ประวัติของสำนักปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล-เกาะมหามงคล---มหาอุบาสิกาบงกช สิทธิผล รุกป่า กาญจนบุรี จ่าย 57 ล้าน

บังคับคดีแม่ชีบงกชจ่าย 57 ล้าน รุกป่ากาญจนบุรี

กรมป่าไม้ทำหนังสือแจ้งอัยการจังหวัดกาญจนบุรีกับ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 ดำเนินการบังคับคดี "แม่ชีบงกช"
สำนักปฏิบัติธรรมแดนมหามงคลหลังศาลฎีกาพิพากษาคดีแพ่ง แม่ชีคนดังกับพวกบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย จ.กาญจนบุรี
ให้ชดใช้ค่าเสียหายกว่า 57 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2534


กรมป่าไม้เตรียมบังคับคดีกับแม่ชีคนดังที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ โดยเมื่อวันที่ 23 ก.ค. นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า
ตามที่กรมป่าไม้ดำเนินคดีแพ่งเรียกค่าเสียหาย นางบงกช สิทธิผล หรือแม่ชีบงกช แห่งแดนเกาะมหามงคล และ น.ส.พิมพรรณ รัตนพฤกษานนท์
และขับไล่ให้ออกไปจากป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
ข้อหาบุกรุกทำลายและยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต โดยปลูกสร้างปราสาทบนยอดเขาฯ
คิดค่าเสียหายเป็นเงิน 78 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2534 ซึ่งคดีนี้ศาลจังหวัดกาญจนบุรี มีคำพิพากษาว่า


"ให้จำเลยทั้งสองพร้อมบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและออกไปจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อยที่จำเลยทั้งสองหรือตัวแทนยึดถือครอบครอง ห้ามจำเลยทั้งสองพร้อมบริวารเข้าเกี่ยวข้องในพื้นที่ดังกล่าว และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 57,709,819.84 บาท
พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้นดังกล่าว นับแต่วันที่ 1 ม.ค.2534 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์"


ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2560 ศาลฎีกา (ความแพ่ง) ได้มีคำพิพากษายืน คือ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 57,709,819.84 บาท
พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้นดังกล่าวนับแต่วันที่ 1 ม.ค.2534 เป็นต้นไป


อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวอีกว่า ขณะนี้กรมป่าไม้มีหนังสือแจ้งให้อัยการจังหวัดกาญจนบุรี
ดำเนินการออกหมายบังคับคดีให้กรมป่าไม้ดำเนินการบังคับคดีกับฝ่ายจำเลยและแจ้งให้ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี)
หรือผู้แทน เป็นผู้แทนคดีเพื่อการประสานงานและหรือดำเนินการในชั้นบังคับคดีต่อไป


นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรฯ กล่าวว่า
กรมป่าไม้ จะนำคำพิพากษาของศาลไปติดที่สำนักปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล (เกาะมหามงคล) ของแม่ชีบงกช
ส่วนการบังคับคดี เรียกค่าเสียหายทางแพ่งกว่า 57 ล้านบาท กรมป่าไม้จะร่วมกับกรมบังคับคดีดำเนินการ
เพราะขณะนี้กระบวนการทางศาลเสร็จสิ้นหมดแล้ว ทั้งนี้ ทราบว่าแม่ชีบงกชเดินทางไปอยู่ต่างประเทศแล้ว
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาสำนักปฏิบัติธรรมฯ พยายามที่จะขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่สำนักสงฆ์ แต่กรมป่าไม้ไม่อนุญาต
เนื่องจากเป็นความผิดร้ายแรงข้อหาบุกรุก ก่อสร้าง แผ้วถาง และยึดถือครอบครองป่าสงวนแห่งชาติ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนางบงกช สิทธิผล หรือแม่ชีบงกช และ น.ส.พิมพรรณ รัตนพฤกษานนท์
บุกรุกป่าสงวนฯ ป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยมิได้รับอนุญาต จำนวน 520 ไร่
โดยจำเลยทั้งสองร่วมกันก่อสร้างพระมหาเจดีย์ 1 หลัง และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ อีก 35 หลังในพื้นที่ที่บุกรุก
พร้อมกับสร้างถนนและบันไดเชื่อมต่อสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เริ่มมาตั้งแต่ปี 2536 ต่อมา


มีชาวบ้านร้องเรียนกล่าวหานางบงกช สิทธิผล กับพวก ร่วมกันนำที่ดินของวัดช่องแคบ ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
ไปขอออกโฉนดที่ดินเป็นของตนเองโดยมิชอบ จนนำไปสู่การตรวจสอบโดยกรมป่าไม้และหน่วยงานต่างๆ
และมีการดำเนินคดีก่อนที่ศาลอาญา จะมีคำพิพากษาเมื่อปี 2548 ว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดร่วมกันบุกรุกป่าสงวนฯ มากกว่า 500 ไร่
ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 3 ปี 9 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 3 ปี 4 เดือน และให้จำเลยทั้งสองออกไปจากพื้นที่ป่าสงวนฯ
ที่ยึดครอบครอง และล่าสุดศาลฎีกา (ความแพ่ง) จะมีคำพิพากษาเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกว่า 57 ล้านบาท



อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1013979







ศาลตัดสินจำคุก "แม่ชีบงกช" แห่งดินแดนมหามงคล ข้อหารุกป่าสงวน

        นางบงกช สิทธิผล หรือแม่ชีบงกช แห่งดินแดนมหามงคล ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
พร้อมนางสาวพิมพรรณ รัตนพฤกษานนท์ เข้าฟังคำพิพากษาของศาลอาญา จ.กาญจนบุรี
หลังตกเป็นจำเลยบุกรุกป่าสงวนเนื้อที่กว่า 250 ไร่ เพื่อก่อสร้างมหาเจดีย์และสถานที่ปฏิบัติธรรมเมื่อปี 2541
ศาลเห็นสมควรให้จำเลยทั้งคู่มีความผิด ประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพและเป็นพยานในชั้นสอบสวน
จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือ 3 ปี 9 เดือน ส่วนบริวารรวมถึงคนงานที่เข้าไปรับเหมาก่อสร้างต้องย้ายออกจากป่าสงวนแห่งชาติ
           

          ขณะที่นายสมศักดิ์ โตรักษา ทนายความของนางบงกช ได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวทั้ง 2 ออกไป
ส่วนจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของลูกความ



ข่าว  25 สิงหาคม 2548   http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9480000115440





ประวัติมหาอุบาสิกาบงกช สิทธิพล
ประธานและผู้ก่อตั้งสำนักปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล(เกาะมหามงคล)
ท่านสละทางโลกตั้งแต่อายุ 29 ปี ปัจจุบันอายุ 60 ปี (เมื่อปี พ.ศ. 2557)
ท่านหน้าตาเหมือนคนอายุ 50 ต้นๆ เท่านั้น


              อุบาสิกาบงกช สิทธิพลหรือที่ลูกศิษย์เรียกท่านว่า "คุณแม่ในแดนธรรม"นั้น
เดิมท่านเป็นคฤหัสถ์ ท่านเล่าประวัติของท่านเพียงคร่าวๆดังนี้ ในอดีต ท่านเป็นเจ้าของร้านเสริมสวย
เป็นอดีตภรรยาปลัดอำเภอ มีบุตรชายทั้งหมด 3 คน ท่านประสบความสำเร็จในการครองเรือนคือ
ได้ทำหน้าที่เป็นภรรยาที่ดี มีความสามารถเป็นเจ้าของโรงเรียนเสริมสวย เป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว

              ขณะที่ใช้ชีวิตทางโลก ได้ศึกษาธรรมะและได้พิจารณาถึงความตายอยู่เนืองๆ เพราะมีคนตายถูกหามผ่านหน้าหน้าโรงเรียน
เพื่อเอาศพไปไว้ที่วัดเป็นประจำ จึงเกิดคามสลดสังเวชในความไม่แน่นอนของชีวิต หลังจากนั้นได้
เริ่มปฏิบัติธรรมในเรือนและเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ โดยทำที่หน้าที่ทางโลกไปพร้อมกันโดยไม่ขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด

               จนท่านเริ่มเข้าใจธรรมะมากขึ้นเพราะการปฏิบัติจริงและเข้มงวด เมื่อว่างการงานก็จะหามุมสงบนั่งสมาธิ
ออกป่าบ้าง และได้แนะนำธรรมะแก่บุคคลใกล้ตัว จนที่บ้านเต็มไปด้วยกลุ่มคนที่มาปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ ..............................



ต่อมาพระสงฆ์รูปหนึ่งได้บริจาคที่ดิน ในจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม เดิมเป็นป่ารกร้างเสื่อมโทรม
มีแต่กอไผ่ตาย ท่านก็ได้พัฒนาเพื่อให้เป็นที่พักอาศัย...................................................................................................

.

ผลงานและเกียรติคุณดีเด่น
             1. ท่านได้สอนวิปัสสนากรรมฐานโดยไม่ให้จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา มีลูกศิษย์ทั้งคนไทยและต่างชาติจำนวนมาก
โดยใช้สถานที่ปฏิบัติธรรมแดนมหามงคลเป็นศูนย์กลาง ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอุบาสิกาบงกช ได้สร้างผลงานจนเป็นที่รู้จักกันในนานาประเทศ
โดยเคยรับเชิญไปแสดงปาฐกถาพิเศษเรื่องเกี่ยวกับสันติภาพโลก ที่ยูเนสโก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2548
               2. ได้รับปริญญาศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
ในปี 2549 เพราะเป็นผู้มีความรู้ความสามารถกอปรด้วยคุณงามความดี ได้บำเพ็ญคุณูปการแก่การศึกษา พระพุทธศาสนา สังคม และประเทศชาติ
เป็นอเนกประการ ควรแก่การยกย่องประกาศเกียรติคุณ ดังนี้ด้านพุทธศาสนา ได้ตั้งสถาบันเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ชื่อสถาบันพัฒนาจิตบวชใจนานาชาติเพื่อสันติภาพ ณ แดนมหามงคล บ้านช่องแคบ ตำบลวังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

               3. ได้ก่อสร้างแดนมหามงคลชัยสันติภาพโลก ณ เมืองสาวัตถีรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย
ตั้งโครงการสมทบทุนสร้าง บูรณปฏิสังขรณ์ วัด สำนักปฏิบัติธรรม มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย รวมทั้ง มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก และพระพุทธศาสนานานาชาติ

บำเพ็ญสาธารณประโยชน์
สนับสนุนอุปถัมภ์สถานีอนามัย โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดกาญจนบุรี และอีกหลายแห่งในจังหวัดสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี
สมทบทุนกับโรงพยาบาลต่างๆ เช่น ร.พ.ศิริราช ร.พ.จุฬาลงกรณ์ ร.พ.ศรีธัญญา รพ. อำเภอไทรโยค
และ รพ.พหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี เป็นต้น............................................................................................

อ้างอิงที่มา   http://www.bloggang.com/m/viewdiary.php?id=jullaa&month=01-2014&date=28&group=17&gblog=1





คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ






คำถามครับ
1. ทำไม สำนักปฏิบัติธรรม ชอบสร้างขึ้นในสถานที่ที่เป็น ป่าวนอุทยาน เป็นการบุกรุกทำลายสิ่งแวดล้อม ?
2. ผู้สร้าง เอาเงินทุนมาจากไหน มากมายมาสร้างสำนักฯ ?  ใครพอมีประวัติมกาอุบาสิกาไหมครับ ?
3. ในระหว่างการก่อสร้าง ก่อนเป็นคดีอาญาปี 2541  จนท.ไม่รู้หรือครับว่า มีการก่อสร้างขึ้นจนสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
4. มีคำสั่งให้รื้อถอน อันนี้เสียดายเงินแรงงานและเวลา  มีทางใดไม่ต้องรื้อถอนไหมครับ ? หรือติดขัดข้อกฎหมาย
5. ไชยบูลย์ สุทธิผล กับ อุบาสิกาบงกช สิทธิผล    มีความเกี่ยวข้องกันไหมครับ ?  นามสกุล คล้ายกัน (ลองถามดู เผื่อว่ามีการแก้นามสกุล)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่