เรื่องมีอยู่ว่าตอนนี้ผมคิดที่กำลังจะลาออกจากงานครับ โดยที่ยังไม่มีอะไรมารองรับ แต่ผมก็รู้สึกไม่อยากทนกับบางเรื่องแล้ว สาเหตุของการลาออก คือว่ามีหลายอย่างที่สะสมมาหลายปีครับ แต่ประเด็นที่ผมตัดสินใจจะลาออกในครั้งนี้ คือ เรื่องมีอยู่ว่า ออฟฟิศของผมนั้นมีพนักงานที่เขากำลังเรียนต่ออยู่ ต้องบอกก่อนว่าออฟฟิตผมทำงาน 6 วันครับ แต่เนื่องด้วยพนักงานคนนั้นการบ้านเยอะเพราะใกล้จบเลยมาขอลาออก เจ้านายจึงเสนอทางเลือกให้หยุดเสาร์ อาทิตย์ ซึ่งเขาก็ตอบตกลงรับเงื่อนไขนั้น โดยที่เจ้านายไม่แจ้งให้พนักงานคนอื่นทราบ จนมีคนไปทวงถามถึงเรื่องนี้ เจ้านายเลยได้พูดว่าอยากให้พนักงานทุกคนเห็นใจ ยอมๆกันไป โดยจะขึ้นเงินเดือนให้พนักงานคนอื่นแทน แต่เจ้านายกลับพูดว่า ที่ขึ้นครั้งนี้ไม่ใช่เพราะเรื่องพนักงานคนนั้น แต่ขึ้นอยู่แล้วกลางปี สรุปคือไม่ได้แก้ปัญหาให้คนอื่นในเรื่องนี้เลย แต่พอมาถึงวันหยุดในสัปดาห์นี้ที่มีวันศุกร์ เป็นวันหยุด พวกเราเลยตกลงกันในหมู่พนักงานว่าจะขอสลับวันหยุดโดยมาทำงานวันศุกร์และหยุดวันเสาร์อาทิตย์แทน และได้ไปบอกกับพนักงานคนนั้น แต่พนักงายคนนั้นกลับบอกว่าถ้าเจ้านายไม่เรียกเข้าไปคุยอะไร ตัวเองก็จะหยุดวันศุกร์คนเดียว ซึ่งเท่ากับว่าได้หยุด 3 วัน ทั้งๆที่เป็นการสลับวันหยุด แต่จุดพีคคือเจ้านายกับพนักงานคนนั้นว่าวันศุกร์ถ้ามาได้ก็มานะ เหมือนเกรงใจ และเป็นการเปิดทางให้พนักงานคนนั้นหยุด ผมเลยรู้สึกว่ากำลังโดนเอาเปรียบ ผมเลยรู้สึกไม่โอเค บวกกับที่ไม่โอเคอยู่แล้วกับหลายๆ เรื่อง เลยทำให้ผมจะตัดสินใจลาออก ทุกคนคิดว่าผมคิดเล็กคิดน้อยไป หรือไร้สาระไปหรือเปล่าครับ
ขอบคุณครับ^^
การลาออกกับเหตุผลแค่นี้ ไร้สาระไหมครับ
ขอบคุณครับ^^