จริงครับ
มันไม่ใช่การทำธุรกิจนี่นา
มันจะต้องไปห่วงไย กังวลอะไรกับ กำไร หรือ ขาดทุน
ผมไม่เคยพูดเรื่อง กำไร vs ขาดทุน
ภาครัฐก็ไม่มีใครใช้คำว่า กำไร - ขาดทุน
ใครเอาคำว่า กำไร-ขาดทุนมาพูด ก็เพื่อให้มันดูสวยงามไปงั้นแหละ
จะได้อ้างไง
ว่า นโยบายช่วยประชาชน แล้ว จะต้องสนใจอะไร กับ กำไร-ขาดทุน
รัฐเขาใช้คำว่า "ก่อให้เกิดความเสียหาย" (สูงสุดในประวัติศาสตร์ของชาติ)
ผมใช้คำว่า "เจ๊ง"
ถูกต้องครับ...มันไม่ต้องมีกำไร
ถูกต้องครับ...มันเป็นการช่วยเหลือชาวนา
แต่จริงๆแล้วมันคืออะไร ?
มันคือ บัตรรับประกัน การันตี ว่า จะชนะการเลือกตั้ง แบบถล่มทลายครับ
นโยบายนี้ ใครออกนโยบายมา พรรคการเมืองไหนออกนโยบายมา แทบจะ แบเบอร์ ครับ
ชนะแหง๋มๆ อิ อิ
ก็มันจะไปเหลือพระ เหลือเจ้าอะไรอะครับ
คนจนท่วมประเทศแบบนี้
พรรคไหนมีตรา "ช่วยคนจน" แปะไว้บนหน้าผาก รับประกัน เข้าป้ายแน่ๆ
ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ นืดเดียวครับ
ว่า หากท่านอยากจะช่วยชาวนา ด้วยการจำนำ ข้าวน่ะ
เขาไม่รับจำนำกันสูงเกินกว่าราคาตลาดสูงขนาดนี้ครับ
มันต้องพิจารณาราคาตลาดโลกด้วย ไม่ใช่เอาแต่มโนตัวเลข เอามาเป็นกับดักคนจนให้ฝันหวาน กาพรรคนี้
มันไม่ต้องใช้คนระดับมันสมองขนาด ดร.โกร่ง ก็นึกออกครับ
ไอ้อ่อนคณิตศาตร์หยี่งผมยังคิดได้เลย
ว่า มันไม่มีโรงจำนำใดๆในโลก ที่รับจำนำสินค้า สูง กว่า ราคาตลาด !
บ้า ชัดชัด !
แต่กับคนไทย...
หากท่านไม่ระบุจำนวนเงินลงไป...เขาอาจจะไม่เข้าใจ ไม่แน่ใจครับ
ว่าจะจำนำได้ราคากีบาท ต่อ ตัน
ก็จำจะต้องระบุ จำนวนเงินลงไปให้ชัดเจน
ว่า ตันละ หมื่นห้า ทุกเมล็ดเลยนะคะพี่น้องขา....เออ...แบบนี้ ลุงบุญช่วย แถวบ้านผม เขาถึงจะเข้าใจ
ว่า หมื่นห้า...งานนี้ไม่ต้องลุ้น
นี่มันรับจำนำมาราคาของดาวอังคารนี่นา
ไม่ใช่ราคาตลาดโลก !
แล้วโรงจำนำสุดเจ๋งนี้ก็บังเอิ๊ญ...ไม่มีที่เก็บของที่รับจำนำมา
ต้องไปเช่าเขา
ต้องไปจ้างระบบบริหารจัดการด้วยต้นทุนสูงลิ่ว
ไม่ต้องทุจริต ก็เจ๊งมาตั้งกะในมุ้งแล้วววว... อีหนูเอ๊ย
อย่างไรก็ตาม
ในทางคณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์
เราวสามารถหาค่าประสิทธิผล ของโครงการได้แบบง่ายๆ
นั่นคือ การเอา input หารด้วย output
หมายความว่า ท่านอยากจะให้ชาวนาได้เงินส่วนต่างไปเท่าไหร่
ก็เอามา หาร จากค่าใช้จ่ายที่ เท ลงไปในโครงการนั้น
เช่น ผลการคำณวนออกมาแล้วว่า ชาวนาได้ประโยชน์จากส่วนต่างของราคาไป 1.77 แสนล้านบาท
แล้วรัฐบาลควรจะต้องใช้เงิน "เกิน" 1.77 แสนล้านบาทไปมาก-น้อย ขนาดไหน
จึงจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ
รัฐบาลที่เก่งกว่านี้ หรือ มีการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้ อาจได้ค่า Ratio ออกมาเป็น 1:1
นั่นคือการใช้เงินไปให้ชาวนาได้รับผลประโยชน์ไปเต็มเม็ด เต็มหน่วย
รัฐเสียเงินไปเท่าไหร่ ชาวนาได้ไปเท่านั้น
รัฐบาลที่ไม่เก่ง บริหารจัดการห่วยแตก และปล่อยให้มีการทุจริต อาจได้ค่า ratio ออกมาสุดห่วย เช่น 1 : 3
นั่นคือ รัฐต้องใช้เงินไปกว่า 5 แสนล้าน เ พื่ อ ให้ชาวนาได้ผลประโยชน์ไปแค่ 1.77 แสนล้าน
มันไม่ใช่เรื่องของการขาดทุน-กำไร !
แต่ผมเรียกของผมง่ายๆ แบบไม่ต้องแปล ว่า "เจ๊ง"
"เจ๊ง" ครับ
ทำงานภาษาหอยหลอดอะไรวะ
และส่วนหนึ่งของการเจ๊งนั้น มาจาก การมีการทุจริตสารพัดรูปแบบ
มีผลให้ เสี่ยเปี๋ยง อันเป็นที่รักของคนแถวนี้ ถึงได้ถูกอายัติทรัพย์ไปกว่า หมื่นล้านแล้วไง (ไชโยๆ)
และอย่าไปเสียเวลาหานะครับ
ว่าสมัยรัฐบาล พรรคแมงสาบมันเคยทำอะไร แล้วประเทศชาติมีกำรี้ กำไร
ไม่ต้องไปหา !
ไม่มี !
พวกมันก็ไม่ได้ดีเด่ หรือวิเศษไปกว่าใครหรอก
แต่มันไม่เคยมีใครในประวัติศาสตร์ของชาติ ที่จะสามารถทำให้ประเทศเสียหายไป มหาศาล ขนาดนี้
ภายในระยะเวลาอัน สั้น จุ๊ดจู่ ขนาดนี้ !
แค่ไม่กี่ฤดูกาลผลิต เราสามารถเจ๊งได้ ทีละ 5 แสนล้าน
มากกว่าทุกรัฐบาล ตั้งกะบิ๊กจิ๋ว ยัน แมงสาบ เคยทำเจ๊งมา รวมกัน ซะอีก !
ท้ายที่สุด
นโยบายแห่งรัฐ มันไม่ต้องมีกำไรหรอกครับ
ไม่มีใครคิดเรื่อง ขาดทุนด้วย
แต่มันเป็นเรื่องที่เรา ต้องมาคิดด้วยใจที่เป็นธรรม ต่อชาติ ด้วยครับ
ว่า การที่เราจะช่วยเพื่อนร่วมชาติน่ะ
มันต้อง "เจ๊ง" ขนาดนี้เลยเหรอ
ดีนักใช่มั๊ย
เหมาะสมแล้วใช่มั๊ย
พอดี พองามเป๊ะเลยไหม กับ ห้าแสนกว่าล้าน
แล้ว ประเทศเราจะมีความสามารถในการทนทานต่อความ "เจ๊ง" ในระดับนี้อีกนานเท่าไหร่เชียวครับ ก่อนจะสิ้นชาติ
มันไม่ต้องกำไรครับ
ไม่มีใครเขาพูดเรื่องกำไร
สิ่งที่เห็นอยู่คือความเสียหายนับแสนๆล้านของประเทศ
ผมขอโทษ ขออภัยที่ท่านจะไม่พอใจ
ไอ้แบบนี้ แถวบ้านผมเรียก "เจ๊ง" ครับ
ไม่ว่าแถวบ้านท่านจะเรียกอะไรก็ตาม
ขอบคุณครับ
รจวต.
#เกรียนกลางสัปดาห์ก็เป็นด้วย
นโยบายแห่งรัฐ มันไม่ต้องมีกำไร-ขาดทุนหรอก จริงมั๊ย
มันไม่ใช่การทำธุรกิจนี่นา
มันจะต้องไปห่วงไย กังวลอะไรกับ กำไร หรือ ขาดทุน
ผมไม่เคยพูดเรื่อง กำไร vs ขาดทุน
ภาครัฐก็ไม่มีใครใช้คำว่า กำไร - ขาดทุน
ใครเอาคำว่า กำไร-ขาดทุนมาพูด ก็เพื่อให้มันดูสวยงามไปงั้นแหละ
จะได้อ้างไง
ว่า นโยบายช่วยประชาชน แล้ว จะต้องสนใจอะไร กับ กำไร-ขาดทุน
รัฐเขาใช้คำว่า "ก่อให้เกิดความเสียหาย" (สูงสุดในประวัติศาสตร์ของชาติ)
ผมใช้คำว่า "เจ๊ง"
ถูกต้องครับ...มันไม่ต้องมีกำไร
ถูกต้องครับ...มันเป็นการช่วยเหลือชาวนา
แต่จริงๆแล้วมันคืออะไร ?
มันคือ บัตรรับประกัน การันตี ว่า จะชนะการเลือกตั้ง แบบถล่มทลายครับ
นโยบายนี้ ใครออกนโยบายมา พรรคการเมืองไหนออกนโยบายมา แทบจะ แบเบอร์ ครับ
ชนะแหง๋มๆ อิ อิ
ก็มันจะไปเหลือพระ เหลือเจ้าอะไรอะครับ
คนจนท่วมประเทศแบบนี้
พรรคไหนมีตรา "ช่วยคนจน" แปะไว้บนหน้าผาก รับประกัน เข้าป้ายแน่ๆ
ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ นืดเดียวครับ
ว่า หากท่านอยากจะช่วยชาวนา ด้วยการจำนำ ข้าวน่ะ
เขาไม่รับจำนำกันสูงเกินกว่าราคาตลาดสูงขนาดนี้ครับ
มันต้องพิจารณาราคาตลาดโลกด้วย ไม่ใช่เอาแต่มโนตัวเลข เอามาเป็นกับดักคนจนให้ฝันหวาน กาพรรคนี้
มันไม่ต้องใช้คนระดับมันสมองขนาด ดร.โกร่ง ก็นึกออกครับ
ไอ้อ่อนคณิตศาตร์หยี่งผมยังคิดได้เลย
ว่า มันไม่มีโรงจำนำใดๆในโลก ที่รับจำนำสินค้า สูง กว่า ราคาตลาด !
บ้า ชัดชัด !
แต่กับคนไทย...
หากท่านไม่ระบุจำนวนเงินลงไป...เขาอาจจะไม่เข้าใจ ไม่แน่ใจครับ
ว่าจะจำนำได้ราคากีบาท ต่อ ตัน
ก็จำจะต้องระบุ จำนวนเงินลงไปให้ชัดเจน
ว่า ตันละ หมื่นห้า ทุกเมล็ดเลยนะคะพี่น้องขา....เออ...แบบนี้ ลุงบุญช่วย แถวบ้านผม เขาถึงจะเข้าใจ
ว่า หมื่นห้า...งานนี้ไม่ต้องลุ้น
นี่มันรับจำนำมาราคาของดาวอังคารนี่นา
ไม่ใช่ราคาตลาดโลก !
แล้วโรงจำนำสุดเจ๋งนี้ก็บังเอิ๊ญ...ไม่มีที่เก็บของที่รับจำนำมา
ต้องไปเช่าเขา
ต้องไปจ้างระบบบริหารจัดการด้วยต้นทุนสูงลิ่ว
ไม่ต้องทุจริต ก็เจ๊งมาตั้งกะในมุ้งแล้วววว... อีหนูเอ๊ย
อย่างไรก็ตาม
ในทางคณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์
เราวสามารถหาค่าประสิทธิผล ของโครงการได้แบบง่ายๆ
นั่นคือ การเอา input หารด้วย output
หมายความว่า ท่านอยากจะให้ชาวนาได้เงินส่วนต่างไปเท่าไหร่
ก็เอามา หาร จากค่าใช้จ่ายที่ เท ลงไปในโครงการนั้น
เช่น ผลการคำณวนออกมาแล้วว่า ชาวนาได้ประโยชน์จากส่วนต่างของราคาไป 1.77 แสนล้านบาท
แล้วรัฐบาลควรจะต้องใช้เงิน "เกิน" 1.77 แสนล้านบาทไปมาก-น้อย ขนาดไหน
จึงจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ
รัฐบาลที่เก่งกว่านี้ หรือ มีการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้ อาจได้ค่า Ratio ออกมาเป็น 1:1
นั่นคือการใช้เงินไปให้ชาวนาได้รับผลประโยชน์ไปเต็มเม็ด เต็มหน่วย
รัฐเสียเงินไปเท่าไหร่ ชาวนาได้ไปเท่านั้น
รัฐบาลที่ไม่เก่ง บริหารจัดการห่วยแตก และปล่อยให้มีการทุจริต อาจได้ค่า ratio ออกมาสุดห่วย เช่น 1 : 3
นั่นคือ รัฐต้องใช้เงินไปกว่า 5 แสนล้าน เ พื่ อ ให้ชาวนาได้ผลประโยชน์ไปแค่ 1.77 แสนล้าน
มันไม่ใช่เรื่องของการขาดทุน-กำไร !
แต่ผมเรียกของผมง่ายๆ แบบไม่ต้องแปล ว่า "เจ๊ง"
"เจ๊ง" ครับ
ทำงานภาษาหอยหลอดอะไรวะ
และส่วนหนึ่งของการเจ๊งนั้น มาจาก การมีการทุจริตสารพัดรูปแบบ
มีผลให้ เสี่ยเปี๋ยง อันเป็นที่รักของคนแถวนี้ ถึงได้ถูกอายัติทรัพย์ไปกว่า หมื่นล้านแล้วไง (ไชโยๆ)
และอย่าไปเสียเวลาหานะครับ
ว่าสมัยรัฐบาล พรรคแมงสาบมันเคยทำอะไร แล้วประเทศชาติมีกำรี้ กำไร
ไม่ต้องไปหา !
ไม่มี !
พวกมันก็ไม่ได้ดีเด่ หรือวิเศษไปกว่าใครหรอก
แต่มันไม่เคยมีใครในประวัติศาสตร์ของชาติ ที่จะสามารถทำให้ประเทศเสียหายไป มหาศาล ขนาดนี้
ภายในระยะเวลาอัน สั้น จุ๊ดจู่ ขนาดนี้ !
แค่ไม่กี่ฤดูกาลผลิต เราสามารถเจ๊งได้ ทีละ 5 แสนล้าน
มากกว่าทุกรัฐบาล ตั้งกะบิ๊กจิ๋ว ยัน แมงสาบ เคยทำเจ๊งมา รวมกัน ซะอีก !
ท้ายที่สุด
นโยบายแห่งรัฐ มันไม่ต้องมีกำไรหรอกครับ
ไม่มีใครคิดเรื่อง ขาดทุนด้วย
แต่มันเป็นเรื่องที่เรา ต้องมาคิดด้วยใจที่เป็นธรรม ต่อชาติ ด้วยครับ
ว่า การที่เราจะช่วยเพื่อนร่วมชาติน่ะ
มันต้อง "เจ๊ง" ขนาดนี้เลยเหรอ
ดีนักใช่มั๊ย
เหมาะสมแล้วใช่มั๊ย
พอดี พองามเป๊ะเลยไหม กับ ห้าแสนกว่าล้าน
แล้ว ประเทศเราจะมีความสามารถในการทนทานต่อความ "เจ๊ง" ในระดับนี้อีกนานเท่าไหร่เชียวครับ ก่อนจะสิ้นชาติ
มันไม่ต้องกำไรครับ
ไม่มีใครเขาพูดเรื่องกำไร
สิ่งที่เห็นอยู่คือความเสียหายนับแสนๆล้านของประเทศ
ผมขอโทษ ขออภัยที่ท่านจะไม่พอใจ
ไอ้แบบนี้ แถวบ้านผมเรียก "เจ๊ง" ครับ
ไม่ว่าแถวบ้านท่านจะเรียกอะไรก็ตาม
ขอบคุณครับ
รจวต.
#เกรียนกลางสัปดาห์ก็เป็นด้วย