สวัสดีค่ะ กลับมาอีกแล้วกับกระทู้แบ่งปันประสบการณ์การทำงานในญี่ปุ่นของดิฉันนะคะ
แชร์ประสบการณ์สมัครงาน ทำงานเรียวกังเล็กๆในญี่ปุ่น
https://ppantip.com/topic/36569219
นอกจากจะแบ่งปันประสบการณ์การทำงานแล้ว ดิฉันยังชอบแบ่งปันข้าวกล่องน้อยๆของตัวเองด้วยค่ะ
เชิญชมได้ที่นี่เลยค่ะ
โฮมเมดกล่องข้าวกลางวันตัวการ์ตูนน่ารักๆสไตล์ญี่ปุ่น
https://ppantip.com/topic/35736853
โฮมเมดข้าวกล่องไสตล์ญี่ปุ่นเจ้าเก่ามาแล้วค่ะ
https://ppantip.com/topic/36503447
ขออนุญาตฝากเพจข้าวกล่องของดิฉันตามเคยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/todayslunchbox/
วันนี้ดิฉันจะมาแบ่งปันชีวิตการทำงาน และการใช้ชีวิตในหน้าร้อนของดิฉันค่ะ จะพาไปชมเทศกาลฟูริงของเมืองอุเระชิโนะด้วยค่ะ
จากกระทู้ที่แล้วบางท่านอาจจะจำได้คร่าวๆว่าดิฉันทำงานที่เรียวกัง&โฮสเทล ในเมืองอุเระชิโนะออนเซนจังหวัดซากะ ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นเข้าหน้าร้อนแล้ว
ดิฉันขอรับรองเลยว่าความร้อนที่ญี่ปุ่นนั้นทรมานกว่าเมืองไทยยิ่งนัก บ้านเรานั้นถ้าร้อนก็จะร้อนแบบที่หลบร่มแล้วก็พอไหว
แต่ที่ญี่ปุ่น ต่อให้หลบร่มก็ไม่สามารถเร้นกายจากไอความชื้นมหาศาลได้ ขนาดดิฉันนั่งอยู่ในบ้านตัวเองยังต้องเปิดแอร์ตลอด
พัดลมจ่อก็เอาไม่อยู่ เดินไปเข้าห้องน้ำสองนาทีเหงื่อแตกพลั่กๆเลยทีเดียวค่ะ
ด้วยความร้อนมหาศาลนี้ ดิฉันจึงต้องเปลี่ยนมาใส่ยูกาตะสำหรับหน้าร้อนค่ะ
กับน้องยูมิผู้เห็นแมงลสาบไม่ได้ เพราะนางอดใจไม่ได้ต้องเข้าไปตี เพื่อนร่วมงานคนเดิมของดิฉันเองค่ะ
ด้วยความชอบของดิฉันที่มีต่อยูกาตะ ดิฉันได้ไปลงเรียนคอร์สการใส่มาบ้าง และก็หัดใส่มาเรื่อยๆ พอดีที่บริษัทมีชุดยูกาตะสวยๆที่ยังอยู่ในห่อหลายชุด
ปีนี้ดิฉันจึงของอนุญาตบอสดำเนินกิจการยูกาตะให้เช่า
ไม่ใช่คนญี่ปุ่นทุกคนจะใส่กิโมโนกับยุกาตะได้ ต้องมีการไปร่ำเรียนเลยทีเดียวค่ะ
พอทุกคนที่บริษัทรู้ว่าดิฉันใส่ได้ ทุกคนก็แสดงอาการตกใจมาก น้องยูมิคนเดิมก็มาให้ดิฉันสอนใส่กิโมโน ยูกาตะอยู่นานสองนาน
หลังจากที่ดิฉันเปิดกิจการให้เช่ายูกาตะพร้อมกับงานออฟฟิศ งานฟร้อนต้อนรับลูกค้าไปด้วย ดิฉันก็พบว่างานหนักมากกกก
จนดิฉันต้องขอลดจำนวนผู่เช่าเหลือแค่4ท่านต่อวัน เพราะดิฉันใส่อยู่คนเดียว งานเอกสารก็ทับท่วมโต๊ะ
แต่งานแต่งชุดยูกาตะให้แขกดิฉันก็ชอบมากกกเช่นกัน
ร้อนๆแบบนี้ บางทีดิฉันก็เดินเล่นไปตามถนนสายออนเซน แวะกินน้ำแข็งใสตามทาง ท่าเดินของดิฉันนั้นช่างแมนเหลือเกิน
บางทีก็แวะตามแหล่งท่องเที่ยวของเมือง อย่างออนเซนสำหรับแช่เท้า
นั่งทำงานไปสักทุ่มสองทุ่ม ดิฉันก็เดินไปซื้อทาโกะยากิเจ้าประจำทานบ้าง ดิฉันทานตั้งแต่เขาตั้งร้านวันแรกจนทุกวันนี้
แถมดิฉันยังไปแปลเมนูไว้หลายภาษา เพราะฉะนั้นใครไม่ถนัดภาษาญี่ปุ่นก็แวะมาได้ค่ะ คุณลุงขี้โม้มากค่ะ แถมใจดีสุดๆ
เมนูแนะนำคือ ทาโกะคาราชิมาโยค่ะ
และบางทีเลิกงานดึกๆ ดิฉันก็มีอิซากายะร้านโปรดที่เปิดมากว่าสี่สิบปีค่ะ ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ บริหารกันเองภายในครอบครับ
เพราะฉะนั้นบางทีเราอาจจะได้เจอลูกชายเจ้าของร้านนั่งไถรถของเล่นแถวๆนั้น แต่น้องน่ารักค่ะ ไม่มีมากวนแขกเลยค่ะ
ร้านนี้ดิฉันชอบไปกับน้องยูมิเจ้าเดิม ถ้าไม่ดื่มเครื่องดื่มมากนัก ห้าพันเยนก็อิ่มแปล้แล้วค่ะ
ชื่อร้าน ยากิโทริเซนโคะคุค่ะ เปิดห้าโมงเย็น ถึงตีสองค่ะ ใครไม่ได้ภาษาญี่ปุ่นแนะนำนั่งตรงเคาต์เตอร์เลยค่ะ ชี้ๆเอาได้เลยค่ะ
และร้านโปรดที่ดิฉันชอบแนะนำแขกทุกท่านก็คือร้านมาเนะกิซูชิค่ะ ร้านโปรดของดิฉันเองค่ะ ร้านนี้จะเน้นซูชิทำมือ และยังมียูโดฟุ
ที่มีน้ำราดงาแบบที่ไม่มีร้านไหนเหมือนเลยค่ะ อาหารที่ร้านนี้อยู่ในราคาที่ค่อนไปทางสูงค่ะ แต่ไม่ได้แพงเว่อร์นะคะ
อย่างในภาพดิฉันไปมากับคุณแม่และพี่สาว ประมาณห้าพันเยนได้ค่ะ
ในวันหยุด ดิฉันก็มักจะไปปิคนิคริมน้ำตกแถวๆบ้าน เห็นร่มรื่นแบบนี้ ดิฉันหน้าไหม้กลับบ้านเลยทีเดียวค่ะ
เห็นดิฉันโหมงานแบบนี้เงินเดือนดิฉันก็ได้เท่าเดิมนะคะ ฮา
ได้รับมอบหมายหน้าที่มากขึ้น แต่ไม่ได้รับมอบเงินมากขึ้นค่ะ
แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะดิฉันฟาดค่าโอทีเรียบค่ะ ฮ่าๆ
จากกระทู้ที่แล้วหลายท่าน ถามถึงเงินเดือน
ตามมาตรฐานเงินเดือนที่นี่ ถ้าหากจบปริญญาตรีเงินเดือนจะประมาณ 170,000เยน
คูณ0.3 ไปคร่าวๆก็ 51,000บาท
ดิฉันอยู่บ้านนอก เงินเดือนก็จะไม่สูงมากเท่าโตเกียว
ถ้าที่โตเกียวจะยืนพื้นประมาณ 190,000
แต่ราคาห้องเช่าก็จะต่างกันมาก อย่างที่ดิฉันอยู่เดินละ 35,000 เยน ห้องกว้างมาก ถ้าเป็นที่โตเกียวจะประมาณ60,000เยน
เพราะสมัยที่ดิฉันเคยไปร่อนแร่อยู่โตเกียว ดิฉันจ่ายเดือนละ80,000เยนเป็นค่าเช่าห้อง
รวมค่าโอที และค่าเงินต่างๆ เงินเดือน ดิฉันก็จะได้ตกเดือนละประมาณ 230,000 เยน แต่ๆๆๆๆๆๆ ยังไม่ได้หักค่านู้นนี่นั่นอีกเยอะค่ะ
ไหนจะค่าประกันสังคม ประกันสุขภาพ ค่าเงินที่เราจะได้คืนตอนแก่ หักไปหักมาดิฉันก็เหลือเงินไม่เยอะค่ะ ฮ่าๆๆ
พูดเรื่องเงินเดือนพื้นฐานมาบ้างแล้ว ดิฉันขอพาไปเที่ยวเทศกาลประจำหน้าร้านที่จะจัดแค่สองเสาร์อย่างฟุรินมัตทซึริสักหน่อยค่ะ
อาจจะไม่ใหญ่เท่ากาชาดบ้านเรา แต่คนก็เยอะมากๆเช่นกันค่ะ โดยจะมีการปิดถนนสายออนเซนทั้งสาย
มีเด็กๆมาเต้นฮูลาให้ดูด้วย พริ้วสุดๆเลยค่ะ
เดินๆไปสักพักก็มีโซนม้านั่งให้นั่งเล่นชิลๆ
มีมุมโคมไฟสวยๆให้ถ่ายรูปด้วยค่ะ
นี่เลยค่ะ การเล่นปิงปองที่ขึ้นชื่อของอุเระชิโนะ คือใช้รองเท้าแตะแทนไม้ปิงปองค่ะ ยกโต๊ะมาแข่งกันกลางถนนเลยค่ะวันนี้
โดยจะมีนินจาจากหมู่บ้านนินจาเป็นผกรรมการค่ะ สำหรับท่านใดที่อยากมาแข่งปิงปองรองเท้าแตะสามารถเช็ควันได้นะคะ มีทุกเดือนค่ะ
ขอลาไปด้วยภาพวิวจากแถวๆบ้านดิฉันเองค่ะ
ถ้าหากใครอยากจะมาตลาดนัดออนเซนก็จะมีทุกวันเสาร์ที่สองของเดือนค่ะ
ส่วนเทศกาลฟูรินมีปีละ2วันค่ะ
ใครแวะเวียนมาก็มาทักทายกันได้นะคะ
แชร์ประสบการณ์ชีวิตการทำงานโรงแรมที่ญี่ปุ่น(ภาคต่อ) และเมืองอุเระชิโนะในหน้าร้อน
แชร์ประสบการณ์สมัครงาน ทำงานเรียวกังเล็กๆในญี่ปุ่น
https://ppantip.com/topic/36569219
นอกจากจะแบ่งปันประสบการณ์การทำงานแล้ว ดิฉันยังชอบแบ่งปันข้าวกล่องน้อยๆของตัวเองด้วยค่ะ
เชิญชมได้ที่นี่เลยค่ะ
โฮมเมดกล่องข้าวกลางวันตัวการ์ตูนน่ารักๆสไตล์ญี่ปุ่น
https://ppantip.com/topic/35736853
โฮมเมดข้าวกล่องไสตล์ญี่ปุ่นเจ้าเก่ามาแล้วค่ะ
https://ppantip.com/topic/36503447
ขออนุญาตฝากเพจข้าวกล่องของดิฉันตามเคยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันนี้ดิฉันจะมาแบ่งปันชีวิตการทำงาน และการใช้ชีวิตในหน้าร้อนของดิฉันค่ะ จะพาไปชมเทศกาลฟูริงของเมืองอุเระชิโนะด้วยค่ะ
จากกระทู้ที่แล้วบางท่านอาจจะจำได้คร่าวๆว่าดิฉันทำงานที่เรียวกัง&โฮสเทล ในเมืองอุเระชิโนะออนเซนจังหวัดซากะ ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นเข้าหน้าร้อนแล้ว
ดิฉันขอรับรองเลยว่าความร้อนที่ญี่ปุ่นนั้นทรมานกว่าเมืองไทยยิ่งนัก บ้านเรานั้นถ้าร้อนก็จะร้อนแบบที่หลบร่มแล้วก็พอไหว
แต่ที่ญี่ปุ่น ต่อให้หลบร่มก็ไม่สามารถเร้นกายจากไอความชื้นมหาศาลได้ ขนาดดิฉันนั่งอยู่ในบ้านตัวเองยังต้องเปิดแอร์ตลอด
พัดลมจ่อก็เอาไม่อยู่ เดินไปเข้าห้องน้ำสองนาทีเหงื่อแตกพลั่กๆเลยทีเดียวค่ะ
ด้วยความร้อนมหาศาลนี้ ดิฉันจึงต้องเปลี่ยนมาใส่ยูกาตะสำหรับหน้าร้อนค่ะ
กับน้องยูมิผู้เห็นแมงลสาบไม่ได้ เพราะนางอดใจไม่ได้ต้องเข้าไปตี เพื่อนร่วมงานคนเดิมของดิฉันเองค่ะ
ด้วยความชอบของดิฉันที่มีต่อยูกาตะ ดิฉันได้ไปลงเรียนคอร์สการใส่มาบ้าง และก็หัดใส่มาเรื่อยๆ พอดีที่บริษัทมีชุดยูกาตะสวยๆที่ยังอยู่ในห่อหลายชุด
ปีนี้ดิฉันจึงของอนุญาตบอสดำเนินกิจการยูกาตะให้เช่า
ไม่ใช่คนญี่ปุ่นทุกคนจะใส่กิโมโนกับยุกาตะได้ ต้องมีการไปร่ำเรียนเลยทีเดียวค่ะ
พอทุกคนที่บริษัทรู้ว่าดิฉันใส่ได้ ทุกคนก็แสดงอาการตกใจมาก น้องยูมิคนเดิมก็มาให้ดิฉันสอนใส่กิโมโน ยูกาตะอยู่นานสองนาน
หลังจากที่ดิฉันเปิดกิจการให้เช่ายูกาตะพร้อมกับงานออฟฟิศ งานฟร้อนต้อนรับลูกค้าไปด้วย ดิฉันก็พบว่างานหนักมากกกก
จนดิฉันต้องขอลดจำนวนผู่เช่าเหลือแค่4ท่านต่อวัน เพราะดิฉันใส่อยู่คนเดียว งานเอกสารก็ทับท่วมโต๊ะ
แต่งานแต่งชุดยูกาตะให้แขกดิฉันก็ชอบมากกกเช่นกัน
ร้อนๆแบบนี้ บางทีดิฉันก็เดินเล่นไปตามถนนสายออนเซน แวะกินน้ำแข็งใสตามทาง ท่าเดินของดิฉันนั้นช่างแมนเหลือเกิน
บางทีก็แวะตามแหล่งท่องเที่ยวของเมือง อย่างออนเซนสำหรับแช่เท้า
นั่งทำงานไปสักทุ่มสองทุ่ม ดิฉันก็เดินไปซื้อทาโกะยากิเจ้าประจำทานบ้าง ดิฉันทานตั้งแต่เขาตั้งร้านวันแรกจนทุกวันนี้
แถมดิฉันยังไปแปลเมนูไว้หลายภาษา เพราะฉะนั้นใครไม่ถนัดภาษาญี่ปุ่นก็แวะมาได้ค่ะ คุณลุงขี้โม้มากค่ะ แถมใจดีสุดๆ
เมนูแนะนำคือ ทาโกะคาราชิมาโยค่ะ
และบางทีเลิกงานดึกๆ ดิฉันก็มีอิซากายะร้านโปรดที่เปิดมากว่าสี่สิบปีค่ะ ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ บริหารกันเองภายในครอบครับ
เพราะฉะนั้นบางทีเราอาจจะได้เจอลูกชายเจ้าของร้านนั่งไถรถของเล่นแถวๆนั้น แต่น้องน่ารักค่ะ ไม่มีมากวนแขกเลยค่ะ
ร้านนี้ดิฉันชอบไปกับน้องยูมิเจ้าเดิม ถ้าไม่ดื่มเครื่องดื่มมากนัก ห้าพันเยนก็อิ่มแปล้แล้วค่ะ
ชื่อร้าน ยากิโทริเซนโคะคุค่ะ เปิดห้าโมงเย็น ถึงตีสองค่ะ ใครไม่ได้ภาษาญี่ปุ่นแนะนำนั่งตรงเคาต์เตอร์เลยค่ะ ชี้ๆเอาได้เลยค่ะ
และร้านโปรดที่ดิฉันชอบแนะนำแขกทุกท่านก็คือร้านมาเนะกิซูชิค่ะ ร้านโปรดของดิฉันเองค่ะ ร้านนี้จะเน้นซูชิทำมือ และยังมียูโดฟุ
ที่มีน้ำราดงาแบบที่ไม่มีร้านไหนเหมือนเลยค่ะ อาหารที่ร้านนี้อยู่ในราคาที่ค่อนไปทางสูงค่ะ แต่ไม่ได้แพงเว่อร์นะคะ
อย่างในภาพดิฉันไปมากับคุณแม่และพี่สาว ประมาณห้าพันเยนได้ค่ะ
ในวันหยุด ดิฉันก็มักจะไปปิคนิคริมน้ำตกแถวๆบ้าน เห็นร่มรื่นแบบนี้ ดิฉันหน้าไหม้กลับบ้านเลยทีเดียวค่ะ
เห็นดิฉันโหมงานแบบนี้เงินเดือนดิฉันก็ได้เท่าเดิมนะคะ ฮา
ได้รับมอบหมายหน้าที่มากขึ้น แต่ไม่ได้รับมอบเงินมากขึ้นค่ะ
แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะดิฉันฟาดค่าโอทีเรียบค่ะ ฮ่าๆ
จากกระทู้ที่แล้วหลายท่าน ถามถึงเงินเดือน
ตามมาตรฐานเงินเดือนที่นี่ ถ้าหากจบปริญญาตรีเงินเดือนจะประมาณ 170,000เยน
คูณ0.3 ไปคร่าวๆก็ 51,000บาท
ดิฉันอยู่บ้านนอก เงินเดือนก็จะไม่สูงมากเท่าโตเกียว
ถ้าที่โตเกียวจะยืนพื้นประมาณ 190,000
แต่ราคาห้องเช่าก็จะต่างกันมาก อย่างที่ดิฉันอยู่เดินละ 35,000 เยน ห้องกว้างมาก ถ้าเป็นที่โตเกียวจะประมาณ60,000เยน
เพราะสมัยที่ดิฉันเคยไปร่อนแร่อยู่โตเกียว ดิฉันจ่ายเดือนละ80,000เยนเป็นค่าเช่าห้อง
รวมค่าโอที และค่าเงินต่างๆ เงินเดือน ดิฉันก็จะได้ตกเดือนละประมาณ 230,000 เยน แต่ๆๆๆๆๆๆ ยังไม่ได้หักค่านู้นนี่นั่นอีกเยอะค่ะ
ไหนจะค่าประกันสังคม ประกันสุขภาพ ค่าเงินที่เราจะได้คืนตอนแก่ หักไปหักมาดิฉันก็เหลือเงินไม่เยอะค่ะ ฮ่าๆๆ
พูดเรื่องเงินเดือนพื้นฐานมาบ้างแล้ว ดิฉันขอพาไปเที่ยวเทศกาลประจำหน้าร้านที่จะจัดแค่สองเสาร์อย่างฟุรินมัตทซึริสักหน่อยค่ะ
อาจจะไม่ใหญ่เท่ากาชาดบ้านเรา แต่คนก็เยอะมากๆเช่นกันค่ะ โดยจะมีการปิดถนนสายออนเซนทั้งสาย
มีเด็กๆมาเต้นฮูลาให้ดูด้วย พริ้วสุดๆเลยค่ะ
เดินๆไปสักพักก็มีโซนม้านั่งให้นั่งเล่นชิลๆ
มีมุมโคมไฟสวยๆให้ถ่ายรูปด้วยค่ะ
นี่เลยค่ะ การเล่นปิงปองที่ขึ้นชื่อของอุเระชิโนะ คือใช้รองเท้าแตะแทนไม้ปิงปองค่ะ ยกโต๊ะมาแข่งกันกลางถนนเลยค่ะวันนี้
โดยจะมีนินจาจากหมู่บ้านนินจาเป็นผกรรมการค่ะ สำหรับท่านใดที่อยากมาแข่งปิงปองรองเท้าแตะสามารถเช็ควันได้นะคะ มีทุกเดือนค่ะ
ขอลาไปด้วยภาพวิวจากแถวๆบ้านดิฉันเองค่ะ
ถ้าหากใครอยากจะมาตลาดนัดออนเซนก็จะมีทุกวันเสาร์ที่สองของเดือนค่ะ
ส่วนเทศกาลฟูรินมีปีละ2วันค่ะ
ใครแวะเวียนมาก็มาทักทายกันได้นะคะ