** รีวิวแบบสปอยล์
มาถึงการรีวิวภาพยนตร์เรื่อง ดันเคิร์ค แล้ว หลังจากอาทิตย์ก่อนดูวาเลเรี่ยนมาสนุกพอสมควร แต่ยอมรับว่าดันเคิร์คถึงจะพยายามตั้งใจเก็บรายละเอียดแค่ไหนก็รู้สึกเก็บไม่ครบอยู่ดี มีความงุนงงอยู่พอสมควร กระทู้นี้จะไม่เล่าเรื่องละเอียดนะครับ เพราะจะไปเน้นที่ส่วนวิเคราะห์แทน อีกอย่างเพราะไม่ค่อยมีความรู้เรื่องสงครามโลกและรู้สึกว่าตัวเองยังจับประเด็นหนังได้ไม่ดีพอ ดังนั้นถ้าใครจะเสริมจุดไหน ตรงไหน เชิญได้เลยครับ เหตุผลที่อยากเอาเรื่องนี้มารีวิว (ทั้งที่ตอนแรกว่าจะไม่พูดถึง) เพราะความสงสัยในพฤติการแปลก ๆ ของตัวละครนี่แหละ คิดไปคิดมา แทนที่จะเก็บข้อสงสัยไว้คนเดียว เอามาแชร์กันเลยดีกว่า ไปดูกันเลย
ข้อสงสัยที่ว่าคือ
1. ฉากที่ คิลเลี่ยน เมอฟี่ ถามว่า "เป็นไงบ้าง เด็กคนนั้น รอดมั้ย ?" ลูกคนขับเรือบอกว่า "รอด"
ความจริงคือไม่รอด ทำไมตอบแบบนั้น
2. ฉากพระเอกขับเครื่องบินลงจอดที่หาด เผาเครื่องบิน โดนทหารนาซีจับ
เพื่ออะไร ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่าเหรอ
3. ฉากที่ทุกคนลงเรือหมด แต่ทหารยศสูงบอกว่า "ขอให้โชคดี ผมจะอยู่ช่วยทหารฝรั่งเศสต่อ"
ทำไม
เล่าเรื่อง
เนื่องจากหนังใช้วิธีการเล่าเรื่องเป็น 3 ส่วน ทหาร/พลเรือน/นักบิน ในเวลา 1 อาทิตย์/1 วัน/1 ชั่วโมง ดังนั้นจะขอเล่าเรื่องโดยแยกเป็น 3 องค์เช่นเดียวกัน เรียงตามลำดับ โดยแต่ละองค์จะมี อดีต=เรื่องของทหารที่หนีหาด , ปัจจุบัน=เรื่องของลุงแก่ที่ขับเรือเล็กมารับ , อนาคต=เรื่องของนักบิน เป็นการแบ่งของ จขกท. เองอาจไม่ตรงกับในหนัง
องค์ 1 : ความกล้าหาญ
อดีต
พระเอกอ่านใบปลิว โดนลอบยิง วิ่งหนีมาที่หาด เจอเครื่องบินนาซีโฉบมาทิ้งบอมบ์ ก้มหัวหลบ มองหาวิธีขึ้นเรือ ชวนเพื่อนไปแบกคนเจ็บ พาคนเจ็บขึ้นเรือ แอบใต้สะพาน เครื่องบินนาซีโฉบมาอีก บอมบ์! เรือล่ม ทหารที่หาดตะโกน ทหารอากาศมุดหัวอยู่ไหนวะ! ทหารยศสูงคุยกัน เชอชิลต้องการอพยพทหาร อาจจะได้กลับซัก 3 หมื่นนาย เราต้องรักษาแนวสะพานหินเพื่อให้เรือใหญ่(เรือพิฆาต)มาเทียบได้ รัฐบาลจะส่งมาแค่นั้นเพราะจะประหยัดเพื่อสงครามครั้งต่อไป สำหรับทหารที่หาด จะกระจายข่าวระดมเรือเล็กพลเรือนมาช่วย ทหารจะได้ไปที่เรือได้
ปัจจุบัน
ลุงแก่ออกเรือโดยไม่รอเรียกเกณฑ์ จอร์จเด็กน้อยวิ่งมาขึ้นเรือ ลุงบอก "เรากำลังจะไปสงครามนะ จอร์จ" "ผมช่วยได้ฮะ" จอร์จตอบ แม้แต่ลูกชายลุงยังอึ้ง เดินเรือมาซักพัก เห็นเครื่องบิน 3 ลำบินผ่านไป พ่อดูครับ เครื่องบินสปริทฟายเออร์
อนาคต
เครื่องบินสปริทฟายเออร์ ประกอบด้วย เครื่องลีดเดอร์, เครื่อง 1 (พระเอก) และ เครื่อง 2 (คอลลินส์) บินมาเจอเครื่องบินนาซี ยิงนาซีร่วง แต่เครื่องลีดเดอร์ร่วงตาม เหลือ 2 ลำ เกจวัดน้ำมันเครื่อง 1 เสีย พระเอกบอกให้เพื่อนบอกระดับน้ำมันเป็นระยะ เพื่อประมาณเครื่องตัวเอง พอดีเจอเครื่องบินนาซีอีก ไล่ยิงกัน เครื่อง 2 ของคอลลินส์ตก แต่ลงจอดบนทะเลได้ ขณะพระเอกตัดสินใจไล่ตามเครื่องบินนาซีลำที่หลบหนีต่อ
องค์ 2 : เสียสละ
อดีต
พระเอกได้ขึ้นเรือ เรือโดนตอปิโดระเบิด ว่ายน้ำหนีมาขึ้นเรือพาย เรือพายไม่ให้ขึ้น บอกว่าคนเต็มแล้ว คนที่บอกคือคิลเลี่ยน เมอฟี่ พวกพระเอกเลยต้องว่ายกลับฝั่งเอง นั่งรอ เจอกลุ่มทหารจะไปขึ้นเรือหาปลาที่เกยตื้น เดินตามไป เข้าไปในเรือ รอน้ำขึ้น ทหารคนอื่น ๆ เริ่มทำแพจากรถยนตร์ บอกว่าระดับน้ำจะขึ้นอีก 3 ชั่วโมง ทหารยศสูงบอกว่านานกว่านั้น 6 ชั่วโมง ผ่านไปนาน น้ำขึ้นแต่เรือไม่ลอย ต้องลดน้ำหนักเรือ ต้องมีคนเสียสละออกจากเรือ ขณะเดียวกันพวกนาซีก็ใกล้มายึดหาดได้แล้ว
ปัจจุบัน
คิลเลี่ยน เมอฟี่ เรือแตก นั่งอยู่บนซากเครื่องบินกลางทะเล เรือลุงแก่มาช่วย คิลเลี่ยน เมอฟี่ มีอาการหลอน ๆ บอกให้หันเรือกลับ ทะเลาะมีปากเสียงกัน จอร์จเด็กน้อยโดนลูกหลง ได้รับบาดเจ็บที่หัวสาหัส เดินเรือไปเห็นเครื่องบินยิงกัน ดีใจ ยิงนาซีร่วง จากนั้นไปช่วยนักบินคอลลินส์ที่จอดเครื่องบินอยู่กลางทะเลออกมาได้สำเร็จ
อนาคต
พระเอกไล่ตามเครื่องบินนาซีที่หลบหนีไป บินผ่านเห็นเรือหาปลาล่มอยู่ เรือกำลังจม ข้าง ๆ มีเรือใหญ่ลำนึง พวกทหารจากเรือหาปลากำลังว่ายไปหาเรือใหญ่ เครื่องบินนาซีผ่านมาทิ้งบอมบ์เรือใหญ่ เรือใหญ่ล่ม แล้วเครื่องบินนาซีวกกลับ จะตามมาซ้ำ พระเอกตัดสินใจ จุดน้ำมันสำรอง ไล่ตามยิงเครื่องบินนาซีร่วงสำเร็จ จากนั้นน้ำมันหมด
องค์ 3 : แรงบันดาลใจ
อดีต
พวกนาซีจะมาถึงฝั่ง เรือโดนยิง จังหวะน้ำขึ้นพอดี เรือแล่นออกได้ แต่ทหารนาซีก็ตามมายิงจนเรือพรุน เรือออกสู่ทะเล แต่กำลังจะจม ทุกคนเลยสละเรือจะว่ายไปหาเรือใหญ่ที่อยู่ข้าง ๆ เรือใหญ่โดนเครื่องบินทิ้งระเบิด บอมบ์! จมเหมือนกัน เห็นเรือลุงแก่มาพอดี ว่ายน้ำไปหาลุงแก่ เครื่องบินนาซีวกกลับมา แต่โดนยิงร่วง ตูม! ไฟลุกท่วมทะเล
ปัจจุบัน
เดินเรือมาถึง เห็นเรือใหญ่กับเรือหาปลาล่มกลางทะเลพอดี ช่วยทหารที่ลอยอยู่ เครื่องบินนาซีวกกลับมา แต่โดนยิงร่วง นักบินคอลลินส์บอกว่าให้รีบออกเรือไปเร็ว ๆ ไฟจะลุก เลยหนีออกมาทัน คนสุดท้ายที่ลากมาขึ้นเรือได้คือพระเอก(ส่วนอดีต)นั่นเอง พระเอกพูดว่ากลับบ้านแล้ว จอร์จเด็กน้อยตาย ลูกลุงแก่บอกให้ดูแลเขาให้ดี ๆ เดินเรือออกมา เซอร์ไพรเครื่องบินนาซีบินมาอีกลำ ลุงแก่บอกให้ลูกคุมเรือตามจังหวะที่ลุงสั่ง จังหวะนี้แหละ! หลบ รอดมาได้
อนาคต
น้ำมันหมดแต่ยังบินได้ เจอเครื่องบินนาซีที่โผล่มาลำสุดท้าย ทั้งทหารและพลเรือนต่างเสียขวัญ พระเอกเลยจัดการ ตูม! สอยร่วงได้สำเร็จ ทุกคนโห่ร้อง ยินดี พระเอกร่อนเครื่องวนไป ไปเรื่อย ๆ จนมาจอดที่ฝั่ง ลงจากเครื่อง เผาเครื่องบิน โดนทหารนาซีจับ
สรุป
ส่วนพลเรือน : ตัวละครที่น่าสนใจที่สุดคือ
ลูกชายลุงแก่ที่ออกเรือมาช่วยทหารนั่นเอง ตัวแปรที่กระทบความรู้สึกที่สุดคือจอร์จเด็กน้อย จอร์จสร้างความแปลกใจให้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ออกเรือ "ผมช่วยได้ฮะ" จนประสบอุบัติเหตุบนเรือ จึงได้รู้จักว่าตัวจอร์จไม่ใช่คนสำคัญเท่าไหร่ที่บ้านที่โรงเรียน เขาจึงอยากเป็นคนสำคัญบ้าง จึงเป็นแรงขับ ให้เขาแสดงความกล้าหาญออกมา จอร์จมีความกล้าหาญ แต่กลับเป็นลูกชายลุงเองซะอีกที่แสดงความขี้ขลาดออกมา เช่น ตอนที่จะไปช่วยคอลลินส์ที่เครื่องบินตก "เขาไม่มีร่มชูชีพ เราจะไปช่วยเขาหรือฮะ " "พ่อรู้แล้ว พ่อรู้แล้ว แต่เราอาจจะช่วยเขาได้ก็ได้" คิลเลี่ยน เมอฟี่ เป็นคนทำให้จอร์จตาย สิ่งนี้สร้างความกระทบกระเทือนจิตใจ "เด็กคนน้ั้น รอดมั้ย" แต่เขากลับตอบว่า "รอด" คำว่ารอดในที่นี้ทางนึงอาจเป็นการถนอมน้ำใจ คิลเลี่ยน เมอฟี่ ที่ตอนนี้เริ่มสำนึกผิดแล้ว (องค์ 3) แต่อีกทางนึงจอร์จรอด เพราะเรื่องราวของเขา ความกล้าหาญของเขา จะถูกเล่าขานต่อผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ ลูกชายลุงจึงไปที่สำนักพิมพ์ บอกเล่าเรื่องราวที่จอร์จเป็นฮีโร่ ในตอนท้ายเรื่องนั่นเอง คือความหมายที่จอร์จรอด
ส่วนทหาร : หนังแทบไม่ได้เล่าอะไรเกี่ยวกับความคิดของทหารที่ดันเคิร์ค นอกจากหนี หนีไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ไม่มีแผนสู้รบ ไม่มีความรู้สึกยอมจำนน ความพยายามพบกับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า
ครั้งแรก พาคนเจ็บมาลงเรือ โดนดับฝัน ระเบิดลง เรือล่ม ทหารอากาศมุดหัวอยู่ไหนวะ!
ครั้งที่สอง ได้ขึ้นเรือ โดนดับฝัน เรือโดนตอปิโดล่มอีก
ครั้งที่สาม ขึ้นเรือหาปลา ว่ายน้ำมาขึ้นเรือลุงแก่ ดับฝัน เครื่องบินนาซีบินมาอีก แต่ครั้งนี้ไม่โดนดับฝัน มีทหารอากาศยิงเครื่องบินนาซีลำนั้นร่วงสำเร็จ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ผิดหวังกลายเป็นหดหู่แล้วก็กลับมารู้สึกมีความฮึกเหิม โห่ร้อง ยินดี มีเครื่องบินมาช่วย ความรู้สึกของทหารที่เปลี่ยนไปตรงนี้ ซีน
ทหารยศสูงเป็นฉากสัญลักษณ์ที่แสดงออกมาได้ดีที่สุด จากความสิ้นหวังเมื่อเห็นเครื่องบินนาซี จนเห็นเครื่องบินพระเอกที่ช่วยได้สำเร็จ มองดูเครื่องบินร่อนอย่างชื่นชม หลังจากนั้นเขาบอกคนอื่นว่า "เชอร์ชิลได้ทหารของเขาคืนแล้ว ไม่ใช่แค่ 3 หมื่น แต่เป็น 3 แสน ขอให้โชคดี ผมจะอยู่ช่วยทหารฝรั่งเศสต่อ" สอดคล้องกับสุนทรพจของเชอร์ชิลตอนท้ายเรื่อง ที่บอกว่าเราจะสู้ ทั้งทางบก ทางเรือ อากาศ ไม่มีวันยอมแพ้ we shall never surrender นี่คือเรื่องราวที่ผ่านสมรภูมิดันเคิร์คที่คิดว่าทหารจะต้องรู้สึกผิดหวัง หดหู่ แต่กลับกลายเป็นพลังที่ทำให้พวกเขามีใจฮึดสู้ต่อไป
ส่วนนักบิน : ในส่วนนักบินตัวละครที่ควรโฟกัสที่สุดนอกจากตัวพระเอกแล้ว ผมว่าคือ
คอลลินส์ครับ ทำไมต้องขึ้นเรือที่ดันเคิร์ค โคตรไกล เพราะฝ่ายตรงข้ามปิดทางจนทำให้ต้องไปขึ้นเรือตรงนั้น เฮ้ย เกจวัดน้ำมันเสีย นายกลับไปก่อนดีกว่ามั้ย ไม่ๆๆ ฉันโอเค นี่คือประโยคสนทนากันระหว่างพระเอกกับคอลลินส์ จะเห็นว่าเป็นบทสนทนาที่มีความไม่รู้สถานการณ์อยู่เล็กน้อย และบินไปยังไม่ถึงดันเคิร์คเลย สปริทฟายเออร์ก็ร่วงไปแล้ว 2 ลำ แถมลำที่บินไปได้เกจวัดน้ำมันเสียอีก พระเอกที่ยิง ๆ ๆ ๆ ช่วยจนน้ำมันหมด ทำไมไม่เอาเครื่องลงกลางทะเล สมมติว่าคิดเข้าข้างหนังว่า พระเอกไม่สามารถนำเครื่องลงทางทะเลได้ อาจเป็นปัญหาด้านเทคนิค หรืออะไรก็ว่าไป และในตอนนั้นทหารนาซีก็มายึดหาดได้แล้ว น้ำมันก็หมดแล้ว ก็แทบไม่เหลือทางอื่นอีกนอกจากยอมจำนน อยากให้จับความรู้สึกของคอลลินส์ในตอนที่เห็นเพื่อนมาช่วยยิงเครื่องบินนาซีลำสุดท้าย สีหน้าเขาไม่ดีใจ แฝงความเสียใจอยู่ไม่น้อย หรือเขาจะรู้ชะตากรรมว่าเพื่อนเขาจะเป็นยังไงในฐานะนักบินด้วยกัน ขณะที่คนอื่น ๆ ไม่รู้สึกอะไร เพียงหวังให้ทหารอากาศมาช่วย แต่คอลลินส์รู้มันคือการสละชีพ เขานั่งเรือมาขึ้นฝั่ง มีคนก่นด่าเขา เฮ้ย! นักบิน แกหายหัวไปไหนอยู่วะ จังหวะนั้นลุงแก่ก็เดินมาชี้นิ้วไปยังทหารที่ช่วยขึ้นมา แล้วบอกว่า แต่พวกเขารู้! เป็นไปได้ที่จะบอกว่านอกจากพวกเขารู้ ลุงก็รู้ ลุงเดินเรือมาเห็นวีรกรรมการต่อสู้ทางอากาศของคอลลินส์ก่อนที่เครื่องบินเขาตก ก่อนที่ลุงจะแล่นเรือไปช่วยไว้ได้ทัน ลุงรู้ว่าเขายังเป็นคนช่วยให้ลุงพาเรือหนีก่อนไฟลุกไหม้กลางทะเล แถมลุงยังมีลูกชายที่เคยขับเครื่องบิน ลุงอาจรู้และเข้าใจสิ่งที่คอลลินส์คิดก็ได้ว่าเศร้าในความเสียสละของเพื่อน (อันนี้เดาเอา) ฟังดูอาจเป็นคำปลอบใจธรรมดา แต่นี่คือความงดงามครับ
สรุปคือผลกระทบส่งต่อจากตัวละครหนึ่งไปสู่อีกตัวละครหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นทรรศนทางบวก
พระเอกนักบิน===> ทหารยศสูง -->ส่งต่อให้ ทหารคนอื่น ๆ
จอร์จเด็กน้อย===> ลูกชายลุงแก่ --> ส่งต่อให้คิลเลี่ยน เมอฟี่ , คนอ่านหนังสือพิมพ์
ลุงแก่ ===> คอลลินส์นักบิน --> ยังไม่ได้ส่งต่อให้ใคร (ส่งให้คนดูมั่ง)
แต่อย่างที่บอกว่ารีวิวนี้เป็นการวิเคราะห์ที่อาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องเป๊ะเท่าไหร่ ถ้าใครมีข้อเสนอแนะอื่นเพิ่มเติม เชิญได้เลยนะครับ..
จบแล้วครับ ขอขอบคุณที่อ่านจนจบ
[CR] รีวิวดันเคิร์ก DUNKIRK (วิเคราะห์แบบสปอยล์)
มาถึงการรีวิวภาพยนตร์เรื่อง ดันเคิร์ค แล้ว หลังจากอาทิตย์ก่อนดูวาเลเรี่ยนมาสนุกพอสมควร แต่ยอมรับว่าดันเคิร์คถึงจะพยายามตั้งใจเก็บรายละเอียดแค่ไหนก็รู้สึกเก็บไม่ครบอยู่ดี มีความงุนงงอยู่พอสมควร กระทู้นี้จะไม่เล่าเรื่องละเอียดนะครับ เพราะจะไปเน้นที่ส่วนวิเคราะห์แทน อีกอย่างเพราะไม่ค่อยมีความรู้เรื่องสงครามโลกและรู้สึกว่าตัวเองยังจับประเด็นหนังได้ไม่ดีพอ ดังนั้นถ้าใครจะเสริมจุดไหน ตรงไหน เชิญได้เลยครับ เหตุผลที่อยากเอาเรื่องนี้มารีวิว (ทั้งที่ตอนแรกว่าจะไม่พูดถึง) เพราะความสงสัยในพฤติการแปลก ๆ ของตัวละครนี่แหละ คิดไปคิดมา แทนที่จะเก็บข้อสงสัยไว้คนเดียว เอามาแชร์กันเลยดีกว่า ไปดูกันเลย
ข้อสงสัยที่ว่าคือ
1. ฉากที่ คิลเลี่ยน เมอฟี่ ถามว่า "เป็นไงบ้าง เด็กคนนั้น รอดมั้ย ?" ลูกคนขับเรือบอกว่า "รอด" ความจริงคือไม่รอด ทำไมตอบแบบนั้น
2. ฉากพระเอกขับเครื่องบินลงจอดที่หาด เผาเครื่องบิน โดนทหารนาซีจับ เพื่ออะไร ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่าเหรอ
3. ฉากที่ทุกคนลงเรือหมด แต่ทหารยศสูงบอกว่า "ขอให้โชคดี ผมจะอยู่ช่วยทหารฝรั่งเศสต่อ" ทำไม
เล่าเรื่อง
เนื่องจากหนังใช้วิธีการเล่าเรื่องเป็น 3 ส่วน ทหาร/พลเรือน/นักบิน ในเวลา 1 อาทิตย์/1 วัน/1 ชั่วโมง ดังนั้นจะขอเล่าเรื่องโดยแยกเป็น 3 องค์เช่นเดียวกัน เรียงตามลำดับ โดยแต่ละองค์จะมี อดีต=เรื่องของทหารที่หนีหาด , ปัจจุบัน=เรื่องของลุงแก่ที่ขับเรือเล็กมารับ , อนาคต=เรื่องของนักบิน เป็นการแบ่งของ จขกท. เองอาจไม่ตรงกับในหนัง
องค์ 1 : ความกล้าหาญ
อดีต
พระเอกอ่านใบปลิว โดนลอบยิง วิ่งหนีมาที่หาด เจอเครื่องบินนาซีโฉบมาทิ้งบอมบ์ ก้มหัวหลบ มองหาวิธีขึ้นเรือ ชวนเพื่อนไปแบกคนเจ็บ พาคนเจ็บขึ้นเรือ แอบใต้สะพาน เครื่องบินนาซีโฉบมาอีก บอมบ์! เรือล่ม ทหารที่หาดตะโกน ทหารอากาศมุดหัวอยู่ไหนวะ! ทหารยศสูงคุยกัน เชอชิลต้องการอพยพทหาร อาจจะได้กลับซัก 3 หมื่นนาย เราต้องรักษาแนวสะพานหินเพื่อให้เรือใหญ่(เรือพิฆาต)มาเทียบได้ รัฐบาลจะส่งมาแค่นั้นเพราะจะประหยัดเพื่อสงครามครั้งต่อไป สำหรับทหารที่หาด จะกระจายข่าวระดมเรือเล็กพลเรือนมาช่วย ทหารจะได้ไปที่เรือได้
ปัจจุบัน
ลุงแก่ออกเรือโดยไม่รอเรียกเกณฑ์ จอร์จเด็กน้อยวิ่งมาขึ้นเรือ ลุงบอก "เรากำลังจะไปสงครามนะ จอร์จ" "ผมช่วยได้ฮะ" จอร์จตอบ แม้แต่ลูกชายลุงยังอึ้ง เดินเรือมาซักพัก เห็นเครื่องบิน 3 ลำบินผ่านไป พ่อดูครับ เครื่องบินสปริทฟายเออร์
อนาคต
เครื่องบินสปริทฟายเออร์ ประกอบด้วย เครื่องลีดเดอร์, เครื่อง 1 (พระเอก) และ เครื่อง 2 (คอลลินส์) บินมาเจอเครื่องบินนาซี ยิงนาซีร่วง แต่เครื่องลีดเดอร์ร่วงตาม เหลือ 2 ลำ เกจวัดน้ำมันเครื่อง 1 เสีย พระเอกบอกให้เพื่อนบอกระดับน้ำมันเป็นระยะ เพื่อประมาณเครื่องตัวเอง พอดีเจอเครื่องบินนาซีอีก ไล่ยิงกัน เครื่อง 2 ของคอลลินส์ตก แต่ลงจอดบนทะเลได้ ขณะพระเอกตัดสินใจไล่ตามเครื่องบินนาซีลำที่หลบหนีต่อ
องค์ 2 : เสียสละ
อดีต
พระเอกได้ขึ้นเรือ เรือโดนตอปิโดระเบิด ว่ายน้ำหนีมาขึ้นเรือพาย เรือพายไม่ให้ขึ้น บอกว่าคนเต็มแล้ว คนที่บอกคือคิลเลี่ยน เมอฟี่ พวกพระเอกเลยต้องว่ายกลับฝั่งเอง นั่งรอ เจอกลุ่มทหารจะไปขึ้นเรือหาปลาที่เกยตื้น เดินตามไป เข้าไปในเรือ รอน้ำขึ้น ทหารคนอื่น ๆ เริ่มทำแพจากรถยนตร์ บอกว่าระดับน้ำจะขึ้นอีก 3 ชั่วโมง ทหารยศสูงบอกว่านานกว่านั้น 6 ชั่วโมง ผ่านไปนาน น้ำขึ้นแต่เรือไม่ลอย ต้องลดน้ำหนักเรือ ต้องมีคนเสียสละออกจากเรือ ขณะเดียวกันพวกนาซีก็ใกล้มายึดหาดได้แล้ว
ปัจจุบัน
คิลเลี่ยน เมอฟี่ เรือแตก นั่งอยู่บนซากเครื่องบินกลางทะเล เรือลุงแก่มาช่วย คิลเลี่ยน เมอฟี่ มีอาการหลอน ๆ บอกให้หันเรือกลับ ทะเลาะมีปากเสียงกัน จอร์จเด็กน้อยโดนลูกหลง ได้รับบาดเจ็บที่หัวสาหัส เดินเรือไปเห็นเครื่องบินยิงกัน ดีใจ ยิงนาซีร่วง จากนั้นไปช่วยนักบินคอลลินส์ที่จอดเครื่องบินอยู่กลางทะเลออกมาได้สำเร็จ
อนาคต
พระเอกไล่ตามเครื่องบินนาซีที่หลบหนีไป บินผ่านเห็นเรือหาปลาล่มอยู่ เรือกำลังจม ข้าง ๆ มีเรือใหญ่ลำนึง พวกทหารจากเรือหาปลากำลังว่ายไปหาเรือใหญ่ เครื่องบินนาซีผ่านมาทิ้งบอมบ์เรือใหญ่ เรือใหญ่ล่ม แล้วเครื่องบินนาซีวกกลับ จะตามมาซ้ำ พระเอกตัดสินใจ จุดน้ำมันสำรอง ไล่ตามยิงเครื่องบินนาซีร่วงสำเร็จ จากนั้นน้ำมันหมด
องค์ 3 : แรงบันดาลใจ
อดีต
พวกนาซีจะมาถึงฝั่ง เรือโดนยิง จังหวะน้ำขึ้นพอดี เรือแล่นออกได้ แต่ทหารนาซีก็ตามมายิงจนเรือพรุน เรือออกสู่ทะเล แต่กำลังจะจม ทุกคนเลยสละเรือจะว่ายไปหาเรือใหญ่ที่อยู่ข้าง ๆ เรือใหญ่โดนเครื่องบินทิ้งระเบิด บอมบ์! จมเหมือนกัน เห็นเรือลุงแก่มาพอดี ว่ายน้ำไปหาลุงแก่ เครื่องบินนาซีวกกลับมา แต่โดนยิงร่วง ตูม! ไฟลุกท่วมทะเล
ปัจจุบัน
เดินเรือมาถึง เห็นเรือใหญ่กับเรือหาปลาล่มกลางทะเลพอดี ช่วยทหารที่ลอยอยู่ เครื่องบินนาซีวกกลับมา แต่โดนยิงร่วง นักบินคอลลินส์บอกว่าให้รีบออกเรือไปเร็ว ๆ ไฟจะลุก เลยหนีออกมาทัน คนสุดท้ายที่ลากมาขึ้นเรือได้คือพระเอก(ส่วนอดีต)นั่นเอง พระเอกพูดว่ากลับบ้านแล้ว จอร์จเด็กน้อยตาย ลูกลุงแก่บอกให้ดูแลเขาให้ดี ๆ เดินเรือออกมา เซอร์ไพรเครื่องบินนาซีบินมาอีกลำ ลุงแก่บอกให้ลูกคุมเรือตามจังหวะที่ลุงสั่ง จังหวะนี้แหละ! หลบ รอดมาได้
อนาคต
น้ำมันหมดแต่ยังบินได้ เจอเครื่องบินนาซีที่โผล่มาลำสุดท้าย ทั้งทหารและพลเรือนต่างเสียขวัญ พระเอกเลยจัดการ ตูม! สอยร่วงได้สำเร็จ ทุกคนโห่ร้อง ยินดี พระเอกร่อนเครื่องวนไป ไปเรื่อย ๆ จนมาจอดที่ฝั่ง ลงจากเครื่อง เผาเครื่องบิน โดนทหารนาซีจับ
สรุป
ส่วนพลเรือน : ตัวละครที่น่าสนใจที่สุดคือลูกชายลุงแก่ที่ออกเรือมาช่วยทหารนั่นเอง ตัวแปรที่กระทบความรู้สึกที่สุดคือจอร์จเด็กน้อย จอร์จสร้างความแปลกใจให้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ออกเรือ "ผมช่วยได้ฮะ" จนประสบอุบัติเหตุบนเรือ จึงได้รู้จักว่าตัวจอร์จไม่ใช่คนสำคัญเท่าไหร่ที่บ้านที่โรงเรียน เขาจึงอยากเป็นคนสำคัญบ้าง จึงเป็นแรงขับ ให้เขาแสดงความกล้าหาญออกมา จอร์จมีความกล้าหาญ แต่กลับเป็นลูกชายลุงเองซะอีกที่แสดงความขี้ขลาดออกมา เช่น ตอนที่จะไปช่วยคอลลินส์ที่เครื่องบินตก "เขาไม่มีร่มชูชีพ เราจะไปช่วยเขาหรือฮะ " "พ่อรู้แล้ว พ่อรู้แล้ว แต่เราอาจจะช่วยเขาได้ก็ได้" คิลเลี่ยน เมอฟี่ เป็นคนทำให้จอร์จตาย สิ่งนี้สร้างความกระทบกระเทือนจิตใจ "เด็กคนน้ั้น รอดมั้ย" แต่เขากลับตอบว่า "รอด" คำว่ารอดในที่นี้ทางนึงอาจเป็นการถนอมน้ำใจ คิลเลี่ยน เมอฟี่ ที่ตอนนี้เริ่มสำนึกผิดแล้ว (องค์ 3) แต่อีกทางนึงจอร์จรอด เพราะเรื่องราวของเขา ความกล้าหาญของเขา จะถูกเล่าขานต่อผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ ลูกชายลุงจึงไปที่สำนักพิมพ์ บอกเล่าเรื่องราวที่จอร์จเป็นฮีโร่ ในตอนท้ายเรื่องนั่นเอง คือความหมายที่จอร์จรอด
ส่วนทหาร : หนังแทบไม่ได้เล่าอะไรเกี่ยวกับความคิดของทหารที่ดันเคิร์ค นอกจากหนี หนีไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ไม่มีแผนสู้รบ ไม่มีความรู้สึกยอมจำนน ความพยายามพบกับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งแรก พาคนเจ็บมาลงเรือ โดนดับฝัน ระเบิดลง เรือล่ม ทหารอากาศมุดหัวอยู่ไหนวะ! ครั้งที่สอง ได้ขึ้นเรือ โดนดับฝัน เรือโดนตอปิโดล่มอีก ครั้งที่สาม ขึ้นเรือหาปลา ว่ายน้ำมาขึ้นเรือลุงแก่ ดับฝัน เครื่องบินนาซีบินมาอีก แต่ครั้งนี้ไม่โดนดับฝัน มีทหารอากาศยิงเครื่องบินนาซีลำนั้นร่วงสำเร็จ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ผิดหวังกลายเป็นหดหู่แล้วก็กลับมารู้สึกมีความฮึกเหิม โห่ร้อง ยินดี มีเครื่องบินมาช่วย ความรู้สึกของทหารที่เปลี่ยนไปตรงนี้ ซีนทหารยศสูงเป็นฉากสัญลักษณ์ที่แสดงออกมาได้ดีที่สุด จากความสิ้นหวังเมื่อเห็นเครื่องบินนาซี จนเห็นเครื่องบินพระเอกที่ช่วยได้สำเร็จ มองดูเครื่องบินร่อนอย่างชื่นชม หลังจากนั้นเขาบอกคนอื่นว่า "เชอร์ชิลได้ทหารของเขาคืนแล้ว ไม่ใช่แค่ 3 หมื่น แต่เป็น 3 แสน ขอให้โชคดี ผมจะอยู่ช่วยทหารฝรั่งเศสต่อ" สอดคล้องกับสุนทรพจของเชอร์ชิลตอนท้ายเรื่อง ที่บอกว่าเราจะสู้ ทั้งทางบก ทางเรือ อากาศ ไม่มีวันยอมแพ้ we shall never surrender นี่คือเรื่องราวที่ผ่านสมรภูมิดันเคิร์คที่คิดว่าทหารจะต้องรู้สึกผิดหวัง หดหู่ แต่กลับกลายเป็นพลังที่ทำให้พวกเขามีใจฮึดสู้ต่อไป
ส่วนนักบิน : ในส่วนนักบินตัวละครที่ควรโฟกัสที่สุดนอกจากตัวพระเอกแล้ว ผมว่าคือคอลลินส์ครับ ทำไมต้องขึ้นเรือที่ดันเคิร์ค โคตรไกล เพราะฝ่ายตรงข้ามปิดทางจนทำให้ต้องไปขึ้นเรือตรงนั้น เฮ้ย เกจวัดน้ำมันเสีย นายกลับไปก่อนดีกว่ามั้ย ไม่ๆๆ ฉันโอเค นี่คือประโยคสนทนากันระหว่างพระเอกกับคอลลินส์ จะเห็นว่าเป็นบทสนทนาที่มีความไม่รู้สถานการณ์อยู่เล็กน้อย และบินไปยังไม่ถึงดันเคิร์คเลย สปริทฟายเออร์ก็ร่วงไปแล้ว 2 ลำ แถมลำที่บินไปได้เกจวัดน้ำมันเสียอีก พระเอกที่ยิง ๆ ๆ ๆ ช่วยจนน้ำมันหมด ทำไมไม่เอาเครื่องลงกลางทะเล สมมติว่าคิดเข้าข้างหนังว่า พระเอกไม่สามารถนำเครื่องลงทางทะเลได้ อาจเป็นปัญหาด้านเทคนิค หรืออะไรก็ว่าไป และในตอนนั้นทหารนาซีก็มายึดหาดได้แล้ว น้ำมันก็หมดแล้ว ก็แทบไม่เหลือทางอื่นอีกนอกจากยอมจำนน อยากให้จับความรู้สึกของคอลลินส์ในตอนที่เห็นเพื่อนมาช่วยยิงเครื่องบินนาซีลำสุดท้าย สีหน้าเขาไม่ดีใจ แฝงความเสียใจอยู่ไม่น้อย หรือเขาจะรู้ชะตากรรมว่าเพื่อนเขาจะเป็นยังไงในฐานะนักบินด้วยกัน ขณะที่คนอื่น ๆ ไม่รู้สึกอะไร เพียงหวังให้ทหารอากาศมาช่วย แต่คอลลินส์รู้มันคือการสละชีพ เขานั่งเรือมาขึ้นฝั่ง มีคนก่นด่าเขา เฮ้ย! นักบิน แกหายหัวไปไหนอยู่วะ จังหวะนั้นลุงแก่ก็เดินมาชี้นิ้วไปยังทหารที่ช่วยขึ้นมา แล้วบอกว่า แต่พวกเขารู้! เป็นไปได้ที่จะบอกว่านอกจากพวกเขารู้ ลุงก็รู้ ลุงเดินเรือมาเห็นวีรกรรมการต่อสู้ทางอากาศของคอลลินส์ก่อนที่เครื่องบินเขาตก ก่อนที่ลุงจะแล่นเรือไปช่วยไว้ได้ทัน ลุงรู้ว่าเขายังเป็นคนช่วยให้ลุงพาเรือหนีก่อนไฟลุกไหม้กลางทะเล แถมลุงยังมีลูกชายที่เคยขับเครื่องบิน ลุงอาจรู้และเข้าใจสิ่งที่คอลลินส์คิดก็ได้ว่าเศร้าในความเสียสละของเพื่อน (อันนี้เดาเอา) ฟังดูอาจเป็นคำปลอบใจธรรมดา แต่นี่คือความงดงามครับ
สรุปคือผลกระทบส่งต่อจากตัวละครหนึ่งไปสู่อีกตัวละครหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นทรรศนทางบวก
พระเอกนักบิน===> ทหารยศสูง -->ส่งต่อให้ ทหารคนอื่น ๆ
จอร์จเด็กน้อย===> ลูกชายลุงแก่ --> ส่งต่อให้คิลเลี่ยน เมอฟี่ , คนอ่านหนังสือพิมพ์
ลุงแก่ ===> คอลลินส์นักบิน --> ยังไม่ได้ส่งต่อให้ใคร (ส่งให้คนดูมั่ง)
แต่อย่างที่บอกว่ารีวิวนี้เป็นการวิเคราะห์ที่อาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องเป๊ะเท่าไหร่ ถ้าใครมีข้อเสนอแนะอื่นเพิ่มเติม เชิญได้เลยนะครับ..
จบแล้วครับ ขอขอบคุณที่อ่านจนจบ