รถมอไซต์หายสามารถออกคันใหม่ได้เลยหรือไม่ แล้วทางห้างต้องรับผิดชอบด้วยใช่หรือไม่

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2560

ได้จอดรถไว้ที่ห้างโลตัสและได้ขึ้นไปทำธุระบนห้างซึ่งเป็นเวลาประมาณ 6 โมงครึ่งถึงหนึ่งทุ่ม ทางห้าง ทางห้างโลตัสศรีนครินทร์ไม่รับผิดชอบหรือว่ายื่นข้อเสนอใดใดให้แต่ดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิดแค่นั้นค่ะแล้วสอบถามทางประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมเค้าบอกว่าให้ไปติดต่อที่สำนักงานใหญ่ของ Lotus เท่านั้นค่ะ

ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดของทางหน้าห้างกับจุดที่รถจอดไว้
มองไม่เห็นจุดจอดรถเลยค่ะ
ต้องไปขอกล้องอีกฝั่งหนึ่งของห้างตรงข้างๆสถานที่เกิดเหตุขอดู
เห็นรูปพรรณของคนร้ายแล้วแต่ใบหน้าไม่ชัดเจนเพราะกล้องห่วยมาก และลานจอดรถตรงที่เกิดเหตุก็ไม่มีกล้องวงจรปิด
ความปลอดภัยต่ำมาก รปภ.ดูแลได้ไม่ทั่วถึงค่ะ  ทางห้างแจ้งแค่ว่า เป็นสถานที่เปิดสาธารณะ หมายความว่าเค้าไม่ต้องรับผิดชอบในการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการห้างหรอ?

จอดไว้ในสภาพล็อคคอรถเรียบร้อยแต่ว่ารถถูกโจรกรรมไปกรณีนี้สามารถออกรถคันใหม่ได้เลยหรือไม่?

ได้ทำการแจ้งความพร้อมแจ้งบริษัทประกันภัยรถและร้านผู้ให้เช่าซื้อเรียบร้อยแล้วอยู่ระหว่างการดำเนินการเรื่องการเคมประกัน

กุญแจรถทั้งสองดอกอยู่ครบและมีเอกสารประกันภัยอยู่เพื่อไว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดและภาพวิดีโอกล้องวงจรปิดของห้างทั้งสองฝั่งที่จะสามารถเห็นคนร้ายได้ พร้อมใบแจ้งความและยื่นเรื่องต่อบริษัทรถเรียบร้อยแล้ว

ซึ่งเหตุที่ต้องการออกรถใหม่เพื่อเอามาขับวิ่งส่งงานเอกสารคืองานประจำจะสามารถออกรถคันใหม่ได้หรือไม่

แล้วในกรณีที่ไฟแนนซ์แจ้งว่าเรามีค่าส่วนต่างเราต้องจ่ายอีกหรือไม่คะ รบกวนแนะนำด้วยค่ะถามผู้รู้ทุกท่าน

ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
รถหาย สัญญาเช่าซื้อระงับ เราไม่ต้องรับผิดค่างวดที่เหลือทั้งหมด
หากมีข้อสัญญาให้รับผิดที่เหลือทั้งหมดแม้รถหาย มันเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม
และหากกำหนดให้ต้องชำระค่าเสียหายไว้ล่วงหน้า มันคือเบี้ยปรับ หากเบี้ยปรับสูงเกินส่วนศาลมีอำนาจลดลงได้เอง

ทั้งหมดสามารถฟ้องทางโลตัสในเรื่องละเมิดได้
ไม่ว่าจะมียาม หรือ มีใบรับรถหรือไม่ก็ตาม
พิสูจน์เพียงนำรถมาจอดแล้วใช้บริการ ก็สามารถฟ้องศาลได้แล้ว
โดยฟ้องทางห้าง หรือหากมีบริษัทยามรับผิดชอบในส่วนนี้ ก็ฟ้องบริษัทยามไปด้วย


เพิ่มเติมฎีกาให้.....

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5819/2550
เมื่อรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหาย สัญญาเช่าซื้อย่อมระงับไปนับแต่วันที่รถยนต์สูญหายตาม ป.พ.พ. มาตรา 567 จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องส่งมอบรถยนต์คันที่เช่าซื้อคืนแก่โจทก์ แต่เมื่อปรากฏข้อตกลงตามสัญญาเช่าซื้อว่าในกรณีที่รถยนต์นั้นสูญหาย ผู้เช่าจะยอมชดใช้ค่ารถยนต์เป็นเงินจำนวนเท่ากับค่าเช่าซื้อส่วนที่เหลือที่ผู้เช่าจะต้องชำระทั้งหมดตามสัญญาเช่าซื้อทันที ถือว่าจำเลยที่ 1 ได้ตกลงจะชำระค่าเสียหายให้แก่โจทก์กรณีนี้ไว้ด้วย อันเป็นการกำหนดความรับผิดในการที่จำเลยที่ 1 ไม่ชำระหนี้ล่วงหน้ามีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ ซึ่งหากสูงเกินส่วนศาลชอบที่จะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 383 วรรคแรก ส่วนค่าขาดประโยชน์นั้น เมื่อรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหายไปเป็นเหตุให้สัญญาเช่าซื้อเลิกกันแล้ว จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่