สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวกันครับ แต่ไม่ได้เที่ยวไปเรื่อยๆเปื่อยๆนะ วันนี้เราจะ “เที่ยวไป รีวิวไป” ครับ ผมจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวเมืองกรุงกัน 1 วันเต็มๆ ในแบบฉบับของผมและแฟน โดยเราจะมีไกด์นำทางเป็นมือถือคู่ใจที่พวกเราใช้กันอยู่ทุกวัน คือ เจ้า Samsung Galaxy S8 Plus ของผม และ Moto G5 Plus ของแฟน เป็นผู้ทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวระหว่างทางให้ได้ชมกันครับ
คือทีแรกไม่ได้ตั้งใจจะรีวิวอะไรจริงจังแบบนี้เลยครับ ด้วยความที่รุ่น ราคา และสเป็คของทั้ง 2 เครื่องนี้ก็ไม่ได้ใกล้เคียงกัน เรื่องของเรื่องคือ แฟนผมเค้ามั่นใจว่ารูปถ่ายที่ได้จาก Moto G5Plus อยู่ในระดับที่วัดกับรุ่นใหญ่อย่าง Samsung Galaxy S8 Plus ได้ จนทำให้ผมเองก็อยากลองดูเหมือนกันว่า Smartphone ที่ต่าง Segment แต่เน้นเรื่องกล้องเหมือนกันแบบนี้ จะมีอะไรที่เราเห็นถึงความแตกต่างมากน้อยขนาดไหน เลยกลายมาเป็นรีวิวนี้ในที่สุดครับ โดยที่เราจะวัดจากคุณภาพกล้องเป็นหลักนะครับ เรื่องอื่นๆคงวัดกันไม่ได้
มาเข้าเรื่องกันเลย...
เริ่มแรกเรามาทำความรู้จัก ไกด์คู่ใจทั้ง 2 ของเรากันก่อนครับ
ตัว Samsung Galaxy S8 Plus ของผมหลังจากที่เปิดตัวมาได้ไม่นาน ผมก็มีโอกาสไปลองเล่นอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดก็อดใจไม่ไหว ไปสอยมาเป็นเจ้าของจนได้ ดีไซน์ไร้ขอบและกล้องดิจิตอลที่ใครหลายๆคนบอกว่าดีมากๆ เลยทำให้ตัดสินใจควักเงินง่ายขึ้น จ่ายไป 3 หมื่น สบายตัวสบายใจ พอซื้อมาใช้แล้วก็ชอบจริงๆครับ กล้องดีสมคำร่ำลือ
ส่วนตัว Moto G5 Plus ของแฟนผมก็ซื้อมาได้ไม่นานเหมือนกัน ซื้อพร้อมโปรทรูเหลือค่าเสียหายที่ต้องไปจ่ายไปไม่ถึง 5พัน นางบอกอยากลองใช้ของค่ายนี้มานาน พอเห็นสเปคกับราคาเลยจัดแบบแทบจะไม่ต้องคิด มีเงินเหลือไปช็อปของในไอจีต่ออีก - -”
โดยกล้องหลังของทั้งคู่จะอยู่ที่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว่า1.7 ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี พร้อมแฟลช Dual-LED และ Dual auto focus โดยในที่นี้กล้องของ Samsung Galaxy S8 Plus จะดีกว่า เพราะ ถูกขยาย sensor ให้ใหญ่กว่าเดิม ทำให้ได้ภาพที่คมชัดสวยยิ่งขึ้น นอกนั้นก็ไม่ค่อยต่างครับ
ถ้าพร้อมแล้วเราไปตะลอนกรุงพร้อมๆกันเลยครับ ^^
เริ่มด้วยที่แรกเลย หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน
ตั้งแต่อยู่เมืองกรุงมา ผมกับแฟนยังไม่เคยได้เที่ยวหอศิลป์แห่งนี้เลย วันนี้ก็ขอเสพศิลป์ที่นี่กันให้หนำใจไปเลยละกัน
หอศิลป์แห่งนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น แต่ละชั้นจะมีงานศิลปะที่จัดแสดงไม่เหมือนกัน อย่างชั้นที่ 1-2 ก็จะเป็นงานภาพวาดต่างๆ แขวนลอยอยู่ตามผนังรวมไปถึงงานออกแบบสิ่งของ หรือภาพถ่าย ส่วนชั้น 3 จะเป็นชั้นที่เกี่ยวกับนิทรรศการของประเทศอาเซียน ประเทศเพื่อนบ้านของเรานั่นเอง หลังจากนี้เราปล่อยให้เป็นหน้าที่ของไกด์ทั้ง 2 ในการบอกเล่างานศิลปะรูปแบบต่างๆ ผ่านเลนส์กล้องของพวกเค้าแต่ละโหมดเลยดีกว่าครับ
โหมด Auto
จะเห็นชัดเลยว่าระยะเลนส์ของมือถือทั้ง 2 ไม่เท่ากัน โดยของ Samsung Galaxy S8 Plus จะมีองศาในการรับภาพที่กว้างกว่าของ Moto G5 Plus ทำให้ขนาดของภาพมีความแตกต่างกันครับ
เรื่องคุณภาพที่ได้ค่อนข้างใกล้เคียงกัน อาจจะเป็นเพราะคุณสมบัติของกล้องที่คล้ายกันด้วย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วภาพของ Samsung Galaxy S8 Plus จะมีความสว่างกว่า เส้น สีคมชัด แต่ของ Moto G5 Plus ก็สามารถให้คุณภาพที่ใกล้เคียงกันกับตัว Samsung Galaxy S8 Plus เลย อย่างรูปสุดท้าย Moto G5 Plus คุมแสงสี ได้ตรงเป๊ะ แต่ Samsung Galaxy S8 Plus ของผมยังมืดๆแสงเงายังไม่สวยเท่าไหร่
ต่อมาเป็นที่ที่มีสภาวะแสงน้อยครับ รูรับแสงของไกด์ทั้ง 2 คือ 1.7 เท่ากัน เรามาดูกันดีกว่าครับว่าไกด์ของใครจะทำได้ดีกว่ากันในสภาวะแสงแบบนี้ ไปชมกันครับ
ชอบตรงนี้จังครับ มีแต่ภาพถ่ายสวยๆให้เสพ ได้แรงบันดาลใจใหม่ๆเพียบเลยครับ ^^
ต้องยอมรับว่าไกด์ของแฟนผมก็ทำหน้าที่ในโหมดนี้ได้ดีไม่แพ้ไกด์ของผมเลย รูรับแสง 1.7 เท่ากัน ตรงจุดนี้ถือว่าทำได้ดีตามสเปคกันทั้งคู่ครับ
ถัดมาดูกันต่อที่ระยะชัดตื้น หรือ หน้าชัดหลังเบลอนั่นเอง ไกด์ของใครจะละลายฉากหลังได้ดูสมจริงกว่ากัน
เรื่องระยะชัดตื้น ทั้ง 2 ไกด์ทำได้ดีมากๆเลย ละลายฉากหลังได้สวยงาม พี่ควายชัดแจ๋ว แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่อีกจุดนึงคือ WB ผมมีความรู้สึกว่าของ Samsung Galaxy S8 Plus วัดแสงเพี้ยนติดน้ำเงิน ชมพูๆ ซึ่งไฟในอาคารค่อนข้างเหลือง ตรงนี้ของ Moto G5 Plus วัดแสงได้ตรงกว่า ตามที่สายตาเรามองเห็นครับ
มาต่อกันเลยครับกับโหมด HDR โดยปัจจัยต่างๆในภาพจากนี้ไปจะรวมถึงสภาวะต่างๆในหอศิลป์ที่เป็นอยู่ บางที่จะมีความซับซ้อนของแสงที่มาจากหลอดไฟ รวมไปถึงที่แสงน้อยด้วย ไกด์ทั้ง 2 จะนำเสนองานศิลปะออกมาได้ในรูปแบบใดบ้าง ไปชมกันเลยครับ
เรื่องความคมชัดกับการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยไกด์ของผมทำได้ดีกว่า ชนะใสๆครับ แต่ทำไม WB มันเพี้ยนจากความเป็นจริงขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ใช้เองคนเดียว ไม่เคยเทียบกับใครเลยไม่ได้สังเกตเรื่องนี้เลย ในห้องมันค่อนข้างเหลือง แต่ดันติดชมพูดซะอย่างนั้น
ทดสอบกล้องหน้าของไกด์ทั้ง 2 กันต่อเลยดีกว่าครับ
เริ่มจาก Samsung Galaxy S8 Plus ของผมก่อนเลยครับ มาด้วยความละเอียด 8 MP เลนส์ Wide พร้อมระบบ Autofocus
ถัดมาเรามาดูที่กล้องหน้าของ Moto G5 Plus ของแฟนผมบ้างครับ มาด้วยความละเอียด 5 MP เลนส์ Wide เช่นกัน รูรับแสง f/2.2
ปล.แฟนผมเค้าขี้อายไม่กล้าเซลฟี่ตัวเอง ก็เลยต้องขออนุญาตให้เพื่อนๆดูเป็นรูปหน้าของผมแทนนะครับ (ตรงนี้ใครขวัญอ่อนแนะนำให้ข้ามไปเลยจ้า) ถ้าทำใจกันเรียบร้อยแล้ว มาดูรูปเปรียบเทียบโหมดต่างๆในกล้องหน้าจากไกด์ทั้ง 2 กันเลยครับ
โหมด Auto
อันนี้ต้องบอกว่าไกด์ของผมกินขาด คงถูกใจสาวๆกันไม่น้อย แต่ทางด้านไกด์ของแฟนผมก็โอเคในส่วนที่ สีผิวตรงตามความเป็นจริงดี
โหมด Beauty
ตรงนี้เห็นชัดเลยนะครับว่า Samsung Galaxy S8 Plus ของผมจะให้ภาพที่ดู Beauty มากกว่า ฮ่าๆๆ เกทับไปเลย แต่ฝั่ง Moto G5 Plus ก็ถ่ายออกมาได้เนียนแบบเป็นธรรมชาติดีครับ สีผิวไม่หลอกจนเกินไป
โหมด Beauty แบบ Manual
โดยโหมดนี้ผมปรับระดับความสวยให้เป็น +2 เท่ากันทั้ง 2 ภาพ เป็นไงกันบ้างครับ สำหรับผม ผมว่าสูสีแต่ Samsung Galaxy S8 Plus ของผมจะดูขาวอมชมพูมากกว่า ส่วน Moto G5 Plus ของแฟนผมจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าครับ
เราจะไปกันต่อที่สะพานพระราม 8 ซึ่งผมนัดเจอเพื่อนไว้ช่วงเย็นครับ
หลายคนอาจจะรู้อยู่แล้วว่าใต้สะพานพระราม 8 จะเป็นศูนย์รวมของคนที่มาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ผู้คนที่มาวิ่ง สเก็ตบอร์ด บีบอย เต้นแอร์โรบิก หรือแม้กระทั่งกิจกรรมเต้นลีลาศก็มีอยู่ที่นี่ ระหว่างรอเพื่อน ผมก็ถือโอกาสทดสอบไกด์ทั้ง 2 ในโหมด 4k video กับ slow motion ของไกด์ทั้ง 2 ไปด้วยเลย
เรามาดูกันดีกว่าครับว่าไกด์ทั้ง 2 จะทำได้ดีขนาดไหนในโหมด vdo
4k Samsung Galaxy S8 Plus
4k Moto G5 Plus
Slow Motions Samsung Galaxy S8 Plus
Slow Motions Moto G5 Plus
ทางด้าน 4k video กับ Slow motion เรื่องความคมชัด ความสว่าง ต้องยกให้ Samsung Galaxy S8 Plus ไกด์ของผมเป็นผู้ชนะไปนะคร้าบบบ หุหุ
[CR] เที่ยวไป รีวิวไป : ใช้ Moto G5 Plus งัดกับ Samsung Galaxy S8 Plus สไตล์คู่รักตะลอนกรุง
สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวกันครับ แต่ไม่ได้เที่ยวไปเรื่อยๆเปื่อยๆนะ วันนี้เราจะ “เที่ยวไป รีวิวไป” ครับ ผมจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวเมืองกรุงกัน 1 วันเต็มๆ ในแบบฉบับของผมและแฟน โดยเราจะมีไกด์นำทางเป็นมือถือคู่ใจที่พวกเราใช้กันอยู่ทุกวัน คือ เจ้า Samsung Galaxy S8 Plus ของผม และ Moto G5 Plus ของแฟน เป็นผู้ทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวระหว่างทางให้ได้ชมกันครับ
คือทีแรกไม่ได้ตั้งใจจะรีวิวอะไรจริงจังแบบนี้เลยครับ ด้วยความที่รุ่น ราคา และสเป็คของทั้ง 2 เครื่องนี้ก็ไม่ได้ใกล้เคียงกัน เรื่องของเรื่องคือ แฟนผมเค้ามั่นใจว่ารูปถ่ายที่ได้จาก Moto G5Plus อยู่ในระดับที่วัดกับรุ่นใหญ่อย่าง Samsung Galaxy S8 Plus ได้ จนทำให้ผมเองก็อยากลองดูเหมือนกันว่า Smartphone ที่ต่าง Segment แต่เน้นเรื่องกล้องเหมือนกันแบบนี้ จะมีอะไรที่เราเห็นถึงความแตกต่างมากน้อยขนาดไหน เลยกลายมาเป็นรีวิวนี้ในที่สุดครับ โดยที่เราจะวัดจากคุณภาพกล้องเป็นหลักนะครับ เรื่องอื่นๆคงวัดกันไม่ได้
มาเข้าเรื่องกันเลย...
ตัว Samsung Galaxy S8 Plus ของผมหลังจากที่เปิดตัวมาได้ไม่นาน ผมก็มีโอกาสไปลองเล่นอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดก็อดใจไม่ไหว ไปสอยมาเป็นเจ้าของจนได้ ดีไซน์ไร้ขอบและกล้องดิจิตอลที่ใครหลายๆคนบอกว่าดีมากๆ เลยทำให้ตัดสินใจควักเงินง่ายขึ้น จ่ายไป 3 หมื่น สบายตัวสบายใจ พอซื้อมาใช้แล้วก็ชอบจริงๆครับ กล้องดีสมคำร่ำลือ
ส่วนตัว Moto G5 Plus ของแฟนผมก็ซื้อมาได้ไม่นานเหมือนกัน ซื้อพร้อมโปรทรูเหลือค่าเสียหายที่ต้องไปจ่ายไปไม่ถึง 5พัน นางบอกอยากลองใช้ของค่ายนี้มานาน พอเห็นสเปคกับราคาเลยจัดแบบแทบจะไม่ต้องคิด มีเงินเหลือไปช็อปของในไอจีต่ออีก - -”
โดยกล้องหลังของทั้งคู่จะอยู่ที่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว่า1.7 ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี พร้อมแฟลช Dual-LED และ Dual auto focus โดยในที่นี้กล้องของ Samsung Galaxy S8 Plus จะดีกว่า เพราะ ถูกขยาย sensor ให้ใหญ่กว่าเดิม ทำให้ได้ภาพที่คมชัดสวยยิ่งขึ้น นอกนั้นก็ไม่ค่อยต่างครับ
ถ้าพร้อมแล้วเราไปตะลอนกรุงพร้อมๆกันเลยครับ ^^
ตั้งแต่อยู่เมืองกรุงมา ผมกับแฟนยังไม่เคยได้เที่ยวหอศิลป์แห่งนี้เลย วันนี้ก็ขอเสพศิลป์ที่นี่กันให้หนำใจไปเลยละกัน
หอศิลป์แห่งนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น แต่ละชั้นจะมีงานศิลปะที่จัดแสดงไม่เหมือนกัน อย่างชั้นที่ 1-2 ก็จะเป็นงานภาพวาดต่างๆ แขวนลอยอยู่ตามผนังรวมไปถึงงานออกแบบสิ่งของ หรือภาพถ่าย ส่วนชั้น 3 จะเป็นชั้นที่เกี่ยวกับนิทรรศการของประเทศอาเซียน ประเทศเพื่อนบ้านของเรานั่นเอง หลังจากนี้เราปล่อยให้เป็นหน้าที่ของไกด์ทั้ง 2 ในการบอกเล่างานศิลปะรูปแบบต่างๆ ผ่านเลนส์กล้องของพวกเค้าแต่ละโหมดเลยดีกว่าครับ
โหมด Auto
จะเห็นชัดเลยว่าระยะเลนส์ของมือถือทั้ง 2 ไม่เท่ากัน โดยของ Samsung Galaxy S8 Plus จะมีองศาในการรับภาพที่กว้างกว่าของ Moto G5 Plus ทำให้ขนาดของภาพมีความแตกต่างกันครับ
เรื่องคุณภาพที่ได้ค่อนข้างใกล้เคียงกัน อาจจะเป็นเพราะคุณสมบัติของกล้องที่คล้ายกันด้วย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วภาพของ Samsung Galaxy S8 Plus จะมีความสว่างกว่า เส้น สีคมชัด แต่ของ Moto G5 Plus ก็สามารถให้คุณภาพที่ใกล้เคียงกันกับตัว Samsung Galaxy S8 Plus เลย อย่างรูปสุดท้าย Moto G5 Plus คุมแสงสี ได้ตรงเป๊ะ แต่ Samsung Galaxy S8 Plus ของผมยังมืดๆแสงเงายังไม่สวยเท่าไหร่
ต่อมาเป็นที่ที่มีสภาวะแสงน้อยครับ รูรับแสงของไกด์ทั้ง 2 คือ 1.7 เท่ากัน เรามาดูกันดีกว่าครับว่าไกด์ของใครจะทำได้ดีกว่ากันในสภาวะแสงแบบนี้ ไปชมกันครับ
ต้องยอมรับว่าไกด์ของแฟนผมก็ทำหน้าที่ในโหมดนี้ได้ดีไม่แพ้ไกด์ของผมเลย รูรับแสง 1.7 เท่ากัน ตรงจุดนี้ถือว่าทำได้ดีตามสเปคกันทั้งคู่ครับ
เรื่องระยะชัดตื้น ทั้ง 2 ไกด์ทำได้ดีมากๆเลย ละลายฉากหลังได้สวยงาม พี่ควายชัดแจ๋ว แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่อีกจุดนึงคือ WB ผมมีความรู้สึกว่าของ Samsung Galaxy S8 Plus วัดแสงเพี้ยนติดน้ำเงิน ชมพูๆ ซึ่งไฟในอาคารค่อนข้างเหลือง ตรงนี้ของ Moto G5 Plus วัดแสงได้ตรงกว่า ตามที่สายตาเรามองเห็นครับ
มาต่อกันเลยครับกับโหมด HDR โดยปัจจัยต่างๆในภาพจากนี้ไปจะรวมถึงสภาวะต่างๆในหอศิลป์ที่เป็นอยู่ บางที่จะมีความซับซ้อนของแสงที่มาจากหลอดไฟ รวมไปถึงที่แสงน้อยด้วย ไกด์ทั้ง 2 จะนำเสนองานศิลปะออกมาได้ในรูปแบบใดบ้าง ไปชมกันเลยครับ
เรื่องความคมชัดกับการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยไกด์ของผมทำได้ดีกว่า ชนะใสๆครับ แต่ทำไม WB มันเพี้ยนจากความเป็นจริงขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ใช้เองคนเดียว ไม่เคยเทียบกับใครเลยไม่ได้สังเกตเรื่องนี้เลย ในห้องมันค่อนข้างเหลือง แต่ดันติดชมพูดซะอย่างนั้น
เริ่มจาก Samsung Galaxy S8 Plus ของผมก่อนเลยครับ มาด้วยความละเอียด 8 MP เลนส์ Wide พร้อมระบบ Autofocus
ถัดมาเรามาดูที่กล้องหน้าของ Moto G5 Plus ของแฟนผมบ้างครับ มาด้วยความละเอียด 5 MP เลนส์ Wide เช่นกัน รูรับแสง f/2.2
ปล.แฟนผมเค้าขี้อายไม่กล้าเซลฟี่ตัวเอง ก็เลยต้องขออนุญาตให้เพื่อนๆดูเป็นรูปหน้าของผมแทนนะครับ (ตรงนี้ใครขวัญอ่อนแนะนำให้ข้ามไปเลยจ้า) ถ้าทำใจกันเรียบร้อยแล้ว มาดูรูปเปรียบเทียบโหมดต่างๆในกล้องหน้าจากไกด์ทั้ง 2 กันเลยครับ
โหมด Auto
อันนี้ต้องบอกว่าไกด์ของผมกินขาด คงถูกใจสาวๆกันไม่น้อย แต่ทางด้านไกด์ของแฟนผมก็โอเคในส่วนที่ สีผิวตรงตามความเป็นจริงดี
โหมด Beauty
ตรงนี้เห็นชัดเลยนะครับว่า Samsung Galaxy S8 Plus ของผมจะให้ภาพที่ดู Beauty มากกว่า ฮ่าๆๆ เกทับไปเลย แต่ฝั่ง Moto G5 Plus ก็ถ่ายออกมาได้เนียนแบบเป็นธรรมชาติดีครับ สีผิวไม่หลอกจนเกินไป
โหมด Beauty แบบ Manual
โดยโหมดนี้ผมปรับระดับความสวยให้เป็น +2 เท่ากันทั้ง 2 ภาพ เป็นไงกันบ้างครับ สำหรับผม ผมว่าสูสีแต่ Samsung Galaxy S8 Plus ของผมจะดูขาวอมชมพูมากกว่า ส่วน Moto G5 Plus ของแฟนผมจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าครับ
เราจะไปกันต่อที่สะพานพระราม 8 ซึ่งผมนัดเจอเพื่อนไว้ช่วงเย็นครับ
หลายคนอาจจะรู้อยู่แล้วว่าใต้สะพานพระราม 8 จะเป็นศูนย์รวมของคนที่มาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ผู้คนที่มาวิ่ง สเก็ตบอร์ด บีบอย เต้นแอร์โรบิก หรือแม้กระทั่งกิจกรรมเต้นลีลาศก็มีอยู่ที่นี่ ระหว่างรอเพื่อน ผมก็ถือโอกาสทดสอบไกด์ทั้ง 2 ในโหมด 4k video กับ slow motion ของไกด์ทั้ง 2 ไปด้วยเลย
4k Samsung Galaxy S8 Plus
4k Moto G5 Plus
Slow Motions Samsung Galaxy S8 Plus
Slow Motions Moto G5 Plus
ทางด้าน 4k video กับ Slow motion เรื่องความคมชัด ความสว่าง ต้องยกให้ Samsung Galaxy S8 Plus ไกด์ของผมเป็นผู้ชนะไปนะคร้าบบบ หุหุ