สวัสดีเพื่อนทุกคนที่เปิดเข้ามาอ่านรีวิว การเดินทาง : Changsha - Feng Huang - Tiamen Shan - Wuling Yuan (EP.1) ดีใจนะที่ทุกคนเห็นแล้วเปิดเข้ามาอ่าน รีวิวนี้เป็นรีวิวที่ 2 เขียนต่อจากการเขียนรีวิวเรื่องโรงแรมของทริปนี้แล้ว ใครสนใจสามารถเข้าไปอ่านได้นะ
การเดินทาง : Changsha - Feng Huang - Tiamen Shan - Wuling Yuan
https://ppantip.com/topic/36694253 (ลิงค์นี้เลย)
เรามาดูกันว่าข้อมูลต่างๆ เราหามาจากรีวิวใครบ้าง ที่ยกเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เราอ่านยังมีของหลายๆ ท่านที่เราไม่ได้นำมาใส่ไว้เพราะหาไม่เจอ
https://ppantip.com/topic/31709657
https://ppantip.com/topic/31916639
http://www.palapilii-thailand.com/archives/146
จากข้อมูลที่หามาคนไทยเดินทางมาที่นี้เยอะพอควร ทั้งเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง หรือท่องเที่ยวกับทางทัวร์ และมีเส้นทางที่เดินทางกันบ่อยๆ ด้วยกัน 2 เส้นทาง โดยทั้ง 2 เส้นทางจริงก็วิ่งเป็นวงกลม ขึ้นอยู่ว่าใครจะไปทางซ้าย และใครจะไปทางขวา
แบบที่ 1 Changsha - Feng Huang - Tiamen Shan - Wuling Yuan - Changsha
แบบที่ 2 Changsha - Wuling Yuan - Tiamen Shan - Feng Huang - Changsha
คิดว่าทุกคนคงเดาถูกว่าเราเลือกจัดทริปแบบไหน (ชื่อรีวิวออกจะชัดเจน) แต่เหตุผลจริงที่เราเลือกแบบที่ 1 เพราะไม่มั่นใจข้อมูลการเดินทางกลับว่าจะเดินทางกลับแบบไหน เวลาพอไหม จึงทำให้เราตัดสินใจเบือกทริปแบบที่ 1
เราสองคนพร้อมเดินทางกันแล้วจร้า.....
ขอบอกทุกคนก่อนนะค่ะ ว่าจริงแล้วแรกเริ่มไม่คิดว่าจะเขียนรีวิว เลยไม่ได้ถ่ายรูปทุกอย่างเก็บไว้ แต่จะพยามลงในรูปที่ตัวเองมี หรือถ้าไม่มีจะลองหาข้อมูลของรีวิวคนอื่นมาลงให้เพิ่มเติมนะค่ะ (แอบเครียดรูปไม่พร้อม)
เราใช้เวลาการเดินทางประมาณเกือบ 3 ชม. ในการเดินทางเราถึงฉางซาเวลา 12.00 น. กว่าเราจะผ่านตม.จีน และรับกระเป๋าเดินทางก็เสียเวลาไปประมาณ 30 นาที
ซึ่งจากทริปของเราวันนี้เราจะไม่เที่ยวที่เมืองฉางซา แต่เราจะเดินทางต่อไปที่เมืองเมืองโบราณเฟิ่งหวง (Fenghuang / 鳳凰) แต่ก่อนที่เราจะไปได้เราต้องเดินทางเข้าเมืองฉางซาเพื่อไปต่อซื้อตั๋วรถบัส เพื่อเดินทางต่อไป
วิธีเดินทางเข้าเมืองฉางซา เพื่อไปซื้อตั๋วรถบัสที่ท่ารถบัสฝั่งตะวันตก (West Bus Station) มีด้วยกัน 2 วิธี
1. นั้ง Taxi ค่ารถประมาณ 150 - 200 หยวน นั้งได้ไม่เกิน 4 คน
2. นั่ง Airport Bus จากสนามบินเพื่อเข้าไปยังท่ารถบัสฝั่งตะวันตก (West Bus Station) 汽车西站 ของเมืองฉางซา
ราคาจะอยู่ที่คนละ 29.5 CNY
ง่ายต่อการตัดสินใจ เราสองคนพี่น้องเลยเลือกการเดินทางโดย Airport Bus โดยเมือเราเดินออกจากตรม. ให้เดินมาทาง Hall 2 จะมีจุดขายตั๋วรถ Airport Bus อยู่ตรงนี้ยังไม่น่ากลัวจร้า เพราะมีป้ายบอกเส้นทางเดินรถที่ชัดเจนทั้งภาษาจีน ภาษาอังกฤษ (ุจุดนี้รอดตายทุกคน) รถจะออกทุก 30 นาที ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชม. และขึ้นรถได้ที่ platform 1 (ในรูปจะเขียนชัดเจน)
รูปนี้เก็บไว้ตั้งแต่ตอนเขียนทริปไม่แน่ใจว่าเอามาจากรีวิวท่านไหนนะค่ะ ต้องขอโทษด้วยหากไม่ได้เครดิตให้
บอกเลยว่าตอนที่เราออกมาจากนอกอาคารสนามบิน เราสองคนพี่น้องยิ้มเลยนี้ละอากาศที่เมืองไทยต้องการ "ลมหนาว พร้อมสายฝน" ลืมบอกไปเราดูจากอากาศจาก accuweather บอกเราว่าอาจจะเจอหิมะในบ้างเมือง (ใจเต้นเลย) ยังไม่เคยเจอหิมะตกในจีนสักที่ มากี่ครั้งมันก็ตกไปแล้ว
เราขึ้นรถบัสเจอน้องคนไทยมาเที่ยวในช่วงเวลาเดียวกัน เลยได้ลองพูดคุยจึงรู้ว่าน้องใช้แผนการท่องเที่ยวแผน 2 คือน้องจะไปคนละทิศกับเรา พอมาถึงท่ารถบัสฝั่งตะวันตก (West Bus Station) 汽车西站 ที่นี้เหมือนจุดรวมรถบัสไปที่ต่างๆ ดูวุ่นวายมาก เราต้องไปซื้อตั๋วรถบัสที่จุดขายตั๋วข้างใน แต่มันเยอะมากจริง เราไม่รู้ว่าจะต้องไปซื้อตรงจุดไหน มองซิค่ะ ว่าสามารถสื่อสารกับใครได้บ้าง พอดีเราเจอพี่ตำรวจสุดหล่อคิดว่าจะสื่อสารกับเราได้ เลยยืนเอกสารสารที่เราทำมาให้ดูค่ะ
แค่นี้ละ พี่ตำรวจก็พาไปช่องขายตั๋วทันที (เที่ยวจีนง่ายๆ แค่ทำการบ้านไป) เราได้ตั๋วรถตามรอบที่เราต้องการคืนเวลา 14.20 น.
ตารางเวลาการเดินรถ
รถบัสบอกเลยว่าไม่สกปรก มีถังขยะระหว่างที่นั้งตลอด เราเดินทางกันประมาณ 6 ชม. ตลอดทางอากาศหนาว และยิ่งหนาวมาก เพราะฝนตกลงมาหนักตลอดทาง (ไหนว่าหิมะจะตกงัย)
เฟิ่งหวง 凤凰古城
นั้งกันมาแบบมึนๆ ว่าตกลงเรามาถูกไหมนิ แต่สุดท้ายเราก็มาลงในสถานีรถบัสในเมือง เวลา 20.00 น. ซึ่งรถที่เรานั้งมาไม่ส่งในสถานีเราต้องหารถเข้าไปในเมืองเฟิ่งหวง จุดนี้เริ่มกังวลละ เพราะอากาศเริ่มเย็นลงมาก ฝนก็ตกไม่หยุด และมืดมากจริงๆ จากที่เราทำการบ้านมาว่าวิธีการเดินทางมีด้วยกัน 2 แบบเริ่มหายไปจากสมองของเรา
การเดินทางเข้าเมืองเฟิ่งหวง มีด้วยกัน 2 แบบ
1. นั้ง Taxi ประมาณ 20 หยวน
2. นั้งรถบัส เข้าเมือง
พอเราลงจากรถก็หลงทางซิรออะไร แต่โชคดีเราเจอคนจีนข้างๆ เราก็ยิ้มให้ แล้วยืนข้อมูลโรงแรมให้ดู เผื่อจะช่วยอะไรเราได้ แต่ที่ไหนได้มีคนไทย หน้าจีน (พูดภาษาจีนเก่งมาก เพราะมาเรียนต่อที่ประเทศจีน) เลยพาเราไปส่งหน้าประตูเมือง และติดต่อเจ้าหน้าที่โรงแรมให้เดินมารับเรา เจ้าของโรงแรมก็น่ารักมากที่ตากฝนมารับเรา 2 คนพี่น้อง และยังชงชาให้เรากิน แต่ด้วยความที่ฝนตกจึงทำให้เราไม่สามารถถ่ายรูปอะไรได้มากนักต้องขอโทษเพื่อนทุกคนด้วย (รูปมีน้อยมาก)
เจ้าของโรงแรมที่ไปรับชงชากาแฟให้เราดื่มกัน
(โรงแรมที่พักดูได้จากลิงค์ข้างบนนะค่ะ)
เรา 2 พี่น้องพอได้เอาของเก็บ และนั้งพักจะรออะไรละค่ะ ออกไปหาอะไรกินกัน และก็ซื้อตั๋วเดินไป จางเจียเจี้ย ซึ่งจากที่หาข้ออมูลมาใช้เวลาการเดินทางไม่นาน เราเลยจะเดินทางรอบ 9.00 น. หรือ 10.00 น.
รูปบริเวณรอบริมน้ำด้านหลัโรงแรม ถ่ายได้แค่นี้จริง พอจะไปถ่ายตรงอื่นฝนก็ตกหนักตลอด (วันของสายฝน และลมหนาว)
รูปด้านบนคือถ่ายเท่าที่เราสามารถถ่ายได้ อาจจะไม่สวยสวยงามเหมือนที่เราดูตามรีวิวของคนอื่น แต่ขอบอกว่าไม่สวยไม่เป็นไร แต่ความประทับใจเต็ม 100%
และนี้คือรูปอาหารมื้อแรกของเราที่ประเทศจีน หลังจากที่เรากินข้าวโพดต้มบนรถทัวร์
ขอแนะนำเลยค่ะ หนังสือเล่มนี้ทำให้เรารอดชีวิตทุกครั้งที่มาประเทศจีน อาหารมื้อนี้เราสั้งอาหารมาแค่ 2 อย่าง ผัดผักกาดแก้ว และหมูรมควันผัดใส่หน่อไม้แห้ง และข้าวสวย อย่าถามว่าสั้งอย่างไงนะ 5555 มื้อนี้เราหมดกันประมาณ 85 หยวน (ประมาณ 425 บาท)
พอเราทานอาหารเรียบร้อยแล้วก็ติดต่อซื้อตั๋วรถจางเจียเจี้ย ซึ่งมีขายที่ร้านขายตั๋วรถในเมือง มีให้เลือกหลายร้านมาก ซึ่งเราได้ตั๋วรอบ 10.00 น. ราคา 80 หยวน (คนขายตั๋วย้ำให้เราไปก่อนเวลาประมาณ 45-30 นาที เพื่อนำใบจองไปแลกตั๋วจริงไม่นั้นทางสถานีจะปล่อยตั๋วของเราให้คนอื่นไป) พอได้ตั๋วรถเรียบร้อยก็กลับไปนอนพัก เพื่อวันพรุ่งนี้ต้องตื่นมาเก็บที่เที่ยวในเมืองโบราณ และเดินทางกันต่อ
เริ่มวันใหม่
ตื่นเช้ามาเรา 2 คน ก็พบว่าฝนยังไม่เลิกตก นี้เรามาหน้าหนาวหรือหน้าฝนว๊ะเนี้ย แต่อะไรก็ห้ามการท่องเที่ยวเราไม่ได้อย่าให้ฝนเป็นมาทำให้เราไม่ได้เที่ยว เราเลยอาบน้ำ และเก็บกระเป๋าไว้ก่อน เพื่อที่เวลาเราเดินเล่นเสร็จแล้วจะได้รีบไปสถานีรถบัสได้เลย
จริงแล้วการเที่ยวในเมืองนี้ต้องมีการเสียค่าเข้าเมือง แต่เราไม่ได้จ่ายเพราะฝนตก ทำให้เรารู้สึกว่าไม่คุ้มแน่ๆ ที่จะจ่ายเงิน เพราะอากาศแบบนี้ไม่เหมาะท่จะท่องเที่ยวแบบทำเวลา าคิดแล้วก็เสียดายมีหลายจุดที่เราไม่ได้เดินทางไปถ่ายรูป
ต้องบอกว่าที่เมืองนี้เราไม่สามารถบอกอะไรได้เลยว่าจุดไหนเป็นอะไร เพราะเราไม่สามารถเที่ยวแบบหยิบเอกสารออกมาดูได้เลย คือเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ เพราะฝนตกลงมาหนักบ้าง เบาบ้าง แต่อากาศมันช่างหนาวกว่าเมือคืนมาก......หนาวแบบสุดๆ (ขอลงรูปให้ดูต่อไปละกัน)
ถ้าสังเกตดูจากรูปข้างบนจะเห็นรูปปั้น(ทุกคนนิยมไปถ่ายรูป) น้ำเริ่มท่วม กระแสน้ำมีบ้างช่วงนี้ที่แรงมาก และจุดที่คนนิยมลงไปเดินถ่ายรูปกลางแม่น้ำก็ไม่สามารถเดินลงไปได้ (คิดในแง่ดีมีใครมาเมืองนี้ในตอนน้ำท่วมบ้างอ่ะ
)
พอเดินจนเหนื่อยก็ต้องหาอาหารเช้ากินก่อน เพื่อที่จะเก็บแรงไว้นั้งรถกันยาวๆ กันไป เดินผ่านหน้าซาลาเปาเลยแวะกิน จำได้ว่า ราคาไม่แพง ให้เยอะ แต่ไม่อร่อย แต่สะอาด.........
เรา 2 ไม่เคยสั้งอาหารจานเดียวมากิน ส่วนใหญ่จะสั้งแล้วมาแบ่งกัน อย่างแรกเพราะอยากกินหลายอย่าง และอาหารที่นี้จานใหญ่มาก ถ้าเพื่อนไม่ทิ้งเราคงได้สั้งอาหารแปลกกินเยอะๆ อาหารจีนไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด (ลองเปิดใจดูกันนะ)
มาอ่านกันต่อในลิงค์ ข้างล่างนี้เลยค่ะ
เมือง zhangjiajie : Changsha - Feng Huang - Tiamen Shan - Wuling Yuan (EP.2)
https://ppantip.com/topic/36865152
[CR] การเดินทาง : Changsha - Feng Huang - Tiamen Shan - Wuling Yuan (EP.1)
การเดินทาง : Changsha - Feng Huang - Tiamen Shan - Wuling Yuan
https://ppantip.com/topic/36694253 (ลิงค์นี้เลย)
เรามาดูกันว่าข้อมูลต่างๆ เราหามาจากรีวิวใครบ้าง ที่ยกเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เราอ่านยังมีของหลายๆ ท่านที่เราไม่ได้นำมาใส่ไว้เพราะหาไม่เจอ
https://ppantip.com/topic/31709657
https://ppantip.com/topic/31916639
http://www.palapilii-thailand.com/archives/146
จากข้อมูลที่หามาคนไทยเดินทางมาที่นี้เยอะพอควร ทั้งเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง หรือท่องเที่ยวกับทางทัวร์ และมีเส้นทางที่เดินทางกันบ่อยๆ ด้วยกัน 2 เส้นทาง โดยทั้ง 2 เส้นทางจริงก็วิ่งเป็นวงกลม ขึ้นอยู่ว่าใครจะไปทางซ้าย และใครจะไปทางขวา
แบบที่ 1 Changsha - Feng Huang - Tiamen Shan - Wuling Yuan - Changsha
แบบที่ 2 Changsha - Wuling Yuan - Tiamen Shan - Feng Huang - Changsha
คิดว่าทุกคนคงเดาถูกว่าเราเลือกจัดทริปแบบไหน (ชื่อรีวิวออกจะชัดเจน) แต่เหตุผลจริงที่เราเลือกแบบที่ 1 เพราะไม่มั่นใจข้อมูลการเดินทางกลับว่าจะเดินทางกลับแบบไหน เวลาพอไหม จึงทำให้เราตัดสินใจเบือกทริปแบบที่ 1
เราสองคนพร้อมเดินทางกันแล้วจร้า.....
ขอบอกทุกคนก่อนนะค่ะ ว่าจริงแล้วแรกเริ่มไม่คิดว่าจะเขียนรีวิว เลยไม่ได้ถ่ายรูปทุกอย่างเก็บไว้ แต่จะพยามลงในรูปที่ตัวเองมี หรือถ้าไม่มีจะลองหาข้อมูลของรีวิวคนอื่นมาลงให้เพิ่มเติมนะค่ะ (แอบเครียดรูปไม่พร้อม)
เราใช้เวลาการเดินทางประมาณเกือบ 3 ชม. ในการเดินทางเราถึงฉางซาเวลา 12.00 น. กว่าเราจะผ่านตม.จีน และรับกระเป๋าเดินทางก็เสียเวลาไปประมาณ 30 นาที
ซึ่งจากทริปของเราวันนี้เราจะไม่เที่ยวที่เมืองฉางซา แต่เราจะเดินทางต่อไปที่เมืองเมืองโบราณเฟิ่งหวง (Fenghuang / 鳳凰) แต่ก่อนที่เราจะไปได้เราต้องเดินทางเข้าเมืองฉางซาเพื่อไปต่อซื้อตั๋วรถบัส เพื่อเดินทางต่อไป
วิธีเดินทางเข้าเมืองฉางซา เพื่อไปซื้อตั๋วรถบัสที่ท่ารถบัสฝั่งตะวันตก (West Bus Station) มีด้วยกัน 2 วิธี
1. นั้ง Taxi ค่ารถประมาณ 150 - 200 หยวน นั้งได้ไม่เกิน 4 คน
2. นั่ง Airport Bus จากสนามบินเพื่อเข้าไปยังท่ารถบัสฝั่งตะวันตก (West Bus Station) 汽车西站 ของเมืองฉางซา
ราคาจะอยู่ที่คนละ 29.5 CNY
ง่ายต่อการตัดสินใจ เราสองคนพี่น้องเลยเลือกการเดินทางโดย Airport Bus โดยเมือเราเดินออกจากตรม. ให้เดินมาทาง Hall 2 จะมีจุดขายตั๋วรถ Airport Bus อยู่ตรงนี้ยังไม่น่ากลัวจร้า เพราะมีป้ายบอกเส้นทางเดินรถที่ชัดเจนทั้งภาษาจีน ภาษาอังกฤษ (ุจุดนี้รอดตายทุกคน) รถจะออกทุก 30 นาที ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชม. และขึ้นรถได้ที่ platform 1 (ในรูปจะเขียนชัดเจน)
รูปนี้เก็บไว้ตั้งแต่ตอนเขียนทริปไม่แน่ใจว่าเอามาจากรีวิวท่านไหนนะค่ะ ต้องขอโทษด้วยหากไม่ได้เครดิตให้
บอกเลยว่าตอนที่เราออกมาจากนอกอาคารสนามบิน เราสองคนพี่น้องยิ้มเลยนี้ละอากาศที่เมืองไทยต้องการ "ลมหนาว พร้อมสายฝน" ลืมบอกไปเราดูจากอากาศจาก accuweather บอกเราว่าอาจจะเจอหิมะในบ้างเมือง (ใจเต้นเลย) ยังไม่เคยเจอหิมะตกในจีนสักที่ มากี่ครั้งมันก็ตกไปแล้ว
เราขึ้นรถบัสเจอน้องคนไทยมาเที่ยวในช่วงเวลาเดียวกัน เลยได้ลองพูดคุยจึงรู้ว่าน้องใช้แผนการท่องเที่ยวแผน 2 คือน้องจะไปคนละทิศกับเรา พอมาถึงท่ารถบัสฝั่งตะวันตก (West Bus Station) 汽车西站 ที่นี้เหมือนจุดรวมรถบัสไปที่ต่างๆ ดูวุ่นวายมาก เราต้องไปซื้อตั๋วรถบัสที่จุดขายตั๋วข้างใน แต่มันเยอะมากจริง เราไม่รู้ว่าจะต้องไปซื้อตรงจุดไหน มองซิค่ะ ว่าสามารถสื่อสารกับใครได้บ้าง พอดีเราเจอพี่ตำรวจสุดหล่อคิดว่าจะสื่อสารกับเราได้ เลยยืนเอกสารสารที่เราทำมาให้ดูค่ะ
แค่นี้ละ พี่ตำรวจก็พาไปช่องขายตั๋วทันที (เที่ยวจีนง่ายๆ แค่ทำการบ้านไป) เราได้ตั๋วรถตามรอบที่เราต้องการคืนเวลา 14.20 น.
ตารางเวลาการเดินรถ
รถบัสบอกเลยว่าไม่สกปรก มีถังขยะระหว่างที่นั้งตลอด เราเดินทางกันประมาณ 6 ชม. ตลอดทางอากาศหนาว และยิ่งหนาวมาก เพราะฝนตกลงมาหนักตลอดทาง (ไหนว่าหิมะจะตกงัย)
เฟิ่งหวง 凤凰古城
นั้งกันมาแบบมึนๆ ว่าตกลงเรามาถูกไหมนิ แต่สุดท้ายเราก็มาลงในสถานีรถบัสในเมือง เวลา 20.00 น. ซึ่งรถที่เรานั้งมาไม่ส่งในสถานีเราต้องหารถเข้าไปในเมืองเฟิ่งหวง จุดนี้เริ่มกังวลละ เพราะอากาศเริ่มเย็นลงมาก ฝนก็ตกไม่หยุด และมืดมากจริงๆ จากที่เราทำการบ้านมาว่าวิธีการเดินทางมีด้วยกัน 2 แบบเริ่มหายไปจากสมองของเรา
การเดินทางเข้าเมืองเฟิ่งหวง มีด้วยกัน 2 แบบ
1. นั้ง Taxi ประมาณ 20 หยวน
2. นั้งรถบัส เข้าเมือง
พอเราลงจากรถก็หลงทางซิรออะไร แต่โชคดีเราเจอคนจีนข้างๆ เราก็ยิ้มให้ แล้วยืนข้อมูลโรงแรมให้ดู เผื่อจะช่วยอะไรเราได้ แต่ที่ไหนได้มีคนไทย หน้าจีน (พูดภาษาจีนเก่งมาก เพราะมาเรียนต่อที่ประเทศจีน) เลยพาเราไปส่งหน้าประตูเมือง และติดต่อเจ้าหน้าที่โรงแรมให้เดินมารับเรา เจ้าของโรงแรมก็น่ารักมากที่ตากฝนมารับเรา 2 คนพี่น้อง และยังชงชาให้เรากิน แต่ด้วยความที่ฝนตกจึงทำให้เราไม่สามารถถ่ายรูปอะไรได้มากนักต้องขอโทษเพื่อนทุกคนด้วย (รูปมีน้อยมาก)
เจ้าของโรงแรมที่ไปรับชงชากาแฟให้เราดื่มกัน
(โรงแรมที่พักดูได้จากลิงค์ข้างบนนะค่ะ)
เรา 2 พี่น้องพอได้เอาของเก็บ และนั้งพักจะรออะไรละค่ะ ออกไปหาอะไรกินกัน และก็ซื้อตั๋วเดินไป จางเจียเจี้ย ซึ่งจากที่หาข้ออมูลมาใช้เวลาการเดินทางไม่นาน เราเลยจะเดินทางรอบ 9.00 น. หรือ 10.00 น.
รูปบริเวณรอบริมน้ำด้านหลัโรงแรม ถ่ายได้แค่นี้จริง พอจะไปถ่ายตรงอื่นฝนก็ตกหนักตลอด (วันของสายฝน และลมหนาว)
รูปด้านบนคือถ่ายเท่าที่เราสามารถถ่ายได้ อาจจะไม่สวยสวยงามเหมือนที่เราดูตามรีวิวของคนอื่น แต่ขอบอกว่าไม่สวยไม่เป็นไร แต่ความประทับใจเต็ม 100%
และนี้คือรูปอาหารมื้อแรกของเราที่ประเทศจีน หลังจากที่เรากินข้าวโพดต้มบนรถทัวร์
ขอแนะนำเลยค่ะ หนังสือเล่มนี้ทำให้เรารอดชีวิตทุกครั้งที่มาประเทศจีน อาหารมื้อนี้เราสั้งอาหารมาแค่ 2 อย่าง ผัดผักกาดแก้ว และหมูรมควันผัดใส่หน่อไม้แห้ง และข้าวสวย อย่าถามว่าสั้งอย่างไงนะ 5555 มื้อนี้เราหมดกันประมาณ 85 หยวน (ประมาณ 425 บาท)
พอเราทานอาหารเรียบร้อยแล้วก็ติดต่อซื้อตั๋วรถจางเจียเจี้ย ซึ่งมีขายที่ร้านขายตั๋วรถในเมือง มีให้เลือกหลายร้านมาก ซึ่งเราได้ตั๋วรอบ 10.00 น. ราคา 80 หยวน (คนขายตั๋วย้ำให้เราไปก่อนเวลาประมาณ 45-30 นาที เพื่อนำใบจองไปแลกตั๋วจริงไม่นั้นทางสถานีจะปล่อยตั๋วของเราให้คนอื่นไป) พอได้ตั๋วรถเรียบร้อยก็กลับไปนอนพัก เพื่อวันพรุ่งนี้ต้องตื่นมาเก็บที่เที่ยวในเมืองโบราณ และเดินทางกันต่อ
เริ่มวันใหม่
ตื่นเช้ามาเรา 2 คน ก็พบว่าฝนยังไม่เลิกตก นี้เรามาหน้าหนาวหรือหน้าฝนว๊ะเนี้ย แต่อะไรก็ห้ามการท่องเที่ยวเราไม่ได้อย่าให้ฝนเป็นมาทำให้เราไม่ได้เที่ยว เราเลยอาบน้ำ และเก็บกระเป๋าไว้ก่อน เพื่อที่เวลาเราเดินเล่นเสร็จแล้วจะได้รีบไปสถานีรถบัสได้เลย
จริงแล้วการเที่ยวในเมืองนี้ต้องมีการเสียค่าเข้าเมือง แต่เราไม่ได้จ่ายเพราะฝนตก ทำให้เรารู้สึกว่าไม่คุ้มแน่ๆ ที่จะจ่ายเงิน เพราะอากาศแบบนี้ไม่เหมาะท่จะท่องเที่ยวแบบทำเวลา าคิดแล้วก็เสียดายมีหลายจุดที่เราไม่ได้เดินทางไปถ่ายรูป
ต้องบอกว่าที่เมืองนี้เราไม่สามารถบอกอะไรได้เลยว่าจุดไหนเป็นอะไร เพราะเราไม่สามารถเที่ยวแบบหยิบเอกสารออกมาดูได้เลย คือเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ เพราะฝนตกลงมาหนักบ้าง เบาบ้าง แต่อากาศมันช่างหนาวกว่าเมือคืนมาก......หนาวแบบสุดๆ (ขอลงรูปให้ดูต่อไปละกัน)
ถ้าสังเกตดูจากรูปข้างบนจะเห็นรูปปั้น(ทุกคนนิยมไปถ่ายรูป) น้ำเริ่มท่วม กระแสน้ำมีบ้างช่วงนี้ที่แรงมาก และจุดที่คนนิยมลงไปเดินถ่ายรูปกลางแม่น้ำก็ไม่สามารถเดินลงไปได้ (คิดในแง่ดีมีใครมาเมืองนี้ในตอนน้ำท่วมบ้างอ่ะ )
พอเดินจนเหนื่อยก็ต้องหาอาหารเช้ากินก่อน เพื่อที่จะเก็บแรงไว้นั้งรถกันยาวๆ กันไป เดินผ่านหน้าซาลาเปาเลยแวะกิน จำได้ว่า ราคาไม่แพง ให้เยอะ แต่ไม่อร่อย แต่สะอาด.........
เรา 2 ไม่เคยสั้งอาหารจานเดียวมากิน ส่วนใหญ่จะสั้งแล้วมาแบ่งกัน อย่างแรกเพราะอยากกินหลายอย่าง และอาหารที่นี้จานใหญ่มาก ถ้าเพื่อนไม่ทิ้งเราคงได้สั้งอาหารแปลกกินเยอะๆ อาหารจีนไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด (ลองเปิดใจดูกันนะ)
มาอ่านกันต่อในลิงค์ ข้างล่างนี้เลยค่ะ
เมือง zhangjiajie : Changsha - Feng Huang - Tiamen Shan - Wuling Yuan (EP.2)
https://ppantip.com/topic/36865152