การวาง "แผนการเงิน" เดี๋ยวนี้เริ่มมีคนให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะถ้ายิ่งเรารู้จักการวางแผนมากขึ้นเท่าไหร่ เราจะยิ่งเป็นหนี้น้อยลง มีเงินเก็บมากขึ้น ความเสี่ยงในชีวิตก็จะลดลง ที่สำคัญความเครียดในชีวิตก็จะลดน้อยลงด้วย
แต่ก็มีคำถามก็คือ เราจะเริ่มต้นวางแผนการเงินยังไงดี ซึ่งก็สามารถไปลองอ่านได้จากลิ้งค์นี้เลย ขอแนะนำให้อ่านจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.moneybuffalo.in.th/%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99
แต่ถ้ามาโฟกัสเรื่องแผนการเงินที่สำคัญๆก่อนเลย ตามช่วงอายุของเรา ว่าเราควรเริ่มต้นที่อะไรก่อนกัน ลองมาดูกันได้เลย
"แผนการเงิน" ช่วงเริ่มต้นทำงาน - 30 ปี
ช่วงนี้สิ่งนึงที่เราขาดไม่ได้เลยก็คือ "เป้าหมายชีวิต" คำนี้เป็นคำที่บางคนอายุ 50 ปีก็ยังไม่รู้ว่าเป้าหมายชีวิตของเราคืออะไร ดังนั้นช่วงนี้ควรหาเป้าหมายชีวิตของเราให้เจอนะ เพราะเป้าหมายชีวิตจะเป็นตัวกำหนดเป้าหมายการเงิน และเป้าหมายการเงินจะเป็นตัวกำหนด "แผนการเงิน" ของเรานั่นเอง
ช่วงอายุนี้ยังสามารถลองผิดลองถูกได้เยอะอยู่เหมือนกันพลาดให้เยอะ ลุกให้ไว เดี๋ยวประสบการณ์จะทำให้เราเก่งขึ้นเอง แต่มีแผนการเงินอยู่อันนึงที่ผมแนะนำว่าช่วงอายุนี้ควรใส่ใจไว้หน่อยก็คือ แผนการบริหารความเสี่ยงหรือแผนประกัน อย่างน้อยที่สุดเมื่อเราเริ่มต้นทำงานได้เราก็ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองเป็นภาระคนอื่นไม่ทางใดก็ทางนึง ถ้าเราโชคร้ายเกิดป่วยหรือเจออุบัติเหตุขึ้นมา อย่างน้อยเจ็บกายแล้วก็อย่าให้เจ็บเงินในกระเป๋าด้วยเลย
ช่วงอายุ 31 - 45 ปี
ช่วงอายุแถวๆนี้น่าจะเป็นช่วงที่เราเริ่มสร้างครอบครัวของตัวเองกัน ดังนั้นแผนการเงินที่ควรเพิ่มเติมจากแผนบริหารความเสี่ยงเข้าไปจากช่วงอายุแรก ก็น่าจะเป็น "แผนการศึกษาบุตร" หรือการเตรียมเงินเพื่อส่งลูกให้ได้เรียนตามที่เราตั้งใจเอาไว้
หลายๆคนชอบมองว่าเรื่องค่าเรียนลูกเราเป็นเรื่องฉุกเฉิน ยังไงเรื่องค่าเรียนก็ไม่ใช่เรื่องฉุกเฉิน เพราะเรารู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าต้องจ่ายเมื่อไหร่ แล้วรู้อีกด้วยซ้ำว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ ดังนั้นมันเป็นเรื่องที่เตรียมตัวได้แน่นอน และอีกแผนนึงที่ควรเริ่มเตรียมตัวได้แล้วก็คือ "แผนเกษียณอายุ"
แต่ด้วยเงินเรามีอย่างจำกัดจะให้ทำแผนการเงินแบบสมบูรณ์ทุกแผนพร้อมกันก็น่าจะเป็นเรื่องที่ลำบากอยู่เหมือนกัน ผมแนะนำว่าอาจจะเริ่มต้นออมเงินบางส่วนก่อน เช่น ตามแผนเราอาจจะต้องออมเดือนละ 10,000 บาทเพื่อเป้าหมายเกษียณก็อาจจะออม 2,000-3,000 บาทก็สามารถทำได้ แล้วค่อยออมเพิ่มตอนเราอายุเยอะขึ้น
ช่วง 46 - เกษียณอายุ
ช่วงนี้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นแล้ว แผนสุดท้ายที่เราต้องโฟกัสลงไปเลยก็คือ "แผนเกษียณอายุ" ช่วงอายุนี้ควรคำนวณอย่างละเอียดเลยว่าเรามีเงินเพียงพอสำหรับเกษียณอายุแล้วหรือยัง ? (ลองอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับการเกษียณอายุเพิ่มเติมได้ ด้านล่าง..)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.moneybuffalo.in.th/%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%93
เพราะเกมของเรื่องเกษียณอายุไม่ใช่เกมส์ PS4 ที่เวลาเราเล่นไม่ชนะแล้วกด Restart มาเริ่มกันใหม่ได้ แต่เกมเกษียณมันพลาดแล้วพลาดเลย นี่แหละคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด เมื่อวันนึงรายได้เราหยุดลง แต่รายจ่ายเราไม่เคยหยุดตาม เราต้องมั่นใจว่าเราสามารถใช้ชีวิตได้ตลอดรอดฝั่งจริงๆ
จริงๆแล้วเรื่องการวางแผนการเงินไม่มีอะไรตายตัวเลย ขึ้นอยู่กับว่าความจำเป็นของบุคคลด้วย อย่างเรื่องของเกษียณอายุถ้าเรายิ่งวางแผนเร็วได้ก็ยิ่งดี วางแผนตั้งแต่ตอนเริ่มต้นทำงานใหม่ เพราะไม่จำเป็นต้องมีการเก็บเงินต่อเดือนในจำนวนที่เยอะ สำหรับการวางแผนเกษียณถ้าเราเก็บเงินช้าไป 7 ปีเราต้องเก็บเงินเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัวเสมอ
เช่น ถ้าเราลองคำนวณเรื่องวางแผนเกษียณแล้วว่าเราต้องเก็บเงินเดือนละ 10,000 บาทถึงจะเพียงพอ แต่ถ้าเราออมเงินช้าไปอีก 7 ปี คือเรามาเริ่มออมเงินตอนอายุ 37 ปี ถ้าเป้าหมายเกษียณเรายังอยากเกษียณที่อายุเท่าเดิม เราต้องออมเงินถึง 20,000 บาทต่อเดือนเพื่อให้ถึงเป้าหมายอันนั้น แต่ถ้าเรายิ่งออมช้าไปอีก 7 ปี คือตอนอายุ 45 ปี เราจะต้องออมสูงถึง 40,000 บาทเลยทีเดียวล่ะ เห็นแบบนี้แล้วแทบอยากจะย้อนเวลากลับไปออมเงินตั้งแต่ตอนเกิดกันเลยทีเดียวล่ะ ! (ฮา)
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่
https://goo.gl/eRtyuF
ติดตามเรื่องเล่าเข้าใจง่ายๆของ Money Buffalo ได้ที่
Website
http://www.moneybuffalo.in.th หรือ
FB Page :
fb.com/moneybuffalo
LINE :
https://goo.gl/GAQxF8
เปิดเผย "แผนการเงิน" มาตรฐานฉบับมนุษย์เงินเดือน ในแต่ละช่วงอายุที่เราต้องมี
การวาง "แผนการเงิน" เดี๋ยวนี้เริ่มมีคนให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะถ้ายิ่งเรารู้จักการวางแผนมากขึ้นเท่าไหร่ เราจะยิ่งเป็นหนี้น้อยลง มีเงินเก็บมากขึ้น ความเสี่ยงในชีวิตก็จะลดลง ที่สำคัญความเครียดในชีวิตก็จะลดน้อยลงด้วย
แต่ก็มีคำถามก็คือ เราจะเริ่มต้นวางแผนการเงินยังไงดี ซึ่งก็สามารถไปลองอ่านได้จากลิ้งค์นี้เลย ขอแนะนำให้อ่านจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ถ้ามาโฟกัสเรื่องแผนการเงินที่สำคัญๆก่อนเลย ตามช่วงอายุของเรา ว่าเราควรเริ่มต้นที่อะไรก่อนกัน ลองมาดูกันได้เลย
"แผนการเงิน" ช่วงเริ่มต้นทำงาน - 30 ปี
ช่วงนี้สิ่งนึงที่เราขาดไม่ได้เลยก็คือ "เป้าหมายชีวิต" คำนี้เป็นคำที่บางคนอายุ 50 ปีก็ยังไม่รู้ว่าเป้าหมายชีวิตของเราคืออะไร ดังนั้นช่วงนี้ควรหาเป้าหมายชีวิตของเราให้เจอนะ เพราะเป้าหมายชีวิตจะเป็นตัวกำหนดเป้าหมายการเงิน และเป้าหมายการเงินจะเป็นตัวกำหนด "แผนการเงิน" ของเรานั่นเอง
ช่วงอายุนี้ยังสามารถลองผิดลองถูกได้เยอะอยู่เหมือนกันพลาดให้เยอะ ลุกให้ไว เดี๋ยวประสบการณ์จะทำให้เราเก่งขึ้นเอง แต่มีแผนการเงินอยู่อันนึงที่ผมแนะนำว่าช่วงอายุนี้ควรใส่ใจไว้หน่อยก็คือ แผนการบริหารความเสี่ยงหรือแผนประกัน อย่างน้อยที่สุดเมื่อเราเริ่มต้นทำงานได้เราก็ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองเป็นภาระคนอื่นไม่ทางใดก็ทางนึง ถ้าเราโชคร้ายเกิดป่วยหรือเจออุบัติเหตุขึ้นมา อย่างน้อยเจ็บกายแล้วก็อย่าให้เจ็บเงินในกระเป๋าด้วยเลย
ช่วงอายุ 31 - 45 ปี
ช่วงอายุแถวๆนี้น่าจะเป็นช่วงที่เราเริ่มสร้างครอบครัวของตัวเองกัน ดังนั้นแผนการเงินที่ควรเพิ่มเติมจากแผนบริหารความเสี่ยงเข้าไปจากช่วงอายุแรก ก็น่าจะเป็น "แผนการศึกษาบุตร" หรือการเตรียมเงินเพื่อส่งลูกให้ได้เรียนตามที่เราตั้งใจเอาไว้
หลายๆคนชอบมองว่าเรื่องค่าเรียนลูกเราเป็นเรื่องฉุกเฉิน ยังไงเรื่องค่าเรียนก็ไม่ใช่เรื่องฉุกเฉิน เพราะเรารู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าต้องจ่ายเมื่อไหร่ แล้วรู้อีกด้วยซ้ำว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ ดังนั้นมันเป็นเรื่องที่เตรียมตัวได้แน่นอน และอีกแผนนึงที่ควรเริ่มเตรียมตัวได้แล้วก็คือ "แผนเกษียณอายุ"
แต่ด้วยเงินเรามีอย่างจำกัดจะให้ทำแผนการเงินแบบสมบูรณ์ทุกแผนพร้อมกันก็น่าจะเป็นเรื่องที่ลำบากอยู่เหมือนกัน ผมแนะนำว่าอาจจะเริ่มต้นออมเงินบางส่วนก่อน เช่น ตามแผนเราอาจจะต้องออมเดือนละ 10,000 บาทเพื่อเป้าหมายเกษียณก็อาจจะออม 2,000-3,000 บาทก็สามารถทำได้ แล้วค่อยออมเพิ่มตอนเราอายุเยอะขึ้น
ช่วง 46 - เกษียณอายุ
ช่วงนี้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นแล้ว แผนสุดท้ายที่เราต้องโฟกัสลงไปเลยก็คือ "แผนเกษียณอายุ" ช่วงอายุนี้ควรคำนวณอย่างละเอียดเลยว่าเรามีเงินเพียงพอสำหรับเกษียณอายุแล้วหรือยัง ? (ลองอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับการเกษียณอายุเพิ่มเติมได้ ด้านล่าง..)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพราะเกมของเรื่องเกษียณอายุไม่ใช่เกมส์ PS4 ที่เวลาเราเล่นไม่ชนะแล้วกด Restart มาเริ่มกันใหม่ได้ แต่เกมเกษียณมันพลาดแล้วพลาดเลย นี่แหละคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด เมื่อวันนึงรายได้เราหยุดลง แต่รายจ่ายเราไม่เคยหยุดตาม เราต้องมั่นใจว่าเราสามารถใช้ชีวิตได้ตลอดรอดฝั่งจริงๆ
จริงๆแล้วเรื่องการวางแผนการเงินไม่มีอะไรตายตัวเลย ขึ้นอยู่กับว่าความจำเป็นของบุคคลด้วย อย่างเรื่องของเกษียณอายุถ้าเรายิ่งวางแผนเร็วได้ก็ยิ่งดี วางแผนตั้งแต่ตอนเริ่มต้นทำงานใหม่ เพราะไม่จำเป็นต้องมีการเก็บเงินต่อเดือนในจำนวนที่เยอะ สำหรับการวางแผนเกษียณถ้าเราเก็บเงินช้าไป 7 ปีเราต้องเก็บเงินเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัวเสมอ
เช่น ถ้าเราลองคำนวณเรื่องวางแผนเกษียณแล้วว่าเราต้องเก็บเงินเดือนละ 10,000 บาทถึงจะเพียงพอ แต่ถ้าเราออมเงินช้าไปอีก 7 ปี คือเรามาเริ่มออมเงินตอนอายุ 37 ปี ถ้าเป้าหมายเกษียณเรายังอยากเกษียณที่อายุเท่าเดิม เราต้องออมเงินถึง 20,000 บาทต่อเดือนเพื่อให้ถึงเป้าหมายอันนั้น แต่ถ้าเรายิ่งออมช้าไปอีก 7 ปี คือตอนอายุ 45 ปี เราจะต้องออมสูงถึง 40,000 บาทเลยทีเดียวล่ะ เห็นแบบนี้แล้วแทบอยากจะย้อนเวลากลับไปออมเงินตั้งแต่ตอนเกิดกันเลยทีเดียวล่ะ ! (ฮา)
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://goo.gl/eRtyuF
ติดตามเรื่องเล่าเข้าใจง่ายๆของ Money Buffalo ได้ที่
Website http://www.moneybuffalo.in.th หรือ
FB Page : fb.com/moneybuffalo
LINE : https://goo.gl/GAQxF8