ผีคุ้มเจ้าหลวง

ผีคุ้มเจ้าหลวง

พราหมณ์เมศ วาสุเทพ
www.olandiary.com

เป็นเรื่องจริงในชีวิตที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องเจอ

…ผ ม ต้ อ ง ท น น อ น ร ว ม อ ยู่ กั บ ผี เ ป็ น เ ดื อ น ๆ…
…ด้ ว ย ค ว า ม ห ว า ด ผ ว า… แ ล ะ ข น หั ว ลุ ก ซู่ …!!…ตลอดเวลา

…ราวปลายปี พ.ศ. 2545 จนถึงราวกลางปี พ.ศ. 2547 ผมได้ย้ายที่พำนักพักพิงไปแห่งใหม่ เพราะ
…ผมได้รับตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป รับผิดชอบงานที่ “บ. วังปิยะบุตร” จังหวัดเชียงใหม่

…งานที่ผมต้องทำก็คือ งาน renovate ไม่จะเป็นการปรับปรุงคุ้มเจ้าฯ ให้เป็นศูนย์แสดงสินค้า และร้านอาหาร งานปรับปรุงโรงแรมเชียงอินน์ ในเนื้องานบางส่วนที่บริษัทฯรับผิดชอบ
…ภาพรวมของเนื้องานก็ดูสนุกดี ผมมีเวลาเที่ยวเล่นมากกว่าทำงานซะอีก เรียกว่า ทำไปเที่ยวไป ก็ยังได้
…แต่..ไอ้ที่ไม่ค่อยจะสนุกนักก็คือ…เรื่องผี !!…ที่ผมจะเล่าให้ฟังกันต่อไปนี้ นี่แหละ

…พอบริษัทฯได้รับผมเข้าทำงาน ผมก็เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าออกเดินทางทันที…
…ผมออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ในช่วงสายๆ แวะจอดตรงนั้นตรงนี้ไปตลอดทาง มาถึงสามแยกลำปางก็ล่อเอาซะเย็น
…ผู้บริหารของบริษัทฯ ก็โทรเข้ามาถามผมว่า ..ถึงไหนแล้ว…
…เค้าแนะนำให้ผมขับรถข้ามให้พ้นเขาขุนตาลไป ก่อนฟ้าจะมืด เพราะจะอันตรายมากสำหรับคนที่ไม่คุ้นเส้นทางอย่างผม
…กว่าจะมาถึงเชียงใหม่ ฟ้าก็มืดเสียแล้ว…วันนั้นทางบริษัทเลยแนะนำให้ผมไปพักที่อาพาร์ทเม้นแห่งหนึ่ง แถวถนนช้างคลาน…
…รุ่งขึ้น ทางทีมงานก็นัดให้ไปที่ ” คุ้มหลวงฯกลางเวียง “…ในความรู้สึกของผมขณะนั้น ทุกอย่างดูออกจะเป็นเรื่องใหม่
…เพราะทั้งบ้านเมืองและผู้คน…บอกได้เลยว่า..ผมไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย…สิ่งที่ผมต้องทำในเวลานี้ก็คือ
…การปรับตัวให้เข้ากับทุกทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังจะเดินผ่านเข้ามา…

..เริ่มต้นจากประตูท่าแพ เราก็ใช้ถนนราชดำเนินมุ่งหน้าตรงไปยังวัดพระสิงห์ ทางซ้ายมือก่อนถึงศาลหลักเมืองแยกกลางเวียง
…เราจะพบ ” คุ้มเจ้าฯบุรีรัตน์ ( มหาอินทร์ ) “…จะเป็นคุ้มเจ้าฯทรง colonial
…เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่พบเห็นกันทั่วไปทางแถบภาคเหนือ    ปัจจุบันคุ้มเจ้าฯแห่งนี้ก็ได้ถูกยกให้กับทางการฯ เพื่อปรับเปลี่ยนเป็น พิพิธภัณฑ์สถาปัตฯล้านนา ไปแล้ว…
…พอข้ามแยกกลางเวียงมาได้ไม่กี่สิบเมตร ก็จะถึงคุ้มเจ้าฯอีกคุ้มหนึ่ง ที่ด้านหลังของคุ้มฯนั้น

เครดิตภาพจากคุณวงศ์รมัย นันทโชคทวีชัย
เครดิตภาพจากคุณวงศ์รมัย นันทโชคทวีชัย

… จะติดกับรั้วกำแพงฃองวัดเจดีย์หลวงและคุ้มแห่งนี้ ก็คือที่ๆทีมงานได้นัดหมายกัน
…” คุ้มเจ้าฯกิติบุตร ฯ ” คือชื่อของสถานที่แห่งนี้ ที่นี่จะดูแตกต่างจากคุ้มเจ้าบุรีรัตน์อยู่บ้าง…
…คือ รูปลักษณ์ของคุ้มฯนี้ จะเป็นเรือนมะนิลา ตกแต่งแบบบ้านขนมปังขิง มีเครื่องไม้ฉลุตกแต่งสวยงาม
…เครื่องไม้เครื่องเรือน มองดูรวมๆก็จะเป็นของเดิมๆ จะมีของใหม่มาติดมาซ่อมบ้างก็นิดหน่อย
…จึงดูทรุดโทรม ตามกาลเวลา…เรือนคุ้มฯ เหล่านี้ ถูกสร้างขึ้นมาในยุคที่ฝรั่งเข้ามาทำสัมปทานไม้สัก สมัยรัชกาลที่ 5 คุ้มเจ้าฯทั้งสองนี้ มีอายุมากกว่าคุ้มเจ้าดารารัศมีฯ เสียอีก
…เท่าที่รู้มา เดิมทีคุ้มเจ้าบุรีรัตน์ เป็นหน่วยงานที่ดูแลทางด้านกลาโหม ส่วนคุ้มที่ผมต้องไปดูแลนั้น เดิมทีก็เป็นหน่วยงานที่ดูแลทางด้านการเงินการคลัง จึงเป็นคุ้มเรือนพี่เรือนน้องกัน
…ทีมงานเราก็ยึดเอาชั้นล่างของคุ้มฯเป็นที่นั่งประชุมกัน เนื้อหาของการประชุมก็จะเป็นการแนะนำว่าใครมีหน้าที่ทำอะไร ใครรับผิดชอบเรื่องใด ซะส่วนใหญ่ และหลังจากที่เราได้ประชุมกันเสร็จเรียบร้อย
…ผมก็ได้รับคำสั่งให้นอนพักที่นี่ในระหว่างที่โครงการดำเนินงาน ทำให้ผมต้องย้อนกลับไปที่อาพาร์ทเม้น
…เพื่อขนของมาพักที่คุ้มฯแห่งนี้แทน ก่อนที่ผมจะเดินออกไปจากวงประชุม ผมได้เงยหน้าขึ้น
…มองบรรยากาศรวมๆของคุ้มฯแห่งนี้อยู่พักหนึ่ง แล้วก็เลยต้องตั้งคำถามกับผู้บริหารฯว่า…
…” ตกลงผมต้องนอนที่นี่ตลอดไปเลยเหรอครับ ? “…ผู้บริหารฯเป็นคนใจดีครับ อายุก็ใกล้เคียงกับผม ทราบภายหลังว่าเป็นทายาทในตระกูลเจ้าของคุ้มแห่งนี่แหละครับ… แล้วเมื่อผมตั้งคำถามไปเค้าก็ตอบกลับมาว่า
…” ใช่ พักที่นี่แหระ สะดวกสบายทุกอย่างนะ ชั้นบนมีห้องน้ำห้องนอนจัดไว้เรียบร้อย เครื่องอำนวยความสะดวกครบ แค่ไม่มีมุ้งลวด ไม่มีแอร์ ต้องกางมุ้งนอน แต่ก็มีเครื่องทำน้ำอุ่น ที่นี่กลางคืนอากาศไม่ร้อนนะ เปิดหน้าต่างนอนเย็นสบายยยย
…ไอ้เรื่องนอนสบายไม่สบายผมเองไม่ได้ห่วงนะครับ ผมห่วงว่า…ถ้าต้องนอนคนเดียว มันคงวังเวงน่าดู จึงถามต่อไปอีกว่า
…” ให้ผมนอนคนเดียวรึป่าวครับ ? “…ผู้บริหารฟังผมถามแล้วก็เหมือนจะกลั้นหัวเราะ แล้วก็ยิ้มออกมานิดนึงก่อนที่จะตอบกลับ
…” นอนคนเดียวที่ไหนเล่า มีคุณโจ้นอนเป็นเพื่อนข้างบน ส่วนข้างล่างก็มีลุงจุก กับป้าทอง นอนเฝ้าอยู่ข้างล่าง “…พอผมได้ฟังก็ใจชื่นขึ้นมาหน่อย คุณโจ้ คือคนในตระกูลนี้แหระครับ เป็นหนุ่มโสด ยังไม่มีครอบครัว
…มีหน้าที่ดูแลเรื่องการเบิกจ่ายเงิน จัดซื้อจัดหา เป็นหูเป็นตาแทนพี่ชายแกนั้นแหละครับ
…อย่างไงเสีย คุณโจ้เองแกก็ไม่มีทางทิ้งผมไปไหนหรอกครับ เพราะแกเองก็เรียกผมว่าอาจารย์
…แกอยากจะมาอยู่ใกล้ๆกับผมแน่นอนครับ เพราะแกได้ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ไว้แล้ว
…เพราะต้องการให้ผมถ่ายทอดวิชาโหราศาสตร์ให้ ก็อยู่กันแบบพี่แบบน้อง อยู่กันอย่างครูกับลูกศิษย์
.. ..อย่างงี้ก็อยู่กันได้สบายๆเลย…
…ก่อนจะแยกย้ายกันไป ผู้บริหารฯ ก็ได้สั่งงานไว้กับป้าทอง
…ให้แกขึ้นไปดูแลทำความสะอาดห้องนอนและห้องโถ่งชั้นบน เพื่อผมและคุณโจ้ มาพัก
…ซึ่งผมและคุณโจ้จะมาเป็นหัวหน้า คอยสั่งงานอยู่ที่นี่ ป้าทองแกเป็นคนบ้านนอกซื่อๆ แกก็นั่งยองๆ ยกมือพนม รับฟังคำสั่งจากผู้บริหารฯโครงการ จะว่าไปทั้งป้าทองและลุงจุก สองคนผัวเมียนี้แกดูเป็นคนไม่ค่อยฉลาดนัก แต่ก็ดี คนอย่างนี้ก็เหมาะกับตำแหน่งภารโรงที่คอยดูแลคุ้มเเจ้าฯ
…ผมเองก็ทราบมาว่า ก่อนหน้านี้ไม่นาน ก็มีฝรั่งมาขอเช่าคุ้มนี้ ทำเป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยน
…แต่ก็อยู่ได้ไม่ทันจะครบสัญญาเช่าก็ย้ายตูดเผ่นออกไป โดยมีข่าวลือพูดต่อๆกันมาว่า ฝรั่งมันโดนผีหลอก

อ่านต่อตามลิงค์

http://wp.me/p907aN-bo
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่