เรื่องมีอยู่ว่ามีที่ดินโดยถือภบท.5  เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ เอกสารออกเมื่อปี 53 ซึ่งเป็นชื่อของนาง.A.  โดยนางA มาขอยืมเงิน 6แสนบาทและเอาที่ผืนนี้เข้ามาค้ำประกัน ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่าที่ให้ไปเพราะเค้าเป็นหัวหน้างานที่เรานับถือ ต่อมา 57 นางA ไม่มีเงินมาคืนจึงไก้บอกว่ายกที่ดินผืนดังกล่าวให้แทนการใช้หนี้  เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร  จึงต้องจำใจรับไว้(ก็ดีกว่าต้องสูญเงินเปล่า) ซึ่งเอกสารสิทธิ์ และแผนที่ตั้งของที่ดินนางA ได้มอบมาให้ครบถ้วน และต่อมาเมื่อปี58 เราเข้าไปติดต่อและแจ้งทาง. อบต. และผู้ใหญ่บ้าน  ก่อนการเข้าไปทำประโยชน์โดยล้อมรั้ว ปลูกไม้ผล และเมื่อปี 59 พอที่จะเก็บเงินได้ก้อนเล็กๆก่อนหนึ่งจึงได้สร้างบ้านพักาศัย 1หลังในที่ดินดังกล่าว มีการขอออกทะเบียนบ้าน อย่างถูกต้องทุกอย่าง บ้านสร้างเสร็จ รวมแล้ว เป็นระยะเวลาประมาณ 2. ปี  ต่อมา เมื่อกลางเดือน  กรกฎาคม  2560 อยู่ๆ มีบุคคลซึ่งเป็นอดีตนายตำรวจยศสูง บอกว่าเราไปสร้างบ้าน ทำประโยชน์บนที่ของเค้า โดยเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีบุกรุก ว่าเราบุกรุกที่ดินของเค้า  ซึ่งเคยได้สอบถามพูดคุยกันแล้ว เค้าอ้างว่า ที่ดินบริเวณนั้นเป็นของเค้าทั้งหมด  ซึ่งก่อนหน้านี้ บริเวณนั้นเป็นป่ารก ไม่ได้มีใครเข้ามาทำประโยชน์ก่อนหน้านี้  ตอนแรกมีการให้พนักงานสอบสวนเรียกเราไปสอบปากคำ เราก็ให้การว่าได้ที่ดินมาอย่างไร เข้าไปทำกินตั้งแต่เมื่อไหร่  โดยเนื้อที่ที่ทำกินนั้น ได้เอาบริษัทรางวัดเอกชนไปวัดเขตและล้อมรั้วตามเนื้อที่เลยคะ พออาทิตย์ต่อมา ก็เรียกไปอีกบอกว่านายอยากคุย หลังๆ มาเรียกไปอีก บอกอดีตท่านอยากคุย  เสนอเงินให้เรา 100,000 แล้วให้เราออกไปจากที่แปลงนั้น( ราคาสร้างบ้านพร้อมปรับพื้นที่ รวมๆ ก็ เกือบๆ900,000 บาทแล้วค่ะ) แล้วคะ ถ้าไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ก็ "จะฟ้องดำเนินคดีข้อหาบุกรุก ทำให้ เสียทรัพย์ "  และยังขู่หน่อยๆ ว่า "ถ้าน้องไม่รับไว้น้องจะต้องเสียอีกเยอะ"  และอาทิตย์ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนโทรมาแจ้งว่าจะทำการดำเดินคดีเราและออกหมายเรียกผู้ต้องหาด้วยความที่เราเป็นแค่คนธรรมดาๆ ไม่มีอำนาจเส้นสายใดๆ แต่กลับมาถูกบีบจากคนมีอำนาจ เลยยากขอคำปรึกษาว่า ต้องทำอย่างไรดีค่ะ