1 AM ตอนที่ 5

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 1 https://ppantip.com/topic/31059171
ตอนที่ 2 https://ppantip.com/topic/31063248
ตอนที่ 3 https://ppantip.com/topic/31068119
ตอนที่ 4 https://ppantip.com/topic/31074805

CHAPTER 5


เดียวดายใต้ร่มกาสาวพัสตร์




มันคือเวลาตีหนึ่ง ข้าพเจ้าหวนนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นอีกครั้ง เมื่อครั้งที่ยังดำรงตนอยู่ในสถานะฆราวาส เหตุการณ์นั้นเกิดราวสี่ปีที่แล้ว ตอนที่ข้าพเจ้ายังเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ เอ มันชื่ออะไรน๊า ทำไมเวลานี้กลับลืมเลือนไปเสียอย่างนั้น มันคงเป็นเพราะเวลาได้ล่วงเลย กัดกร่อนความทรงจำนั้นจนไม่อาจมองเห็นถ้อยคำที่ใช้เรียกสถานที่แห่งนั้นได้อีกแล้ว น่าแปลกมากที่ข้าพเจ้ากลับหวนนึกถึงได้อย่างแจ่มชัด ผู้หญิงที่ข้าพเจ้าเคยพบเห็น ชื่อของผู้ร่วมงานบางคน อย่างปอนด์ หรือ เจี๊ยบ รูปรสกลิ่นเสียงอันแสนอึมครึมในห้วงปีนั้น และความตายของผู้หญิงที่ข้าพเจ้าพบเห็นที่ยากจะลืมเลือน

แน่นอนสำหรับตอนนั้น จิตใจข้าพเจ้านั่นยังมิแก่กล้า วูบวาบ หวั่นไหว ไปตามกระแสจิตที่พัดพาไป ข้าพเจ้าหวาดกลัวถึงขั้นเห็นผีของหญิงสาวนางนั้น ท่านอาจจะคิดว่า ผีมีในโลกด้วยหรือ แต่หากท่านได้เจริญสติและมาอยู่ในดินแดนรกร้างเช่นที่ข้าพเจ้าอยู่ตอนนี้ ก็จะตระหนักว่า เรื่องวิญญาณนั้นไม่ได้ห่างไกลไปจากการดำรงชีพของเราเลย เปรียบง่ายๆ ว่าโลกที่เราอยู่ใบนี้คือมิติหนึ่ง และมีโลกอีกใบที่ซ้อนทับกันอีกมิติหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือโลกของวิญญาณนั่นเอง

ครั้นนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ว่าความตายของผู้หญิงคนนั้น มาจากอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม มันยังคงเป็นหลุมลึกดำมืดในจิตใจของข้าพเจ้า แม้ว่าจะได้เห็นผีของผู้หญิง แต่ก็ไม่อาจสื่อสาร เอื้อนเอ่ยวาจาใดเพื่อเชื่อมโยงถึงกันได้ มันคงเป็นเช่นนี้กระมัง ที่เรื่องราวทางโลกยังหาคำตอบ หาข้อพิสูจน์ไม่พบ หรืออาจเพราะจิตของข้าพเจ้ายังไม่ได้เข้าถึงความจริงแท้

ตอนนี้ข้าพเจ้าอยู่ในวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ขณะที่ถือครองผ้าเหลืองอยู่นี้ ยากจะเรียกตนเองได้ว่า สมณะ เพราะอันที่จริงข้าพเจ้ามีแรงปรารถนาอันแรงกล้ากว่านั้น ข้าพเจ้ามีแผนการอันยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง แผนการที่จะชี้นำ เป็นผู้แผ้วถางทางอันยิ่งใหญ่ให้ตนเองและผู้อื่นได้เดินตาม แม้ว่ามันอาจจะขัดกับหลักที่ข้าพเจ้าได้ร่ำเรียนมา แต่ข้าพเจ้าไม่สนหรอก ข้าพเจ้าสุดจะทานทนกับการที่จะถูกเรียกว่า ไอ้แก๊บ ไอ้เด็กร้านเซเว่น ไอ้ขี้ข้า เบื่อกับการที่จะต้องนั่งทนเบียดเสียดบนรถสองแถว ขุ่นข้องกับการที่บางครั้งก็มีป้าสารรูปแก่ๆ มานั่งใกล้ สัมผัสได้ถึงสังขารอันเหี่ยวย่น มันคือสิ่งไม่เที่ยงโดยแท้ จะเรียกว่าปลงอสุภะก็ย่อมได้ ข้าพเจ้ารังเกียจมันเหลือเกิน ขณะที่ไม่อาจระบายความคับข้องใดๆ แก่ใครได้ ด้วยสถานะที่เป็นอยู่ตอนนี้

สิ่งที่ข้าพเจ้าเห็นคือ ทุกคนต่างเป็นสัตว์เชื่องๆ คนเหล่านี้มีเงินและพร้อมจะศรัทธาอะไรก็ตามที่ข้าพเจ้าอ้างอิงสิ่งที่อยู่เหนือสติปัญญาความรู้ของพวกมัน พวกมันไม่รู้หรอกว่า วันๆ นั้นคนเยี่ยงข้าพเจ้าหาได้ทำอะไรเป็นหลักใหญ่ใจความ สิ่งที่บอกกล่าวกับสิ่งที่ข้าพเจ้าปฏิบัตินั้นต่างอย่างสิ้นเชิง เหมือนขั้วแม่เหล็กที่ผลักออกจากกันไปคนละฟาก

และแล้วก็ถึงคราวสำคัญ เวลาที่ยาวนานเรื่อยเปื่อยนี้ข้าพเจ้าได้ไปรื้อๆ ค้นหนังสือเล่มหนึ่ง มันเป็นหนังสือเล่มเก่าที่คิดว่าน้อยคนนักจะได้อ่าน ข้าพเจ้านั้นเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อรวมกับชีวิตวัยเด็กที่อยู่ตามท้องไร่ท้องนา ข้าพเจ้ารู้ดีว่า คนข้างนอกนั้นต้องการอะไร เรื่องเหนือธรรมชาติ ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ และสิ่งที่กระตุ้นความศรัทธา สามสิ่งนี้ดุจดั่งศาสตราวุธที่แรงล้ายิ่งกว่าพระรัตนตรัยเสียอีก และข้าพเจ้าจะใช้มันเพื่อปลุกเร้าคนเหล่านี้ ให้มันได้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ในตัวข้าพเจ้า นับต่อจากนี้ จะไม่มี ไอ้แก๊บ ไอ้เด็กร้านเซเว่นอีกต่อไป ทุกคนจะขนานนามข้าพเจ้าว่า หลวงปู่เณรคำ




เช้ามืดที่เท้าของแก๊บเริ่มออกเดินย่ำไปยังทางดิน เขารู้สึกถึงความชื้นแฉะจากน้ำค้างเมื่อยามราตรี เขามองเห็นมดฝูงหนึ่งเดินเป็นทาง ขณะที่ถือบาตรอยู่ เขาจดจ้องทางของมดอยู่อย่างนั้นอยู่นาน การเดินทางเป็นสายสีแดงของมดนั้นกระตุ้นเร้าบางสิ่งในตัวเขา เขายิ้มกระหยิ่มในใจ แลคิดว่า นี่แหละคือองค์ประกอบหนึ่งที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้ กับนิทานปรัมปราที่จารึกอยู่ในหัว เขานึกภาพตนนั่งจรดปากกานั่งเขียนบนกระดาษ นึกถึงชื่อของนักเขียนดังอย่าง แดนอรัญแสงทอง วินทร์เรียววารินทร์ ชาติกอบจิตติ

"เหอะ พวกเขาก็เป็นได้แค่คนเขียนหนังสือหลอกกินเงิน มันไม่ได้สูงค่านักอะไรนักหรอก ข้านี่สิ จะจดจารเรื่องราวของตนให้โลกตะลึง"

เขานึกภาพตัวเอง ก้มเดินอยู่ริมชายหาด คลื่นซัดแรง หน้าเขาก้มนิ่ง แสงสว่างยามเช้าสดใส เผยเห็นภาพเขาในกายห่มผ้าเหลือง เขานึกคำพูดห้วงสั้นๆ ออกมา

"ขันติธรรม หนทางแห่งการหลุดพ้น"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่