟันดอกบัวคู่ซื้อ 65 บาท กำไร 827 บาท ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ทุกท่านคงอยากทราบว่า แค่ยาสีฟันทำไมขายได้จริงหรอ ผมอยากจะให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านเห็นว่า แม่แต่หนังยาง ดอกเก็กฮวยแห้ง หมูหยอง ดอกกุหลาบปลอม1 ช่อผมก็ ขายมาแล้ว ครับ
ต่อไป เราจะมาพูดกันเรื่องที่สำหรับคนไหนที่เคยขายแล้วไม่รอดบน amazon ขาดทุน
ทำไมถึงขาดทุนล่ะครับ! ผมมองเห็นคนส่วนใหญ่ที่ทำ amazon ส่วนมากด้วยนิสัยมักง่ายชอบ coppy หรือ ภาษา amazon เรียกกันว่า sell on amazon
sell on amazon หรือการ coppy คืออะไร คือการที่เราเข้าไปเห็นสินค้า 1 ตัวที่เราหาได้ เห็นว่ามีรีวิว การซื้อ เมื่อคุณและเลยมีการอยากที่จะขายสินค้าชิ้นนั้นขึ้นมาเหมือนกัน
ยกตัวอย่างเช่น! พริก และ ซอสหอยนางรม หรือมาม่า แน่นอนครับ ของพวกนี้มีรีวิวค่อนข้างที่จะเยอะ หากคุณกำลังคิดจะกดปุ่ม seller on amazon คุณคิดผิดอย่างหนัง เพราะหลังจากที่คุณเข้าไปขายร่วมกับ ผู้ที่ลงขายสินค้าเป็นคนแรก คุณจะถูกลดราคา ด้วยคนอื่นๆ เพราะฉะนั้น มันจะทำให้คุณตั้งราคาการขายที่ต่ำที่สุด และคุณก็กำลังจะคิดว่าคุณต้องขายได้ แน่นอน! (มันขายได้แน่นอนครับ) ถามว่าถ้าคุณจะเอาแต่ออเดอร์ คุณไม่เอากำไรใช่ไหมหากคุณทำเช่นนั้น อย่างเช่นมาม่า ผู้ลงขายคนแรก ตั้งอยู่ที่ 12 PACK ราคา 45.98 USD แต่เมื่อคนที่สองเข้าเห็นว่ามีการขายได้ คนที่ 2 เกิดความคิดขึ้นที่ว่า เห้ย 45.98 มันแพงไป เอาซัก 30.00USD ดีดว่ายังไงก็ได้กำไร ใช่ครับตอนนั้น คุณยังได้ ต่อไปคนที่ 3 เข้ามาเห็น เฮ้ย! มาม่าขายได้ 30US แพงไป เอาซัก 25US ดีดว่า ต่อไปคนที่ 4 เข้ามาเห็น เฮ้ย!มาม่า แพงไป 25 เอาซัก 15 กำลังดี กำไรนิดหน่อยดีกว่าไม่มีออเดอร์ ต่อไป คนที่ 5 เข้ามาเห็น โอ้โห เม่งตั้งกันซ่ะถูก เอาว่ะ อยากน้อยก็มีออเดอร์ ยังไงก็ยังได้ส่ง ตั้งเม่งซัก 8 US พอ ผมถามหน่อย มาม่าซอง ละ 6 บาท 12ห่อ +ค่าส่ง เท่าไร แล้วครับ ค่าคอมมิสชั่น + เข้าไป อีกค่าเช่าร้าน ต่อเดือนอีก คิดแล้วหรอ ครับที่กดปุ่ม sell on amazon หุหุ ผมเจอมาเยอะ ล่าสุดผมเห็น มามา 1 กล่อง ราคา 3USD ก็เจอมาแล้วไม่รู้เหมือนกันจะขายเพื่ออะไร ขายไปก็ขาดทุน
(จำไว้นะครับ amazon ไม่ได้กำไรหนดราคาตายตัวว่าคุณจะต้องขายขั้นต่ำเท่าไร คุณต้องขายให้ตัวคุณได้กำไรคุณถึงจะยืนรอด)
ต่อมาเรามาว่ากันด้วยเรื่อง อ้าวแล้วแบบนี้เราจะขายยังไงละ ให้ได้กำไรเยอะๆ
1 เลยสินค้าของคุณ สินค้าบนประเทศไทยมีเป็น ล้านๆสินค้า หากคุณไปเจอว่าคุณอยากขายอันนั้นอันนี้แต่มีคนขายแล้วจะขายได้หรอ จะสู้เค้าไหวหรอ
ทำยังไงถึงจะสู้
1 keyword ต้องดีจริงๆๆครับ amazon ไม่ได้บังคับให้คุณใส่ keyword นะ แต่ถ้าหากคุณจะใส่คุณจะสามารถใส่ได้ 5 พัน คำ ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มโอกาศในการขายให้กับคุณอย่างมาก
2 สิ่งดึงดูดลูกค้า ผมกำลัง หมายถึงรูปภาพ และ พวก รายละเอียดสิ้นค้าต่างๆนานา และวิธีใช้ หรือ สรรพคุณของสิ้นค้าตัวนั้น หากคุณ ลงครบ และตั้งใจใส่ใจในการลงขายแต่ละชิ้น คุณจะมีโอกกาศ ประสบคามสำเร็จถึง 80 %
3. อธิบายวิธีการจัดส่งของคุณให้ชัดเจน และ ระบุวันเวลาถูกต้อง และใส่รายละเอียดสินค้าครบถูกต้อง อย่างเช่น สิ้นค้าสูงเท่าไรยาวเท่าไรกว้างเท่าไร ผลิตจากอะไร แบรนด์ไหน ผลิตที่ประเทศอะไร
หากคุณทำทุกข้อที่ผมบอก โอกาศที่คุณจะขายสินค้าตัวนั้นได้ มันมีมากถึง 85%
แล้วเราต้องใช้เวลาในการลงสินค้านานไหม ตอบเลยครับสำหรับมือใหม่ 30 นาที-1-2 ชั่วโมง เมื่อคุณคล่องแล้ว คุณจะไวเอง ครับ ทุกวันนี้ผมลงขายสินค้าแต่ละชิ้นเพียงชิ้นละ 5 นาที พูดแล้วก็อยากจะโชว์ ออเดอร์รึเกิน แต่มันโพสรูปไม่ได้ เพราะ พันทิปไม่อณุญาติ
เอาเป็นว่ามือใหม่ amazon นะครับ ลองทำตามที่ผมบอก ผมเชื่อว่าคุณจะอยู่บน amazon รอดแน่นอน หากใครมีข้อส่งสัย ยินดีหลังไมค์ครับ บ้ายบาย
ขอให้ประสบความสำเร็จ นะครับ อ๋อลืม การสมัคร amazon ทุกวันนี้ ไม่ง่ายแล้วนะครับ เตรียมเอกสารให้พร้อม ล่ะ ยิ้ม Good luck